Ch.14.1 – จากใจนักเขียน

Translator : Asiran / Author

 

เมื่อสองสามวันก่อนคุณผีเสื้อโพสต์จากใจนักเขียนลงในเรื่องค่ะ โพสต์เนื่องในโอกาสที่เรื่องนี้ได้ขึ้น shelf (แปลว่าตอนต่อจากนี้จะไม่ได้อ่านฟรีแล้วแต่เป็นติดกุญแจ ซึ่งก็ไม่ใช่นิยายทุกเรื่องหรอกนะที่ทำได้ โดยเฉพาะสำหรับนักเขียนหน้าใหม่ยิ่งยากเย็นแสนเข็ญ ต้องผ่านด่านมากมาย ประมาณหนึ่งในหมื่นเลยล่ะ) เราเห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยขอแปลลงมาค่ะ

เป็นอีกครั้งที่ได้ขึ้น shelf และก็เหมือนทุกครั้งที่ผมต้องออกมาพูดอะไรสักหน่อย ถึงการขึ้น shelf จะเป็นเรื่องเดิม ๆ แต่ว่าแต่ละครั้งงานมันก็ไม่เหมือนกัน มีความรู้สึกหลากหลายในตอนที่พวกมันได้ขึ้น shelf

ผมเขียนนิยายมา 13 ปีแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นนิยายเกม

“The End of World” เริ่มในปี 2005 “Closed Combat Mage” (คนแปล: มีแปลอิ้งในเว็บ gravitytale)  เริ่มปี 2008  “เทพยุทธ์เซียน Glory” เริ่มปี 2011 และ “ช่วงเวลาของราชา” ที่เริ่มเดือนเมษายนปีนี้ ในระหว่างนี้ก็มีเรื่องสั้น ๆ อีกสองเรื่องที่ได้เขียนออกมา “The Game of Rivers and Lakes” ที่ส่งลงนิตยสารต่อเนื่อง กับอีกอันที่ยังไม่ได้ตีพิมพ์ ดังนั้นผมก็จะอุบไว้ก่อน ผมจะไม่พูดถึงมัน

นอกจากเรื่องสั้นทั้งสองแล้ว เรื่องยาวทั้งสี่ต่างก็เขียนห่างกันไม่ต่ำกว่าสามปี ผมมองกลับไปแล้วก็ย้อนดูตัวเอง ผมครุ่นคิดและพบว่างานพวกนี้ส่วนมากแล้วก็บ่งบอกถึงสภาวะจิตใจของผมในขณะนั้น

ในปี 2005 ผมเริ่มเขียน “The End of the World” ผมยังเรียนมหาวิทยาลัยไม่จบเลย ผมไม่ได้มีความคิดเชิงลึกเกี่ยวกับชีวิต การเล่นเกมในร้านเน็ตเป็นการใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ในรั้วมหาวิทยาลัย ดังนั้นในสายตาของผมเกมจึงเป็นเรื่องสนุกสนาน ดังนั้นพระเอกในงานชิ้นนั้นจึงไม่ได้มีความฝันสูงส่งอะไร ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีภาระ ไม่มีชีวิตจริง ก็แค่มาเล่นสนุกในเกมเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น

ในปี 2008 ผมเขียน “Close Combat Mage” ผมเรียนจบมาอยู่ในสังคมได้สามปีแล้ว ผมได้พบกับความกดดันในการเอาชีวิตรอดแล้วก็เริ่มใส่ใจว่าตัวเองควรจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป เกมยังคงเป็นของฆ่าเวลา แต่ในขณะที่กำลังเล่นสนุกอยู่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามตัวเองว่าเกมมีประโยชน์อะไร ความคิดนี้ก็ได้สะท้อนลงไปในตัวพระเอกของเรื่องนี้อีกครั้ง Gu Fei คิดเกี่ยวกับ “กังฟูมีประโยชน์อะไร” สุดท้ายแล้วกังฟูก็กลายมาเป็นบัคชิ้นโตในเกม  ในนิยายเรื่องนี้ผมได้ทำให้เกมกลายมาเป็นสิ่งอื่นนอกจากของเล่นอย่างไร้เดียงสา และในขั้นตอนการเขียนนิยายเรื่องนี้ การเขียนก็เริ่มที่จะมีความคิดที่จริงจังนอกจากการเล่นเกมเพื่อความสนุกเพียงอย่างเดียว

