บทที่ 1689 ความล้มเหลว

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1689 ความล้มเหลว

 

สวรรค์สีขาว ถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

“ปีศาจหัววัว รับสิ่งนี้!” วานรขนทองตะโกนขณะพุ่งเข้าไปหาฟางหยวนพร้อมกับพายุสายฟ้า

 

ปีศาจหัววัวฟางหยวนยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับเขยื้อน เพียงเมื่อวานรขนทองเข้ามาใกล้ เขาก็ยกมือขึ้นเล็กน้อย

 

“ปัง!”

 

มันเป็นหมัดตรงที่เรียบง่าย แต่วานรขนทองกลับถูกส่งลอยกลับหลังราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

 

“บึม!”

 

วานรขนทองพุ่งชนภูเขา หินถล่มลงมาและฝังมันเอาไว้ภายใน

 

“ความแข็งแกร่งระดับนี้ กระทั่งนักรบวานรทองยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”

 

“ข้าไม่เคยเห็นความแข็งแกร่งที่มาพร้อมกับความเร็วเช่นนี้มาก่อน มันอยู่ในระดับเดียวกับหอยทากดาราจริงๆ!”

 

นอกจากนักรบวานรทองที่ถูกฝังกลบ นักรบอสูรคนอื่นๆที่อยู่ในสนามรบต่างรู้สึกหวาดกลัว

 

“ร่วมมือกัน! เห็นได้ชัดว่านี่เป็นทักษะการต่อสู้ มันจะสูญเสียพลังจํานวนมากในการใช้ งาน!” นักรบอสูรราชันสีห์สายฟ้าคําราม

 

ฟางหยวนกําหราบนักรบอสูรเกือบทั้งหมดที่ถูกส่งมาโดยราชาอสูร ตอนนี้เหลือนักรบอสูรเพียงห้าคนที่ยังมีพลังเหลืออยู่

 

ทั้งห้าเป็นนักรบอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด

 

ท่ามกลางนักรบอสูรทั้งห้า คนแรกคือนักรบราชสีห์สายฟ้าที่มีศีรษะเป็นสิงโตร่างกายมนุษย์ เขาใช้สายฟ้าเป็นอาวุธ คนที่สองคือนักรบกายาราชสีห์ เขามีศีรษะเป็นมนุษย์แต่ร่างกายเป็นสิงโต เขามีพลังการฟื้นฟูที่แข็งแกร่ง

 

นักรบอสูรคนที่สามคือนักรบหอยศิลา เขาอยู่ในเปลือกหอยขนาดใหญ่และสามารถยิงอุกกาบาตเพลิงออกมา

 

นักรบอสูรคนที่สี่คือนักรบแรดยักษ์ ร่างกายของเขาราวกับเหล็กกล้าที่แข็งแกร่ง

 

นักรบอสูรคนสุดท้ายคือนักรบผีเสื้อน้ำค้าง เขาอยู่ในร่างมนุษย์แต่มีปีกผีเสื้อและปลดปล่อยพลังงานความเย็นออกมา

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้าโง่ เจ้าถูกจับแล้ว!” นักรบผีเสื้อน้ำค้างปรากฏตัวขึ้นเหนือศีรษะของฟางหยวน

 

พลังงานความเป็นระเบิดออกมาปกคลุมศีรษะและไหล่ของฟางหยวน

 

“โฮก…”

 

นักรบแรดยักษ์คํารามและพุ่งเข้าไปหาฟางหยวน

 

“ลองลิ้มรสทักษะการต่อสู้ใหม่ของข้า!” นักรบหอยศิลากดทับเท้าของฟางหยวนเอาไว้

 

นักรบแรดยักษ์พุ่งเข้ากระแทกฟางหยวนอย่างรุนแรง

 

มวลอากาศเย็นทําให้แขนของฟางหยวนถูกแช่แข็ง

 

“ถึงเวลาแล้ว!” นักรบราชสีห์สายฟ้าและนักรบกายาราชสีห์โจมตีศีรษะของฟางหยวนจากด้านซ้ายและขวา

 

“ตาย!” นักรบอสูรทั้งห้าตะโกนพร้อมกัน เจตนาสังหารของทุกคนพุ่งสูงขึ้น

 

“บึม!”

