ตอนที่ 695: บทสนทนา
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะเดาได้ว่าเรื่องระหว่างตระกูลกิลลิกันกับพยัคฆ์ปีกเทวะจะซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ นั้นก็จริง ความสงบสุขกำลังจะหมดไปในไม่ช้านี้ และตระกูลผู้พิทักษ์แห่งความเงียบจะปรากกฎตัวขึ้นอีกครั้ง ฮุสตัน ข้ารู้ว่าเจ้าถอนตัวจากทวีปเทียนหยวนมาเป็นพันปีแล้ว แต่เจ้ายังคงเป็นมนุษย์ที่เก่งกาจที่อยู่จุดสูงสุด เมื่อทวีปสัตว์เทวะบุกรุกมา ข้าหวังว่านิกายดาบโลหิตของเจ้าจะสามารถสนับสนุนทวีปเทียนหยวนได้ เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์” เทียนเจี้ยนกล่าวอย่างจริงจังกับฮุสตัน
ฮุสตันพยักหน้าอย่างสงบ “เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงไป แม้ว่าข้าจะเคยสาบานไว้ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของทวีปเทียนหยวนแล้วเมื่อพันปีก่อน แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวโยงถึงความปลอดภัยของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ข้าคงจะอยู่เฉยไม่ได้”
“อย่างนั้นก็ดีเลย ด้วยการที่นิกายดาบโลหิตของเจ้ามาช่วย พลังของเราที่จะใช้ในการต่อต้านพวกทวีปสัตว์เทวะก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้ว่าเราจะรู้แล้วว่าพวกทวีปสัตว์เทวะจะมาเอาพยัคฆ์ปีกเทวะ แต่พวกเราก็ยอมให้มันเอาไปไม่ได้ ข้าคิดว่าราชาของทวีปสัตว์เทวะต้องการที่จะยึดพยัคฆ์ปีกเทวะที่โตแล้วและสิงร่างของมัน”
“ดูเหมือนเจ้าจะคิดไปไกลเกินกว่าที่ข้าคิดเสียอีก ตอนแรก ข้าแค่คิดว่าราชาของทวีปสัตว์เทวะต้องการกำจัด พยัคฆ์ปีกเทวะตอนที่ยังไม่โตเพื่อรักษาอำนาจของพวกเขา แต่ดูเหมือนตอนนี้มันจะซับซ้อนกว่าที่ข้าคิดไว้แล้วละ” ฮุสตันถอนหายใจ
“มันต้องซับซ้อนมากกว่าที่เจ้าคาดเดาไว้แน่นอน” เทียนเจี้ยนมองลึกเข้าไปที่ฮุสตัน เขาลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพูดต่อ “ฮุสตัน บางทีเจ้าอาจจะรู้แล้ว พยัคฆ์ปีกเทวะคนก่อนครั้งหนึ่งได้จากไปจากแท่นบูชาที่ทวีป สัตว์เทวะ เมื่อครั้งโบราณกาลและเขาก็ทิ้งมรดกไว้บนนั้น อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากพยัคฆ์ปีกเทวะแล้ว ไม่มีสัตว์อสูรตนอื่นเลยที่สามารถเข้าไปในแท่นบูชาได้ นอกเหนือเสียแต่ว่าพลังของพวกเขาจะเหนือกว่าผู้ที่สร้างมัน ในกรณีนั้นผู้นั้นจะสามารถผ่าเข้าไปในม่านพลังของแท่นบูชาได้ ราชาของทวีปสัตว์เทวะครั้งหนึ่งเคยสิงร่างของพยัคฆ์ปีกเทวะและเขาก็สามารถไปเอามรดกนั้นได้ และได้รับพลังที่เทียบเท่ากับที่พยัคฆ์ปีกเทวะเมื่อครั้งโบราณกาลได้รับ ในเวลานั้น พวกเรามนุษย์ไม่มีกำลังที่จะสามารถไปต่อต้านได้เลย
ท่าทีของฮุสตันเริ่มตึงเครียดมากขึ้น เขาลอยอยู่บนอากาศ ไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยครู่ใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ดูเหมือนว่าพวกเราจะต้องทุ่มเทพลังที่มีทั้งหมดเพื่อปกป้องพยัคฆ์ปีกเทวะ เราต้องไม่ให้พวกทวีปสัตว์เทวะได้มันไปเด็ดขาด ตอนนี้พวกเรามนุษย์ไม่มีผู้ยอดยุทธ์เช่นโมเทียนหยุนอีกแล้ว โมเทียนหยุนที่ครั้งหนึ่งราชาของทวีปสัตว์เทวะในร่างพยัคฆ์ปีกเทวะ หรือแม้แต่มารราคะก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา
หลังจากได้ยินชื่อนั้น เทียนเจี้ยนย่นคิ้ว หยุดนิ่งไปสักพัก เขาพูดว่า “อย่าไปหวังพึ่งมารราคะเลย เจ้าคนทรยศนั้นได้ถูกขับไล่ออกจากอารามจิตพิสุทธิ์และได้เดินไปบนเส้นทางแห่งกิเลสและปล่อยให้ความต้องการทั้ง 6 และอารมณ์ทั้ง 7 ครอบงำ ถ้าเขารู้เรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะละก็ บางที่เขาอาจจะรีบมาเอามันไปด้วยตัวเขาเองเลยก็เป็นได้”
