ณ โลกแปดพิภพ ยอดฝีมือเผ่ามนุษย์รวมตัวกันที่ทะเลตะวันออก ต่อสู้กับปีศาจอัคคี
การต่อสู้ในครั้งนี้ สุดท้ายเจ้าสำนักเขากว่างเฉิงเยี่ยนตี๋ ปราชญ์ภาพวาดผู้อาวุโสม่อ ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์หวงกวงเลี่ย และเจ้าเมืองทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงร่วมมือกัน ใช้ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายสะกดปีศาจอัคคีและประตูทางเชื่อมเขตแดนที่เชื่อมไปยังโลกปีศาจอัคคี
จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ยินดีและฮึกเหิม ในการต่อสู้ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สังหารยอดฝีมือเผ่าปีศาจอัคคีได้เป็นจำนวนมาก ยังสะกดทางเชื่อมเขตแดนได้อีกด้วย ปีศาจอัคคีไม่อาจส่งผลคุกคามโลกแปดพิภพได้อีกในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ภัยพิบัติจากปีศาจอัคคีที่เกิดขึ้นมาหลายปี ครั้งนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว
ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายที่สะกดปีศาจอัคคีมาจากเขากว่างเฉิง เขากว่างเฉิงเป็นผู้มอบให้ใต้หล้า
แต่ว่าในสงครามครั้งนี้ ราคาที่จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ต้องจ่ายก็มีไม่น้อย แต่ว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดก็คือ อัจฉริยะอันดับหนึ่งรุ่นเยาว์ในปัจจุบันของแปดพิภพ เยี่ยนจ้าวเกอผู้ขี่มังกรสู่ฟากฟ้า
ค่ายกลเทพไท่อี้ถล่มทลายสะกดปีศาจอัคคีอย่างมั่นคง แต่ว่าในตอนที่ผนึกก่อตัวก็ทำให้เกิดแรงทำลายมหาศาลที่ด้านนอกและด้านในข่ายอาคม
คนที่มีระดับต่ำกว่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ยากจะหนีพ้นภัยพิบัติ
เยี่ยนจ้าวเกอในตอนนั้นก็อยู่ในค่ายกลเช่นกัน ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงออกมาไม่ทันเวลา หลังจากผนึกทะเลตะวันออกสร้างสำเร็จแล้ว เขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นอีก
หลังจากทุกคนตามหาแล้วไม่พบร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอ จิตใจก็พลันรู้สึกหนักอึ้ง
หากพิจารณาตามปกติ เยี่ยนจ้าวเกอน่าจะประสบเรื่องร้ายมากกว่าเรื่องดี เป็นไปได้ว่าจะโดนลูกหลงจากผนึก ตายในสงครามแห่งยุคครั้งนี้
หากเป็นเช่นนั้น ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงย่อมสูญเสียอย่างใหญ่หลวง คนในสำนักจึงไม่ละทิ้งความพยายามตามหาเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ว่าหลังจากเวลาผ่านไปกลับยังคงไร้วี่แวว ความหวังในใจของผู้คนยิ่งมายิ่งน้อยลง
นอกจากเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ยอดฝีมือระดับสูงของเขากว่างเฉิง ยังมีฟูเอินซูที่ถูกม้วนเข้าไปในอาณาเขตที่ผนึกไปถึงด้วย
