หน้ากากศิลา

แกร๊ง

ตอนที่เบม่อนขุดเจาะลงไปในสุสานนั้นเอง เขาของมันก็เหมือนจะเจาะโดนเข้ากับอะไรบางอย่างเสียงเหมือนโลหะ เบม่อนจึงเลิกขุดโดยอัตโนมัติก่อนจะมองเข้าไปในหลุมสุสานมาร

ภายในสถสานมารนั้นมีใบหน้าของคนขนาดยักษ์แบบเดียวกับที่ปรากฎบนหินเวทมนตร์ แต่ใบหน้านั้นใหญ่กว่ามากและปล่อยกลิ่นอายแปลกๆสีขาวๆออกมา

โจวเหวินมองที่หน้านั้นแต่จู่ๆ ใบหน้ามันก็ลอยขึ้นมาด้วยตัวเอง ตอนนั้นเองที่เขาพบว่ามันไม่ใช่ใบหน้าแต่เป็นหน้ากากศิลา

“ดูเหมือนว่าเรื่องใบหน้าบนหินเวทมนตร์จะเกิดจากหน้ากากนี้ซิน””โจวเหวินสั่งให้เบม่อนต่อยหน้ากากนั้นทันทีเขาอยากจะรู้ว่าหน้ากากนั้นทำอะไรได้บ้าง

หมัดสุดยอดพลังของเบม่อนต่อยเข้าเป้าเต็มๆ ทำให้โจวเหวินผงะไปเล็กน้อย เขารู้ว่ามีสัตว์อสูรแค่ไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถรับหมัดตรงๆของเบม่อนแบบนั้นได้ การโดนเข้าไปจังๆแบบนั้นอย่างน้อยก็ต้องมีบาดเจ็บสาหัสบ้างละ

แต่ในตอนที่โจวเหวินกำลังสงสัยนั้นเอง ภายใต้ฝุ่นควันที่ตลบอบอวนอยู่นั้น จู่ๆหน้ากากศิลาก็พุ่งเข้าใส่หน้าของเบม่อน ก่อนจะรัดตัวเองเข้าสวมใบหน้าของเบม่อนโดยไม่ทันให้โจวเหวินได้ตั้งตัว

ขนาดของหน้ากากนั้นมันปรับให้พอดีกับขนาดหน้าของเบม่อนเป๊ะๆ โจวเหวินเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมา ถึงแม้ว่าเบม่อนจะพยายามดิ้นฉีกกระชากเอาหน้ากากออกจากหน้า ร้องคำรามยังไง แต่มันก็ดึงไม่ออก แรงที่พยายามดิ้นนั้น น้อยลง และน้อยลงทุกที จนกระทั้งโจวเหวินรู้สึกได้เลยว่าเขาไม่สามารถควบคุมเบม่อนได้อีกต่อไปแล้ว

ตู้ม!!!

หมัดตรงของเบม่อนพุ่งเข้าใส่ตัวละครของโจวเหวินทันที แต่โจวเหวินสามารถหลบได้ทำให้หมัดพุ่งเข้าใส่กำแพงหินจนเป็นรูขนาดใหญ่ พลังมหาศาลของเบม่อนนั้นไม่ได้ลดไปเลย มันต่อยซ้ายขวา โจมตีโจวเหวินอย่างไม่ลดละ เดิมทีพลังของโจวเหวินนั้นไม่มีทางสู้ตรงๆกับเบม่อนได้เขาจึงทำได้แค่หลบไปมา

ระหว่างที่หลบนั้นโจวเหวินก็คอยสังเกตหน้ากากไปพร้อมๆกับพยายามเชื่อมต่อวิญญาณกับเบม่อนด้วย การเชื่อมต่อวิญญาณตอนนี้ไร้ผล หน้ากากศิลานั้นควบคุมเบม่อนได้เต็มรูปแบบแล้ว ความสามาถของมันทำให้โจวเหวินตกใจได้มากทีเดียว

