องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 820 องค์จักรพรรดิณีมาแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นจนปัญญาอย่างมาก สวีกงกงเป็นคนอ้อนวอนร้องขอความตาย เธอก็ไร้หนทางแล้ว
“พระชายา หลังจากที่กระหม่อมตายแล้ว พระชายาได้โปรดนำกระหม่อมไปฝังไว้ร่วมกันกับอาซีและเสี่ยวสวีจื่อด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ชาติหน้ากระหม่อมเป็นวัวเป็นม้าก็จะตอบแทนพระชายาอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”
“….ได้!”ฉีเฟยอวิ๋นตอบตกลง สวีกงกงยิ้ม จากนั้นหลับตาลงอย่างช้าๆ ฉีเฟยอวิ๋นเห็นมือของเขาวางลง เลยเอื้อมมือไปทดสอบหยั่งเชิงสักครู่หนึ่ง และได้พบว่าคนได้จากไปเสียแล้ว
ฉีเฟยอวิ๋นเอามือวางลง แล้วปิดผ้าคลุมให้กับสวีกงกง ฉีเฟยอวิ๋นดูชุดเสื้อผ้าที่อยู่ด้านใต้ผ้าห่ม ตั้งแต่ด้านในมาถึงด้านนอกล้วนเป็นของใหม่ อีกด้านยังมีกระปุกวางอยู่ด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นนึกถึงจำนิสัยที่คุ้นชินของขันทีได้ สิ่งของที่ตัดออกแล้วจะวางไว้ในไห เก็บดูแลไว้ ตอนที่ตายต้องเอาไปฝังร่วมด้วย
ฉีเฟยอวิ๋นเหม่อลอยอยู่สักพักหนึ่ง จากนั้นหันไปกล่าวกับอาอวี่ที่อยู่หน้าประตูว่า“อาอวี่ หลังจากที่เสี่ยวสวีจื่อตาย จัดการกันอย่างไรหรือ?”
“ตูไห่เป็นคนจัดการพ่ะย่ะค่ะ เถ้ากระดูกยังอยู่ แต่ไม่ได้เอากลับมาไว้ในจวน สิ่งนี้ไม่ได้เลยพ่ะย่ะค่ะ คิดว่าอยู่ที่ฝากเก็บไว้”
“เจ้าไปเอามาหน่อยนะ”
“พ่ะย่ะค่ะ”
อาอวี่หมุนตัวไปจัดการ เสี่ยวเฉียวร้องไห้อยู่ทางด้านนั้น ฉีเฟยอวิ๋นดึงเสี่ยวเฉียวมากอดปลอบ กล่าวว่า“เสี่ยวเฉียวไม่ร้องนะ สวีกงกงเป็นขันที อยู่ที่นี่ไม่มีความสุข เขาชอบป้าซี ป้าซีไปนานแล้ว เขาคิดถึงถวิลหามาโดยตลอด ชาติหน้าพวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข “
เสี่ยวเฉียวพยักหน้าตอบรับ แต่ยังคงร้องไห้
ฉีเฟยอวิ๋นอุ้มเสี่ยวเฉียวออกไป จากนั้นสั่งให้คนนำร่างของสวีกงกงไปเผาและนำคัมภีร์ของต่างๆในห้องนี้ไปเผาด้วย
วันนี้ของจวนอ๋องเย่ ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควัน ทำให้สารทฤดูเปล่าเปลี่ยวมากยิ่งขึ้น
ในที่สุดท่านแม่ทัพฉีก็ได้ยินเรื่องราวของเจ้าห้า เลยรีบเข้ามาในจวน พอเห็นเจ้าห้าแม่ทัพฉีถึงกับชะงักงัน
แม่ทัพฉีนั่งลงกล่าวว่า“นี่…….”
“ท่านพ่อตาลองสัมผัสดู แต่ข้ากับอวิ๋นอวิ๋นมิเป็นไร มือของอวิ๋นจิ่นและอาอวี่จะมีเลือดไหลออกมา เจ้าห้าไม่เคยเจอเฟยอิง อีกนิดเกือบจะตัดมือขาดแล้ว”
แม่ทัพฉีจะมีประสบการณ์กับเรื่องเหล่านี้ที่ไหนกัน ถ้าหากไม่ได้เห็นกับตา โดยพื้นฐานแล้วไม่มีทางเชื่อ
แม่ทัพฉีเอื้อมมือไปสัมผัสผิวแห้งกระด้างของเจ้าห้า มือไม่มีเลือดไหลออกมา แต่เขาเอาออกมาทันที เจ็บปวดนิ้วมือนั้นเป็นเรื่องจริง
หนานกงเย่เหลือบมอง จากนั้นถามว่า“มือของท่านพ่อตามีความรู้สึกอย่างไรบ้างหรือ?”