นี่ทำให้เขากว่างเฉิงกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เกิดความขัดแย้งขึ้นทันทีที่สงครามจบ ทั้งสองฝ่ายเกือบจะสู้กันบนทะเลตะวันออก
ลูกศิษย์ของฟูเอินซู เฟิงอวิ๋นเซิงและอิ่นหลิวหัวรายงานสำนักว่า ในตอนที่ผนึกทะเลตะวันออกกำลังทำงาน อยู่ๆ ก็มียอดฝีมือระดับสูงจากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ลอบโจมตีพวกนาง ทำให้ผู้เป็นอาจารย์ถูกม้วนเข้าไปในผนึก
ทั้งสองฝ่ายขัดแย้งกันไม่ยอมลดราวาศอก และในช่วงเวลานี้เองก็เกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
ในสงครามกับปีศาจอัคคีก่อนหน้านี้ เจ้าสำนักเขาไร้พรมแดนฉู่เหยียนได้รับบาดเจ็บกลับไปพักฟื้นที่สำนัก ได้ฝากขวานจามสวรรค์ อันเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของสำนักให้ผู้อาวุโสสูงสุดหลี่จิ่งถู
ถึงขวานจามสวรรค์จะได้รับความเสียหายหนัก แต่เพื่อรับมือกับการโจมตีของปีศาจอัคคี หลี่จิ่งถูกับขวานจามสวรรค์จึงยังอยู่ที่ทะเลตะวันออก
สุดท้ายผนึกก่อตัวขึ้น ทุกอย่างสับสน รอจนสถานการณ์ค่อยๆ สงบลง จอมยุทธ์เขาไร้พรมแดนคนอื่นๆ ถึงได้พบว่า ผู้อาวุโสหลี่ของตนประสบอันตราย
ส่วนขวานจามสวรรค์ได้ตกไปอยู่ในมือของสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์แล้ว
โลกแปดพิภพต่างปั่นป่วนเพราะเหตุการณ์นี้อยู่ชั่วขณะ
ถึงขวานจามสวรรค์จะได้รับความเสียหาย แต่ว่าเมื่อสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์มีมงกุฎจันทราและขวานจามสวรรค์อยู่ในมือ จะยิ่งมีอานุภาพมากขึ้น
เยี่ยนตี๋ ผู้อาวุโสม่อ และซ่งอู๋เลี่ยงต่างติดอยู่ในผนึกทะเลตะวันออกชั่วคราว ทว่าสิ่งที่ทำให้จิตใจของคนในเขากว่างเฉิง เมืองทะเลมรกต และเขาไร้พรมแดนหนักอึ้งยิ่งกว่าก็คือ เจ้าตำหนักอัสนีสวรรค์เฉินลี่ได้ปรากฏกาย ร่วมมือกับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์
ทั้งสองฝ่ายจับมือกัน ทำเอาผู้คุมหอคลื่นโหมอันชิงหลินรู้สึกกริ่งเกรง
ส่วนเขากว่างเฉิงคับข้องใจเป็นพิเศษเพราะข่าวที่ส่งกลับมาจากปฐพีพิภพ ถึงแม้ว่าการคุกคามจากการบุกรุกของนพยมโลกได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของฝ่ายตน หยวนเจิ้งเฟิง ‘ปราชญ์เทียมฟ้า’ หายไปในกระแสปั่นป่วนของมิติเวลา
และเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นเพราะการหนีไปกลางคันของเจ้าตำหนักอัสนีสวรรค์เฉินลี่
ในขณะที่เขากว่างเฉิงประกาศว่าเฉินลี่หนีไปกลางคัน เฉินลี่กลับโต้ว่า ในตอนที่หยุดการมาของนพยมโลกนั้น เยี่ยนจ้าวเกอซึ่งเป็นคนในเขากว่างเฉินเกิดความละโมบ แตะต้องของวิเศษในปฐพีพิภพ ทำให้ผนึกพังทลาย มารร้ายเกือบจะออกมาได้สำเร็จ
