หานสงเลิกผ้าม่านขึ้นแล้วเดินออกมา มองนักเรียนพวกนี้ด้วยสายตาโมโห

ตอนเห็นหานสง นักเรียนพวกนี้อึ้งไปก่อน จากนั้นพากันหัวเราะออกมา

“ฉันก็คิดว่าใครที่ไหน นี่หมีบื้อตระกูลหานไม่ใช่เหรอ!”

นักเรียนคนหนึ่งพูดแบบมีเลศนัย จากนั้นนักเรียนคนอื่นก็หัวเราะออกมา

หานสงโมโหแต่ระเบิดออกมาไม่ได้ แย่งเจ้าดำมาจากมือของเด็กผู้หญิงคนนั้น แล้วพูดว่า “นักเรียนสถาบันบู๊องอาจแบบพวกนาย จะทำให้สถาบันบู๊องอาจขายหน้าจริงๆ แย่งอสูรวิเศษของคนอื่นกลางถนน มียางอายไหม!”

เสียงของหานสงไม่เบาเลย คนบนถนนคนอื่นชะงักฝีเท้าลงทันที พากันหันมามองทางนี้

นักเรียนคนหนึ่งชี้หน้าหานสง แล้วพูดว่า “นายอย่ามาต่อว่าคนอื่น ใครแย่ง พวกเราแค่จะซื้อเท่านั้น”

หานสงด่าโพล่งออกมาว่า “ซื้อบรรพบุรุษนายน่ะสิ”

พูดพลาง หานสงเอาค้อนปอนด์ของตัวเองออกมา นักเรียนสิบกว่าคนรีบถอยหลังทันที

“หานสง นายจะทำอะไร นายกล้าลงมือกับเราเหรอ นายไม่อยากอยู่ในเมืองหลวงแล้วใช่ไหม!”

“หานสง นายลืมแล้วเหรอว่าตัวเองโดนไล่ออกจากสถาบันบู๊องอาจยังไง”

นักเรียนสองสามคนชี้หานสง แล้วตะโกนเสียงดัง

ลู่ฝานได้ยินคำพูดของพวกเขา พอเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง

มิน่าล่ะ เขาได้ยินความเศร้าที่ออกมาจากคำพูดของหานสงเมื่อกี้ ที่แท้เขาโดนสถาบันไล่ออกนี่เอง

สีหน้าหานสงเปลี่ยนไป มือที่ถือค้อนปอนด์อยู่ จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าจะทุบลงมาดีหรือเปล่า

นักเรียนสองสามคนเห็นหานสงลังเล ก็หัวเราะออกมาทันที

โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่แย่งเจ้าดำเมื่อครู่ ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ฉันว่าแล้วว่านายไม่กล้าทุบหรอก หานสง อสูรวิเศษตัวนี้เป็นของนายเหรอ”

หานสงมองลู่ฝานแวบหนึ่ง จากนั้นพูดว่า “เว่ยซูจิ้ง ทางที่ดีเธออย่าแตะอสูรวิเศษตัวนี้ นี่เป็นของเพื่อนฉัน”

เว่ยซูจิ้งเดินเข้ามาหนึ่งก้าว แล้วพูดว่า “ไม่ใช่ของนายจะเดือดร้อนทำไม ฉันอยากซื้ออสูรวิเศษของเขา นายว่าราคามาสิ”

ตอนนี้ลู่ฝานเดินออกมาจากรถม้า เจ้าดำกระโดดขึ้นมาบนไหล่ของเขาทันที แล้วมองเว่ยซูจิ้งด้วยสายตาดูหมิ่น

“ฉันบอกแล้วว่าขายไม่ได้”

เว่ยซูจิ้งส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม อย่าคิดว่านายรู้จักหานสง ก็คิดว่าตัวเองเจ๋ง ฉันจะบอกให้นะ ฉันคือคุณหนูตระกูลเว่ย พูดเรื่องฐานะ ไม่ด้อยกว่าหานสง ทางที่ดีนายคิดให้ดี”

เพิ่งพูดจบ นักเรียนชายที่พูดเมื่อกี้ก้าวออกมาพูดว่า “ใช่ พวกเราเป็นคุณหนูคุณชาย ตระกูลร่ำรวยของเมืองหลวงทั้งนั้น ชอบอสูรวิเศษของนาย ถือว่าเป็นวาสนาของนายแล้ว รีบพูดมาเถอะว่าเท่าไร”

ลู่ฝานยิ้มแหย หันมามองหานสงแล้วพูดว่า “ถ้าฉันซัดพวกเขา จะทำให้นายเกิดปัญหาหรือเปล่า”

หานสงคิดไม่ถึงว่าลู่ฝานจะพูดประโยคนี้ออกมา เขาอึ้งไปก่อน จากนั้นหัวเราะแล้วพูดว่า “คนอย่างฉันไม่กลัวเกิดปัญหาหรอก”

ลู่ฝานพยักหน้า พูดกับสิบสามว่า “จัดการหน่อย ทำตามกฎของนักบู๊ ห้ามฆ่าคน!”

พูดจบ ลู่ฝานเดินกลับเข้าไปในรถม้า จัดการคนพวกนี้ ลู่ฝานไม่ต้องการลงมือสักนิด

สิบสามดึงกระบี่แล้วก้าวออกมา นักเรียนสิบกว่าคนตกใจจนสะดุ้งโหยง พวกเขาพากันถอยหลัง

หลังจากนั้นสิบสามพูดอย่างเฉยเมยว่า “ต่อสู้ด้วยบู๊!”

คำนี้บอกทุกอย่างแล้ว

นักเรียนพวกนี้โมโหที่โดนลู่ฝานเมินใส่ และความอวดดีของสิบสาม พูดตำหนิเสียงดังว่า “นายเป็นใครไม่ทราบ ถึงจะมาดวลกับเรา”

ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นลมแรงพัดขึ้นมาจากตัวสิบสาม วิทยายุทธแดนปราณชีวิตถูกเปิดเผยออกมาทั้งหมด