Ch.7 – ไม่ใช่มนุษย์แล้ว

Translator : Reheikichi / Author

[ ฉันถนัดประเภทต่อสู้ระยะใกล้ที่ใช้เวทมนตร์และศิลปะการต่อสู้ด้วยดาบ นายล่ะทรูเอท? ]

 

หลังจากตัดสินใจร่วมมือกับเอลิเซีย เราก็มารีบประชุมแผนการกัน

เธอพูดขณะที่ยกดาบขึ้นมาเบาๆ

 

[ ประเภทระยะใกล้และไกลและสามารถใช้เวทติดตั้งเฉพาะที่ได้ ]

 

[ อเนกประสงค์จังนะ เก่งทุกอย่างอย่างนั้นสินะ? ]

 

[ ก็นะ แต่ผมไม่เก่งเรื่องการสนับสนุนหรอก ]

 

เพราะปกติไม่ให้ใครมาอยู่รอบตัวหรอก

 

เวทมนตร์มีห้าประเภท

 

ประเภทต่อสู้ระยะใกล้ ประเภทสนับสนุนช่วยเหลือ ประเภทยิงระยะไกล ประเภทสนับสนุนระยะไกล และประเภทติดตั้งเฉพาะจุด

 

ระยะใกล้ ระยะไกล การใช้เวทมนตร์ขึ้นอยู่กับระยะของเวทมนตร์ด้วย ตัวอย่างเช่นวงกระทบของประเภทระยะใกล้ที่แทบจะสัมผัสตัว

 

ศิลปะการต่อสู้ การยิงเวท ต่างก็บ่งบอกว่าตัวเองเป็นประเภทไหน เสริมการต่อสู้――มันเป็นเวทที่มีประโยชน์ช่วยในการต่อสู้ระยะใกล้ การยิงเวท――เวทมนตร์ที่ช่วยยิงระยะไกล

 

เพราะภารกิจที่ผมได้รับมอบหมายจากองค์กรมักจะเป็นงานฉายเดี่ยว แม้จะเป็นการตั้งทีมแต่มันก็เป็นแค่ทีมเล็กๆ ในกรณีที่มีคนบาดเจ็บก็จะโดนสั่งให้ทิ้งทันที ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ได้ถูกสอนเวทมนตร์สนับสนุนให้ชวยเหลือคนอื่น ทหารขององค์กรต่างขัดเกลาเฉพาะวิธีการต่อสู้ของตัวเองเท่านั้น

 

[ ถ้าเป็นประเภทสนับสนุนระยะใกล้ฉันพอจะใช้ได้… แล้วไม่เก่งด้านไหนงั้นเหรอ? ]

 

ผมพลางคิดเล็กน้อยหลังได้ยินคำถามของเอลิเซียและตอบออกไป

 

[ ผมไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ซึ่งหน้า ให้เอลิเซียมาด้านหน้าแล้วให้ผมไปด้านหลังก็ดีนะ ]

 

[ ก็ไม่รังเกียจหรอกนะ… แต่บอกว่าไม่เก่งการต่อสู้ซึ่งหน้าเหรอ? ทั้งที่หยุดการโจมตีของฉันได้ง่ายๆ เนี่ยนะ? ]

 

[ ….มันก็จริงที่ผมหยุดการโจมตีได้ แทนที่จะบอกว่าไม่เก่ง ต้องบอกว่าชอบโผล่มาแบบประหลาดใจและลอบสังหารมากกว่า ]

 

[ ลอบสังหาร… พูดเหมือนกับว่าทำประจำเลยนะ ]

 

เผลอหลุดปาก แต่ผมก็แก้เป็น [ เรื่องขำๆ ] ไปได้

เอลิเซียจึงตอบกลับว่า [ เรื่องปกติน่า ]

 

[ เพราะฉันได้แต่ระยะใกล้ หากนการต่อสู้เปลี่ยนเป็นระยะไกลคงไม่ไหว แต่ดูเหมือนอาจารย์ฟาร์เนสจะเป็นประเภทระยะใกล้คิดว่าคงไม่น่าเป็นห่วง… ในกรณีฉุกเฉินก็ขอพึ่งการยิงระยะไกลของนายหน่อยนะ ]

 

[ รับทราบ ข้อเสนอนั้นขอตกลง ]

 

ผมดูสไตล์การต่อสู้ของอาจารย์ฟาร์เนสที่กำลังอาละวาดในโรงยิม

 

