Ch.5 – สนามรบฉางผิง (แรก)

Translator : Asiran / Author

 

ตอนที่****5 – สนามรบฉางผิง (แรก)

 

วิธีการสู้รบของสนามรบฉางผิงก็คือต่างฝ่ายต่างโจมตี ป่าถูกแบ่งเป็นสองฝั่งบนกับล่าง แถวของครีปเดินไปตรงกลาง เกาเกอกับโจวม่อเดินไปพร้อมกับแถวครีปกันสองคน เหออวี้ควบคุมหวงจงของเขาให้ไปที่ป่าด้านบน เปิดเกมมาได้ 20 วินาที ครีปป่าก็เกิดแล้ว นี่ยังเร็วกว่าแมปหุบเขากษัตริย์ถึง 10 วินาที หวงจงของเหออวี้ที่อยู่ในตำแหน่งมานานแล้วก็เริ่มฆ่าทันที

บนเลนหลัก ฮีโร่ทั้งสามตัวของหวงเฉาไม่ได้แยกย้ายแต่รวมตัวกันเดินไปพร้อม ๆ กับแถวครีป ถึงจะเชื่อมั่นว่าเหออวี้เล่นไม่เป็น แต่จางเฉิงห่าวก็ยังไม่กล้าวางใจมาก เขาและเพื่อนทั้งสองคนต่างก็เลือกฮีโร่ที่พวกเขาเชี่ยวชาญที่สุด ลูน่าของจางเฉิงห่าว หยางเจี่ยนของโจวมู่ถง ซุนซ่างเซียงของสู่ไคหวย พวกนี้เป็นฮีโร่ที่พวกเขาเลือกเล่นบ่อยที่สุดแล้ว

ฮีโร่ของทั้งสองฝ่ายมาเจอกันบนเลนหลักอย่างรวดเร็ว แต่พวกเขาต่างก็แค่ตีกันพอหอมปากหอมคอ หลังจากครีปทั้งหมดถูกเก็บกวาดไปแล้ว พวกเขาทุกคนก็เลือกที่จะถอยหลังไป ไม่มีใครเดินเข้าไปลึก

“หวงจงไม่อยู่” จางเฉิงห่าวจริงจังกับเกมนี้พอดู ตีกันไปรอบหนึ่งก็สังเกตเห็นทันทีว่าหวงจงของเหออวี้ไม่ได้ปรากฎตัวขึ้นในตอนที่ปะทะกันเมื่อครู่นี้

“ต้องสนใจเขาด้วยเหรอ” โจวมู่ถงพูดอย่างไม่เห็นด้วย

“ไม่สนใจเขาก็ยังต้องสนใจการเดินเกมของเกาเกอ ทำไมถึงเลือกหวงจง ไม่ใช่เพราะว่าอยากจะให้ทั้งสองคนเฝ้าหวงจงทำดาเมจแบบไร้สมองหรอกเหรอ ทำให้ไอ้คนที่เล่นไม่เป็นคนนี้เล่นได้ถึงขีดจำกัดของตัวเอง” จางเฉิงห่าวก็ไม่ใช่ผู้เล่นธรรมดาทั่วไป มีหัวทางด้านการคิดวิเคราะห์อยู่บ้าง ท่าอัลติของหวงจงคือป้อมปราการถึงแม้ว่าจะทำให้เคลื่อนที่ไม่ได้ แต่ก็ทำให้หวงจงมีระยะโจมตีไกลสุด ๆ แถมยังดาเมจแรงอีกด้วย ถึงเหออวี้จะเล่นไม่เป็น แต่ตราบใดที่เขาเกิดได้แล้วก็มีการปกป้องจากเกาเกอและโจวม่อ ปืนใหญ่ที่ยิงรัว ๆ เดินหน้ามานี้ก็ยังยากที่จะต้านทาน