“ดูเหมือนว่ามีแต่ต้องลองแล้วซินะ ถ้าฉันทำลายหน้ากากนั้นได้ ฉันจะทำให้เบม่อนเป็นอิสระได้ไหมนะ”โจวเหวินสวมผ้าคลุมล่องหนแล้วหายตัววับไปทันที

เบม่อนนั้นเป็นสัตว์อสูรสายพลังล้วน ในการต่อสู้แบบปะทะหน้า มันไม่เคยกลัวใคร แต่ตอนนี้โจวเหวินหายตัวไปแล้ว มันจึงมองซ้ายขวาพยายามหาตัวโจวเหวินไปพร้อมๆกับหน้ากากศิลาแต่ก็ไม่เห็นตัวโจวเหวินแม้แต่น้อย

ทันใดนั้นเองแสงดาบล่องหนของดาบแสงก็ฟาดใส่หน้ากากศิลาบนหน้าของเบม่อนเต็มๆ ผ่ากลางครึ่งจนหลุดออกจากหน้าของเบม่อน แต่เบม่อนก็ยังไม่เป็นอิสระ หน้ากากที่แตกออกไปนั้นจู่ๆก็งอกออกมาจากหน้าของเบม่อนอีกครั้ง กลายเป็นหน้ากากอันใหม่และเบม่อนก็ยังตกอยู่ใต้การควบคุมของมัน

โจวเหวินล่องหนต่อไปแล้วพยายามใช้ดาบแสงฟันเข้าใส่เรื่อยๆ ไม่ว่าเขาจะฟันเข้าไปซักกี่ครั้ง หน้ากากก็จะงอกขึ้นมาใหม่เสมอ วิธีการนี้ใช้ไม่ได้ผลเลย หน้ากากยังคงติดแน่นอยู่กับหน้าเบม่อนอยู๋ดี

“มันไม่มีทางที่มันจะไม่มีจุดอ่อนเลยซิ ปัญหาคืออะไรกันละที่เป็นจุดอ่อนของมันกันแน่”โจวเหวินตอนนี้หายตัวอยู่ในเงามืด แล้วใช้วิญญาณชีวิตราชานรกกับสดับวานรมองดูและฟังเสียงพยายามหาจุดอ่อนของหน้ากากศิลาให้เจอ

รวมไปถึงใช้ลำแสงส่องทะลุของแพทย์ปีศาจด้วย ทำให้หน้ากากศิลาไม่สามารถซ่อนอะไรไว้จากสายตาโจวเหวินได้เลย

แต่ถึงอย่างนั้น ตัวหน้ากากศิลาเองไม่มีจุดอ่อนเลย มันทำมาจากหินสีเทาที่ไม่มีลักษณะเด่นอะไรซักอย่าง

ต่างจากพวกสิ่งมีชีวิตธาตุน้ำที่โจวเหวินเคยเจอ สิ่งมีชีวิตธาตุน้ำพวกนั้นถึงแม้ว่ามันจะสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาได้ใหม่เรื่อยๆ และแตกตัวเองได้ตลอด แต่ภายในร่างน้ำของมันนั้นจะมีแกนกลางอยู่ซึ่งถ้าทำลายแกนกลางของมันได้ มันก็จะตายทันที

แต่หน้ากากศิลานั้นไม่ใช่ มันไม่มีแกนกลาง แต่ไม่ว่ามันจะโดนฟันทำลายทิ้งซักเท่าไร มันก็จะงอกออกมาจากหน้าของเบม่อนใหม่ ถึงแม้ว่ามันจะถูกเป่ากระจุยเป็นผุยผงไปแล้วก็ตาม

“มันจะไม่มีจุดอ่อนอะไรเลยจริงๆเหรอ”โจวเหวินมองดูตั้งนาน2นานแต่เขาก็ยังไม่เห็นจุดอ่อนของหน้ากากศิลา

