ตอนที่ 1893

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 1,893 : อาวุโสเพลิงเงิน!

 

ปงงง!!

 

มวลพลังที่อยู่ๆก็อุบัติขึ้นระหว่างต้วนหลิงเทียนและหยางหวู่นั้นน่ากลัวนัก หากทว่ากลับอ่อนโยนมากเช่นกัน อย่างน้อยก็อ่อนโยนต่อต้วนหลิงเทียนที่ยังไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเป็นพิเศษ!

 

เช่นนั้นต้วนหลิงเทียนแม้จะตกใจ แต่ด้วยความที่ไม่ได้เร่งเร้าพลังต่อสู้อะไรแต่แรก ร่างเขาก็เพียงถูกพลังอ่อนโยนดังกล่าวหอบจนตัวปลิวไปไม่กี่ก้าวเท่านั้น…

 

ส่วนหยางหวู่นั้น ด้วยอารามบันดาลโทสะ ทั้งปะทุพลังลงมือเข้ามาอย่างเกรี้ยวกราดพอดี ร่างมันจึงพุ่งสวนกระแทกกับมวลพลังปะทุเข้าอย่างจัง! ทำให้ถูกพลังสะท้อนจากการระเบิดปะทุแรงเป็นพิเศษ คนกระเด็นปลิดปลิวออกไปไกลไม่น้อย…!!

 

“อั๊ค!!”

 

อวัยวะภายในของมันยังถูกพลังสะท้อนดังกล่าวทำร้ายไม่น้อย เลือดลมปั่นป่วนกระทั่งตีกลับกระอักออกปาก!

 

เลือดสีแดงฉานกระอักพ่นออกมาเป็นสาย แพร่กระจายไปในอากาศ มองไปดั่งกุหลาบแดงคล้ำเจียนดำกำลังเบ่งบานพร่างพราวก็ไม่ปาน

 

“นายน้อย!!”

 

ชายชราซึ่งแต่เดิมยืนอยู่ด้านหลังหยางหวู่ ตอนนี้มันไม่ได้จับจ้องมองไปยังร่างกู่ลี่และจูลู่ฉีอีกต่อไป เร่งเหินร่างออกไปฉับไวประคองรับหยางหวู่เอาไว้ไม่ให้ร่วงกระแทกพื้นบาดเจ็บหนัก!

 

ฟุ่บ!

 

ทันใดนั้นเองภายใต้สายตาของหลายๆคน พลันปรากฏร่างชราสูงใหญ่คนหนึ่งขึ้นไม่ไกล

 

เป็นชายชราที่มาในชุดคลุมผ้าแพรปักลาย ลายที่ปักมองไปคล้ายจะเป็นเปลวเพลิงที่ก่อร่างเป็นเต่าทมิฬ! ด้วยชุดเครื่องแต่งกายแลดูภูมิฐานกอปรทั้งร่างกายที่สูงใหญ่ของมัน ยามมองกลับให้ความรู้สึกเสมือนหอคอยแกร่ง ตั้งตระหง่านท่ามกลางฟ้าดิน!

 

“โอ! เป็นอาวุโสระดับเพลิงเงิน!”

 

ทันใดนั้นเองแว่วเสียงสูดลมหายใจเข้าดังขึ้นไปทั่ว เสียงกล่าวกระซิบยังปะทุดังขึ้นระงม

 

เสื้อคลุมผ้าแพรสีขาวปักลายของชายชราผู้นี้นับว่าแลดูหรูหราทั้งงดงามนัก! และด้วยความที่เปลวเพลิงรูปเต่าทมิฬของมันปักด้วยด้ายสีเงินวาวประกาย ทำให้แลดูโดดเด่นเป็นพิเศษ!

 

และนี่คือเอกลักษณ์เฉพาะของ อาวุโสเพลิงเงิน!