“งั้นพวกเขาก็เตรียมที่จะปกป้องการเกิดของหวงจงงั้นเหรอ” โจวมู่ถงกล่าว

“แมปนี้มีครีปเดินมาแค่แถวเดียวแบบนี้ ถ้าเอาแต่เก็บครีปพวกนี้ค่าประสบการณ์กับการเงินคงจะล้าหลังแน่ ๆ พวกเราก็ต้องไปลงป่าเหมือนกัน” จางเฉิงห่าวพูด

“พวกนายไปเหอะ ฉันเฝ้าป้อมเอง” สู่ไคหวยพูดแล้วบังคับตัวซุนซ่างเซียงของเขากลับหลังหันไปที่ป้อมป้อมแรกของพวกเขา

“ลูน่าไปป่าบนแล้ว” เกาเกอที่สนใจสังเกตตอนที่อีกฝ่ายล่าถอยก็ระบุได้แล้วว่าพวกเขากำลังจะไปที่ไหน รีบเตือนหวงจงที่กำลังตีป่าอยู่ในป่าบน

“อ้อ” เหออวี้รับทราบ ที่จริงเขาเองก็ขยับวิชั่นไปสังเกตสถานการณ์การปะทะกันที่เลนกลางเหมือนกัน แต่ว่านี่เป็นเกมแรกของเขา ถึงจะรู้เทคนิคอันนี้แต่การลงมือจริง ๆ ก็ยังขลุกขลัก หน้าจอถูกเคลื่อนไม่มากไปก็น้อยไป สุดท้ายแล้วก็เลยไม่ได้ข้อมูลอะไรที่เป็นประโยชน์สักอย่างเดียว

“นายไม่ได้บอกว่าครึ่งบนมีครีปป่าเก้าตัวเหรอ ทำไมหายไปหนึ่ง” หลังจากเกาเกอหันไปมองสถานการณ์ด้านหวงจงแล้วก็พูดขึ้นมา

“ตรงกลางมีอีกตัว อีก 1 นาทีถึงจะเกิด” เหออวี้กล่าว

“1 นาที…งั้นนายฆ่าพวกนี้ให้หมดแล้วก็รอมันเกิดแล้วกัน” เกาเกอพูด

“จะซุ่มโจมตีเหรอ” เหออวี้ก็คาดเดาเจตนาของเกาเกอได้ทันที

“ก็ที่มันเหมาะไม่เลวเลยนิ!” เกาเกอยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

จางเฉิงห่าวกับโจวมู่ถงที่แยกตัวออกมาจากเลนกันสองคนก็เข้าป่ามาแล้วในขณะนี้ สังเกตเห็นทันทีว่าที่จุดเกิดแต่ละจุดส่วนมากแล้วมีครีปป่าตัวเล็ก ๆ อยู่จุดละสองตัว ผู้เล่นมือเก่าทั้งสองคนรู้ทันทีว่าในแมปนี้การฟาร์มป่าจะทำได้รวดเร็วมาก ทั้งสองคนไม่ต้องพูดอะไรก็แก้ไขแผนการเล่นของตัวเองกันแล้ว

จางเฉิงห่าวตีครีปเล็กไปสี่ตัวก็บังเอิญได้บัฟมาอันหนึ่ง ทำให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นแล้วก็ลดเวลาคูลดาวน์ของสกิลด้วย มีระยะเวลา 30 วินาที เขาเองก็เพิ่งจะรู้จักบัฟนี้จากการอ่านข้อมูลบัฟ หลังจากที่ฆ่าครีปป่าที่อยู่ตรงกลางไปแล้วก็ได้ยินเสียงปืนดังตูมตาม หวงจงของเหออวี้กำลังตีกับครีปป่าที่อยู่ด้านล่าง