ขณะที่สังเกตการณ์ก็บอกแผนของผมกับเอลิเซียออกไป

 

หลังจากคำอธิบายสั้นๆ เอลิเซียก็จ้องเขม็งมาที่ผม

 

[ ….นายนี่สงบแบบแปลกประหลาดดีนะ ชักกังวลแล้วสิว่าที่แล้วมาใช้ชีวิตมาแบบไหน ]

 

[ ไม่ใช่เส้นทางชีวิตที่ยิ่งใหญ่อะไรหรอก ก็แค่ถูกบังคับให้ทำตามวิถีชีวิต(คำสั่ง)ของใครบางคนเท่านั้นเอง ]

 

[ เห… พ่อแม่เป็นพวกเข้มงวดเหรอ? ]

 

องค์กรที่เก็บผมมา

 

ดังนั้นองค์กรก็เหมือนพ่อแม่

 

[ ถ้างั้นมาเริ่มกันเถอะ ]

 

[ อา ]

 

เอลิเซียสัมผัสฝักดาบ

 

และเดินไปยังโรงยิมที่อาจารย์ฟาร์เนสอยู่

 

 

 

 

 

 

 

 

[ มู่ ]

 

เอลิเซียเดินมองไปด้านหน้าและเดินเข้าไปในโรงยิม ขณะที่ได้ยินเสียงนักดาบผมสีแดง-ฟาร์เนสพูดออกมาสั้นๆ เมื่อครู่

 

ด้านข้างของเอลิเซีย――ไม่มีใครอยู่เลย ฉันเป็นคนเดียวที่จะต่อสู้กับฟาร์เนส

 

[ คนเดียวเหรอ เห็นว่าคุยกับเด็กผู้ชายเมื่อกี้ นึกว่าจะร่วมมือกันซะอีกนะ ]

 

เอลิเซียหัวเราะเล็กน้อยให้กับคำพูดของฟาร์เนส

 

[ เราไม่ใช่แผนการอ่อนหัดแบบนั้นหรอก ]

 

[ ….เธอเองก็เก่งใช้ได้ ฝีมือดาบเองก็ใช้ได้ แต่เป็นพวกหัวแข็งไปหน่อย แบบนี้คงต้องตัดคะแนน ]

 

[ ตัดคะแนน? หมายถึงการสอบงั้นเหรอ? ]

 

[ ใช่แล้ว แต่ฉันไม่ใช่คนตัดสินเรื่องคะแนนหรอกนะ แต่เป็นผู้ตัดสินจากภายนอกต่างหาก ]

 

[ อย่างนั้นเองเหรอ มีเรื่องอยากจะถามเรื่องหนึ่ง ]

 

เอลิเซียพูดต่ออีกว่า

 

[ ถึงแม้จะโดนหักคะแนนไปเท่าไหร่―― แต่หากเอาชนะอาจารย์ได้ก็จะไม่สอบตกใช่มั้ย? ]

 

ด้วยคำถามนั้น ฟาร์เนสก็หลับตาไปครู่หนึ่ง

 

จากนั้นก็ยิ้มและตอบออกมา

 

[ อา ฉันขอรับประกัน ]

 

ในเวลานั้นเอง เอลิเซียเหยียบพิ้น

 

ใช้เวทมนตร์ระยะใกล้《เรจ》เพื่อเพิ่มความสามารถทางกาย เอลิเซียถีบพื้นเพียงก้าวเดียวก็ไปถึงตัวฟาร์เนสได้แล้ว หมุนตัวและใช้ใบมีดสีขาวด้วยความเร็วที่มองด้วยสายตาไม่ทัน

 

[ ช้าไป! ]

 

ฟาร์เนสชักดาบออกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วเท่ากับเอลิเซีย

ดาบของทั้งสองคนปะทะกันจนเกิดประกายไฟกระจายไปทั่ว

เอลิเซียยังคงฟันต่อเนื่องไม่หยุดและไม่ถอยหลัง แต่อย่างไรก็ตามฟาร์เนสกลับรับไว้ได้

 

หากยังดึงดันไปมากกว่านี้ร่างของเอลิเซียจะถึงขีดจำกัด

ร่างกายของเธอปฏิเสธการเคลื่อนไหวที่เกินมนุษย์ ภายใต้สมาธิอันจริงจังในที่สุดต้องถอยหลัง ในตอนนั้นเอง――

 

