ส่วนที่ 4 ภาคความปรารถนาจากบูรพา ตอนที่ 37 ชั่วลัดนิ้วมือ ศัตรูแข็งแกร่งก็ถูกกระบี่บินจากขี้เถ้ากำจัดไป

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

ในเวลาปกติ ไม่ว่าถังซานสือลิ่วจะเย่อหยิ่งภาคภูมิเพียงไร ก็ไม่มีทางเอ่ยถ้อยคำเช่นนี้กับนักพรตหญิงชราเป็นแน่ เพระสถานะของนางนั้นสูงยิ่ง แม้แต่ประมุขผู้เฒ่าตระกูลถัง ถึงจะไม่ต้องแสดงความเคารพต่อนางแต่ก็ต้องรู้สึกเกรงขามอยู่บ้าง แต่ทว่า ถังซานสือลิ่วก็ยังตะโกนด่าออกไปอย่างไม่ลังเล เพราะเขาหวังว่าจะกระตุ้นความโกรธของนักพรตหญิงชราและหันเหความสนใจของนางได้ เพราะเขาในตอนนี้ทั้งตื่นกลัวและโมโหโกรธา และเป็นเพราะเซวียนหยวนผ้อได้ทำสิ่งที่เกินกว่าการคาดคิดของทุกคน ยกกระบี่ในมือขึ้น

ผู้เยาว์เผ่าหมีนี้เปี่ยมไปด้วยกำลังจนต้องกินอาหารวันละหกมื้อ ต่อยต้นไม้ไม่หยุดทุกวี่วัน มีวิธีต่อสู้เป็นของตัวเอง เขาเป็นคนที่กล้าหาญที่สุดในสำนักฝึกหลวง วิธีการต่อสู้ก็ต่างไปจากเฉินฉางเซิงและพวก เขาไม่เคยใช้ความคิด หลังจากถูกดูหมิ่นความต้องการต่อสู้ก็พุ่งขึ้นเพราะต้องการจะลบล้างสิ่งนี้ไป ต่อให้ต้องจ่ายด้วยชีวิตก็ตาม

ทว่ากระบี่ของเขาจะฟันถูกนักพรตหญิงชราได้อย่างไรกัน เขาจะเอาชนะนางได้อย่างไร หากยึดตามมาตรฐานของมนุษย์ เซวียนหยวนผ้อนั้นอยู่ขั้นทะลวงอเวจี แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างบาดแผลให้แก่นักพรตหญิงชรา กระบี่เหล็กที่หนักอึ้งเป็นเสมือนกิ่งไม้เปราะบาง ชะงักค้างอยู่กลางสายลมที่พัดผ่านจากทะเลสาบ ไม่อาจที่จะฟันลงได้

สายตานักพรตหญิงชราจับจ้องไปที่กระบี่ ดูเหมือนจะจดจำที่มาของมันได้ ต้องขมวดคิ้วด้วยความประหลาดใจ กระนั้นก็ตาม นางไม่คิดจะแสดงความเมตตา รัศมีเย็นเยียบของการดับสิ้นได้ควบคุมร่างกายและห้วงแห่งจิตของเซวียนหยวนผ้อ ในชั่วขณะต่อมา นางจะฉีกเขาเป็นผุยผงด้วยคลื่นอันรุนแรง ตราบใดที่นางต้องการ เซวียนหยวนผ้อก็ต้องตาย

เฉินฉางเซิง เจ๋อซิ่ว ซูม่ออวี๋และถังซานสือลิ่วเป็นเฉกลูกศรสี่ดอก พุ่งข้ามทะเลสาบมา แต่ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลก ก็ดูเหมือนจะไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ได้ พวกเขาดูเหมือนจะทำได้แค่เบิกตามองดูเซวียนหยวนผ้อตกตายไปต่อหน้าต่อตา จะมีใครสามารถเปลื่อนเรื่องเช่นนี้ได้