“เวล 2 เหรอ” พอเห็นเลเวลของหวงจงแล้วจางเฉิงห่าวก็อยากจะเข้าไปลองสู้ด้วยจนหยุดไม่อยู่ สกิลทำดาเมจหลัก ๆ ของลูน่าคือท่าอัลติสังหารจันทราดับ ต้องมีเลเวลถึง 4 จึงจะเรียนได้ ตอนนี้ลูน่าของจางเฉิงห่าวอยู่ที่เลเวล 3 ถึงจะมากกว่าหวงจงอยู่ 1 เลเวลแต่ลูน่าที่ยังใช้สังหารจันทราดับไม่ได้ก็ยังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ แต่พอเห็นว่าหวงจงยังคงตีครีปอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่ แถมตัวเองยังมีบัฟ “เสียงคำรามจากป่า” จางเฉิงห่าวก็ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว รีบพุ่งเข้าไปจากด้านหลังวิชั่นของหวงจง ใช้สกิลติดตัวของลูน่า “ระบำแสงจันทร์” โจมตีธรรมดา ๆ พุ่งข้ามพื้นที่จากป่าบนไปถึงข้างตัวหวงจง

“เซอร์ไพรส์!” จางเฉิงห่าวตะโกนเสียงดัง นี่เป็นการจงใจเพื่อให้พวกเหออวี้ที่อยู่ห่างออกไปตรงนั้นได้ยินด้วย จากนั้นก็เป็น ฟาดฟันจันทร์เสี้ยวและปลายกระบี่แผดเผาอีกสองสกิลที่คอมโบเป็นชุด ลูน่าเลเวล 3 ที่ยังใช้สังหารจันทราดับไม่ได้เหมือนจะกลายเป็นจอมทัพ สกิลโจมตีธรรมดาถูกโจมตีรัว ๆ เข้าใส่หวงจง

ใครจะไปนึกว่าอยู่ดี ๆ ก็มีคนสองคนกระโจนออกมาจากพุ่มไม้ หน้าไฟต์เตอร์ หลังเมจ…

“เซอร์ไพรส์!” เกาเกอตอบโต้จางเฉิงห่าวกลับไปเสียงดังลั่น ซูลี่ของโจวม่อใช้ “ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า” พุ่งไปข้างหน้าอัดลูน่าของจางเฉิงห่าวไปชนกับกำแพง จูเก่อเลี่ยงเดินอย่างไม่รีบไม่เร่งไปข้างหน้า “ใช้ข้ามกาลเวลา” วาร์ปไปทำดาเมจได้สองครั้งแล้วก็คอมโบต่อด้วย “โจมตีตามลมบูรพา” อีกครั้งทำดาเมจได้รวมห้าครั้งอย่างชำนาญ กระตุ้นสกิลติดตัวของจูเก่อเลี่ยง “จังหวะยุทธวิธี” เพียงพริบตาเดียวบอลเวทก็ลอยไปทั่วถล่มเข้าใส่ลูน่า เวทมนตร์ตระการตาระเบิดออก กระบองยักษ์ของซูลี่ตีรัว ๆ หลังจากหวงจงส่งกระสุนไปอีกหนึ่งชุดลูน่าก็ล้มลง

เฟิร์สบลัด!

การสังหารเป้าหมายคนแรกในแต่ละเกมของ  The Kings of Glory ถูกเรียกว่าเฟิร์สบลัด มีรางวัลเป็นเงิน 300 เหรียญซึ่งสูงกว่าการฆ่าทั่วไปมาก ในช่วงต้นเกมถือได้ว่าเป็นข้อได้เปรียบอย่างใหญ่หลวง แล้วก็ยังเป็นการทำลายขวัญกำลังใจของฝ่ายตรงข้ามได้มากอีกด้วย จางเฉิงห่าวเพิ่งจะตะโกนเสียงดังสร้างความแปลกใจให้ศัตรู ผลก็คือเป็นการแจกเฟิร์สบลัดออกจากมือตัวเองซะงั้น ในขณะที่มองดูร่างของตัวเองล้มลงกับพื้น ในใจของเขาก็หลั่งน้ำตา

เหออวี้ที่ได้รางวัลจากเฟิร์สบลัดรีบเอาไปซื้อมีดตีป่าเลเวล 2 ทันที หลังจากกวาดล้างครีปเล็กที่ตีไปได้ครึ่งทางแล้วจนเสร็จก็เริ่มเดินไปทางป่าล่าง