[ จังหวะนี้แหละ! ]

 

ฟาร์เนสไม่พลาดเมื่อเห็นจังหวะ

ในขณะเดียวกันเอลิเซียก็พยายามถอยหลบ

แต่ไม่ดีนัก ตัวฉันปลิวไปเพราะการโจมตี เอลิเซียสร้างโล่ไว้ที่มือซ้ายและรับไว้ได้

 

เสียงโลหะกระทบกันเสียงดัง

ทันใดนั้นโล่ที่เอลิเซียถือที่มือซ้ายก็รับไว้ได้

 

[ สร้างโล่ด้วย《ฟิคเซชั่น》งั้นรึ เป็นการตัดสินใจที่ดี ]

 

เอลิเซียที่เริ่มตั้งตัวได้ ฟันดาบไปอีกครั้ง

 

แต่ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ ตอนนี้เอลิเซียมีโล่อยู่มือหนึ่ง การโจมตีของฉันนั้นดุดันรุนแรงมากขึ้น แต่เดิมเอลิเซียก็ถนัดการใช้ดาบและโล่พร้อมกันอยู่แล้ว

 

ในขณะที่มือข้างหนึ่งถือดาบโจมตี อีกข้างก็เคลื่อนไหวเพื่อป้องกัน

ฟาร์เนสโดนไล่ฟันไม่ยั้ง แต่อ่านวิถีดาบเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันไว้ได้

 

ไม่ให้พักหายใจ

อึดใจนั้นเอลิเซียขวางดาบไปทันที

แต่ฟาร์เนสก็มองเห็นและปัดได้ด้วยดาบ

 

[ ดาบนี่… คงจะเป็นดาบเวทมนตร์สินะ พลังทำลายสูงขนาดนี้ ]

 

ด้วยการต่อสู้อย่างดุเดือด ฟาร์เนสวิเคราะห์อย่างนิ่งสงบ จากนั้นเอลิเซียก็เริ่มพูด

 

[ ถูกต้องแล้วค่ะ! ]

 

[ ถึงฉันจะไม่ใช่อาจารย์ของผู้กล้า แต่ดาบของฉันเองก็เป็นดาบเวทมนตร์เช่นกัน มันก็แข็งแรงกว่าดาบทั่วไปอยู่นิดหน่อย แต่ก็พูดไม่ได้ว่าเป็นอุปกรณ์เวทสะดวกอะไรขนาดนั้น ]

 

ฟาร์เนสพูดโดยไม่พักหายใจ

 

ในเวทมนตร์ประเภทระยะใกล้อย่าง《ฟิคเซชั่น》จะไม่สามารถสร้างดาบจากเวทมนตร์ได้ เมื่อมีการสร้างดล่ด้วย《ฟิคเซชั่น》อยู่แล้วในเวลาเดียวกัน…. เพราะอุปกรณ์เวทมีประสิทธิภาพการใช้เหนือกว่าอุปกรณ์ทั่วไป จึงมีความเพียบพร้อมมากกว่า

 

ดาบของเอลิเซียนั้นคือดาบเวทมนตร์ของจริง

 

เพราะเธอใช้《ฟิคเซชั่น》สร้างโล่ขึ้นมาอยู่ จึงไม่สามารถสร้างดาบขึ้นมาอีกได้(สร้างได้อย่างเดียว)

 

อย่างที่ฟาร์เนสพูด ดาบของเอลิเซียมีพลังทำลายสูงอยู่แล้ว มันจึงเพิ่มเป็นสองเท่า

แต่ที่จริงเอลิเซียไม่ได้ตั้งใจจะใช้ดาบเล่มนั้นหรอก แม้ที่นี่จะเต็มไปด้วยคนที่ฝึกดาบมากมาย แต่คนอื่นที่ไม่ใช่ฟาร์เนสก็อาจจะก็คงจะไม่รู้ ――คนปกติแค่หลบก็ยากแล้ว

 

[ นี่คือวิชาดาบของอัศวิน ]

 

ขณะที่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด จากนั้นฟาร์เนสก็พูดออกมา

 

[ จะอัศวินได้ยังไงกันล่ะ―― ด้วยอายุเท่านี้คงเป็นอัศวินเก่าไม่ได้หรอก … น่าจะเรียกว่าเรียนมากับอัศวินมากกว่าไม่ใช่เหรอ? ]

 

