บทที่ 1690 กลืนกินสิ่งมีชีวิต

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1690 กลืนกินสิ่งมีชีวิต

 

” ท่าไม้ตายอมตะกลืนกินสิ่งมีชีวิต” ฟางหยวนพึมพํา

 

เขานั่นอยู่บนเมฆมงคลและเคลื่อนที่ผ่านสวรรค์สีขาว

 

เขากําลังดูดซับผลประโยชน์ที่ได้รับจากถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

ท่าไม้ตายกลืนกินสิ่งมีชีวิตสามารถเพิ่มร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋บนเส้นทางสายอื่นเป็นร่องรอยของพลังงานแห่งเต๋าบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลง

 

ท่าไม้ตายนี้พึ่งพาพลังงานอมตะจํานวนมหาศาลและยังใช้อารมณ์อีกด้วย อารมณ์ที่ใช้ต้องเป็นอารมณ์ในเชิงบวกและคุณธรรม สิ่งนี้ทําให้ฟางหยวนเข้าใจธรรมชาติของผู้คนในถ้ำสวรรค์นักรบอสูร

 

ฟางหยวนไม่ขาดแคลนพลังงานอมตะ หลังจากยกระดับวิญญาณอมตะ ค่าใช้จ่ายของเขาลดลงอย่างมาก ตอนนี้เขามีลิ้นจีขาวอมตะเพียงพอที่จะสนับสนุนการต่อสู้ระดับแปดจํานวนสองครั้ง

 

ด้านอารมณ์ ฟางหยวนสามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งปัญญาเพื่อสร้างอารมณ์เชิงบวกได้อย่างง่ายดาย ความสําเร็จบนเส้นทางแห่งปัญญาของเขาสูงมาก

 

สิ่งที่ฟางหยวนขาดคือวิญญาณอมตะ

 

ท่าไม้ตายนี้ใช้วิญญาณอมตะสี่ดวง หนึ่งในแกนกลางของมันคือวิญญาณอมตะการปรับตัวระดับแปด

 

วิญญาณอมตะอีกสามดวงเป็นวิญญาณอมตะระดับเจ็ด

 

“แม้จิตวิญญาณสวรรค์จะไม่ให้วิญญาณอมตะแก่ข้า แต่ข้าสามารถใช้มือปีศาจปล้นวิญญาณขโมยพวกมัน”

 

“ข้าเพียงต้องใช้กายาสวรรค์ค้นหาที่ซ่อนของวิญญาณอมตะเหล่านั้น”

 

“อย่างไรก็ตามมันค่อนข้างลําบากที่จะได้รับถ้ำสวรรค์นักรบอสูรทั้งหมด

 

ถ้ำสวรรค์นักรบอสูรมีค่ามากสําหรับเขา แต่จิตวิญญาณสวรรค์สามารถทําลายถ้ำสวรรค์ หากเขาใช้กําลังบังคับ การสูญเสียจะมากกว่ากําไร

 

“จากการอนุมานของข้าโดยอ้างอิงจากท่าไม้ตายอมตะกลืนกินสิ่งมีชีวิต ผู้อมตะของถ้ำสวรรค์นักรบอสูรอาจมีไพ่ตายซ่อนอยู่

 

ถ้ำสวรรค์นักรบอสูรสามารถใช้ท่าไม้ตายนี้เพื่อจัดการถ้ำสวรรค์ทั้งหมด นั่นหมายความว่าหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้ำสวรรค์นักรบอสูรและผู้อมตะที่อยู่ภายในสามารถรวมร่างกันเพื่อครอบครองพลังการต่อสู้ระดับแปดเป็นการชั่วคราว

 

ฟางหยวนสามารถจัดการคู่ต่อสูระดับนี้ แต่การสูญเสียของเขายังค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันถ้ำสวรรค์นักรบอสูรก็จะได้รับความเสียหายที่รุนแรง

 

“นั่นหมายความว่าข้าต้องคิดวิธีหยุดพวกเขาจากการรวมร่าง”

 

นอกจากนี้บางทีข้าอาจใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยเพื่อบุกเข้าไปอีกครั้ง

 

จิตวิญญาณสวรรค์กล่าวว่าคนผู้หนึ่งจะได้รับโอกาสเพียงครั้งเดียวหากต้องการรับสืบทอดถ้ำสวรรค์ แต่ความสามารถในการตรวจสอบของมันอยู่ในระดับใด มันจะสามารถแยกแยะตัวตนที่แท้จริงของฟางหยวนหลังจากใช้ท่าไม้ตายอมตะใบหน้าที่คุ้นเคยหรือไม่? ตามการอนุมานของฟางหยวน ความเป็นไปได้นี้ค่อนข้างต่ำ

 

อย่างไรก็ตามขณะที่ฟางหยวนกําลังอนุมานวิธีต่อต้านการร่วมร่าง เขากลับได้รับข่าวบางอย่าง

 

มันเป็นข่าวสําคัญ!

