บทที่ 1691 เปิดเผย

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

บทที่ 1691 เปิดเผย

 

วังมังกรกลายเป็นแสงสีทองพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง

 

“เจ้าจะไปที่ใด?”

 

“ตาย!”

 

“ต้องการขวางข้างั้นหรือ? อย่าฝัน!”

 

ผู้อมตะระดับแปดหลายคนเข้าสู่การต่อสู้ แต่ละคนแสดงพลังอํานาจอันน่าสะพรึงกลัวออกมาระหว่างไล่ล่าวังมังกร

 

ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ใด ก้อนหินจะพังทลาย ทะเลจะแยกออก ท้องฟ้าจะเปลี่ยนสี สิ่งมีชีวิตจํานวนนับไม่ถ้วน

 

ระดับหกและระดับเจ็ดต้องหลบหนีด้วยความตกใจ

 

มีเพียงผู้อมตะระดับแปดที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

 

ผู้อมตะระดับเจ็ดไม่สามารถเข้าแทรกแซง เว้นเพียงพวกเขาจะเป็นตัวตนเช่นเดียวกับฟงจิวเก้อหรือฟางหยวน แต่ตอนนี้ฟงจิวเก้อและฟางหยวนก้าวเข้าสู่ระดับแปดแล้ว

 

ผู้อมตะระดับแปดจํานวนมากเข้าสู่การต่อสู้ มีเพียงไม่กี่คนที่ยังไม่แสดงตัว” ฟางหยวนเฝ้ามองจากด้านข้าง

 

ตั้งแต่เขาเดินทางมายังทะเลตะวันออก เวลาผ่านไปมากกว่าสิบวันแล้ว อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้อมตะระดับแปดยังต่อสู้กันอย่างไม่หยุดยั้ง

 

บางครั้งพวกเขาก็ร่วมมือกัน บางครั้งก็ต่อสู้กันเอง ตราบเท่าที่ผู้ใดเข้าใกล้วังมังกร พวกเขาจะถูกโจมตีจากทุกทิศทาง ฟางหยวนไม่มีโอกาสเคลื่อนไหว

 

แต่เขายังอดทนรอและไม่กังวล

 

“ข้อมูลเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ของผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้มีค่าเช่นกัน”

 

“ราชันมังกรน่ากลัวจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ด้วยวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันของวังมังกรและการโจมตีของผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆ รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฟงจินฮวงราชันมังกรจึงไม่สามารถยึดครองวังสวรรค์ได้โดยง่าย”

 

ดวงตาของฟางหยวนส่องประกายน่ากลัว

 

นอกจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะระดับแปดวังมังกร ฟงจินฮวงก็เป็นเป้าหมายของฟางหยวนเช่นกัน

 

หญิงผู้นี้มีวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งความฝันและเป็นศิษย์ของราชันมังกร มันเห็นได้ชัดถึงความสําคัญของนาง

 

แต่กระทั่งฟางหยวนจะมีแผนการเช่นนี้ เขาก็ไม่มีโอกาสจัดการฟงจินฮวง

 

“โอกาส… โอกาส…มันจะปรากฏขึ้นอย่างแน่นอน”

 

“ผู้อมตะฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกพูดคุยกันมาแล้ว บางคนถอยขณะที่บางคนเข้าแทนที่ พวกเขาร่วมมือกันและสามารถควบคุมสถานการณ์

 

“ราชันมังกรต่อสู้เพียงลําพังแต่เขาแข็งแกร่งที่สุด หากมีกําลังเสริมจากวังสวรรค์ ทางตันนี้จะพังทลายลง

 

“แม้วังสวรรค์จะไม่ส่งกําลังเสริมมาแต่กลุ่มสี่คนของยายหรง จางหยิน และคนอื่นก็อยู่ได้ไม่นาน”

 

ท่ามกลางฝายทั้งสาม ฝ่ายธรรมะของทะเลตะวันออกมีเสถียรภาพมากที่สุด อีกสองฝ่ายมีโอกาสพลิกสมดุล แต่เมื่อสมดุลพังทลายลง การต่อสู้ที่วุ่นวายจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความโกลาหลนี้จะทําให้ข้ามีโอกาสเคลื่อนไหว!”