จากนั้น ในปี 2011 ผมเขียน “เทพยุทธ์เซียน Glory” ในปีนั้น ผมอายุ 28 ปี ห่างจากเจ้า 30 ปีอะไรนั่นแค่นิดเดียว มีทางเดินและการวางแผนเพื่ออนาคตแล้วอย่างชัดเจน ดังนั้นผมจึงมีเยี่ยซิว นักกีฬาอีสปอร์ตตัวจริงเสียงจริง เกมเป็นหนทางชีวิตของเขา เป็นความฝัน พรสวรรค์ และความสำเร็จ และนั้นก็คงจะเป็นสิ่งที่ผมต้องการในช่วงเวลานั้น เป็นอีกครั้งที่เขียนพระเอกผ่านทางเกม

จากนั้นก็คือตอนนี้ เขียน “ช่วงเวลาของราชา” ก่อนหน้านั้นผมไม่คิดเลยว่าจะเขียนนิยายเกมอีก เพราะว่าไม่มีอะไรอีกแล้วที่ผมอยากจะเขียน ความสับสน ความอับอาย ความลังเลที่มีตอนวัยรุ่นได้กลายเป็นอดีต เกมกลับมาเป็นของเล่นอีกครั้ง และวิธีการเล่นสนุกก็ค่อนข้างแตกออกไปจากตอนอายุ 18 เลย ผมไม่สนใจที่จะมาดูพล็อตเกมอะไรอีกแล้ว CG กับอนิเมชั่นของเกมก็กดข้ามรัว ๆ เควสที่ต้องทำหรือดันที่ใช้เวลาก็น่าเบื่อ แล้วก็ไม่มีอารมณ์จะมาสังสรรค์กับผู้เล่นในเกมอีกต่อไป กิจกรรมที่ชอบที่สุดในเกมก็คือเปิดเกมทิ้งไว้เฉย ๆ…

นั่นคือ ตอนที่เด็กน้อยข้างตัวผมเริ่มที่จะโตวันโตคืน

ตอนที่ผมเล่น The Kings of Glory เธอก็จะมาดูอย่างสนใจแล้วถามว่านั่นใครและตัวไหนเป็นพ่อ เป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ทำไมพ่อเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ล่ะ หนูว่าตัวนี้ไม่เห็นสวยสู้ตัวที่แล้วได้เลย ทำไมพ่อตายแล้วล่ะ ทำไมพ่อตายอีกแล้วล่ะ (คนแปล :ขำลูกหนักมาก)

ตั้งแต่ตอนนั้นผมก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเกมเป็นอะไรสำหรับผมและสิ่งที่ผมค้นพบด้วยตัวเอง แต่เมื่อยายหนูโตขึ้น เธอจะคิดอย่างไรกับเกมกันนะเมื่อเธอเริ่มที่จะได้ลองเล่น เธอจะใช้เวลาไปพร้อมกับเกมอย่างไร เกมทีความหมายอื่นนอกจากเป็นของเล่นฆ่าเวลาอีกไหมในช่วงที่เธอเติบโตขึ้น

หลังจากนั้นเมื่อผมได้เข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือใหม่ของเพื่อนรัก Lin Hai Ting Tao ผมก็ได้รับแรงบันดาลใจเมื่อได้ยินผลที่ฟุตบอลมีต่อการเรียนรู้ เพราะเขาบอกว่าที่จริงแล้วผลด้านการเรียนรู้มันไม่ได้เกิดขึ้นจากฟุตบอลตรง ๆ  แต่มาจากการแข่งขันที่ซื่อสัตย์ (fair play) ต่างหากเขาบอกว่า ตราบใดที่มีคุณสมบัติข้อนี้ก็มีผลต่อการเรียนรู้เหมือนกัน

ดังนั้นผมจึงได้มุมมองใหม่ต่อเกมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ตอนที่ผมยังไม่ได้คอนเฟิร์มว่าจะเขียนเรื่องนี้หรือไม่ผมก็ต้องขอบคุณ tencent ก่อนที่ให้แบบเกม The Kings of Glory มา เกมจริงมันเหมาะสมมากที่จะแสดงความคิดของผมออกมา ดังนั้นผมจึงได้มี “ช่วงเวลาของราชา”