“พฤติกรรมของเขาอาจจะชั่วร้าย แต่เขาคืออัจฉริยะที่สุดยอด อย่างน้อยเขาก็คือคนเดียวในทวีปเทียนหยวนที่สามารถต่อกรกับราชาของทวีปสัตว์เทวะได้ บางทีในภายภาคหน้าเมื่อทวีปสัตว์เทวะบุกมา เราอาจจำเป็นจะต้องพึ่งเขาในการขจัดพวกนั้นไปก็ได้” ฮุสตันบ่นกับตัวเอง
“เฮ้อ” เทียนเจี้ยนถอนหายใจเบา ๆ และโบกมือ “ฮุสตัน การสนทนาของเราวันนี้คงต้องจบลงเพียงเท่านี้ ในอนาคต ถ้ามีสัญญาณแสดงให้เห็นว่าพวกทวีปสัตว์เทวะเริ่มเคลื่อนไหว เราจะพิจารณาเรื่องนี้กับคนของตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เรายังเก็บความลับเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะไว้ได้นานเท่าไร ทวีปเทียนหยวนก็จะปลอดภัยนานเท่านั้น ในตอนนี้ เราควรจะทุ่มเทพลังในการทำให้พยัคฆ์ปีกเทวะเติบโต ตอนนี้มันยังอ่อนแอเกินไป”
“ใน 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ เมืองทหารรับจ้างของเจ้าน่าจะรวบรวมสมบัติสวรรค์ไว้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นการที่ให้เมืองทหารรับจ้างของเจ้าช่วยให้พยัคฆ์ปีกเทวะเติบโตนั้นคงเป็นเรื่องที่เหมาะสมที่สุด เจ้าควรจะอยู่เบื้องหลังและจัดการเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ทั้งหมดด้วย เจ้าเหมาะกับงานนี้มากกว่าข้า.” หลังจากพูดจบประโยค ฮุสตันก็หันหลังและหายไปในประตูมิติ เทียนเจี้ยนยังคงอยู่ที่เดิม
เทียนเจี้ยนมองไปที่เจี้ยนเฉินที่หมดสติอยู่ที่พื้นด้วยความสับสน หลังจากนั้น เขาถอนหายใจเบา ๆ และโบกมือของเขา เจี้ยนเฉินและพยัคฆ์ปีกเทวะก็เริ่มลอยขึ้นทันที และผ่านไปที่ประตูมิติที่อยู่ด้านหลังของเทียนเจี้ยน
ท่ามกลางกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี กลุ่มของหมิงตงยังคงรวมกันอยู่ที่ห้องประชุม กังวลเกี่ยวกับการหาวิธีที่จะช่วยเจี้ยนเฉิน แม้ว่าจะมีเซียนผู้คุมกฎหลายคนอยู่รอบ ๆ แต่พวกเขาก็เปรียบเหมือนมดเมื่อเทียบกับเซียนราชา แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกัน พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซียนราชาแม้แต่น้อย
ในทันใดนั้น มิติที่โถงประชุมก็ถูกเปิดออกโดยไม่มีสัญญาณเตือน ก่อนที่ทุกคนจะขยับ ประตูมิติก็ปรากฏขึ้นอย่างรวดเร็วและเทียนเจี้ยนก็ลอยออกมาอย่างช้า ๆ จากประตู ข้างหลังของเขา เจี้ยนเฉินที่หมดสติได้ถูกพามาด้วยพลังที่มองไม่เห็น และลอยลงพื้นอย่างช้า ๆ
“ท่านลุงเทียน !” หลังจากที่ได้เห็นชายวัยกลางคน หมิงตงตื่นเต้นเป็นอย่างมากและร้องออกมาด้วยเสียงอันดังสนั่น หลังจากนั้น เขาก็พุ่งไปจับที่แขนของเทียนเจี้ยนอย่างรักใคร่ เขาเหลือบมองข้ามไปทางเจี้ยนเฉินที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักและหมดสติ “ท่านลุงเทียน ในที่สุดท่านก็มา ข้ารู้ว่าท่านต้องมาแน่ ๆ เจี้ยนเฉินเป็นยังไงบ้าง ? เขาเป็นอะไรหรือไม่ ? “
เทียนเจี้ยนมองไปที่หมิงตง พยายามที่จะรักษาความรู้สึกไม่ให้เปลี่ยนแปลงและยิ้มอย่างอบอุ่นอย่างช่วยไม่ได้ เขามองไปที่หมิงตงอย่างรักใคร่ “หลานเอ๊ย เจ้าไม่ต้องกังวลใจไปหรอก เจี้ยนเฉินสบายดี” ต่อหน้าหมิงตง เทียนเจี้ยนแสดงออกถึงความรักใคร่มากขึ้น
“ข้าขอคารวะท่านผู้อาวุโสสูงสุด ! ” เจียเต๋อไท่และนูบิส ทั้งคู่จำเทียนเจี้ยนได้ พวกเขารีบโค้งคำนับโดยไม่ลังเล ท่าทางของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพ
“ผู้เยาว์ ไป๋ไฮ ขอคารวะท่านผู้อาวุโสสูงสุด ข้าน้อยขอขอบคุณท่านมากที่ช่วยเหลนของข้าไว้” ไป๋ไฮไม่มีท่าทีลังเลและโค้งคำนับให้เทียนเจี้ยนอย่างนอบน้อม เรื่องที่เกิดขึ้นครั้งก่อนบนท้องฟ้าเหนือเหมืองทังสเตน เขาเห็นท่านผู้อาวุโสสูงสุดด้วยตาของตนเอง เขาจึงคุ้นเคยดีว่าคนผู้นี้คือใคร