ตอนที่ 1119 - สหายเก่าเผ่าอสูร

The Divine Nine Dragon Cauldron

ฟึ่บ!
  ทุกคนได้เห็นร่างผมขาวท่ามกลางทุ่งร่างไร้วิญญาณ
  ใบหน้านางงดงามจนมิอาจละสายตาส่วนโค้งเว้าบนร่างกับเครื่องสวมใส่ขับกล่อมเข้ากันดี
  ริมฝีปากสีม่วงของนางมีประกายงดงามดวงตาสีเพลิงเปล่งประกายราวกับทับทิม
  แต่สตรีผู้งดงามนี้ก็ดูชั่วร้ายอย่างมากไม่แพ้กัน!
  เกือบจะทุกคนรู้ว่านางคือใคร
  สีหน้าของอดีตจ้าวดินแดนทั้งสามและจ้าวดินแดนมีดสวรรค์เปลี่ยนเป็นสะพรึงกลัวพร้อมกัน
  “เซียน…มณี!”
  พวกเขาตะโกนด้วยเสียงแหบพร่าแววตาเบิกกว้าง  บางทีคนอื่นที่นี่อาจไม่รู้จักใบหน้าของเซียนมณีแต่ในฐานะของอสูรเนรมิตรที่เป็นเป้าหมายของนาง พวกเขาจะยังใจเย็นอยู่ได้หรือ?
  “นะ…นางมาที่นี่ได้ยังไง?”
  ทั้งสี่ตัวสั่นอย่างรุนแรงหัวใจถูกความกลัวปกคลุม
  ทุกคนที่นี่หวาดกลัวอย่างมากเมื่อได้ยินว่าสตรีตรงหน้าคือเซียนมณีผู้ฉาวโฉ่!
  ความกลัวแพร่กระจายไปในใจพวกเขาอย่างรวดเร็วราวกับโรคระบาดผู้คนที่มาร่วมตัวกันเริ่มหนีเอาชีวิตรอดไปยังทุกทิศทาง
  โดยรอบเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องเสียงร้องไห้ และเสียงร้องคำรามอันยุ่งเหยิง
  จ้าวดินแดนมีดสวรรค์ไม่สนใจซือหยูเขาหนีทันที
  อดีตจ้าวดินแดนทั้งสามเร็วยิ่งกว่าพวกเขาฉีกมิติและกระโดดเข้าไปเพื่อหนี
  เหลือเพียงซือหยูที่ยืนอยู่บนประตูมิติเขาไม่พูดอะไร
  “อ๊าก!”
  เสียงกรีดร้องดังก้องเมืองเขตกลาง
  รอยแยกมิติฉีกที่ห้าหมื่นลี้ไกลออกไปรอยแยกเปลี่ยนรูปร่างแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงของมิติที่ไม่มั่นคง
  โลหิตจำนวนมากลอยออกมาจากรอยแยกมิติพร้อมกับเสื้อผ้าที่ฉีกขาดหลายชิ้น
  เสื้อผ้าและโลหิตของอสูรเนรมิตรบ่งบอกผู้คนว่าอดีตจ้าวดินแดนทั้งสามได้บาดเจ็บสาหัสหรืออาจจะตายไปแล้ว
  พร้อมกันนั้นรอยแยกอีกหลายรอยก็เกิดขึ้นตามมา จ้าวดินแดนมีดสวรรค์และอดีตจ้าวดินแดนสองคนร่วงลงมาจากมันราวกับลูกหนูไร้ที่ซ่อน
  พวกเขาจ้องมองสตรีผมขาวด้วยความสะพรึงกลัวและชิงชัง
  ในเวลาต่อมาเกิดรอยแยกมิติมากมาย เหล่าอสูรเนรมิตรถูกผลักออกมา  “นางปิดพื้นที่แสนลี้เอาไว้แล้ว!”
  อสูรเนรมิตรขั้นสองคนหนึ่งที่หน้าซีดเผือดกล่าวด้วยความกลัว
  คนที่หนีไม่ทันล้วนพุ่งชนกำแพงที่มองไม่เห็นที่ขัดขวางการหลบหนีของพวกเขา
  ขณะนี้เซียนมณียืนนิ่งไม่ไหวติง ทุกคนหวาดกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา
  ซือหยูมองเซียนมณีเขาไม่คิดว่าจะได้เจอนางที่นี่!