บางทีอาจจะมี

เฉินฉางเซิงยังมีวิธีสุดท้ายอยู่ เขาเตรียมที่จะใช้ของวิเศษช่วยชีวิตโดยไม่ลังเล

ซูม่ออวี๋ก็เตรียมพร้อมเช่นกัน ถังซานสือลิ่วก็พร้อมแล้ว

พวกเขาต่างก็เตรียมพร้อมแสดงสมบัติวิเศษที่เก็บเอาไว้ หวังให้เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่จะช่วยชีวิตเซวียนหยวนผ้อ

ในตอนนี้เองที่มีบางอย่างเกินจินตนาการของทุกคนได้บังเกิดขึ้น

กระบี่ในมือของเซวียนหยวนผ้อถูกขวางค้างอยู่กลางสายลมหนาว ไม่อาจกดลงได้อีกแม้แต่เพียงน้อย แต่มันก็ยังนำสายลมเล็กน้อยมาด้วย แม้ว่าจะเป็นเพียงสายลมที่แผ่วเบายิ่งนักก็ตาม

สายลมอ่อนโยนนี้ไร้กำลังที่จะตัดทำลายความแน่นิ่งของทะเลสาบอันหนาวเย็น ไร้กำลังที่จะทำให้แส้ของนักพรตหญิงชราสั่นสะเทือนแม้แต่เพียงเส้นเดียว ไม่อาจกวาดหิมะแต่กลับปัดฝุ่นผงขึ้นมา

เซวียนหยวนผ้อยืนอยู่กลางซากปรักหักพัง เท้าเหยียบอยู่บนจุดที่เคยเป็นเตาไฟ ขี้เถ้าจากเตาไฟปลิวฟุ้งรอบกายเขา

บ้างเป็นขี้เถ้าที่เหลือจากการเผาไม้ฟืน บ้างก็เป็นขี้เถ้าจากการเผากระดาษแผ่นหนึ่ง

ก่อนหน้านี้เซวียนหยวนผ้อได้ใช้กระบี่เขี่ยขี้เถ้ากระดาษพวกนี้ ในตอนนี้ ขี้เถ้านี้ถูกสายลมจากกระบี่พัดขึ้น

ริมทะเลสาบยามค่ำคืนมืดสนิท แต่ขี้เถ้านี้แผ่สีแดงออกมา กลายเป็นว่านั่นคือเปลวไฟที่ซ่อนอยู่ในขี้เถ้า

ลมนี้พัดขี้เถ้าขึ้นมา ประกายไฟก็เต้นรำก่อตัวเป็นกระบี่กลางอากาศ

กระบี่ที่ก่อขึ้นจากประกายไฟฟาดลงในมุมเดียวกับกระบี่ของเซวียนหยวนผ้อ ส่งเสียงดังเมื่อฟันลงไป

ฉั่ว! อากาศริมทะเลสาบของสำนักฝึกหลวงเหมือนจะถูกกระบี่นี้ตัดขาด

นัยน์ตาของนักพรตหญิงชราหดลงในทันใด นางสัมผัสได้ถึงอันตรายอย่างชัดเจน

หลังจากก้าวเข้าสู่เขตแดนเทพศักดิ์สิทธิ์ นางก็แทบไม่เคยพบกับความรู้สึกเช่นนี้เพราะมีน้อยคนนักในต้าลู่ที่จะข่มขู่นางได้

เกิดอะไรขึ้นกันนี่ กระบี่ไร้ตัวตนที่เกิดขึ้นจากประกายไฟนี่มาจากไหนกัน ไฉนนางถึงได้รู้สึกกลัวขึ้นมา

ความคิดมากมายนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในห้วงแห่งจิตด้วยความเร็วเหนือจินตนาการราวกับประกายไฟยามที่นางคิดคำนวณ

ทว่ากระบี่ประกายไฟนี้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ก่อนนางจะทันคิดคำนวณสำเร็จเสร็จสิ้น กระบี่ก็มาถึงแล้ว!