“เจ็บอยู่ครู่หนึ่ง”
“อืม เช่นนั้นแย่ต่างกับข้าและอวิ๋นอยู่บ้าง”ที่จริงเขาเจ็บเพียงน้อยนิด แต่เขาไม่สามารถพูดออกมาได้
แม่ทัพฉีขมวดคิ้วชำเลืองมองมือแล้วเอื้อมออกไปอีกครั้ง มือทั้งสองข้างวางราบ ปรากฎว่าตรงที่เขาวางมือนาบราบเรียบลงไปนั่นมีผลึกน้ำแข็งเกิดขึ้น ไม่นานผลึกน้ำแข็งของมือเขาได้แข็งตัวอยู่บนผิวหยาบกระด้างนั้น
แม่ทัพฉีขมวดคิ้วแน่น มือทั้งสองข้างเจ็บเหมือนเข็มแทงทำให้แม่ทัพฉีหน้าซีดเผือด หนานกงเย่รู้สึกได้ว่าไม่ง่ายที่จะเคลื่อนไหว เขาอยากจะรั้งไว้ ฉีเฟยอวิ๋นเลยเข้ามา
“ท่านพ่อ!”ฉีเฟยอวิ๋นคิดไม่ถึงว่าท่านพ่อของเธอจะถูกทำร้าย แม่ทัพฉีมองไปทางฉีเฟยอวิ๋น สีหน้าซีดขาวเย็นเฉียบ
“อวิ๋นอวิ๋น พ่อรู้สึกไม่สบาย น้ำแข็งเข้ามาในร่างกายของพ่อแล้ว กำลังจะกรัดกร่อนอวัยวะกลวงอวัยวะตันของพ่อแล้ว”
ฉีเฟยอวิ๋นตกใจอย่างมาก กล่าวว่า“เจ้าห้า นี่คือท่านตานะ!”
ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงเพราะอยากจะช่วย แม่ทัพฉีตัวสั่นระริกกล่าวว่า“อย่าแตะข้า”
ฉีเฟยอวิ๋นรีบปล่อยมือลงทันที ทั้งร่างกายของแม่ทัพฉีล้วนเป็นน้ำแข็ง ฉีเฟยอวิ๋นมองหนานกงเย่ กล่าวขึ้นว่า“ท่านอ๋อง”
“ข้าก็ไม่รู้ ”หนานกงเย่มั่นใจว่าแม่ทัพฉีไม่มีทางทำร้ายเจ้าห้า แต่นี่มันเกิดอันใดขึ้น?
เจ้าห้าจู่โจมแม่ทัพฉี
สองสามีภรรยารีบร้อนกระวนกระวายใจ แม่ทัพฉีใกล้จะกลายเป็นน้ำแข็ง ด้านนอกมีคนกล่าวว่า“อวิ๋นอวิ๋น”
ฉีเฟยอวิ๋นหันกลับไปมองทันที “เสด็จพ่อหรือ?”
หนานกงเย่หันกลับไปมองทางประตูเช่นกัน ประตูถูกผลักออก ซูอู๋ซินเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าตาเหมือนฉีเฟยอวิ๋นมาก
หญิงสาวมองรังไหมที่อยู่บนพื้นถึงกับชะงักงันตามด้วยเดินไปกล่าวกับแม่ทัพฉีว่า“พี่ใหญ่อัน!”
แม่ทัพฉีไม่สามารถพูดอะไรได้แล้ว เขาทำได้เพียงมององค์จักรพรรดิณีเฟิ่งไป่ซู
ซูอู๋ซินเข้ามา กล่าวว่า“อวิ๋นอวิ๋น กระเป๋าพกเจ้าล่ะ?”
ฉีเฟยอวิ๋นก้มจับ กล่าวว่า“อยู่นี่”
“เปิดออกดู”
ฉีเฟยอวิ๋นเปิดดูมีเพียงหนอนพิษกู่กับพญาแมลงชื่อจินจื่อ
“เจ้าแมลงล่ะ?”
ฉีเฟยอวิ๋นกล่าวด้วยความแปลกใจ ซูอู๋ซินมองไปทางรังไหม กล่าวว่า“ราชาหนอนพิษกู่หาที่อยู่ได้แล้ว น่าจะเข้าไปอยู่ที่ร่างกายของเจ้าห้า”
“อะไรนะ?”ฉีเฟยอวิ๋นชะงักงัน หนานกงเย่ลุกขึ้น
“ของสิ่งนี้เข้าไปได้อย่างไร?”
ซูอู๋ซินไม่มีเวลาสนใจหนานกงเย่ กลับกันได้มองไปทางเจ้าห้า“เจ้าห้า ข้าคือท่านตาของเจ้า พ่อผู้ให้กำเนิดแม่ของเจ้า ตารู้ว่าเจ้านั้นรู้ว่าตารู้สึกไม่สบาย แต่เจ้ากับราชาหนอนพิษกู่จะต้องมีการต่อสู้ครั้งใหญ่ของคนกับหนอนแมลงอย่างแน่นอน
ตาก็ผ่านมาเช่นนี้ จำไว้นะ เจ้าคือนายท่าน!
