เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 934
คิดไปคิดมาเขาก็เป็นคนตรงไปตรงมาคนหนึ่ง

หานสงสะบัดหัวไล่อาการเมา มองไปนอกหน้าต่างแล้วพูดว่า “ถึงไหนแล้ว ใกล้ถึงศูนย์กลางเมืองหรือยัง ศิษย์น้องลู่ฝาน ฉันไม่ได้โม้นะ รอให้ถึงศูนย์กลางเมือง ฉันจะพานายไปร้านเก่าแก่ร้านหนึ่ง บอกได้เลยว่าเหล้าที่นั่นเรียกว่ารุนแรงและดี ไม่ว่านายจะเป็นนักบู๊แดนไหน เมื่อเหล้าแก้วหนึ่งลงท้อง นายต้องโงนเงนสักสามรอบ”

ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “มีร้านแบบนี้ด้วยเหรอ งั้นต้องไปดูหน่อยแล้ว”

ขณะกำลังพูด จู่ๆ ลู่ฝานเห็นกลุ่มนักบู๊เดินสวนมา สวมชุดนักบู๊เหมือนกันทั้งหมด เดินพูดคุยยิ้มแย้มผ่านมาด้านหน้า

หานสงก็ยื่นหัวออกมา มองแวบหนึ่งแล้วพูดอย่างดูหมิ่นว่า “นักเรียนกากเดนของสถาบันบู๊องอาจ พวกหวังสูงแต่ทำไม่ได้ พวกที่ไม่เข้าใจการต่อสู้ ออกมาหาประสบการณ์กันอีกแล้ว”

ลู่ฝานพูดด้วยรอยยิ้ม “สถาบันบู๊องอาจเหรอ เป็นสถาบันในเมืองหลวงเหรอ ฟังดูเก่งมากเลยนะ”

หานสงพูดว่า “เก่งเหรอ เหอะๆ สองสามคนที่เป็นอันดับต้นๆ นั่นยังพอได้ เป็นคนมีชื่อเสียงในรายชื่อประเทศ ส่วนคนอื่นไม่ควรค่าให้พูดถึง ฉันไม่อยากเข้าสถาบันแบบนี้!”

หานสงพูดพลางกลอกตาไปมา หางคิ้วกระตุก

ลู่ฝานมองเพียงแวบเดียว ก็เดาว่าในคำพูดของหานสงมีเรื่องไม่จริงอยู่

ขณะนั้นหานสงพูดกับสิบสามที่ขี่รถอยู่ข้างนอก “เอ่อ……ชื่อสิบอะไรนะ ชิดในหน่อย อย่าเข้าใกล้พวกข้างหน้า!”

สิบสามสีหน้ากลุ้มใจ นี่ก็หลายวันแล้ว หานสงยังจำชื่อเขาไม่ได้เลย

สิบสามส่ายหน้า ขี่รถม้าชิดริมถนน เจ้าดำหมอบอยู่ข้างสิบสาม แล้วหาวออกมา

นักบู๊อายุน้อยพวกนี้ เดินคุยยิ้มแย้มผ่านข้างรถม้า ลู่ฝานมองเฉยๆ รู้สึกว่าวิทยายุทธของคนพวกนี้ไม่เลว

อย่างน้อยก็แดนปราณนอกทั้งหมด

สถาบันของเมืองหลวง บ่มเพาะอัจฉริยะออกมาเยอะกว่าจริงๆ

ตอนอยู่สถาบันสอนวิชาบู๊ มีแค่หัวกะทิในคณะไม่กี่คน ที่จะถึงแดนปราณนอก แต่กลุ่มคนข้างหน้า คิดไม่ถึงเลยว่าจะอยู่ระดับแดนปราณนอกขึ้นไปทั้งหมด นี่สุดยอดมากเลย

ลู่ฝานกำลังมองด้วยรอยยิ้ม จู่ๆ ในบรรดาคนพวกนี้ มีผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้น

“อสูรวิเศษน่ารักมากเลย!”

จู่ๆ พวกนักเรียนชะงักฝีเท้าลง มองมาทางรถม้าของพวกลู่ฝาน

สายตาของพวกเขาทุกคน หยุดลงที่เจ้าดำ

“หยุดรถๆ!”

จู่ๆ เด็กผู้หญิงและนักเรียนอีกสองสามคน ขวางรถม้าของพวกลู่ฝานเอาไว้

รอยยิ้มบนใบหน้าลู่ฝานหายไป หานสงพูดด้วยใบหน้ากลุ้ม “ให้ตายเถอะ ไอ้พวกนี้ นิสัยลูกคนรวยกำเริบอีกแล้ว!”

ลู่ฝานเห็นหานสงไม่มีท่าทีจะออกไป ตัวเองจึงยื่นหน้าออกไปทางหน้าต่าง แล้วพูดว่า “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ยังพูดไม่ทันจบ ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งเข้ามา เอาเจ้าดำไปกอดไว้

“อสูรวิเศษตัวนี้ราคาเท่าไร ขายให้ฉันเถอะ!”

เด็กผู้หญิงกะพริบตาโตแล้วถามขึ้น

ลู่ฝานส่ายหน้าพูดว่า “ขอโทษด้วย อสูรวิเศษตัวนี้เป็นเพื่อนของฉัน เป็นครอบครัวฉัน ขายให้ไม่ได้หรอก”

เด็กผู้หญิงสีหน้าเย็นชาทันที นักเรียนชายคนอื่นเห็นสีหน้าเด็กผู้หญิงเปลี่ยนไป รีบพูดเสียงดังใส่ลู่ฝาน “แค่อสูรวิเศษตัวเดียว ทำไมจะขายไม่ได้ ดูให้ดี นี่คือบัตรผลึกหินแสนเหรียญทองเชียวนะ นายเอาไปสิ ฉันไว้หน้านายแล้ว นายอย่าทำเป็นไม่สนใจ เราเป็นนักเรียนของสถาบันบู๊องอาจนะ!”

เพิ่งพูดจบ ลู่ฝานขมวดคิ้วแน่นขึ้นอีก

หานสงที่อยู่ด้านในทนไม่ไหวแล้ว เขาพูดเสียงดังว่า “นักเรียนสถาบันบู๊องอาจ ดีขนาดนั้นเชียวเหรอ”