กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1142
ชาร์ลียิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า “ถ้าเราแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยการฆ่าคน ครอบครัวเว็บบ์คงตายไปนานแล้ว บางคนก็สมควรตายและควรถูกฆ่าให้เร็วที่สุด ยกตัวอย่างเช่น คนจากองค์กรขอทานพวกนั้น แต่นั่นคงเป็นเรื่องน่าเบื่อชะมัด ถ้าเราปล่อยให้พวกนั้นตายไปง่าย ๆ”
หลังจากชาร์ลีพูดจบ เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “แล้วคิดไหมว่าทำไมอิจิโร่ถึงยังอยู่ที่ฟาร์มสุนัขของนาย? ถ้าฉันจะฆ่า ฉันฆ่าเขาได้ตั้งนานแล้ว! แต่ทำไมฉันยังไว้ชีวิตเขาล่ะ? นั่นก็เพราะฉันคงอดสนุกแน่ ถ้าปล่อยให้เขาตายไปเฉย ๆ ฉันใดก็ฉันนั้น ตระกูลเว็บบ์และตระกูลวีเวอร์ก็เช่นเดียวกัน”
ภายในจิตใจของชาร์ลีนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทั้งยังเสริมกำลังและต่อต้านซึ่งกันและกันด้วย
เหตุผลที่เขายังให้อิจิโร่มีชีวิตอยู่ต่อไป ก็เพื่อให้อิจิโร่สามารถเสริมกำลังและต่อต้านจิโร่… น้องชายของเขา
เหตุผลที่เขาไว้ชีวิตสองพ่อลูกจากตระกูลวีเวอร์ ก็เพื่อให้พวกเขาสามารถเสริมกำลังและต่อต้านซึ่งกันและกัน
ถ้าอิจิโร่ตายไปจริง ๆ เขาก็จะสูญเสียอำนาจต่อรองที่ดีที่สุดไป และนั่นอาจจะทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับชาร์ลี ในการถ่วงดุลอำนาจกับจิโร่และโคบายาชิ ฟาร์มา
ถ้าเลียมมีความกระด้างกระเดื่องในอนาคต เขาก็สามารถใช้สองพ่อลูกจากตระกูลวีเวอร์ ในการตอบโต้และควบคุมเขาเอาไว้
นี่เป็นกลยุทธ์ที่กษัตริย์ใช้กันในสมัยโบราณ
ผู้ปกครองที่ชาญฉลาดจะไม่เชื่อใจผู้ทรยศ แต่ก็จะไม่เข้าข้างผู้รับใช้ที่ภักดีเช่นกัน
ถ้าไม่มีผู้ทรยศเพื่อคอยตรวจสอบผู้รับใช้ที่ภักดีเอาไว้ เมื่อนั้นคนรับใช้ที่ภักดีก็จะหยิ่งยโสและโง่เขลามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วอาจค่อย ๆ กลายเป็นคนทรยศในที่สุด
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ชาร์ลีจำเป็นต้องไว้ชีวิตกับคนที่แตกต่างกัน เพื่อให้คนพวกนั้นได้ทำหน้าที่ถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกันนั่นเอง
ตระกูลเวดเป็นครอบครัวใหญ่ในอันดับต้น ๆ ลูกหลานของตระกูลเวดได้เรียนรู้จากตำราสี่เล่มและคัมภีร์ห้าเล่มของขงจื๊อตั้งแต่เด็ก ๆ พวกเขาได้อ่านประวัติศาสตร์โบราณ และศึกษากลยุทธ์ต่าง ๆ ของราชา วิธีการและกลยุทธ์เหล่านี้ได้ฝังลึกอยู่ในหัวใจและจิตวิญญาณของพวกเขาไปแล้ว
ดังนั้น ชาร์ลีจึงตอบเสียงสั่นว่า “ถ้าฉันฆ่าจอร์แดนกับลูกชายเขา ก็เท่ากับว่าฉันมีความกลัวต่อตระกูลเว็บบ์ นั่นจะเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ และฉันไม่ควรแสดงความอ่อนแอออกมาโดยเด็ดขาด”
หลังจากนั้น ชาร์ลีก็พูดเบาๆ ว่า “ถ้าฉันคิดถูก ตระกูลเว็บบ์ก็น่าจะส่งแปดผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้ว และพวกเขาคงกำลังเดินทางไปยังภูเขากอลมินอยู่ตอนนี้”
“อะไรนะครับ?” ทั้งอัลเบิร์ตและเลียมต่างตกตะลึง
เลียมพูดด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “ไม่น่าจะเร็วขนาดนั้นนะครับ พวกเขาเพิ่งสูญเสียชายสิบห้าคนไปเมื่อคืนนี้ พวกเขาควรกลับไปพักสักหน่อยก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่นะ”
“ไม่หรอก!” ชาร์ลีตอบอย่างมั่นใจ “ถ้าโดนัลด์สามารถส่งกองกำลังยอดนักรบมาได้ เขาคงทำไปนานแล้ว ดังนั้นผมจึงเดาว่า ผู้ที่มีความสามารถตัวจริงที่สามารถระดมกำลังและส่งยอดนักรบมาได้ก็คือ… ชายชราแห่งตระกูลเว็บบ์!”
