องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 821 คนท้องก็ไม่ได้
หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ซูอู๋ซินถึงได้ปล่อยมือออก เขาพลิกมือ บาดแผลบริเวณฝ่ามือเปิดออก เสี่ยวเฮยจึงโผล่ออกมา บนร่างกายสว่างไสว และยังมีเลือดหยดอยู่บ้าง
เฟิ่งไป่ซูหยิบผ้ามาพันแผลให้ซูอู๋ซิน ซูอู๋ซินนิ่งสงบ ทอดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วประคองแม่ทัพฉีนอนลง ไข่มุกมังกรไฟออกมาจากฝ่ามือของแม่ทัพฉี กลิ้งดุ๊กดิ๊กเป็นวงรอบ
หลังจากลุกขึ้นแล้วไข่มุกมังกรไฟได้ค่อยๆขยับตัว แล้วกระพือตีปีกไปบริเวณอกของฉีเฟยอวิ๋น เสี่ยวจินปีนออกมาจากกระเป๋าพกอย่างเชื่องช้า จากนั้นมองไข่มุกมังกรไฟ เสี่ยวเฮยบ่นพึมพำเพราะเริ่มเดือดดาลบินไปทางไข่มุกมังกรไฟ ไข่มุกมังกรไฟหมุนตัวทะลวงเข้าไปในกระเป๋าพกพาของเฟิ่งไป่ซู
เฟิ่งไป่ซูมองเสี่ยวเฮยแล้วกล่าวว่า“นายท่านของเจ้ายังต้องฟ้าข้า ทำไมหรือ เจ้าไม่อยากมีชีวิตแล้วใช่หรือไม่?”
องค์จักรพรรดิณีก็มีมาดของตัวเอง เสี่ยวเฮยบ่นพึมพำคาบเสี่ยวจินแล้วกลับไปที่กระเป๋าพกของฉีเฟยอวิ๋น
ใครก็ไม่ได้ผ่อนคลายลงเท่าไหร่ องค์จักรพรรดิณีรีบไปดูแม่ทัพฉี จากนั้นได้หยิบผ้าเช็ดหน้าเช็ดซับให้กับแม่ทัพฉี เวลานี้อวิ๋นจิ่นและเฟยอิงได้กลับมารายงานผลการทำงานแล้ว
“เจ้าห้ามีพรสวรรค์ที่แตกต่างจากมนุษย์ และราชาหนอนตัวนี้มีความเฉพาะที่พิเศษ เขาน่าจะเป็นราชาหนอนพิษกู่ที่เป็นน้ำแข็ง ข้าก็เพียงได้ยินมาหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น ว่ากันว่าในพันปีมีราชากู่น้ำแข็งเพียงหนึ่งตัว เป็นสิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์แต่ทว่าถ้าฟื้นฟูแย่งคืนมาได้ เจ้าห้าจะไร้ขอบเขตในอนาคต แต่ถ้าเขาเอาคืนไม่ได้ เขาจะต้องชดใช้ชีวิต
ไข่มุกมังกรไฟของซูซูมีอายุได้ร้อยกว่าปีแล้ว และสามารถดูดซับพิษความเยือกเย็นที่อยู่ในร่างกายของแม่ทัพฉีได้มากกว่าครึ่ง และส่วนที่เหลือจะต้องใช้เวลาอีกไม่กี่วันในการดูดซับส่วนที่เหลือ
เจ้าห้าจะต้องพึ่งพาตัวเองแล้ว”
ซูอู๋ซินเหลือบมองรังไหม และอธิบายกับพวกฉีเฟยอวิ๋น
ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงกล่าวว่า“ข้าเชื่อเจ้าห้า”
“อืม”
ซูอู๋ซินมองไปทางหนานกงเย่ กล่าวว่า “ช่วงไม่กี่วันนี้ข้าจะสับเปลี่ยนกันกับเจ้าเพื่อสอดส่องดูแล ข้าจะมอบวิธีการปกปักรักษาดูแลแก่เจ้า แต่ว่าภายในเรือนของเจ้านั้นจะต้องไม่มีการเคลื่อนไหว ไม่อย่างนั้นจะทำให้ราชาแมลงตกใจ ถึงตอนนั้นมันจะวุ่นวาย”
“กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หนานกงเย่มองไปทางฉีเฟยอวิ๋น กล่าวว่า“พาจักรพรรดิณีไปพักผ่อนเถิด ที่นี่มอบแก่ข้า….”