ธิดาปีศาจที่แอบซ่อนตัวอยู่ในผ้าคลุมล่องหนก็ยังไม่โจมตี แม้แต่นางเองก็หาจุดอ่อนของหน้ากากศิลาไม่ได้ นางเลยไม่คิดจะโจมตีออกไป

“แม้แต่ฉันกับธิดาปีศาจยังหาจุดอ่อนไม่ได้ ก็เป็นไปได้แล้วละว่ามันจะไม่มีจุดอ่อน…หรือไม่จุดอ่อนของมันก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวมันเอง”โจวเหวินเริ่มเปลี่ยนความคิด เขาย้ายความสนใจของตัวเองไปยังจุดที่เบม่อนเจอหน้ากากศิลาในหลุมศพ

สุสานมารนั้นเต็มไปด้วยหินเวทมนตร์สีขาวเทาหลังจากที่หน้ากากศิลาลอยออกมาจากหลุมแล้ว หินเวทมนตร์ก็ก่อตัวกันขึ้นมาอีกครั้ง แล้วเกิดเป็นใบหน้าขึ้นมา

โจวเหวินตอนนี้ไม่สนใจอะไรแล้ว เขาต้องลองทุกอย่างที่ทำได้ เขาใช้ดาบแสงพุ่งเข้าแทงหน้าในหลุมนั้นทันที

จุดที่ดาบแทงลงไปนั้นจู่ๆเลือดสีดำก็พุ่งขึ้นมาอย่างกับเป็นน้ำพพุ หน้ากากบนใบหน้าของเบม่อนก็กระตุกและบิดเบี้ยวก่อนจะมีรอยแตกจุดเดียวกับที่โจวเหวินแทง

ตอนที่เลือดสีดำพุ่งออกมาจนหมด หน้ากากก็แตกออกแล้วล่วงลงมาอยู่ที่พื้น

“ทำการสังหารหน้ากากวิญญาณมารระดับเร้นลับ”ข้อความในเกมส์แจ้งเตือนขึ้นมา

“ไม่มีอะไรดรอปเลยเหรอ”โจวเหวินเสียใจนิดหน่อย ดูเหมือนว่ายาพยัคฆ์มังกรที่พึ่งดรอปไปนั้นทำให้ดวงของเขามันหมดไปแล้ววันนี้จึงไม่มีของอะไรดรอปเลย

หลังจากที่หน้ากากศิลาถูกทำลายไปแล้ว เบม่อนก็อยู่ในการควบคุมของโจวเหวินอีกครั้ง ใบหน้าบนหินเวทมนตร์ก็ถูกทำลายไปทั้งหมด

“ดูเหมือนปัญหามันจะกิดมาจากหน้ากากวิญญาณมารนั้นซินะ ไม่รู้ว่ามันเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดของตระกูลฉางรึเปล่า ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ปัญหาของตระกูลฉางก็แก้ได้แล้วละ”โจวเหวินคิด แล้วให้เบม่อนขุดต่อว่าข้างใต้นั้นมันมีอะไรกันแน่

เมื่อไม่มีรูปปั้นหินเวทมนตร์คอยขัดขวางแล้ว เบม่อนก็ขุดเร็วขึ้นมาก มันขุดแล้วกินหินเวทมนตร์ไประหว่างทางเพื่อเติมพลังงาน ขุดและขุดไปเรื่อยๆจนกระทั้งจู่ๆเบม่อนก็หยุดลงอีกครั้ง แต่หยุดรอบนี้หยุดแบบวิญญาณหลุดออกจากร่าง มันยืนนิ่งอยู่ในหลุมไม่ว่าโจวเหวินจะสั่งการยังไงมันก็ไม่ทำตามคำสั่ง”

“เกิดอะไรขึ้นหน่ะ”โจวเหวินขมวดคิ้วแล้วมองลงไปในหลุม ภายในหลุมนั้นลึก7-8เมตรได้แล้ว แต่ข้างใต้นั้นเหมือนกับว่ามีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเบม่อนอยู่ด้วย