นักพรตหญิงชราไม่มีเวลาให้คิด แส้ปัดที่เหน็บอยู่ด้านข้างลอยขึ้นโดยไม่มีลมแม้แต่น้อยและตกลงในมือของนาง จากนั้นก็สะบัดเข้าใส่กระบี่ประกายไฟ!

แส้ปัดนี้เป็นประดุจกิ่งหลิวนับพันนับหมื่น แต่ละเส้นอ่อนนุ่ม พลุ่งพล่านดังเกลียวคลื่น!

นี่คือทะเลสีเขียวครามไร้ขอบเขต แต่ก็ขาดซึ่งพลังชีวิต บรรจุไว้แต่กลิ่นอายของการดับสิ้น!

นางไม่รู้ว่าใครกันที่ทำให้เกิดกระบี่ประกายไฟขึ้นอย่างฉับพลันเช่นนี้ ทว่านางรู้สึกได้ถึงอันตรายอย่างชัดเจน ดังนั้นนางจึงใช้วิชาเต๋าศักดิ์สิทธิ์ของนางออกมา!

แซ่ปัดนำมาซึ่งเกลียวคลื่นจำนวนนับไม่ถ้วนที่อัดแน่นไปด้วยกลิ่นอายแห่งการดับสิ้นและฟาดเข้าใส่กระบี่ประกายไฟ

เมื่อเทียบกับคลื่นปั่นป่วนที่กวาดข้ามโลก กระบี่ไร้ตัวตนที่ก่อขึ้นจากประกายไฟดูเหมือนจะเล็กยิ่งนัก เปราะบางยิ่งนัก แล้วจะป้องกันเกลียวคลื่นนี้ได้อย่างไรกัน กระบี่ประกายไฟอยู่ตรงหน้าเซวียนหยวนผ้อ หากดับลง ร่างกายและวิญญาณของเซวียนหยวนผ้อก็คงไม่อาจหนีรอด ถูกกลืนกินไปเช่นกัน

แต่กระนั้นเมื่อกระบี่เล็กจ้อยเปราะบางนี้ปะทะเข้ากับเกลียวคลื่นนับหมื่นที่ถาโถมเข้ามาจากแส้ปัด ไม่เพียงแต่กระบี่ไม่ดับลง แต่กลับลุกโชนขึ้นอย่างฉับพลัน! สำนักฝึกหลวงถูกอาบย้อมไปด้วยสีแดงฉาน ต้นไม้ไม่ว่าไกลใกล้ต่างก็เหมือนกับลุกไหม้ขึ้นมา!

กระบี่นี้ยืมกำลังจากไฟ และเริ่มโบยบินด้วยตัวเอง กลายเป็นกระบี่เพลิงยาวเจ็ดฉื่อ แผ่ไอพลังปราณที่แข็งแกร่งน่าตระหนกขึ้นสู่ท้องฟ้ายามราตรี

คลื่นที่สูงใหญ่ปานภูเขา ก็ตัดมันเสีย! มหาสมุทรแห่งการดับสูญที่เงียบงัน ก็สับมันทิ้ง!

ตัดสิ้นทุกสรรพสิ่ง!

กระบี่เพลิงตัดหมื่นเกลียวคลื่นเสียงดังกระหึ่ม ตัดผ่านแส้ปัดนับเส้นไม่ถ้วน ฟันเข้าใส่นักพรตหญิงชรา!