 

เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงและส่งคลื่นกระแทกออกไปรอบๆ นักรบอสูรทั้งห้าราวกับแผ่นไม้เล็กๆท่ามกลางพายุใหญ่ พวกเขากระอักเลือดและถูกส่งลอยกลับหลัง

 

ท่ามกลางฝุ่นควัน ร่างสีดําขนาดเท่าภูเขาค่อยๆปรากฏขึ้น

 

ฟางหยวนยืนอยู่อย่างเงียบๆที่จุดเดิม เขามองนักรบอสูรทั้งห้าที่ดิ้นรนอยู่บนพื้นก่อนจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่แยแส

 

ทุกย่างก้าวของเขาทําให้แผ่นดินสะเทือนและทิ้งรอยเท้าขนาดใหญ่เอาไว้เบื้องหลัง

 

“บัดซบ!”

 

“อย่าไป…”

 

“หยุด!”

 

นักรบอสูรทั้งห้าพยายามลุกขึ้นยืนแต่มีเพียงนักรบราชสีห์สายฟ้าเท่านั้นที่ยืนขึ้นมาได้สําเร็จ

 

“นักรบราชสีห์สายฟ้า!”

 

“ไป เจ้าต้องหยุดสัตว์ประหลาดตัวนี้!”

 

นักรบราชสีห์สายฟ้าพุ่งเข้าไปหาฟาหงยวนโดยปราศจากความหวาดกลัว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น “หากเจ้าต้องการสังหารผู้อื่น เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน!”

 

“บึม!”

 

ไม่มีผู้ใดเห็นการโจมตีของฟางหยวน พวกเขาเห็นเพียงนักรบราชสีห์สายฟ้าถูกกระแทกกลับด้วยความเร็วที่น่าตกใจเท่านั้น

 

ร่างของนักรบราชสีห์สายฟ้าตกลงบนพื้นและพุ่งต่อไปอีกสามสิบเมตรก่อนจะหยุดลง

 

นักรบราชสีห์สายฟ้าหมดสติและไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก

 

ฟางหยวนยังเดินหน้าต่อไป

 

เขาควบคุมพลังของตนเองและไม่สังหารผู้คนเหล่านี้ นี่ต่างจากแรกเริ่มที่เขาบุกเข้ามา หลังจากได้รับมรดกหลายอย่าง ทัศนคติของเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เขาเห็นทุกสิ่งในถ้ำสวรรค์นักรบอสูรเป็นสมบัติของเขารวมถึงนักรบอสูรเหล่านี้

 

“ยังมีมรดกสุดท้ายเหลืออยู่ ตราบเท่าที่ข้าได้รับมรดกนี้ ข้าจะสามารถรวมเนื้อหาของมรดกหมด”

 

ในไม่ช้าฟางหยวนก็มาถึงด้านหน้าเปลือกหอยทากดารา

 

หอยทากดาราเป็นสัตว์อสูรแรกกําเนิด แต่ตัวที่อยู่ด้านหน้าฟางหยวนเป็นเพียงซากศพของมัน

 

เจ้าของถ้ำสวรรค์แห่งนี้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการต่อสู้กับหอยทากดาราและไม่สามารถรักษา ก่อนเสียชีวิต เขาทิ้งมรดกไว้เบื้องหลัง เปลือกหอยทากดาราเป็นสถานที่เก็บมรดกชิ้นสุดท้ายของเขา

 

“ปีศาจหัววัว ข้ารอเจ้าอยู่” ราชาอสูรรุ่นปัจจุบันยืนอยู่บนเปลือกหอยทากดารา

 

เขาแก่มากแล้วและดูเหมือนมดตัวเล็กที่ยืนอยู่ต่อหน้ายักษ์ฟางหยวน

 

แต่ดวงตาของมดตัวนี้กลับลุกไหม้ด้วยเจตจํานงแห่งการต่อสู้

 

แสงสว่างส่องประกายขึ้นก่อนที่เปลือกหอยทากดาราจะพุ่งเข้าหลอมรวมกับชายชรา

 

เมื่อแสงสว่างหายไป ยักษ์หุ้มเกราะที่มีร่างกายเล็กกว่าฟางหยวนเพียงเล็กน้อยก็ปรากฏตัวขึ้น