 

ฟางหยวนเข้าใจสถานการณ์อย่างชัดเจน

 

ทันใดนั้นการระเบิดพลันปะทุขึ้น ซึ่งฉีหยวนถูกโจมตีและได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

 

จางหยินหัวเราะ “ข้าโจมตีเจ้าด้วยสายฟ้าทมิฬ ตามข้ามาหากไม่กลัวตาย!”

 

สายฟ้าทมิฬทําให้ชีวิตของซ่งฉีหยวนตกอยู่ในอันตราย

 

กลุ่มผู้อมตะฝ่ายธรรมะสี่คนที่ไล่ล่าวังมังกรแยกออกเป็นสองกลุ่ม หนึ่งอยู่ด้านหน้า อีกหนึ่งอยู่ด้านหลัง

 

“สายฟ้าทมิฬคือไพ่ตายของจางหยิน มันปราศจากรูปลักษณ์และไม่สามารถตรวจจับ เราควรทําอย่างไร?” สามผู้อมตะระดับแปดฝ่ายธรรมะกังวล

 

“เราต้องตามไป มันอันตรายที่จะทิ้งฮัวช่ายหยุนไว้เพียงลําพัง”

 

“เราทําได้เพียงส่งฝูงสัตว์อสูรเข้ารับสายฟ้าทมิฬแทนพวกเรา”

 

สามผู้อมตะฝ่ายธรรมะคิดอย่างรวดเร็วและปล่อยฝูงสัตว์อสูรบรรพกาลออกมา

 

ซ่งฉีหยวนโบกมือ กลิ่นอายของสัตว์อสูรบรรพกาลเหล่านั้นพุ่งขึ้นสู่ระดับสัตว์อสูรแรกกําเนิดทันที

 

“เปรี้ยง! เปรี้ยง!”

 

สัตว์อสูรแรกกําเนิดกระตุ้นการทํางานของกับดักสายฟ้าทมิฬที่ซ่อนอยู่

 

พวกมันตกตายลงอย่างต่อเนื่อง

 

สามผู้อมตะฝ่ายธรรมะเคลื่อนที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

 

“เรื่องนี้ค่อนข้างลําบาก ลองดู” ฟางหยวนรู้สึกไม่สบายใจเพราะเขาต้องก้าวข้ามกับดักสายฟ้าทมิฬเช่นกัน

 

“เปรี้ยง!”

 

เขาถูกสายฟ้าทมิฬโจมตีแต่เขาไม่กล้าใช้เกราะหวนคืน

 

“กับดักสายฟ้าทมิฬรับมือได้ยาก ข้าควรอ้อมไป” ฟางหยวนกระอักเลือกออกมาและตัดสินใจเปลี่ยนทิศทาง

 

“เปรี้ยง!”

 

เขาถูกโจมตีอีกครั้ง

 

สายฟ้าทมิฬกระจายออกมาไกลถึงที่นี่ ขอบเขตของมันกว้างเกินไป” ฟางหยวนกัดฟันแน่น

 

“เปรี้ยง!”

 

ฟางหยวนยังถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง โชคของเขากลายเป็นไร้ประโยชน์

 

หลังจากแปดนาที ฟางหยวนที่ได้รับบาดเจ็บไปถึงสนามรบของกลุ่มผู้อมตะระดับแปดอีกครั้ง

 

“รับท่าไม้ตายของข้า โรคระบาดสีแดง!” ยายหรงตะโกนและยิงแสงแดงออกมา

 

ฮัวช่ายหยุนก่นเสียงเย็นและผลักฝ่ามือส่งก้อนเมฆออกไป

 

เมฆก้อนนี้เป็นสีดําสนิทและดูเหมือนหม้อคว่ำ มันเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและดูดซับแสงสีแดงเอาไว้

 

การแสดงออกของยายหรงเปลี่ยนไปทันที

 