 

“วังมังกรปรากฏขึ้น? ยิ่งไปกว่านั้นราชันมังกรยังเคลื่อนไหวเป็นการส่วนตัวแต่ยังไม่สามารถยึดครอง? โอ้ เขาถูกขัดขวางโดยผู้อมตะระดับแปดสี่คนของทะเลตะวันออก”

 

“น่าสนใจ วังมังกรเป็นคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปด ตอนนี้มันบินอยู่บนท้องฟ้าของทะเลตะวันออกโดยไม่ปกปิดกลิ่นอาย มันกําลังสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ กองกําลังและผู้อมตะมากมายให้ความสนใจมันอย่างใกล้ชิด

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายขึ้น

 

เขารู้จักวังมังกร

 

มีเบาะแสเกี่ยวกับวังมังกรอยู่ในมรดกที่แท้จริงของนิกายเงา แต่มันเป็นเบาะแสที่ไม่สําคัญนัก เนื้อหาที่มีค่าที่สุดคือผู้สืบทอดวังมังกรต้องเป็นมนุษย์มังกร

 

แม้ฟางหยวนจะมีไปหนิงปิง แต่เขาไม่เคยมีโอกาสและเวลาที่ดีในการค้นหาวังมังกร

 

ด้วยสถานการณ์ก่อนหน้า หากฟางหยวนพยายามค้นหามันและจบลงด้วยการไม่ได้รับมัน เขาจะถูกไล่ล่าโดยวังสวรรค์

 

ผลประโยชน์อาจมหาศาลแต่ความเสี่ยงกลับมากกว่า ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่เคลื่อนไหว

 

“วังสวรรค์ลอบค้นหาวังมังกรและเกือบได้รับมัน”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฟางหยวนลอบยกย่องสี่ผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกอยู่ในใจ

 

โดยไม่ต้องคิดมาก ฟางหยวนออกจากสวรรค์สีขาวและเดินทางไปยังทะเลตะวันออกทันที

 

ถ้ำสวรรค์นักรบอสูรจะไม่ถูกค้นพบโดยง่าย เขาสามารถจัดการมันอย่างช้าๆ แต่วังมังกรเป็นเรื่องเร่งด่วน เขาไม่สามารถปล่อยให้มันตกอยู่ในมือของวังสวรรค์

 

หลังจากทั้งหมดนี่คือคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดที่มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันเป็นแกนกลาง

 

วันต่อมาในทะเลตะวันออก

 

“บึม!”

 

ท่ามกลางการระเบิดที่รุนแรง ผู้อมตะซือเมี่ยวกระอักเลือดคําโตออกมาและเร่งล่าถอย

 

ราชันมังกรคํารามเสียงดัง ร่างกายของเขากลายเป็นแสงพุ่งไปยังคฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกร

 

ระยะห่างระหว่างทั้งสองลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ในช่วงเวลาสําคัญ ยายหรงก็พุ่งเข้ามาปิดกั้นเส้นทางของราชันมังกร

 

นางได้รับบาดเจ็บสาหัส ใบหน้าของนางซีดขาวราวกระดาษ นางปลดปล่อยควันพิษสีม่วงออกมาจากร่างกาย

 

รูม่านตาของราชันมังกรหดเล็กลงเมื่อเขาเห็นควันพิษสีม่วงที่อยู่รอบตัวยายหรง เขาเร่งเปลี่ยนทิศทาง

 

ยายหรงเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งพิษ ควันพิษสีม่วงเป็นไพ่ตายของนาง กระทั่งราชันมังกรก็ไม่เต็มใจที่จะสัมผัสมัน

 

ยายหรงไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดี ในการต่อสู้ครั้งนี้นางพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ หนึ่งในวิญญาณอมตะของนางถูกทําลาย ความเร็วของนางลดลงอย่างมาก แต่นางยังอาศัยความมุ่งมั่นเพื่อสนับสนุนผู้อมตะระดับแปดอีกสามคน

 

ราชันมังกรหลบยายหรงขณะที่นางทําได้เพียงเฝ้ามองด้วยความขมขื่น

 

ท่ามกลางผู้อมตะระดับแปดทั้งสี่ อีกสองคนยังอยู่ห่างออกไปหลายลี้

 

“บึม!”