  ถ้าเขาไม่หยุดการเคลื่อนย้ายทันเวลาเขาอาจจะถูกสังหารอย่างทุกข์ทรมานเช่นเดียวกับอดีตจ้าวดินแดนคนนั้น เขาอดพูดไม่ได้
  “ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะมีความสัมพันธ์ลับกับราชาเขตกลาง!นึกไม่ถึงจริง ๆ!”
  ไม่แปลกใจเลยที่เซียนมณีสามารถซ่อนตัวจากการค้นหาของเหล่าราชาเขตอื่นได้!
  ความจริงกลับกลายเป็นว่านางซ่อนตัวอยู่ในเขตกลางภายใต้การปกป้องของราชาเขตกลางมาโดยตลอด!
  “หึหึครั้งที่แล้วข้าไว้ชีวิตเจ้า ไม่คิดว่าเราจะได้เจอกันเร็วเช่นนี้!”
  เซียนมณียิ้มและเดินเข้าไปหาเขา
  ครั้งที่แล้วนางพูดว่านางจะไม่ปรานีหากได้เจอซือหยูอีกครั้ง
  “เจ้ารู้ว่าข้าต้องการอะไร!เอามันมาให้ข้า!”
  เซียนมณีกล่าว
  ซือหยูรู้ว่าสิ่างที่นางต้องการคือร่างอสูร
  ซือหยูเหลือบมองคนเขตกลางที่ติดอยู่ในที่ปิดตายจำนวนนั้นมีมากกว่าสามแสนคน!
  ทุกคนเข้ามาในระยะเพราะเสียงจากการต่อสู้ของซือหยูแต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะถูกเซียนมณีจับตัว!
  “เจ้าจะฆ่าทุกคนใช่หรือไม่?”
  ซือหยูถอนหายใจ
  เซียนมณีมองคนเหล่านั้นราวกับมดปลวกนางพูดอย่างไร้อารมณ์
  “สำหรับข้าพวกมันคืออาหารอย่างที่เดรัจฉานเป็นต่อมนุษย์! ข้ากินมันได้ตามใจอยาก!”
  จากนั้นนางเหลือบมองซือหยู
  “สำหรับพวกมันเจ้าก็แค่คนต่างถิ่นที่จะถูกใครฆ่าตายก็ได้ เจ้าจะปกป้องคนเหล่านั้นไปทำไมอีก?”
  เซียนมณีชี้ซือหยูด้วยดัชนีอันงดงามราวหยก
  “เจ้าคือมนุษย์คนเดียวที่ข้าไม่อยากฆ่า!”
  “แค่ให้สิ่งที่ข้าต้องการมาเสียและข้าจะปล่อยเจ้าไป! ส่วนคนพวกนี้ เจ้าไม่ต้องห่วงพวกมันเลย!”
  ซือหยูเหลือบมองคนเขตกลางที่ติดอยู่ในกำแพงที่มองไม่เห็นเขาลังเลเพียงไม่นานก่อนจะส่ายหน้า
  “ขออภัยข้าทิ้งพวกเขาไม่ได้หรอก!”
  ซือหยูไม่ได้ตัดสินใจเพราะความเมตตาเขารู้ว่าไม่ใช่ทุกคนในเขตกลางที่มองเขาเป็นคนต่างถิ่น
  อย่างน้อยก็ยังมีคนตำหนักโลหิตและคนดินแดนพรสวรรค์ที่ไม่เคยมองเขาเป็นคนนอก
  คนเหล่านี้มิใช่ตัวแทนของคนเขตกลางทั้งหมด!
  “น่าผิดหวังเหลือเกิน!แต่ข้าก็ไม่ได้แปลกใจกับคำตอบของเจ้า!”
  เซียนมณีกล่าวนางส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ ทุกความลังเลเลือนหายไปจากแววตา ดวงตาสีเพลิงของนางเยือกเย็นโดยพลัน
  “ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ตายไปซะ!”