“ไม่ต้องหรอก ข้าจะอยู่ดูแลพี่ใหญ่อันที่นี่ อวิ๋นอวิ๋น เจ้าก็อยู่ที่นี่เถิด ที่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้คนอื่นแล้ว”
“อืม”
ฉีเฟยอวิ๋นรู้สึกว่าก็ควรจะเป็นอย่างนี้ เลยหันกลับไปสั่งกำชับ
ภายในเรือนสงบลง ฉีเฟยอวิ๋นก็เลยนั่งรอเจ้าห้าผ่านช่วงเวลาที่ลำบากอยู่อีกด้าน
ตกดึกแม่ทัพฉีถึงได้ตื่นขึ้นมา มองเห็นเฟิ่งไป่ซูเขาจึงรีบลุกขึ้นนั่ง ร่างกายนั้นยังมีความเจ็บปวด แต่ที่แม่ทัพฉีห่วงที่สุดคือเจ้าห้า
“เจ้าห้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ตอนนี้เขาไม่เป็นไรแล้ว รังไหมคลายน้ำแข็งแล้ว และต่อมาเขาจะสร้างน้ำแข็งเพิ่มมากขึ้น หากว่าการคาดการณ์สถานการณ์ไม่มีความผิดพลาด วันพรุ่งตอนเช้าเขาก็จะปรากฏว่าแพ้ชนะแล้วล่ะ
เจ้าห้าเก่งกาจมาก เขาสามารถควบคุมเวลาได้ เขาสามารถเหนี่ยวนำมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อข้ากับซูซูและมองเห็นราชาแมลงจำนวนไม่น้อย และไข่มุกมังกรไฟปรากฎตัวแน่นอนว่าจะต้องมีหนอนน้ำแข็งปรากฎตัวด้วย ไข่มุกมังกรไฟกลืนหนอนน้ำแข็งไปจำนวนไม่น้อย พอถึงด้านนอกเมืองหลวงก็อยากจะเผ่น ข้ารู้ ราชากู่น้ำแข็งเข้าพักที่ฝากอาศัยแล้ว”
แม่ทัพฉีไม่เข้าใจเท่าไหร่ เลยถามว่า“พระองค์รู้ตั้งนานแล้วว่าราชากู่น้ำแข็งจะมาที่จวนอ๋องเย่ใช่หรือไม่?”
“ราชาแมลงจะต้องหาที่พักฝากอาศัย แต่ไม่รู้ว่าจะหาใคร แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นหนอนชนิดไหน ราชาหนอนพิษกู่และหนอนพิษกู่ทั่วไปนั้นมีความแตกต่างกัน มีเพียงพบเจอเจ้านายแล้วถึงจะปรากฏสันดานเดิม
ข้ารู้เพียงว่าเขาคือราชาแมลง ส่วนเป็นชนิดไหนนั้นข้าไม่รู้
แต่ดูจากวันนี้ เขาไปใช่ราชาแมลงหนอนที่ธรรมดาหรอก
เมื่อก่อนเขาเกิดอยู่ในกระเป๋าพกของอวิ๋นอวิ๋น อวิ๋นอวิ๋นสามารถฟื้นคืนแย่งเอาเสี่ยวเฮยกับเสี่ยวจินมาได้ ไม่ใช่คนธรรมดา ชัดเจนว่าตัวของนางเหมาะที่จะเป็นที่พักฝากอาศัยของราชาแมลง
แต่ครั้งนี้ไม่ได้เลือกอวิ๋นอวิ๋น เห็นได้ว่าเขาจู้จี้จุกจิกมาก เลยหาสิ่งที่เขาชื่นชอบ
เจ้าห้ากลายเป็นที่พักฝากอาศัย เขาเลยได้แสดงสภาพร่างกายของเขาออกมา”
ฉีเฟยอวิ๋นนั่งลงกล่าวว่า“เช่นนั้นรอถึงตอนเช้ากันเถิด”
“อืม”
ไม่มีใครกินข้าว ทุกคนต่างรอ
แม่ทัพฉีค่อนข้างเหนื่อย นอนลงไป แล้วมองรังไหมของเจ้าห้าอยู่ตลอด
คืนนี้เป็นค่ำคืนหนึ่งที่ยากลำบาก ฉีเฟยอวิ๋นไปดูอยู่ซ้ำๆ รังไหมไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อย จนถึงฟ้าสาง
ฉีเฟยอวิ๋นมองซูอู๋ซิน กล่าวว่า“ยังไม่มีการเคลื่อนไหวหรือ?”