“ซุ่มโจมตีรอบนี้คิดว่าไง” เกาเกอถามเขา

“ไม่คิดเลยว่าเขาจะประมาทขนาดนี้ ผมก็เห็นเขาในวิชั่นตั้งนานแล้วแต่ยังไม่ล่าถอยก็ต้องมีเพื่อนร่วมทีมอยู่แถว ๆ นี้แน่อยู่แล้วสิ” เหออวี้กล่าว

“ฮา ๆ” เกาเกอหัวเราะ เธอทราบชัดว่าจางเฉิงห่าวคิดว่าเหออวี้เล่นไม่เป็น พวกหน้าใหม่ส่วนมากก็เอาแต่สนใจฮีโร่ของตัวเองโดยไม่สนใจวิชั่นกันทั้งนั้น ดังนั้นจะบอกว่าจางเฉิงห่าวดูถูกเขาก็ไม่ถูก ต้องเรียกว่าเข้าใจผิดมากกว่า

แต่การเข้าใจผิดนี้สำหรับพวกเขาแล้วสวยงามมาก ใช้ได้อีกเยอะ

“ตรงไปตีครีปป่าที่ป่าล่างเถอะ” เธอบอกกับเหออวี้

“ตรงไปเหรอครับ” เหออวี้มองมินิแมป ซูลี่เดินอ้อมด้านล่างของเลนลงไปที่ป่าล่าง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจทั้งหมด หวงจงเดินดุ่ม ๆ ตัดผ่านเลนกลางไปที่ป่าล่าง ซุนซ่างเซียงของสู่ไคหวยของอีกฝ่ายกำลังตีครีปที่เดินหน้าอยู่ พอเห็นหวงจงก็ใช้ “กลิ้งตัวลอบยิง” ตามติดไปทันที แต่จางเฉิงห่าวที่อยู่ข้างเขารีบร้องให้หยุด

“ระวังโดนหลอก!” จางเฉิงห่าวที่เพิ่งจะถูกอีกฝ่ายใช้หวงจงเป็นเหยื่อล่อจนเสียเฟิร์สบลัดไปอับขายขายหน้าหนักมาก

สู่ไคหวยมองแมปก็ไม่เห็นเงาของจูเก่อเลี่ยงและซูลี่จึงพยักหน้าและล้มเลิกการติดตาม แต่กลับได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างโกรธเกรี้ยวของเกาเกอดังมาจากอีกฝั่งว่า “เดินอ้อมไปสิ!”

นี่… จางเฉิงห่าวปากอ้าตาค้าง ที่แท้อีกฝ่ายก็เล่นพลาดไปจริง ๆ งั้นพวกเขาก็เพิ่งจะพลาดโอกาสอันดีไปเหรอ หลายปีที่รู้จักเกาเกอมาเขาที่ถูกด่าเวลาเล่นพลาดมาอย่างไม่ยั้งไม่สงสัยแม้แต่นิดเดียวว่านี่เป็นเรื่องหลอกลวง เขาจึงหลบสายตาสู่ไคหวยอย่างอับอายที่สุดแล้วหันไปเตือนโจวมู่ถงว่า “หวงจงลงไปที่ป่าล่างแล้วนะ”

“ให้เขามาเถอะ!” หยางเจี่ยนที่สิงอยู่ป่าล่างเป็นคนแรกในเกมที่ไปถึงเลเวล 4 ตอนนี้โจวมู่ถงคึกคักมาก เขาที่ไม่เคยเล่นสนามรบฉางผิงมาก่อนรู้สึกตะลึงกับจำนวนครีปป่าในสนามนี้มาก การที่ฟาร์มป่าจนเก่งขึ้นได้อย่างรวดเร็วทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองสู่หนึ่งต่อแปดได้ด้วยซ้ำ

แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อได้ยินข่าวว่าหวงจงกำลังมาเขาก็ยังรีบวิ่งเข้าพุ่มไม้ไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ คือเห็นหวงจงเคลื่อนที่มาอย่างช้า ๆ