[ ….ไม่ได้อ่านเอกสารที่ฉันส่งไปล่วงหน้าเหรอ? มันน่าจะเขียนไว้ชัดเจนแล้วนะ ]

 

[ อา โทษทีนะ แต่ฉันเลยไม่ได้ดูเอกสารเลยล่ะ แต่นี่ก็เพื่อให้การสอบเป็นไปอย่างยุติ――ธรรม! ]

 

ฟาร์เนสเริ่มเร่งเครื่อง

แม้จะพยายามเต็มที่แล้ว แต่ตัวคนเดียวก็ยังมีข้อจำกัด

การโจมตีของเอลิเซียช้าลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นการป้องกัน

 

[ อึกก!? ]

 

เธอใช้โล่ป้องกันการโจมตีของฟาร์เนส

แต่ว่าก็ไม่เพียงอจะป้องกันได้จนกระเด็นไปเล็กน้อย

 

[ สาเหตุที่เธอพ่ายแพ้มันก็ออกมาชัดแล้ว ไม่ว่าจะมั่นใจในตัวเองมากแค่ไหนก็อย่ามาท้าสู้กับคู่ต่อสู้ที่เก่งกว่าคนเดียวสิ ]

 

ขณะที่กำลังพูด ฟาร์เนสก็ยกดาบขึ้นเพื่อปิดฉาก

 

[ ฉันจะบอกเองทีหลังว่าเธอผ่านหรือไม่หลังการสอบจบ ]

 

ขณะที่ดาบของฟาร์เนสกำลังเหวี่ยงลง

ในตอนนั้นเอลิเซียก็หัวเราะ

 

[ ไม่หรอก ――ผลว่าผ่านหรือไม่จะถูกตัดสินตอนนี้ล่ะ ]

 

ในชั่วเวลานั้น

 

ที่ไหนสักแห่งก็เกิดเสียงบางสิ่งระเบิด

 

[ เ――อ๊ะ!? ]

 

ฟาร์เนสที่ตกใจทำให้เกิดช่องว่าง แต่มันก็หายไปอย่างรวดเร็ว

เธอรีบถอยกลับหลังด้วยความเร็ว

 

จากนั้นกระสุนความเร็วสูงก็พุ่งทะลุผ่านสถานที่ที่ฟาร์เนสเคยอยู่เมื่อครู่

แต่เพราะช้าไปนิดทำให้กระสุนได้แทรกเข้าไปในร่างของฟาร์เนสได้บางนัด

ฟาร์เนสหลบกระสุนพลางมีเหงื่อเย็นๆ หยดออกมา

 

[ ――《สไนเปอร์》งั้นเรอะ!? ]

 

 

 

 

 

 

 

[ …ถูกต้อง ]

 

ผมได้ยินเสียงร้องของอาจารย์ฟาร์เนส

เวทประเภทยิงระยะไกล《สไนเปอร์》เป็นเวทมนตร์ที่สามารถยิงในพื้นที่ไกลๆ ได้อย่างแม่นยำ

 

หลังจากแยกกับเอลิเซียผมก็รีบขึ้นไปชั้นบนที่อยู่เหนือโรงยิมเพื่อไม่ให้อาจารย์ฟาร์เนสสังเกตเห็นได้จึงกระโดดไปใต้ห้องหลังคาโดยใช้《เรจ》บนหลังคาโรงยิมมีรูอยู่หลายแห่งจึงเหมาะกับการซุ่มยิง

 

เพราะผมยิงออกไปจากตำแหน่งนี้ ทำให้เหมือนอาจารย์ฟาร์เนสกำลังพูดอะไรบางอย่างและจ้องเขม็งมาทางผม

 

[ 『 ทั้งที่ฉันคิดว่าตัวเองเก่งพอตัว แต่ดันพลาดโดนไปหนึ่งนัด 』…. มันก็ไม่ใช่สิ่งที่อาจารย์ควรพูดหรอกนะ ]

 

อาจารย์พยายามพูดบางอย่าง

แต่ผมไม่ได้ยินเพราะเสียงส่งมาไม่ถึง แต่ก็เข้าใจได้เพราะการเคลื่อนไหวของริมฝีปาก นี่คือวิชาอ่านปากซึ่งเป็นวิชาบังคับที่องค์กรสอนให้

 

เมื่อถูกจับตำแหน่งได้แล้วอยู่ที่นี่ไปก็ไม่มีความหมาย

ผมจึงเริ่มเคลื่อนไหวทันที

 