“อือ”
ฉีเฟยอวิ๋นอดทนรอ รอจนถึงเที่ยง แล้วรอจนถึงตอนเย็นอีก เธอไม่มีหนทางแนวทางไหนที่จะเชื่อซูอู๋ซินแล้ว
ฟ้ามืดแล้ว ฉีเฟยอวิ๋นเอามือวางบนรังไหม กล่าวว่า“เจ้าห้า เจ้าไม่สนใจแม่แล้วหรือ?”
“…..”
เจ้าห้าไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง
ฉีเฟยอวิ๋นกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ กำลังร่ำไห้ซูอู๋ซินได้กล่าวขึ้นว่า“มีคนมา!”
ฉีเฟยอวิ๋นชะงักงัน มองบริเวณโดยรอบ แล้วมองไปทางประตู
ใต้ประตูปรากฎเมล็ดถั่วเป็นจำนวนมาก ล้วนแล้วแต่เป็นสีทอง ฉีเฟยอวิ๋นสูดหายใจเข้าลึกๆกล่าวว่า“ชื่อจินจื่อ?”
“อืม”
ซูอู๋ซินลุกขึ้นกล่าวว่า “เทพมาจากที่ใดกัน มาทำอะไรที่นี่?”
“ลูกสาวของหม่อมฉันใกล้จะคลอดแล้ว พวกเรามาหาราชากู่น้ำแข็งเพคะ ตระกูลไป๋ของพวกเราเป็นตระกูลราชาแมลงเพคะ ท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ไม่มีทางที่จะไม่รู้จักใช่หรือไม่?”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้น เสียงมีชีวิตชีวาคล้ายไม่ใช่คน
ประตูเปิดออกทันที
ซูอู๋ซินกล่าวอย่างราบเรียบว่า“แม้ว่าตระกูลไป๋ของพวกเจ้าจะเป็นตระกูลเก่าแก่ราชาแมลง แต่หลายปีมาแล้วไม่ได้ต่อสู้กับโลกภายนอก วันนี้มาที่ต้าเหลียงคือต้องการจะยั่วยุความสัมพันธ์ของทั้งสองเมืองใช่หรือไม่?”
“มิใช่อย่างนั้นเพคะ ลูกสาวของหม่อมฉันสิบสองเดือนแล้วเพคะ หากยังไม่กำเนิดคลอดออกมา ก็จะตายในครรภ์ นางสัมผัสได้ถึงการมาของราชากู่น้ำแข็ง พวกเราสองสามีภรรยาถึงได้มาที่นี่เพคะ
ท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้โปรด มอบมันมาด้วยเถิดเพคะ”
น้ำเสียงของหญิงสาวโรยราหดหู่ หญิงสาวท้องโตได้มีชายหนุ่มรูปงามสวมใส่ชุดสีน้ำเงินเข้มประคองเข้ามา
ชายหนุ่มระมัดระวังเป็นอย่างมาก ประคองหญิงสาวคล้ายดั่งว่ากำลังปรนนิบัติองค์หญิงอยู่ เดินแล้วกำชับว่า“เจ้าต้องระวังด้วย อย่าให้ลูกสาวกระทบกระเทือนนะ”
หญิงสาวสวมผ้าคลุม แต่ทว่าดวงตาของนางสวยมาก มองที่ตัวอายุของนางต่างกันกับฉีเฟยอวิ๋นไม่มาก
ซูอู๋ซินกล่าวว่า“เจ้าคือจุนจู่คนตระกูลไป๋ ไป๋จุนจู่หรือ?”