ต้องมีชีวิตร่วมกัน เขาต้องฟังแค่เจ้า”
ฉีเฟยอวิ๋นเกร็งกดดันเป็นอย่างมาก ซูอู๋ซินนั่งลง“เจ้าห้า อย่างอื่นไม่รีบร้อนหรอก ปล่อยท่านตาก่อน”
น้ำแข็งค่อยๆออกจากแม่ทัพฉี สุดท้ายมือของแม่ทัพฉีก็หลุดพ้นจากรังไหมเสียที
แม่ทัพฉีสีหน้าอึมครึม คนล้มลงไปอีกด้าน จักรพรรดิณีเลยรีบวิ่งไปดู กอดแล้วเรียกแม่ทัพฉีกว่า“พี่ใหญ่อัน”
“ประคองนอนลง”
ซูอู๋ซินกล่าว หนานกงเย่เลยรีบประคองแม่ทัพฉีนอนลง พอจักรพรรดิณีเห็นแม่ทัพฉีเป็นเช่นนี้ ก็ได้นั่งเช็ดน้ำตาอยู่อีกด้าน กล่าวอย่างไม่มีความสุขว่า“ข้าพูดตั้งนานแล้ว ให้รีบมา ๆ ท่านไม่ยอม หากว่าพี่ใหญ่อันเป็นอะไรไป ข้าไม่ยอมจบกับท่านแน่!”
เวลานี้อวิ๋นจิ่นยืนอยู่หน้าประตู ได้เห็นรูปโฉมของจักรพรรดิณีแล้ว อีกทั้งเห็นท่าทางของพระองค์ นางเลยไม่อยากเข้าไป แต่นางเป็นห่วงแม่ทัพฉีอีกทั้งยังอดกลั้นไม่ได้
อวิ๋นจิ่นเดินเข้าไปดูแม่ทัพฉี แต่ทว่าไม่กล้าเข้าไปทางด้านหน้า
เวลานี้ซูอู๋ซินเลยกล่าวขึ้นว่า“อวิ๋นอวิ๋น ดูท่านพ่อของเจ้า”
ฉีเฟยอวิ๋นรีบเข้าไปดูแม่ทัพฉี จับแมะชีพจร จากนั้นกล่าวว่า“ลมหายใจโรยรา”
“หนานกงเย่ให้บุคคลที่ไม่มีตำแหน่งประจำเรือนออกไปจากเรือน ให้พวกเขาไปพักที่อื่น ราชาหนอนไม่สามารถตกใจกลัวได้ มันจะมีผลกระทบต่อเจ้าห้า”
“เฟยอิง อวิ๋นจิ่น พวกเจ้าไปจัดการเสีย”
อวิ๋นจิ่นเหลือบมองแม่ทัพฉี แล้วเร่งออกไปด้านนอก
คนของเรือนจวินจื่อออกไปทั้งหมด คนไปแล้วมันสงบมาก
ซูอู๋ซินเดินไปอยู่ข้างกายของแม่ทัพฉี จากนั้นประคองแม่ทัพฉีลุก ซูอู๋ซินนั่งอยู่ด้านหลังแม่ทัพฉี หลับตาแล้ว ควบคุมพลังหยินหยาง แล้วเอามือทั้งสองข้างผลักทางด้านหลังของแม่ทัพฉี
“ซูซู เอาไข่มุกมังกรไฟของเจ้าออกมา”
เฟิ่งไปซูหยิบลูกปัดสีแดงคล้ายดั่งผลเชอร์รี่ออกมา
“ใช้กริชแหวกกลางฝ่ามือของพี่ใหญ่อันออกจากนั้นวางไข่มุกมังกรไฟลงไป ท่องคาถาให้มันเข้าไป”
เฟิ่งไป่ซูหยิบกริชมา แหวกบริเวณกลางฝ่ามือของแม่ทัพฉี ริมฝีปากทั้งบนและล่างสั่นไหว ไข่มุกมังกรไฟทลวงเข้าในร่างกายของแม่ทัพฉี ซูอู๋ซินขมวดคิ้วท่องบ่นพึมพำ เสี่ยวเฮยที่อยู่ในกระเป๋าบินออกมา แปะแนบอยู่บนฝ่ามือของซูอู๋ซิน คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะกัดแล้วทลวงเข้าไป
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องแปลกที่น่าเหลือเชื่อ แต่ทว่ากลับไม่มีคนกล้าที่จะพูดออกมา
จากการใช้พลังลมปราณภายในของซูอู๋ซิน ทำให้หน้าผากของแม่ทัพฉีมีเหงื่อซึมออกมา ชี่ที่อยู่บนร่างกายของเขามันก็กำลังเคลื่อนไหว ก็คือบาดแผลที่เพิ่งเปิดเมื่อครู่นี้ ทางด้านนั้นก็กำลังพุ่งพล่านเช่นกัน