 

ในลัทธิบูชาไฟนั้น ผู้อาวุโสจะถูกแบ่งออกเป็น 3ระดับ อันได้แก่ อาวุโสเพลิงทองแดง  อาวุโสเพลิงเงิน และอาวุโสเพลิงทอง!

 

ทั้ง 3 ระดับนั้น อาวุโสเพลิงทองนับว่ามีระดับสูงสุด และเป็นชนชั้นผู้ออกคำสั่งของลัทธิบูชาไฟ!

 

แท่นบูชาเต่าทมิฬนั้นมีอาวุโสเพลิงทองเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น และคนผู้นั้นก็คือจ้าวแท่น! จากจุดนี้บ่งบอกให้รู้ว่าอาวุโสเพลิงทองมีฐานะสูงขนาดไหนและมีความสำคัญกับลัทธิบูชาไฟอย่างไร!!

 

รองลงมาจากอาวุโสระดับเพลิงทองก็จะเป็นอาวุโสเพลิงเงิน

 

ในแท่นบูชาเต่าทมิฬนั้น มีอาวุโสเพลิงเงินรวมทั้งสิ้น 5 คน ทั้งหมดยังนับเป็นชนชั้นยอดฝีมือที่ด่านพลังฝึกปรือบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์แล้วทั้งสิ้น กระทั่งยังเป็นยอดฝีมือที่ติดอยู่ใน 300 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน!

 

ในลัทธิบูชาไฟแห่งนี้ หากผู้ใดคิดยกระดับเป็นอาวุโสเพลิงเงิน ก็มีเงื่อนไขเพียงสองประการเท่านั้น

 

ก่อนอื่นเลยก็คือ จำต้องมีความจงรักภักดีต่อลัทธิบูชาไฟ!

 

ประการที่สองก็คือจำต้องเป็นยอดฝีมือที่ติด 300อันดับแรกในรายนามยอดเซียน!!

 

เงื่อนไขที่สำคัญที่สุดก็คือข้อสอง!!

 

เรื่องนี้เผยให้เห็นว่าอาวุโสเพลิงเงินมีพลังฝีมือกล้าแข็งปานใด

 

“จากรูปร่างของอาวุโสเพลิงเงินที่สูงใหญ่ทั้งกำยำผู้นี้…หากข้าจดจำมิผิดพลาด อาวุโสท่านนี้สมควรเป็นอาวุโส เถิงชาน แห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬ!!”

 

ชายวัยกลางคนที่แต่งกายคล้ายบัณฑิตคงแก่เรียนผู้หนึ่งกล่าวออก

 

อาวุโสเถิงชาน!

 

ทันใดนั้นหลายคนอดไม่ได้ที่จะกล่าวกระซิบกระซาบออกมาว่า “อาวุโสเถิงชานหรือ…ยอดฝีมือลำดับที่ 173 ในรายนามยอดเซียนผู้นั้น! ในบรรดา 5 อาวุโสเพลิงเงินของแท่นบูชาเต่าทมิฬ พลังฝีมือนับว่าอยู่ในลำดับที่ 3!!”

 

“ข้าไม่คิดฝันเลยว่าอาวุโสเถิงชานจะถึงกับลงมือด้วยตัวเอง…คราวนี้เจ้าบ้า 2 คนนั่นซวยแน่!”

 

“อารมณ์ของอาวุโสเถิงชานร้อนทั้งนิสัยเด็ดขาดเพียงใดยังมีใครไม่รู้…เจ้าบ้า 2 ตัวนั่นมันกล้าตีกันในแท่นบูชาเต่าทมิฬ นับว่าหาเรื่องตายแท้ๆ!!”

 

 

ขณะที่ผู้คนกล่าวซุบซิบกัน ทั้งหลายก็หันไปมองต้วนหลิงเทียนและหยางหวู่ด้วยสายตาเวทนา

 

“หืม? ช้าก่อน! พวกเจ้าดูเจ้าหนุ่มชุดสำอางค์นั่นให้ดีๆ…นั่นมิใช่ลูกชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาลรึไง?”

