“เรื่องของสำนักธาราเมฆ เดิมทีพวกเราไม่คิดที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่จู่ๆหลานชายของประมุขอารามหลิงซวีก็นำข่าวมาบอกว่าของที่อาณาจักรบนกำลังตามหามีความเป็นไปได้สูงที่จะอยู่ในสำนักธาราเมฆ หลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าประมุขเก้าอารามจะคาดเดาไว้คร่าวๆแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่ทำอะไรและพยายามที่จะถ่วงเวลาเอาไว้ แต่คนผู้นั้นมีคนจากอาณาจักรบนอยู่ด้วย ดังนั้น ต่อให้ประมุขของเก้าอารามอยากจะระงับข่าว พวกเขาก็ไม่สามารถทำได้” ซูจิ่งเหยียนกัดฟัน ดวงตาฉายแววขุ่นเคือง
เนื่องจากข่าวนี้กระจายไปยังอาณาจักรบน อาณาจักรบนจึงเริ่มสงสัยเก้าอาราม และถึงขั้นกำหนดโทษประมุขของเก้าอารามด้วย พวกเขายังยื่นคำขาดและสั่งให้ร่วมมือ ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ถือสาที่จะทำลายล้างเก้าอารามให้สิ้น
ด้วยความสิ้นหวัง เก้าอารามได้ส่งคนไปพร้อมกับคนของอาณาจักรบนและจับตัวซูหย่าไว้ได้ คงเป็นเพราะอาณาจักรได้ค้นพบการเปลี่ยนแปลงในเก้าอารามแล้ว พวกเขาจึงไม่ยอมให้คนของเก้าอารามเข้ามายุ่งตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“จักรพรรดิแห่งความมืด ที่ท่านถาม ข้าก็บอกไปหมดแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความจริง” ซูจิ่งเหยียนกล่าว เขาไม่กังวลว่าจวินอู๋เสียและจวินอู๋เหยาจะรู้ข้อมูลพวกนี้ ไม่สนด้วยว่าอาณาจักรบนจะรู้ว่าเขาทรยศ ยิ่งกว่านั้นจวินอู๋เสียก็สังเกตเห็นแล้วว่าซูจิ่งเหยียนจงใจเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมให้กับพวกนาง
เมื่อรู้ถึงความชั่วร้ายของอาณาจักรบน ซูจิ่งเหยียนก็ทนไม่ได้อีกต่อไป แต่เขาอ่อนแอเกินไปและไร้พลังที่จะตอบโต้ แต่เมื่อจวินอู๋เหยาปรากฏตัวต่อหน้าเขา เขาก็เห็นแสงแห่งความหวัง และเปิดเผยทุกสิ่งที่เขารู้ด้วยความปรารถนาเดียวที่จะหยุดฝันร้ายนั้น novel-lucky
เมื่อสังเกตเห็นความตั้งใจของซูจิ่งเหยียน จวินอู๋เสียก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอยู่ในใจ
สุดท้ายเก้าอารามก็เป็นเพียงตัวหมากที่ใช้แล้วทิ้งซึ่งถูกบงการโดยอาณาจักรบน แม้ว่าพวกเขาจะยังมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่บ้าง แต่พวกเขาก็ไม่มีพลังที่จะต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งเช่นนี้
“แผนการของอาณาจักรบนดำเนินไปถึงขั้นไหนแล้ว?” จวินอู๋เหยาถาม
ซูจิ่งเหยียนกล่าวว่า “โทเทมส่วนใหญ่เสร็จแล้ว จริงๆมันน่าจะเสร็จเร็วกว่านี้ ข้าไม่รู้ว่าทำไมมันถึงลากยาวมาจนถึงตอนนี้ เมื่อหนึ่งพันปีก่อน จู่ๆอาณาจักรบนก็ออกคำสั่งให้ประมุขทำงานให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ดูเหมือนพวกเขาจะรีบใช้มัน”
เก้าอารามอยู่ในอาณาจักรกลางมาหลายพันปีแล้ว แต่อาณาจักรบนเพิ่งจะเร่งมาเมื่อหนึ่งพันปีก่อนนี้เอง ก่อนหน้านั้นพวกเขาไม่ได้เร่งรีบอะไรและดำเนินการไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งหนึ่งพันปีที่แล้ว ดูเหมือนพวกเขาจะเตรียมการพร้อมแล้ว และนั่นก็……
ความคิดที่ไม่น่าเชื่อแวบเข้ามา ซูจิ่งเหยียนเงยหน้าขึ้นทันทีและมองจวินอู๋เหยาที่กำลังยิ้มแย้มอย่างตะลึงงัน มีส่วนประกอบสำคัญสามอย่างในการบูชายัญเลือดสามอาณาจักร อย่างแรกคือการสร้างวงเวทย์ อย่างที่สองคือของวิเศษ และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือวิญญาณต่างโลกที่สามารถเปิดประตูสู่พลังอันไร้ขอบเขต!
ถ้าอยากได้พลังสูงสุดจากการบูชายัญเลือดสามอาณาจักร อาณาจักรบนต้องฉีกขอบเขตของโลกออก แต่พวกเขาไม่มีความสามารถนี้ มีเพียงวิญญาณต่างโลกเท่านั้นที่สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการบูชายัญได้
วิญญาณต่างโลกก็หมายถึงวิญญาณที่ไม่ได้เป็นของโลกนี้!
ซูจิ่งเหยียนมองจวินอู๋เหยาอย่างเหลือเชื่อ……การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของจักรพรรดิแห่งความมืดผู้ลึกลับและทรงพลัง การสิ้นชีวิตของจักรพรรดิแห่งความมืดเมื่อหนึ่งพันปีก่อน ตอนที่อาณาจักรบนเริ่มเร่งเก้าอารามให้เร่งดำเนินการ
เมื่อสิ่งเหล่านี้เริ่มปะติดปะต่อกัน เรื่องที่น่าตกใจก็เปิดเผยขึ้นในใจของซูจิ่งเหยียน! “ที่แท้ท่านก็คือ……” ซูจิ่งเหยียนเพิ่งพูดได้แค่นี้ เขาก็เห็นแววตาเย็นเยียบจากจวินอู๋เหยา คำพูดทั้งหมดที่อยากจะพูดในตอนแรกก็ติดอยู่ในลำคอของเขา