“ผู้ประกอบการรุ่นเก่ายังคงทรงพลังมาก คุณท่านเว็บบ์เริ่มต้นจากศูนย์ เขามีความสามารถ กล้าหาญ และสายตาอันเฉียบแหลมมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป ถ้าเขามีหน้าที่ควบคุมดูแลทุกสิ่งทุกอย่าง ก็หมายความว่าแผนการและกลยุทธ์ของเขา จะต้องดีกว่าของโดนัลด์มาก เขาจะเปิดฉากจู่โจมให้ตื่นตะลึงกันได้อย่างแน่นอน ในยามที่นายคิดว่า เป็นไปได้น้อยที่สุดที่เขาจะทำเช่นนั้น เพื่อที่เขาจะได้ปล่อยหมัดน็อกออกมานั่นเอง”
หลังจากนั้น ชาร์ลีก็ยิ้มอย่างไม่ยินดียินร้ายในขณะที่พูดว่า “ช่วงเวลาที่เขาไม่น่าเลือกมาโจมตีมากที่สุด ก็คือช่วงเวลาหลังการพ่ายแพ้ที่เพิ่งเสร็จสิ้น นั่นแหละ ใคร ๆ ต่างก็คิดว่าเขาจะต้องล่าถอยและกลับไปพักผ่อน แต่เขาจะจับคู่ต่อสู้มาโดยไม่ทันตั้งตัว”
อัลเบิร์ตร้องอุทาน “ปรมาจารย์เวด เราควรทำอย่างไรดี? คืนนี้เราส่งคนไปที่ภูเขากอลมินเพิ่มเลยดีไหมครับ?”
ชาร์ลีโบกมือแล้วตอบอย่างใจเย็น “ถ้าฝ่ายตรงข้ามส่งสุดยอดนักรบของเขามา เราจะหาคนจากที่ไหนให้มากพอส่งเพิ่มไปที่นั่นได้อีก มีแต่จะส่งไปตายเท่านั้น”
อัลเบิร์ตรู้สึกตกใจแล้วถามขึ้น “ปรมาจารย์เวด แล้วเราจะทำอย่างไรกันดีครับ?”
ชาร์ลีตอบเบาๆ ว่า “ไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้หรอก ฉันมีแผนจัดการในเรื่องนี้แล้ว แม้ต้องใช้เวลาพอสมควรในการบินจากซัดเบอรี่ไปยังภูเขากอลมิน แต่เรายังพอมีเวลาที่จะเตรียมตัว!”
เมื่อเลียมได้ยินคำพูดของชาร์ลี ดวงตาของเขาก็ฉายแววแห่งความยินดี เขารู้สึกราวกับได้ยกภูเขาออกจากอก
เขากล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า “ดูเหมือนว่าปรมาจารย์เวดจะมีแผนการที่คิดมาอย่างดีแล้ว ผมอยากแสดงความขอบคุณท่านปรมาจารย์ตอนนี้เลย”
คนที่กลัวการกลับมาของสองพ่อลูกตระกูลวีเวอร์ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากเลียม
กว่าที่เขาจะครอบครองวีเวอร์เภสัชกรรมได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉะนั้นเขาจึงไม่อยากยอมรับความพ่ายแพ้ แล้วส่งคืนให้สองพ่อลูกไปง่าย ๆ !