ผมได้บอกเอลิเซียไว้ล่วงหน้าแล้วว่าตัวเองจะเคลื่อนไหวไปไหน

 

ตำแหน่งของของผมเปลี่ยนไปตามตำแหน่งของอาจารย์ฟาร์เนส ต่อมาก็ยิงนัดที่สอง ซึ่งตำแหน่งของอาจารย์ฟาร์เนสตอนนี้ก็คือผนังของโรงยิม ถ้าแบบนี้และเธอเข้าใกล้ทางเข้าโรงยิมได้ก็จะอยู่นอกวิสัยที่จะยิงได้

 

นัดที่สอง ――อาจารย์ฟาร์เนสรับมือดาบของเอลิเซียขณะที่มีกระสุนเวทมนตร์จำนวนมากยิงใส่

แต่การยิงก็พลาด อาจารย์ฟาร์เนสปัดกระสุนด้วยดาบได้

 

มันเป็นความเร็วที่ยิ่งกว่าปฏิกิริยาร่างกายมนุษย์มาก แม้ว่าเธอจะใช้《เรจ》อยู่ก็ถือว่าเก่งมากทีเดียว

 

นอกจากนี้นั้นยังเป็นดาบเวทมนตร์ มันค่อนข้างแข็งจึงใช้ปัดกระสุน《สไนเปอร์》ได้อย่างง่ายดาย…

 

แต่ตอนนี้ผมในฐานะมือซุ่มยิงชักจะมีปัญหาแล้ว

 

[ ชิ ความแม่นยำไม่ได้เลย ]

 

ด้วยเหตุนี้ผมจึงหยิบคทาเวทออกมา

ในโลกนี้มีอุปกรณ์เวทมนตร์ที่เรียกว่าคทาเวทอยู่

เรียกให้ถูกคือ『คทามนตรา』

 

『คทามนตรา』มีหน้าที่คือการสนับสนุนการใช้งานเวทมนตร์ไม่ว่าจะพลังในการยิงเวทหรือความแม่นยำล้วนขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่สำหรับคนที่เก่งด้านเวทมนตร์มักจะพกคทาเวทเอาไว้ติดตัวเพื่อให้โจมตีระยะไกลได้ดีขึ้น

 

เวทมนตร์《สไนเปอร์》สามารถใช้ได้แม้จะมือเปล่า แต่จะยากต่อการควบคุม ในการใช้จริงจึงจะต้องควบคุมการยิงโดยใช้คทาเวทมากำกับ ดังนั้นนี่ก็คือคทาเวทที่ผมขอยืมมาชั่วคราว ――เพราะหากเป็นคทาเวทที่ไม่คุ้นเคยจะยิ่งยากกว่าซะอีกนะ

 

มีคทาเวทบางชิ้นที่ถูกเรียกว่า『คทาสไนเปอร์ 』เพราะจะทำให้ใช้เวทมนตร์《สไนเปอร์》ได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าคทาที่ผมใช้ตอนนี้เป็นเพียง『คทามนตรา』ไม่ใช่『คทาสไนเปอร์ 』แต่อย่างใด

 

[ นี่ล่ะ―― เหมาะมือดี ]

 

ผมยิงไปสองนัด

นัดแรกยิงไปเพื่อยืนยันมุมการยิง นัดที่สองคือการยืนยันระยะ

ตามลำดับ ผมก็อ่านระยะและมุมได้หมด

 

[ มันยากแฮะ ที่ใช้เวท《สไนเปอร์》โดยไม่เล็งหวังชีวิต…. แต่ก็ช่วยไม่ได้ ]

 

ผมเปลี่ยนตำแหน่งและเตรียมพร้อมสำหรับการซุ่มยิง

ซ่อนตัวในเงาซอกหินและยื่นคทาเวทออกไป

จำตำแหน่งจากเมื่อครู่และชี้ปลายคทาไปทางอาจารย์ฟาร์เนส

 

――แบบนี้น่าจะเอา『คทาที่คุ้นมือ 』มาด้วยคงดีนะ

 

ผมนึกถึงอุปกรณ์เวทในสมัยที่เคยทำภารกิจ

 

แต่นั่นมันไม่ใช่ของๆ ผม เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ยืมมาจากองค์กร ตอนนี้องค์กรก็ถูกปิดไปแล้วด้วยสิ ดังนั้น『คทาสไนเปอร์ 』ของผมก็น่าจะอยู่ในการควบคุมระดับสูงขององค์กร―― ไม่สิ ประเทศสินะ