 

ไม่นานก็มีคนจดจำหยางหวู่ได้

 

บุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล!

 

ทันใดนั้นสายตาของใครหลายๆคนก็หันไปจับจ้องมองพินิจร่างหยางหวู่ทันที บางคนที่เคยเห็นหยางหวู่ออกงานมาก่อนก็จดจำได้ทันที “มิผิด เป็นมันจริงๆ! หยางหวู่ บุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล!!”

 

“ข้าได้ยินมาว่าอาวุโสลำดับ 5 ของวังอุดรไพศาล หยางชง เป็นสหายอันดีกับ อาวุโสหลี่อัน…อาวุโสเพลิงเงินลำดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬที่มีพลังฝีมือเหนือกว่าอาวุโสเถิงชานเสียอีก! ไอ้หยา! ดูเหมือนว่าวันนี้เจ้านั่นที่คิดต่อยตีกับหยางหวู่จะถึงคราวชะตาขาดแล้วจริงๆ!!”

 

หลายคนเริ่มหันไปมองต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาเวทนาสงสาร

 

ต้วนหลิงเทียนเองพอได้ยินเสียงกระซิบรอบๆ คิ้วก็อดไม่ได้ที่จะขมวดยู่ย่นเป็นปม!

 

สีหน้ากู่ลี่กับจูลู่ฉีเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

 

ในสายตาของพวกมัน อาวุโสระดับเพลิงเงินนามเถิงชานผู้นี้ ไม่พ้นต้องเข้าข้างอาวุโสหลี่อันเป็นแน่!

 

กอปรกับความจริงที่ว่าอาวุโสหลี่อันเป็นสหายอันดีของบิดาหยางหวู่ เช่นนั้นแล้วไม่พ้นเถิงชานต้องไว้หน้าอาวุโสหลี่อันอยู่หลายส่วน และคิดถือหางเข้าข้างหยางหวู่ทำร้ายต้วนหลิงเทียนแน่นอน!

 

“กลับกล้าริเริ่มทะเลาะวิวาทในเขตแท่นบูชาเต่าทมิฬ เจ้านับว่ากล้าหาญชาญชัยนัก!”

 

แต่ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเถิงชาน อาวุโสเพลิงเงินคนนี้จะเข้าข้างหยางหวู่เพราะเห็นแก่หน้าอาวุโสหลี่อัน อาวุโสเถิงชานกลับหันไปกล่าวตำหนิหยางหวู่ต่อหน้าต่อตาทุกคนในแท่นบูชาเต่าทมิฬ!!

 

นอกจากคำกล่าวตำหนิเสียงดังแล้ว ในน้ำเสียงยังแฝงเร้นไปด้วยพลังกดดันอันน่าเกรงขามขุมหนึ่ง!มวลพลังดังกล่าวถล่มกระแทกร่างหยางหวู่อย่างแรงอีกครั้ง! พาลให้หยางหวู่จำต้องกระอักโลหิตออกมาอีกครา หน้ายังซีดลงปานกระดาษ!!

 

ทันใดนั้นแววตาของหยางหวู่อดไม่ได้ที่จะเผยความตื่นตระหนกออกมา

 

เถิงชานผู้นี้กลับไม่ไว้หน้าอาวุโสหลี่อันเลยหรือ?

 

หรืออีกฝ่ายไม่ได้ยินเสียงกระซิบกระซาบจากผู้คนโดยรอบกันแน่ ถึงไม่รู้จักตัวตนของมัน?

 

โอ! อา!