 

โอ้ วิธีนี้ไม่จํากัดเฉพาะสิ่งมีชีวิต มันยังสามารถใช้กับซากศพของสัตว์อสูรแรกกําเนิด! ฟางหยวนลอบประหลาดใจ

 

แต่หลังจากนั้นเขาก็สามารถทําความเข้าใจ

 

วิธีนี้เกี่ยวกับร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋ มันไม่มีความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตหรือสิ่งที่ตายแล้ว

 

แม้หอยทากดาราจะตายไปแล้ว แต่เปลือกหอยของมันยังมีร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าจํานวนมากเหลืออยู่ ชายชราสามารถใช้งานมัน

 

“นี่ควรเป็นไพ่ตายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของถ้ำสวรรค์แห่งนี้ น่าเสียดาย กระทั่งมันจะเป็นหอยทากดาราที่มีชีวิต มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” ฟางหยวนเย้ยหยันอยู่ภายใน

 

การต่อสู้ปะทุขึ้น ผลลัพธ์เป็นไปตามความคาดหวังของฟางหยวน

 

ในสนามรบที่พังทลาย ฟางหยวนยืนหยัดอย่างภาคภูมิขณะที่นักรบหอยทากดาราล้มลงบนพื้นและกําลังจะตาย

 

“ไม่มีความหวัง” นักรบอสูรคนอื่นๆที่เข้ามาช่วยนักรบหอยทากดาราคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยใบหน้าซีดขาว

 

นักรบหอยทากดารากลับสู่ร่างมนุษย์ของราชาอสูรรุ่นปัจจุบันอีกครั้ง เปลือกหอยทากดาราเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว

 

ฟางหยวนตรวจสอบและค้นพบบางสิ่ง

 

เขาหัวเราะก่อนกล่าว “จิตวิญญาณสวรรค์ เจ้ายังไม่ออกมาอีกขั้นหรือ?”

 

“…”

 

นักรบอสูรทั้งหมดตะลึง

 

“ข้า…ข้า…ข้าได้ยินสิ่งใดผิดไปหรือไม่?”

 

“สัตว์ประหลาดยักษ์ตัวนี้พูดได้ มันพูดภาษามนุษย์ได้จริงๆ!”

 

“ข้าหูฝาดเพราะข้าแก่เกินไปและกําลังจะตายใช่หรือไม่?” ราชาอสูรรุ่นปัจจุบันพึมพํา

 

วินาทีถัดมาจิตวิญญาณสวรรค์ปรากฏตัวขึ้นในที่สุด

 

มันบินเข้าไปหาฟางหยวน

 

จิตวิญญาณสวรรค์อยู่ในร่างกิเลนหนุ่ม มันกล่าวด้วยเสียงที่คมชัด “ผู้อมตะจากภายนอก เจ้ามาที่นี่และได้รับมรดกมากมาย แต่เจ้ายังไม่ได้รับการยอมรับจากข้า เจ้าสังหารผู้บริสุทธิ์มากมายและอาละวาดไปทั่ว เจ้าแข็งแกร่ง แต่เจ้าจะได้รับท่าไม้ตายอมตะของร่างหลักเท่านั้น อย่าคิดว่าเจ้าจะได้รับวิญญาณอมตะและถ้ำสวรรค์แห่งนี้”

 

“งั้นหรือ?” ฟางหยวนหัวเราะอย่างมีความหมาย

 

กิเลนหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ข้ารู้ว่าเจ้ากําลังคิดสิ่งใด แม้ข้าจะไม่สามารถเอาชนะเจ้า แต่ข้าสามารถระเบิดทําลายวิญญาณอมตะและถ้ำสวรรค์ทั้งหมด เจ้าจะไม่ได้รับสิ่งใดเลย”

 

ฟางหยวนเงียบ

 

เขารู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่อเห็นความแน่วแน่ของกิเลนหนุ่ม จิตวิญญาณสวรรค์เหมือนจิตวิญญาณแผ่นดิน พวกมันไม่สามารถโกหก

 

ฟางหยวนไม่สามารถตรวจสอบการคงอยู่ของวิญญาณอมตะ

 