ฮัวช่ายหยุนกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ “ท่าไม้ตายของเจ้าไร้ประโยชน์ต่อหน้าข้า”

 

“บัดซบ!” ฟางหยวนลอบสาปแช่ง ด้วยความบังเอิญ เขาถูกโจมตีด้วยท่าไม้ตายของยายหรง

 

ฟางหยวนในร่างงูทะเลมีความเร็วไม่มาก เขาไม่สามารถหลบได้ทันเวลา

 

ทะเลบริเวณนี้เผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่ สิ่งมีชีวิตจํานวนมากตกตายลง

 

ฟางหยวนปลอมตัวเป็นงูทะเลที่ถูกพิษและกลายเป็นซากศพ แต่เขายังปลอมตัวต่อไป

 

ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ฟางหยวนจะติดตามกลุ่มผู้อมตะระดับแปดเหล่านี้ เขาถูกโจมตีโดยไม่คาดคิดหลายครั้ง โชคดีที่เขาอยู่ด้านหลังขณะที่กลุ่มผู้อมตะระดับแปดให้ความสนใจวังมังกรเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามสถานการณ์นี้อยู่ไม่นาน ไม่กี่วันต่อมาตัวตนของฟางหยวนก็ถูกเปิดเผย

 

ผู้บ่มเพาะสันโดษระดับแปดค้นพบเขา คนผู้นี้คือหยางจุน

 

ฟางหยวนโจมตีและหลบหนีทันที

 

การเคลื่อนไหวนี้ดึงดูดความสนใจของผู้อมตะระดับแปดคนอื่นๆ แต่ฟางหยวนจากไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งราชันมังกรจะต้องการทําบางสิ่ง มันก็สายเกินไปแล้ว

 

ภาคกลาง แดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ

 

ค่ายกลวิญญาณอมตะหยุดทํางาน

 

หลังจากตรวจสอบ เทพธิดาจื่อเว่ยพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ด้วยค่ายกลวิญญาณนี้ ผู้ใดจะสามารถทําลายแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ที่ติ? กระทั่งฟางหยวนจะมาที่นี่ เขาก็จะถูกขังไว้เช่นกัน”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยมั่นใจมาก

 

เป็นเพียงเวลานี้ที่แสงสว่างส่องลงมาจากท้องฟ้าก่อนที่ร่างหนึ่งจะปรากฏขึ้น

 

“ท่านหญิงจื่อเว่ย” เขาคือฟงจิวเก้อ ตอนนี้เขากลายเป็นผู้อมตะระดับแปดแล้ว น้ำเสียงที่เขาใช้ปรากฏร่องรอยของสถานะที่เท่าเทียมกับเทพธิดาจอเว่ย

 

เทพธิดาจื่อเว่ยยิ้ม “ฟงจิวเก้อ ข้าเรียกเจ้ามาเพราะวังมังกรปรากฏขึ้น ท่านราชันมังกรออกไปยึดครองมันแต่ถูกผู้อมตะระดับแปดของทะเลตะวันออกขัดขวางไปที่ทะเลตะวันออก เป็นกําลังเสริมให้กับท่านราชันมังกร ปกป้องบุตรสาวของเจ้า และช่วยวังสวรรค์น้ำวังมังกรกลับมา”

 

ฟงจิวเก้อเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะปฏิเสธ “ฮวงเอ๋อได้รับการคุ้มครองโดยท่านราชันมังกร นางจะไม่พบอันตรายใดๆ แต่เมื่อข้าก้าวเข้าสู่ระดับแปด ข้าได้รับแรงบันดาลใจและต้องการสร้างเพลงใหม่ ข้าต้องการเข้าสู่สายธารแห่งกาลเวลาเพื่อสังเกตเหตุการณ์ทุกประเภทตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้าต้องการสัมผัสประสบการณ์การเดินทางของสิ่งมีชีวิตทั้งหมด”

 

เทพธิดาจื่อเว่ยปืนงงอยู่ชั่วครู่ “เอาล่ะ เช่นนั้นก็ไปปกป้องสายธารแห่งกาลเวลาแทนหลี่ฮวง”