 

ในขณะเดียวกัน ทางด้านผู้คนที่ชมเรื่องราวอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะสับสน

 

ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครคิดใครฝันมาก่อนเลยว่า…อาวุโสเถิงชานจะลงมือกับหยางหวู่! เพราะนี่นับเป็นเรื่องราวที่อยู่เหนือความคาดหมายนัก “นี่มันเกิดอันใดขึ้นกัน อาวุโสเถิงชานไฉนลงมือทำร้ายหยางหวู่เล่า หรือมิรู้ความเป็นมาของหยางหวู่?”

 

“อาวุโสเถิงชานสมควรไม่ได้ยินบทสนทนาของพวกเราแน่แท้ จึงไม่รู้ว่าหยางหวู่เป็นผู้ใด หาไม่แล้วถึงแม้จะไม่รู้จักหยางหวู่จริงๆ…แต่ก็ยังต้องไว้หน้าอาวุโสหลี่อันที่เป็นสหายอันดีกับบิดาหยางหวู่อยู่บ้าง”

 

 

ผู้คนกระซิบกระซาบกันพักหนึ่งก็เห็นพ้องต้องกันว่าสมควรเป็นเช่นนี้

 

ต้วนหลิงเทียน กู่ลี่ และจูลู่ฉีก็เข้าใจตามนั้น

 

“เรียนอาวุโสเถิงชาน! นี่คือนายน้อยของข้า ‘หยางหวู่’ นายน้อยยังเป็นบุตรชายคนรองของอาวุโสลำดับ 5 แห่งวังอุดรไพศาล!”

 

ชายชราที่ติดตามมาคุ้มกันหยางหวู่ย่อมคิดเหมือนกันกับทุกคน ว่าเถิงชานไม่ทันได้ยินฐานะหยางหวู่ จึงเร่งกล่าวเตือนออกไปทันที

 

“อาวุโสหลี่อันแห่งแท่นบูชาเต่าทมิฬของท่าน ก็นับเป็นสหายอันดีกับอาวุโสลำดับ 5 ของพวกเรา…ข้าแน่ใจว่าเรื่องนี้ท่านเองก็สมควรเคยได้ยินมาบ้างแล้วกระมัง…อาวุโสเถิงชาน”

 

กล่าวถึงจุดนี้น้ำเสียงชายชรายังเน้นหนักขึ้นเป็นพิเศษ ด้วยกลัวว่าเถิงชานจะยังไม่ล่วงรู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาวุโสลำดับที่ 5 ของมันกับหลี่อัน อาวุโสเพลิงเงินลำดับ 1 ของแท่นบูชาเต่าทมิฬ

 

“แล้วจะอย่างไร?”

 

อย่างไรก็ตาม นับว่าทำให้ผู้คนประหลาดใจกันยกใหญ่อีกครั้ง! เพราะสีหน้าของอาวุโสเถิงชานกลับไม่แปรเปลี่ยนแม้แต่น้อยถึงจะเผชิญหน้ากับคำกล่าวย้ำเตือนของชายชรา! ยังหันไปมองกล่าวด้วยทีท่าเฉยเมยอีกว่า “กฏของแท่นบูชาเต่าทมิฬล้วนมีผลบังคับใช้กับทุกผู้คน! มิว่าเจ้าจะเป็นใครมาจากที่ใด…กระทั่งต่อให้เป็นบุตรของสหายสนิทอาวุโสหลี่อันหากกล้าฝ่าฝืนกฏของแท่นบูชาเต่าทมิฬ ข้าก็ไม่คิดปราณีละเว้น!”

 

ความซื่อตรงไม่โอนอ่อนของเถิงชาน พาลให้หลายคนอดไม่ได้ที่จะตกใจ!