นอกจากนั้นท่าไม้ตายอมตะแสงโลหิตก็ยังไม่ทรงพลังพอที่จะกําหราบจิตวิญญาณสวรรค์กิเลนตัวนี้

 

“เป็นเช่นนี้ นักรบอสูรเป็นส่วนหนึ่งของมรดก ข้าตระหนักถึงความตั้งใจนี้แล้ว” ฟางหยวนกล่าว

 

“แม้เจ้าจะเข้าใจตอนนี้ มันก็สายเกินไปแล้ว ทุกคนมีโอกาสเพียงครั้งเดียว แต่เจ้าจะไม่จากไปมือเปล่า ร่างหลักของข้าจะมอบท่าไม้ตายอมตะให้เจ้า” จิตวิญญาณสวรรค์ชี้แจงอย่างชัดเจนและต้องการให้ฟางหยวนจากไป

 

หลังจากได้รับท่าไม้ตายอมตะ ฟางหยวนไม่อยู่ต่อหรือใช้กําลัง เขาออกมาจากถ้ำสวรรค์โดยง่าย

 

ทะเลตะวันออก

 

การต่อสู้ของห้าผู้อมตะทําให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่

 

“หากพวกเจ้ายังมีวิธีใดเหลืออยู่ก็ใช้มันออกมา!” ราชันมังกรยังผ่อนคลาย

 

ฟงจินฮวงยืนอยู่ข้างกายราชันมังกร นางยังปลอดภัยและไม่สูญเสียเส้นผมแม้แต่เส้นเดียว ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางเห็นการต่อสู้ของผู้อมตะระดับแปด มันช่วยขยายวิสัยทัศน์ของนางเป็นอย่างมาก

 

ยายหรง หยางจื่ออี้ และคนอื่นๆแสดงออกด้วยความเคร่งเครียด

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอย่างจริงจัง พวกเขาได้ลิ้มรสพลังของราชันมังกร แม้ราชันมังกรจะต่อสู้เพียงลําพังและมีฟงจินฮวงเป็นภาระ แต่ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ของทะเลตะวันออกก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ตอนนี้พวกเขาเห็นสัญญาณของความพ่ายแพ้แล้ว

 

“เขามีความแข็งแกร่งของถึงระดับเก้า เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”

 

“ทรงพลังเกินไป สมกับเป็นราชันมังกรแห่งวังสวรรค์…”

 

ขวัญกําลังใจของผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ร่วงหล่นลงสู่จุดต่ำสุด

 

“บัดซบ! เราวางแผนยึดครองวังมังกรมานานแล้ว แต่ยังสวรรค์กลับขโมยมันไป!”

 

“เห้อ…ไปกันเถอะ เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกร มันไม่มีความหมายที่จะอยู่ต่อ”

 

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ตัดสินใจล่าถอย

 

ราชันมังกรไม่ได้ไล่ล่าพวกเขา

 

เป้าหมยของเขาในครั้งนี้คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังมังกรเท่านั้น

 

“วังมังกรถูกกัดกร่อนโดยอาณาจักรแห่งความฝัน ข้าสงสัยว่ามันเหลือวิญญาณอมตะกี่ดวง” ราชันมังกรถอนหายใจ

 

“หือ?”

 

เขากําลังจะย้ายวังมังกรแต่วินาทีต่อมามันกลับพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าโดยไม่คาดคิด

 

ราชันมังกรยืนอยู่ที่เดิม เขาไม่สามารถขัดขวางวังมังกรและทําได้เพียงมองมันบินจากไปเท่านั้น ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความตกใจขณะที่เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขา “วังมังกรยังไม่บุบสลาย ไม่เพียงเท่านั้น หนึ่งในแกนกลางของมันยังเป็นวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝัน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ราชันมังกร ดูว่าคราวนี้เจ้าจะสู้กับพวกเราอย่างไร?” ผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ของทะเลตะวันออกย้อนกลับมา

 

การแสดงออกของราชันมังกรกลายเป็นมืดครื้ม

 

สถานการณ์กลายเป็นยากลําบาก

 

เขาถูกปิดล้อมขณะที่วังมังกรปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวออกไปทุกหนทุกแห่ง สิ่งนี้จะสร้างความวุ่นวายขึ้นในทะเลตะวันออกอย่างแน่นอน