“ยังไม่ซื้อรองเท้าอีกเหรอ” โจวมู่ถงจิ้มปุ่มดูแผงอุปกรณ์ของทั้งสองฝ่าย หวงจงที่ได้เฟิร์สบลัดมาการเงินไม่เลวเลย แต่พออัพมีดตีป่าเป็นเลเวลสองแล้วก็ไม่ได้ซื้อรองเท้าที่คุ้มค่าที่สุดแต่กลับไปเสริมพลังโจมตีก่อน

ชิว ๆ

โจวมู่ถงคิดอย่างนั้น เพื่อที่จะล่อศัตรูมาเขาเลยจงใจเหลือครีปป่าตัวหนึ่งทิ้งเอาไว้ไม่ได้ฆ่าแต่รอให้หวงจงมาติดกับ ไหนเลยจะคิดว่าหวงจงกลับยกมือขึ้นมากดสกิลที่สอง “ระเบิดเตือนภัย” โยนมาใส่พุ่มไม้ที่หยางเจี่ยนซ่อนตัวอยู่

“ระเบิดเตือนภัย” มีพลังโจมตีทางกายภาพแล้วก็ยังทำให้เป้าหมายช้าลงรวมทั้งเจาะเกราะได้อีกต่างหาก แล้วในเวลาเดียวกันก็ยังสร้างเกราะดูดดาเมจให้หวงจงด้วย ดังนั้นระเบิดที่ถูกโยนใส่เท้าหยางเจี่ยนตรง ๆ ก็ระเบิดขึ้นมาทันที ร่างของหยางเจี่ยนที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ก็ปรากฎตัวขึ้นมาอย่างปุบปับ

ไม่ใช่มือใหม่หรอกเหรอ

โจวมู่ถงค่อนข้างแปลกใจ ความคิดที่จะตีพุ่มไม้ไม่ใช่ความคิดที่ผู้เล่นใหม่ควรจะมีเลย แม้แต่ผู้เล่นเก่าบางคนก็ยังละเลยเรื่องนี้

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น หยางเจี่ยนที่เลเวล 4 แล้วก็ไม่กลัวหวงจงสักนิด เขาใช้สกิลที่หนึ่ง “พลิกกลับฟ้าดิน” กระโจนใส่ตำแหน่งของหวงจง

นี่ไม่ใช่สกิลที่จะพุ่งไปข้างหน้า แต่จะต้องเล็งเป้าโดยตัวเอง หลังจากสุนัขสวรรค์ที่ถูกเรียกมากัดเป้าหมายแล้วก็จะสร้างดาเมจแล้วก็ล็อคเป้าหมายเอาไว้ด้วย ตอนนั้นหยางเจี่ยนจะสามารถกดใช้สกิลนี้ได้อีกครั้งเพื่อพุ่งเข้าใส่เป้าหมายได้โดยตรง แล้วถ้าฆ่าเป้าหมายได้ก็จะล้างเวลาคูลดาวน์ของสกิลนี้ได้ทันทีเลยด้วย

โจวมู่ถงแค่อยากจะใช้สกิลนี้สองครั้งพุ่งไปถึงข้างตัวของหวงจง แต่หวงจงก็รีบ Flicker หนีไปทันทีจนออกจากวิชั่นของหยางเจี่ยน แต่โจวมู่ถงก็คิดว่านี่เป็นแค่การดิ้นรนก่อนตายเท่านั้นเอง Flicker เหรอ ใครจะใช้ไม่ได้ล่ะ หยางเจี่ยนก็ Flicker ตามไปทันทีเหมือนกัน พลิกกลับฟ้าดินครั้งที่สองถูกใช้ออกอย่างรวดเร็ว หยางเจี่ยนพุ่งเหมือนสายฟ้าไปหาหวงจง

การก้าวไปข้างหน้าครั้งนี้ทำให้หยางเจี่ยนมีวิชั่นที่เปลี่ยนไป โจวมู่ถงหัวใจตกลงทันที ซูลี่ที่เคยหลบอยู่ในตำแหน่งที่เป็นจุดบอดเผยตัวออกมาแล้วก็ Flicker หนึ่งทีอย่างไม่เฉไฉวาร์ปมาถึงข้างหลังเขา

ทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้า!