 

“อาวุโสเถิงชานผู้นี้ ดูเหมือนจะเป็นคนดี…”

 

กู่ลี่กล่าวออกเสียงเบา ใจที่ขึงตึงพอได้ผ่อนคลายลงบ้าง

 

จูลีฉีพยักหน้าเห็นด้วย

 

ต้วนหลิงเทียนที่มองไปยังร่างเถิงชาน ในแววตาไม่เหลือความหวาดระวังอีกต่อไป หากแต่เผยความชื่นชมออกมาแทน

 

ไม่ต้องอะไรให้มาก อาศัยแค่ความเที่ยงธรรมตัดสินเรื่องราวอย่างตรงไปตรงมานี้ของอาวุโสเถิงชาน ก็มากพอจะได้รับความเคารพจากเขาแล้ว

 

“อาวุโสเถิงชานกล่าวได้ถูกต้อง!”

 

ตอนนี้เองพลันมีเสียงชราอีกหนึ่งเสียงดังขึ้น!

 

ภายใต้สายตาสนใจใคร่รู้ของทุกผู้คน พลันปรากฏร่างชราหนึ่งขึ้นมาอีกคน

 

ชายชราผู้นี้สวมใส่ชุดคลุมรูปแบบเดียวกันกับอาวุโสเถิงชาน…มันเป็นอาวุโสเพลิงเงินเช่นกัน!

 

“ท่านลุงหลี่อัน!”

 

ลูกตาของหยางหวู่ถึงกับทอประกายวาวโรจน์ขึ้นมาโดยพลัน ยังร่ำร้องทักชายชราออกมาเสียงดังด้วยความดีใจ

 

ทันใดนั้นทุกคนที่ได้ยินก็ตระหนักได้โดยพลัน!

 

อาวุโสเพลิงเงินผู้มาใหม่คนนี้ ที่แท้ก็คืออาวุโสเพลิงเงิน หลี่อัน!

 

แถมหลี่อันผู้นี้ ยังเป็นอาวุโสเพลิงเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในแท่นบูชาเต่าทมิฬ!

 

หลี่อันผู้มาหใม่ยังมีสีหน้าสงบ ไม่อาจแลเห็นโทสะหรือความไม่พอใจอันใดบนใบหน้าของมันได้เลย และแม้จะได้ยินคำร้องทักจากหยางหวู่ มันก็ทำเพียงหันไปพยักหน้าตอบรับอย่างเฉยชาเท่านั้น หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้สนใจอะไรหยางหวู่อีก…

 

เห็นฉากดังกล่าวหยางหวู่อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

 

ในอดีตท่านลุงหลี่อัน…หาได้เคยเย็นชากับมันเช่นนี้ไม่!

 

“เสี่ยวหวู่เจ้าอย่าได้กังวลไป…ลุงหลี่อันคนนี้ต้องจัดการเรื่องราวให้เจ้าพอใจแน่!”

 

ทว่าในขณะที่หยางหวู่กำลังรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อยนั้นเอง ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นในหูของมัน และไม่ใช่เสียงของใครที่ไหน เป็นลุงหลี่อันของมันนั่นเอง!

 

ทันใดนั้นเสมือนเมฆหมอกในใจของมันถูกสายลมพัดปัดเป่าจนมลายหายไป กลายเป็นความตื่นเต้นเข้ามาแทนที

 

สุดท้ายลุงหลี่อันก็ยังเข้าข้างมัน!

 

“อาวุโสเถิงชาน ดั่งคำกล่าวที่ว่า ‘ตบมือข้างเดียวไม่ดัง’ …ในเมื่อท่านลงมือทำโทษหยางหวู่แล้ว อีกคนที่ก่อเรื่องก็สมควรได้รับการลงโทษเช่นกัน”

 

หลี่อันมองเถิงชาน ค่อยกล่าวออกเสียงเรียบ

 

และเมื่อกล่าวจบคำ มันก็หันมามองต้วนหลิงเทียนทันที

 

ทว่าสายตาที่ใช้มองนี้ของมันกลับทอประกายเยียบเย็นเต็มไปด้วยจิตสังหาร พาลต้วนหลิงเทียนรู้สึกราวกับถูกอสรพิษจับจ้อง หน้าต้วนหลิงเทียนถึงกับเปลี่ยนสีไปทันที

 

‘อะไร? หลี่อันมันคิดฆ่าข้า!?’