สีหน้าตกใจฉายขึ้นบนใบหน้านักพรตหญิงชราอย่างฉับพลัน นางรีบถอยไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างหวาดกลัว

ส่วนหนึ่งของกำแพงซึ่งพังทลายลงอย่างเงียบงันก่อนหน้านี้ เปิดเผยอยู่ตรงหน้านางที่กำลังหนีอย่างเร่งร้อน

ท้องฟ้ายามราตรีดังก้องไปด้วยเสียงมิติฉีกขาด กระบี่เพลิงใหญ่ยักษ์ยังคงฟันเข้าใส่นักพรตหญิงชราที่กำลังหนี

เส้นด้ายจำนวนนับไม่ถ้วนของแส้ปัดที่ถูกตัดขาดปลิดปลิวไปในความมืดมิด

ร้านอาหารบ้านเรือนที่อยู่เลยกำแพงสำนักฝึกหลวงถล่มลงด้วยเสียงดังกึกก้อง นักพรตหญิงชราหนีไปหลายร้อยจั้ง ไปจนถึงริมแม่น้ำลั่วกว่าจะยืนหยัดขึ้นมาได้

คลื่นสูงใหญ่ที่เกิดจากแส้ปัดของนางถูกทำลายลงทั้งหมด แม่น้ำลั่วที่เงียบสงบก่อเกิดคลื่นใหญ่นับไม่ถ้วน คลื่นสีขาวยกตัวขึ้นลง!

นักพรตหญิงชราจ้องมองไปที่กระบี่เพลิงที่ไล่ตามฟาดฟันใส่นาง ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังขา นางตะโกนเสียงแหลม “เพลงกระบี่เผานภากระบวนท่าที่สาม!”

เพิ่งตอนนี้เองที่นางตระหนักได้ถึงที่มาของกระบี่นี้!

กระบี่ประกายไฟที่ไร้ตัวตนที่เล็กและเปราะบางก่อเกิดจากขี้เถ้าในห้องครัวที่ลุกไหม้ขึ้นมาอย่างต่อต้านสายลม จากนั้นก็ระเบิดพลังที่ยากจะจินตนาการได้ออกมา

แส้ปัดของนาง กลิ่นอายแห่งความดับสูญของนาง ทะเลสีเขียวครามไร้สิ้นสุดของนาง ได้อัดเต็มไปทั้งโลกแต่กระนั้นก็ยังไม่อาจจะเทียบกับกระบี่นี้ได้ เพราะอะไร

เพียงแค่ประกายไฟเดียวสามารถเผาไหม้ทุ้งหญ้าให้กลายเป็นเถ้า ทั้งยังเผาผลาญสวรรค์ได้อีกด้วย!

เป็นธรรมดาที่กระบี่นี้จะเป็นเพลงกระบี่เผานภากระบวนท่าที่สามของซูหลี!

เมื่อนางส่งเสียงร้องออกมา เพลงกระบี่เผานภาก็มาถึงริมน้ำของแม่น้ำลั่ว

แม่น้ำลั่วในความมืดไม่ได้มีความสงบอีกต่อไป เกล็ดหิมะร่วงลงจากท้องฟ้าได้ระเหยหายไป กลายเป็นไอน้ำนับไม่ถ้วนเพราะเจตจำนงกระบี่

ในหมอกหนามีเสียงดังจนแผ่นดินสะเทือนเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับเสียงโหยหวนและตื่นตระหนกของนักพรตหญิงชรา

หมอกนั้นสลายไปอย่างฉับพลัน ฝุ่นผงขจรขจาย แนวเขื่อนกันคลื่นยาวสามลี้ของแม่น้ำลั่วพังทลายลง

นักพรตหญิงชรายืนอยู่ในน้ำตื้นใต้เขื่อนกันคลื่น ถือแส้ปัดไว้ในมือ แขนเสื้อข้างขวาขาดหายไปหมดเผยให้เห็นผิวขาวดุจหยก ผมสีดำยุ่งเหยิง ร่างกายเต็มไปด้วยรอยเปื้อน แส้ปัดเหลือเพียงด้ามกับด้ายไม่กี่เส้น อยู่ในสภาพน่าอนาถเช่นเดียวกับนาง

……