 

――ถ้าถึงเวลาต้องใช้จริงๆ ถึงต้องไปขอมาก็แล้วกัน

 

แต่มันยังไม่ถึงเวลานั้น

 

นัดที่สาม

กระสุนที่ยิงถูกปัดอีกครั้งด้วยดาบของอาจารย์ฟาร์เนส

 

เธอยังไม่ขยับ ยิงนัดที่สี่ทันที

แต่ก็ถูกปัดด้วยดาบอีกเช่นกัน

ผมขยับนิดหน่อยและเตรียมยิงนัดที่ห้า

 

[ ดีล่ะ ที่เหลือฝากด้วยนะ ]

 

เอลิเซียมองมาทางนี้พริบตาหนึ่งและปะทะดาบอย่างดุเดือดกับเธอ

และในนัดที่ห้า

 

――ดาบของอาจารย์ฟาร์เนสก็พัง

 

 

 

 

 

 

ช่วงเวลานั้น

ในสมองของเอลิเซีย「เกิดความไม่อยากเชื่อ」และในตอนนั้นก็มี 「โอกาสเหมาะ」เกิดขึ้น

 

[ บ้าน่า!? ]

 

อาจารย์ฟาร์เนสรู้สึกตกใจมาก

เอลิเซียเองก็ตกใจไม่แพ้กันในเวลานั้น

 

แน่นอน มันก็จริงที่ว่าผู้ชายคนนั้น―― ทรูเอทบอกฉันมา

การต่อสู้ด้วย《สไนเปอร์》นั้นปกติจะเป็นกับเป้าหมายเดี่ยวเท่านั้น แต่ยิ่งในระหว่างที่สู้กันและยังยิงโดนอีกฝ่ายโดยไม่โดนฝ่ายตัวเอง

 

นี่มัน――

 

――ไม่ใช่มนุษย์แล้ว

 

เอลิเซียมีความเห็นดังนั้น

 

วิชาดาบของฟาร์เนสถือว่าชั้นหนึ่ง บางทีเธอคงจะเดินทางเพื่อค้นหาวิถีแห่งดาบมาเป็นเวลานาน ดังนั้นถึงคำนวณการโจมตีของ《สไนเปอร์》และปัดด้วยดาบได้ ฟาร์เนสปรับมุมของใบดาบให้เบนไปอีกด้านแทนที่จะเรียกว่าป้องกันได้เรียกว่าเปลี่ยนทิศทางจะดีกว่า

 

แต่ว่าราวกับจะหัวเราะเยาะเย้ยฟาร์เนส สิ่งที่ทรูเอททำมันก็คือ――

 

――การยิงกระสุนในจุดเดียวกันอย่างต่อเนื่อง

 

หลังจากผ่านไปสี่นัด เอลิเซียไม่รู้สึกตัวเลย

 

และเมื่อการยิงนัดที่ห้า ดาบของฟาร์เนสก็แตกก็พิสูจน์ได้ว่าการคาดคะเนของเอลิเซียถูกต้อง

 

ไม่ว่าฟาร์เนสจะจะเบนเพื่อเปลี่ยนวิถีกระสุนขนาดไหน แต่หากกระสุนโดนที่จุดเดิมบนใบดาบเรื่อยๆ ก็ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะหัก

 

ฉันเข้าใจหลักทฤษฏีหรอกนะ แต่ก็ไม่มั่นใจนัก

 

มันเป็นการยิงที่แม่นยำมากนี่ไม่ใช่การพูดเกินจริงเลย แถมฝ่ายตรงข้ามยังเป็นเป้าหมายที่เคลื่อนไหวได้จึงเป็นงานที่ยากมากที่จะเล็งส่วนเดียวของใบดาบเท่านั้น การเคลื่อนไหวของฟาร์เนสน่ะสามารถคาดเดาได้ แต่ใครจะคาดเดาได้ว่าเธอจะป้องกันแบบไหน

 

[ ไม่จริง นี่เล็งมาที่ตรงจุดเดียว…!? แถมยังคำนวณว่าฉันจะป้องกันกระสุนยังไงไว้ด้วยเหรอ…!? ]

 

ฉันตกใจเช่นเดียวกับฟาร์เนส

 