ก่อนหน้านี้ก็เป็นสกิลนี้ที่ผลักลูน่าไปชนกำแพง ตอนนี้สกิลนี้ถูกใช้อีกครั้งส่งหยางเจี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ หวงจงยัดใส่ป้อมแรกของคลื่น7 จากนั้นซูลี่ก็ใส่สกิลแรก “ทำลายไฟสัญญาณ” ทันทีตามด้วยการโจมตีธรรมดาสามครั้งทุบรัว ๆ ใส่หยางเจี่ยน การโจมตีครั้งที่สามสตันได้ 0.75 วินาที โจวมู่ถงเองก็บังคับหยางเจี่ยนตอบโต้ด้วยการเปิดท่าอัลติสายตามูลฐาน การโจมตีจากป้อมเข้ามาผสมโรงอย่างดุดัน หวงจงก็เข้ามาช่วยทำดาเมจ ส่งระเบิดเตือนภัยที่น่ารังเกียจโยนใส่หยางเจี่ยนที่พยายามหาทางหนี หยางเจี่ยนดิ้นรนเพื่อให้หนีรอดจากป้อม แต่ก็ยังถูกป้อมยิงใส่เป็นครั้งสุดท้ายจนตายลงอยู่นอกเขตป้อมนี่เอง

…………………………………………………………

ใครไม่เคยเล่นเกมนี้อาจสงสัยว่ามันมีอะไรกับเลเวลสี่นักหนาวะ พูดอยู่ได้ คือว่าเกมนี้ฮีโร่มันมีสกิล 3 สกิลค่ะ ซึ่งพอเลเวลขึ้นก็บวกแต้มสกิลได้อันหนึ่ง แต่ว่าสกิลสามหรืออัลตินั้นจะเริ่มใช้ได้ก็ตอนที่ขึ้นเลเวลสี่แล้วเท่านั้นค่ะ ดังนั้นมันจึงมีความสำคัญว่าพอขึ้นเวลสี่แล้วเราก็จะทำได้ทุกอย่างนั้นเองค่ะ

มินิแมปก็คือว่า มันจะมีแผนที่เล็ก ๆ ตรงหัวมุมซ้ายบนที่จะบอกที่อยู่ของเพื่อน ๆ เราทุกคน ครีปเรา แล้วก็ป้อมทุกคนด้วย ซึ่งศัตรูที่เข้าใกล้ฮีไร่/ครีป/ป้อมของเราก็จะโชว์ขึ้นมาในวิชั่นอันนี้ค่ะ แต่ว่ามันจะมีพุ่มไม้เป็นระยะ ๆ ที่ศัตรูจะซ่อนตัวได้ แบบว่าถึงจะเดินทับกันก็ยังไม่เห็นเลยค่ะ ถ้าตัวยิงแรง ๆ ของเขามาซ่อนในพุ่มแล้วเราเดินทะเล่อทะล่าไปใกล้ก็อาจตายในเสี้ยววิได้เลย พวกที่ประสบการณ์พอประมาณจะต้องส่องมินิแมปตลอดเวลาว่าใครอยู่ที่ไหนหรือว่าศัตรูมันหายไปแถว ๆ ไหนเพราะอาจจะโดนฆ่าออกมาจากพุ่มไม้ก็ได้ค่ะ

 

Flicker เป็นสกิลติดตัวผู้เล่น (เลือกได้คนละอย่าง) เป็นการวาร์ปออกไปใกล้ ๆ ค่ะ

Punish ของตอนที่ 2 ก็เหมือนกัน แต่เป็นสกิลที่ใช้กับครีป ดาเมจแรงมาก คนที่ลงตำแหน่งป่ามักจะเลือกสกิลนี้กันทุกคน