 

ราชันมังกรโจมตีวังมังกรอย่างรุนแรง

 

“ครืน…”

 

คฤหาสน์วิญญาณอมตะวังมังกรตกลงไปในทะเลและทําให้เกิดคลื่นยักษ์ระเบิดออกไปรอบๆ

 

วังมังกรเคลื่อนไหวด้วยตัวของมันเอง มันไม่ได้บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกต่อไปแต่เคลื่อนที่ลึกลงไปใต้ทะเล

 

ราชันมังกรกําลังจะไล่ล่ามันแต่เขากลับหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน

 

ผู้อมตะลึกลับปรากฏตัวขึ้นและเผยรอยยิ้มให้ราชันมังกร “สมกับเป็นราชันมังกร เจ้าสามารถค้นพบข้า”

 

ราชันมังกรขมวดคิ้วและเย้ยหยัน “ซ่งฉีหยวน เจ้าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลซ่งและเป็นผู้อมตะระดับแปดแต่เจ้ากลับลอบโจมตีงั้นหรือ?”

 

นี่คือผู้อมตระดับแปดซ่งฉีหยวน

 

“ดูเหมือนกองกําลังฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกจะเคลื่อนไหวในที่สุด มีผู้ใดบ้าง ออกมาเดี๋ยวนี้” ราชันมังกรปลดปล่อยเจตจํานงแห่งการต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวออกมา

 

หลังจากนั้นผู้อมตะอีกสองคนก็ปรากฏตัวขึ้น

 

คนแรกเป็นชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำเงิน เขาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลชิงอวี๋ ชิงอวี๋อัน

 

คนที่สองเป็นเด็กสาวที่มีดวงตาส่องประกายสดใส มีเมฆสีรุ้งอยู่รอบตัวนาง นางเป็นผู้อาวุโสสูงสุดลําดับที่หนึ่งของตระกูลฮัว ฮัวช่ายหยุน

 

“ท่านราชันมังกร..” ฮัวช่ายหยุนกําลังจะกล่าว

 

“หยุดไร้สาระ!” ราชันมังกรตะโกนและเริ่มโจมตีทันที

 

“บึม บึม บึม”

 

สามผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกถูกบังคับให้ล่าถอย

 

“ราชันมังกรแข็งแกร่งเกินไป เขาสามารถกําหราบสามผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกได้อย่างง่ายดาย! ฟางหยวนลอบตกตะลึง ตอนนี้เขาอยู่ในร่างงูทะเลและกําลังว่ายอยู่ในน้ำ

 

ผู้อมตะระดับแปดของฝ่ายธรรมะมักแข็งแกร่งกว่าผู้บ่มเพาะสันโดษระดับแปด นี่เป็นเพราะพวกเขามีท่าไม้ตายอมตะและทรัพยากรมากกว่า

 

สามผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะสามารถเอาชนะสี่ผู้บ่มเพาะสันโดษระดับแปดได้อย่างไม่ต้องสงสัย

 

แต่พวกเขายังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชันมังกร

 

ราชันมังกรดุร้ายเกินไป จนถึงตอนนี้เขาใช้เพียงทักษะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น เขายังไม่เคยใช้ทักษะบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่เขาเชี่ยวชาญที่สุด

 

จากสิ่งนี้สามารถเห็นได้ว่าราชันภูเขาม่วงแข็งแกร่งเพียงใด เขาสามารถบังคับให้ราชันมังกรใช้ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณ

 

“ราชันภูเขาม่วงไม่อ่อนแอแต่ราชันมังกรแข็งแกร่งเกินไป” ฟางหยวนมองวังมังกรที่หลบหนีออกจากสนามรบ

 

“ตอนนี้มีผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะเพียงสามคนที่ปรากฏตัว หลังจากนี้ต้องมีคนอื่นๆมาอีกแน่นอน” ฟางหยวนตัดสินใจรอเวลาที่เหมาะสม

 

ดังคาด เมื่อเวลาผ่านไปผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะอีกสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นและกีดขวางวังมังกร

 

ยายหรง จางหยิน และคนอื่นๆมาถึงเช่นกัน พวกเขาต่อสู้กับสองผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะ

 

การต่อสู้ครั้งใหญ่ปะทุขึ้นใต้ทะเล

 

ฟางหยวนซ่อนตัวและดําลงไปใต้ทะเลเพื่อรอโอกาสเคลื่อนไหว