แต่ผลลัพธ์มันก็ปรากฏมาต่อหน้าแล้ว ถึงจะไม่อยากเชื่อแต่มันก็คือความจริง

เมื่อเห็นว่าฟาร์เนสยืนนิ่งเปิดช่องว่าง ฉันจึงใช้โอกาสนี้

ฟาร์เนสรีบหยิบดาบขึ้นมา แต่ใบมีดมันก็แตกไปแล้ว จึงไม่สามารถใช้ป้องกันได้

 

ในพริบตา ดาบของฉันก็ไปหยุดที่คอของฟาร์เนส

 

[ เท่านี้ก็จบเกม ]

 

ด้วยคำพูดของฉัน ฟาร์เนสหายใจเข้าลึกและพูดออกมา

 

[ อา …. ฉันแพ้แล้ว ]

 

สถานที่นั้นเงียบสนิท

นักเรียนคนอื่นๆ ในโรงยิมต่างตกใจกับความพ่ายแพ้ของฟาร์เนส

จากนั้นผู้ที่เดินเข้ามาในไม่นานก็คือทรูเอท

 

[ ทำได้ดีมาก ]

 

ทรูเอทเดินเข้ามาหาฉันและพูดออกมา ชั่วพริบตาหนึ่งนั้นสายตาของฟาร์เนสมองเขาเหมือนมองดูสัตว์ประหลาด แต่ก็กลับไปมีความภาคภูมิใจอย่างอาจารย์ ยิ้มและส่งคำชมให้เขา

 

[ ฝีมือการยิง《สไนเปอร์》ของเธอนี่น่าทึ่ง… และยังสุดยอดเลยนะ ]

 

[ ขอบคุณ ]

 

ทรูเอทตอบแบบไม่สนใจ

ทันใดนั้นเมื่อเห็นที่มือของทรูเอท ฉันก็เริ่มนึกสงสัย

 

[ ทรูเอท คทาเวทนั่น… เมื่อกี้ยังไม่เคยเห็นเลยนี่? ]

 

ทรูเอทถือคทาเวทสีดำไว้ที่หลัง ก็พอรู้หรอกนะว่ามันเป็น《คทามนตรา》แต่เขาไปเตรียมมันไว้ตอนไหน?

 

[ อา ได้มาระหว่างทางนะ พอดีเห็นนักเรียนคนหนึ่งที่มีคทาเวทเหมาะมือเลยซัดจนหมอบและยืมมานิดหน่อย หากไม่มีมันก็ทำไม่ได้หรอก―― ]

 

[ ดะ เดี๋ยวก่อนนะ บอกว่าซัดจนหมอบ….? หลังจากแยกกับฉัน นายก็ไปจัดการไปอีกคนแล้วเหรอ? ช่วงเวลาสั้นๆ แค่นั้นน่ะเหรอ? ]

 

[ อา ]

 

ทรูเอทตอบด้วยท่าทีสงบ

แต่ฉันกลับมีเหงื่อเย็นๆ ไหลซึม

 

ผู้ชายคนนี้――เป็นใครกันแน่?

คำถามนี้วนเวียนอยู่ในใจฉัน

 

[ งั้นเดี๋ยวเอาไปคืนก่อนแล้วกัน ]

 

เขาพูดออกมาและเริ่มก้าวเท้า

 

แต่ก่อนที่เขาจะไป เขาหันหลังกลับมาและอ้าปากพูดว่า

 

[ ผมไม่ต้องการเงินรางวัลหรอก จะทำอะไรกับมันก็ตามสบาย ]

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากส่งคทาเวทคืนให้เจ้าของแล้ว ก็มีเสียงดังก้องไปทั่วตึกเรียนเก่า

มันเป็นสัญญาณบอกว่าการสอบเข้าของแผนกผู้กล้าได้จบลงแล้ว

 

คนที่ยังเหลือรอดให้มารวมตัวกันที่ห้องประชุมด้วย ไม่นานนักก็มีการประกาศนักเรียนที่ผ่านการสอบ คนที่ผ่านจะถูกเรียกชื่อ เอาเถอะ แต่ผมคงสอบตกดังนั้นคงไม่มีชื่อหรอก

 

แต่เดิมผมก็มาเพื่อเข้าแผนกสามัญอยู่แล้ว

ผมพลางรอขณะที่คิดในหัวเช่นกัน

 

ในที่สุดกรประกาศผลสอบผ่านและตกก็ครบหมดทุกคน

 

 

 

 

 

 

ซึ่งผมสอบตก