 

มาตอนนี้ต้วนหลิงเทียนพลันตระหนักได้ว่าเขาไร้เดียงสาปานใด เมื่อครู่กลับหลงคิดไปได้ ว่าหลี่อันจะเที่ยงธรรมเหมือนเถิงชานไปได้ หลังได้ยินวาจาของมันประโยคแรก!

 

อย่างไรก็ตามตัดสินจากทีท่าแววตาของมันในตอนนี้ น่ากลัวว่าหลี่อันหาได้มีนิสัยเหมือนเถิงชานไม่!

 

“อาวุโสหลี่อัน เมื่อครู่มีเพียงหยางหวู่เท่านั้นที่ลงมือ!”

 

เถิงชานขมวดคิ้วกล่าวค้านทันที มันไม่คิดลงมืออะไรกับต้วนหลิงเทียนแม้จะได้ยินคำของหลี่อัน

 

มวลพลังที่มันใช้ออกเพื่อขัดขวางต้วนหลิงเทียนกับหยางหวู่นั้น ยังมีประโยชน์นอกเหนือจากการระงับการต่อสู้อีกประการหนึ่ง…นั่นคือสามารถหาตัวคนผิดหรือผู้ที่เป็นฝ่ายเริ่มลงมือก่อนได้!

 

เพราะผู้ใดก็ตามที่เร่งเร้าพลังต่อสู้ลงมือ ย่อมถูกพลังสะท้อนจากการปะทุระเบิดของพลังมัน! หากไม่เร่งเร้าพลังแข็งขืนก็ไม่เกิดเรื่องอะไร!!

 

ในเมื่อตอนนี้มีเพียงหยางหวู่คนเดียวเท่านั้นที่บาดเจ็บ แต่ต้วนหลิงเทียนยังคงปลอดภัยไร้เรื่องราว นั่นหมายความว่าก่อนหน้านี้เป็นหยางหวู่คนเดียวที่เร่งเร้าพลังลงมือ ละเมิดกฏของแท่นบูชาเต่าทมิฬ!

 

ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดจะลงโทษอะไรต้วนหลิงเทียน…

 

“อาวุโสเถิงชาน ข้าได้กล่าวออกไปแล้ว…ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ในเมื่อท่านไม่คิดลงโทษมัน เช่นนั้นก็ปล่อยให้ข้าทำแทนเถอะ!”

 

สีหน้าหลี่อันแปรเปลี่ยนเป็นอำมหิตทันใดหลังได้ยินคำของเถิงชาน มันยังยกมือขึ้นสะบัดตบไปทางต้วนหลิงเทียนทันที!

 

ปงง!!

 

ทันใดนั้นความว่างเปล่าพลันสะท้านสะเทือน มวลพลังสุดไพศาลน่ากลัวขุมหนึ่งพลันปะทุระเบิดออกในฉับพลัน! แผ่พุ่งทำลายไปยังต้วนหลิงเทียนอย่างเกรี้ยวกราด!!

 

ห้วงเวลาชั่วพริบตาปานอัสนีแลบลั่น ต้วนหลิงเทียนรู้สึกเพียงว่าตัวหายใจไม่ออก! เนื่องเพราะมวลพลังที่ถล่มซัดลงจากเบื้องบนยังแผ่พุ่งไอพลังขุมหนึ่งสะกดเพ่งเล็งมาที่เขาเขม็ง! พาลให้เขายากจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอะไรได้!!

 

‘ไม่!’

 

ลูกตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงโดยพลัน ใบหน้าฉายชัดถึงความไม่เต็มใจ!

 

เพราะเขามั่นใจเต็มสิบส่วน ว่าหากมวลพลังขุมนี้กระแทกเข้าร่างล่ะก็…เขาได้ตายคาที่แน่!!