  เซียนมณีถอนหายใจเหม่อมองนภา
  เพล้ง!
  เนตรยักษ์มหึมาที่ปิดตายพื้นที่เอาไว้แตกสลายราวกับคันฉ่องเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
  เซียนมณีชี้ดัชนีไปที่ซือหยูพลังอันน่ากลัวของเซียนพุ่งเป็นสายตรงไปที่เขา  ในเวลาเดียวกันแสงกระบี่เงินหลายสายปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า มันล้อมเซียนมณีจากมุมที่แตกต่างกัน
  เซียนมณีที่คุ้นเคยกับเพลงกระบี่นี้เรียกพลังเซียนกลับมา
  “ค่ายกลกระบี่อีกแล้วรึ?น่าเวทนานัก! แต่มันไม่น่ากลัวสำหรับข้าแล้ว!”
  ฟึ่บ!
  เพลงกระบี่ไตรสุริยาถูกใช้งานกระบี่สามเล่มพุ่งตรงไปยังเซียนมณี พลังกระบี่อันแข็งแกร่งถลาเป็นคลื่นผ่านมิติไป
  เซียนมณียื่นมือด้วยรอยยิ้มน่ากลัวนางสามารถต้านกระบี่สีเงินหนึ่งเล่มที่พุ่งเข้าใส่นางได้
  แต่เวลาเดียวกันนางก็ลืมตากว้าง กระบี่เงินอีกสองเล่มที่กำลังลอยอยู่ได้สั่นสะเทือนและมิอาจขยับมาข้างหน้าได้อีก
  ซือหยูชักสีหน้าเล็กน้อย
  นางแข็งแกร่งขึ้นแล้ว!นางแข็งแกร่งกว่าเดิมมาก!
  แต่สีหน้าใจเย็นของเซียนมณีก็เปลี่ยนไปเช่นกันหฟลังจากที่หยุดกระบี่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ได้ นางกระโดดถอยหลังในทันที
  ในเวลานั้นสายตาสีดำสนิทเส้นบาง ๆ ได้พุ่งออกมาจากกระบี่เงินราวกับอสรพิษร้าย
  “สายฟ้าวิบัติสวรรค์รึ?”
  เซียนมณีจ้องมองด้วยเนตรสีเพลิงในแววตานั้นหวาดกลัวและไม่เชื่อสายตา
  นางคือเซียนนางรู้ดีว่าสายฟ้าวิบัติสวรรคืนั้นเป็นเช่นใด! แม้แต่เซียนขั้นสูงสุดก็ต้องหลบมัน!
  และขณะนี้นางยังคงเป็นเซียนที่มิอาจท้าทายต่อสายฟ้าของวิบัติสวรรค์ได้เลย!
  ถ้าหากสัมผัสนางไม่ดีพอนางคงจะพ่ายแพ้เขาไปแล้ว!
  “เจ้ารู้ว่าเพลงกระบี่ใช้กับข้าไม่ได้ผลเจ้าเลยเตรียมสายฟ้าเอาไว้สินะ?”
  เซียนมณีรำคาญใจนางไม่อยากฆ่าซือหยู แต่ซือหยูมักจะทำให้นางตกอยู่ในอันตรายเสมอ
  “เพลงกระบี่และสายฟ้าถูกเตรียมไว้เพื่อเรียกฉุกเฉินไม่ได้เพื่อใช้กับเจ้า แต่เป็นคนอันตรายอีกคน!”
  ซือหยูกระทืบเท้า
  “เจ้าสนุกกับการแสดงมามากพอดูถ้าอยากจะให้ประตูมิติก็ควรจะทำอะไรได้แล้ว!”
  เซียนมณีขมวดคิ้วและถาม
  “เจ้ากำลังพูดถึงใคร?”
  หรือว่าซือหยูกำลังระวังคนผู้นั้น?
  ต่อมาเซียนมณีก็ได้เห็นก้อนเลือดลอยขึ้นมาจากประตูมิติเทวะใต้เท้าของซือหยู เสียงแหบพร่าชั่วร้ายดังขึ้น
  “แม่นางข้าไม่คิดเลยว่าจะได้พบกับสหายเก่าที่นี่!”