“หม่อมฉันเองเพคะ ท่านผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ไม่ได้เจอกันนาน สบายดีนะเพคะ”
“ตอนที่เจ้าเป็นเด็กน่ารักมาก คิดไม่ถึงว่าพอโตแล้วจะไร้อารยะธรรมทำเยี่ยงนี้ ในท้องของเจ้าเด็กน้อยคือลูกของเจ้า หรือว่าหลานชายของข้าไม่ใช่หลานหรือ?”
“แต่เขาอาจจะไม่ตาย แต่ทว่าลูกของหม่อมฉันไม่มีราชากู่น้ำแข็งไม่ได้นะเพคะ มีราชากู่น้ำแข็งลูกสาวหม่อมฉันจะสามารถคลอดออกมาได้ ขอผู้สำเร็จราชการแทนได้โปรดสนับสนุนช่วยเหลือด้วยเพคะ”
หญิงสาวเดินเข้าใกล้ นางเข้ามาบนพื้นเต็มไปด้วยชื่อจินจื่อ ฉีเฟยอวิ๋นถอยไปอยู่ข้างกายลูกชาย เธอไม่มีทางให้คนทำร้ายเจ้าห้าหรอก
“สนับสนุนช่วยเหลือไม่ได้หรอก มันได้ยอมรับนายแล้ว”
“เช่นนั้นหากหม่อมฉันสังหารเด็กคนนี้ ก็ไม่ใช่ว่าดีแล้วหรือ ตอนนี้ไม่ใช่ว่ายังมีโอกาสหรือ?”หญิงสาวยกมือขึ้น ชื่อจินจื่อที่อยู่บนพื้นทางด้านหลังได้รวมตัวเข้าหากัน ร่างกายของมนุษย์ปรากฎขึ้นมนุษย์เป็นสีทอง ใหญ่มากหาที่เปรียบไม่ได้
มนุษย์สีทองเดินไปทางรังไหมของเจ้าห้า จากนั้นต่อยหมัดไปทางเจ้าห้า ด้านหลังของซูอู๋ซินปรากฎแมลงเป็นจำนวนมาก มันรวบตัวมัดแน่นอยู่ที่มือของมนุษย์สีทอง มันหยุดมือที่ยกขึ้นของมนุษย์สีทองไว้ด้วย
ชายหนุ่มสวมชุดสีน้ำเงินเข้มมองแล้วกระตุกริมฝีปากขึ้น ยกมือขึ้นแล้วหันไปโจมตีทางรังไหมของเจ้าห้า เฟิ่งไป่ซูยกสะบัดชุดขึ้น ตรงหน้าของชายหนุ่มมีแสงน้ำบดบังตา บริเวณพื้นปรากฎมากเป็นจำนวนมาก ทากเคลื่อนไหวเข้าใกล้เจ้าห้า เฟิ่งไป่ซูถามซูอู๋ซินว่า“ทำอย่างไรดี?”
ฉีเฟยอวิ๋นรีบมองไปทางเสี่ยวจินและเสี่ยวเฮย ทั้งสองตัวบินมา บริเวณโดยรอบเหมือนกับเต็มไปด้วยแมลงที่กำลังต่อสู้กัน
หนานกงเย่ยืนอยู่ด้านข้างลูกชาย หัวคิ้วกระตุก ใครเข้ามาใกล้เขาก็จะสังหาร!
คนท้องก็เข้ามาใกล้ไม่ได้!