งานชิ้นนี้จะเรียลกว่านิยายเกมทั้งหลายที่ผ่านมา ไม่เพียงเพราะว่าเกมที่ใช้ในนิยายเป็นเกมจริง ๆ เท่านั้น แต่เป็นเพราะว่าสิ่งที่ผมใส่ใจและอยากจะบอกในหนังสือเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ใกล้ตัวมากกว่า

มองลึกลงไปในเกมก็เหมือนเป็นแบบจำลองการใช้ชีวิต

เราเกิดมาในยุคนี้ เราเริ่มโตและพัฒนาตัวเอง เราเริ่มเจอกับการแข่งขัน ทุกคนแข่งกันเพื่อทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด บางคนการเงินนำ ยิ่งมายิ่งแข็งแกร่ง และบางคนก็พลาดไปบ่อยครั้ง และคนอื่นก็ค่อย ๆ ก้าวห่างออกไป ตอนที่นำจะรักษาระยะอย่างไร ตอนที่ตามจะต้องไล่อย่างไร ตอนที่ชนะมันขึ้นอยู่กับเราแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเพื่อนแค่ไหน ได้เรียนรู้อะไรบ้างในการแข่งขันครั้งที่แล้วและจะเอาไปใช้กับเกมหน้าได้อย่างไร

รูปแบบชีวิตต่าง ๆ นานาเหมือนกับว่าจะสามารถมองเห็นได้จากเกมเล็ก ๆ เกมหนึ่ง ผลลัพธ์ของเกมสำคัญไหม สำคัญสิ เพราะว่ามันคือเป้าหมายของเราในเกม แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือจะเผชิญหน้าเกมต่อไปอย่างไรหลังจากที่ชนะหรือพ่ายแพ้มาแล้ว

บางคนอาจบอกว่าก็แค่เกม จะสำคัญเว่อร์อะไรขนาดนั้น เกมนี้ หรือช่วงชีวิตเล็ก ๆ ใด ๆ ก็ตามต่างก็ถูกนิสัยและอารมณ์ของแต่ละคนผลักดันได้ทั้งนั้น

นี่ก็คือทิศทางที่ผมพบสำหรับหนังสือเรื่องนี้ และนี่ก็คือหนังสือที่ผมอยากจะเขียน คือ เกมให้อะไรกับเรา เราจะได้รับประสบการณ์ชีวิตจากเกมได้อย่างไร

เฉินเซียวเซียว (คนแปล: พระเอกเรื่องแรก) เป็นผู้เล่นธรรมดา

Gu Fei (คนแปล: พระเอก Close Combat Mage) ใช้เกมเป็นเครื่องแสดงออก (แสดงได้ใหญ่สุด ๆ ว่ากันตรง ๆ)

เยี่ยซิวใช้เกมเป็นความฝันและเป้าหมาย

ครั้งนี้เหออวี้และเพื่อนของเขาจะเห็นเกมเป็นอย่างไร เกมจะให้อะไรกับพวกเขา

ผมหวังว่าพวกเขาจะได้เจอเพื่อนเยอะ ๆ ที่รักเกมและหาคำตอบเจอ

สุดท้ายนี้ ผู้อ่านที่สนับสนุนและชื่นชอบผมมานาน ผมก็ไม่รู้ว่ามีกี่คนที่ตามมาตั้งแต่เล่มแรก นี่เป็นครั้งที่หกแล้วที่ได้ขึ้น shelf

ขอบคุณทุกคนมากครับ!

……………………………………………………………………………………

เราว่าคุณผีเสื้อก็คงกดดันพอดูเลยเพราะเรื่องนี้รู้สึกจะโดนด่าเยอะเหมือนกัน มีตั้งแต่บอกว่า tencent มันทุนนิยมสามานย์! คนเขียนตกต่ำ คนเขียนเลวมาก! ไปจนถึง เนื้อเรื่องไม่สมเหตุสมผล (ก็เกมจริงอะนะ คนเล่นก็มี มันก็ต้องไม่เหมือนจริงเป็นธรรมดา ไม่งั้นจะให้คุณผีเสื้อเขียนยังไงให้เหออวี้กลยุทธ์เทพอะ ถ้าเทพกว่ามืออาชีพจริง ๆ แถมสมจริงแกก็คงไปเป็นโค้ชรวยเละแล้ว…ดูมังงะกีฬาทั้งหลายแหล่ของญี่ปุ่นดิ มีอันไหนบ้างที่ไม่เว่อร์หลุดโลก?)