สุดท้ายต้องพึ่งตัวเขาถึงจะผนึกร่องแยกของนพยมโลก และขัดขวางการมาถึงของมารร้ายได้
เขากว่างเฉิงย่อมไม่ยอม แต่ว่าจอมยุทธ์ของโลกแปดพิภพที่อยู่ที่ปฐพีพิภพในตอนนั้นตายแทบหมดสิ้น
ฟางจุ่นซึ่งเป็นคนที่เหลือรอดมาจากปฐพีพิภพได้รับบาดเจ็บสาหัส สลบไสลไม่ยอมฟื้น ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ทราว่าเป็นหรือตาย หายสาปสูญไป ผู้เกี่ยวข้องที่พอจะยืนยันได้มีแค่เฉินลี่คนเดียว
ต่อให้เขากว่างเฉิงคิดโต้กลับแต่ก็อ่อนแอไร้กำลัง หลักฐานของทั้งสองฝ่ายค่อยๆ กลายเป็นบ่อโคลนที่แยกแยะถูกผิดไม่ได้
การจู่โจมจากปีศาจอัคคีและนพยมโลกต่างถูกขัดขวางในเวลาเดียวกัน โลกแปดพิภพจัดการได้หมด ภัยร้ายจากด้านนอกถูกแก้ไข
แต่ว่าสถานการณ์โดยรวมของแปดพิภพกลับมิได้ผ่อนคลายลง ดินปืนระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายกำลังคุกรุ่น
เนื่องจากการต่อสู้กับปีศาจอัคคีและนพยมโลก ทำให้พลังของแต่ละสำนักได้รับความเสียหายอย่างหนัก แม้สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะได้ขวานจามสวรรค์มา แต่มันก็ได้รับความเสียหาย เมิ่งหวานที่ใช้มงกุฎจันทราก็ได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้กับปีศาจอัคคีเช่นกัน
ในขณะที่แต่ละสำนักโจมตีจุดอ่อนของกันและกัน ต่างฝ่ายต่างก็รักษาอาการบาดเจ็บด้วย รวมถึงสั่งสมพลังใหม่อีกครั้งแข่งกับเวลา
“ศิษย์หลานเฟิง อาการบาดเจ็บของเจ้าไม่มีปัญหา ไม่ส่งผลกระทบร้ายแรง”
ในเขากว่างเฉิง ผู้อาวุโสเฟิงฉือพูดพลางมองเฟิงอวิ๋นเซิง “และไม่ส่งผลกระทบต่อการฝึกฝนต่อจากนี้ของเจ้าด้วย”
เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้า จากนั้นถามว่า “ศิษย์น้องอิ่นเล่า?”
เฟิงฉือตอบ “นางไม่เป็นไรเหมือนกัน พวกเจ้าสองคนได้รับบาดเจ็บภายนอก”
เฟิงอวิ๋นเซิงคารวะเฟิงฉือ “ขอขอบคุณอาจารย์ลุงเฟิง”
เฟิงม่อหยางบุตรของเฟิงฉือที่อยู่ด้านข้างส่งขวดหยกขาวใบเล็กมาให้ “ด้านในมีโอสถลูกกลอน ให้กินวันละเม็ดเป็นเวลาสามวัน”
“ขอบคุณศิษย์พี่เฟิง” เฟิงอวิ๋นเซิงรับมา ส่วนเฟิงม่อหยางพูดขึ้นว่า “เชื่อว่าฟ้าคงช่วยคนดีอย่างจ้าวเกอและอาจารย์ป้าฟู่ ไม่ต้องกังวลมากไป ถ้าหากพวกเขารู้ว่าเจ้ากับศิษย์น้องอิ่นไม่เป็นอะไร คงจะดีใจมาก”
เฟิงอวิ๋นเซิงเพียงพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร
เฟิงม่อหยางมองเฟิงอวิ๋นเซิง “ในการทดสอบแห่งจันทราครั้งที่เจ็ด ข้าขออวยพรให้ศิษย์น้องเฟิงเจ้าเอาชนะทุกคนได้ ชิงมงกุฎจันทรากลับมา”
เฟิงอวิ๋นเซิงได้ยินแล้วก็ดวงตาเป็นประกาย ไม่ได้พูดว่าจะพยายามเต็มที่หรือจะทำให้ได้ แต่พยักหน้าอย่างจริงจัง “ข้าจะชนะ”
นางไม่ได้อวดโอ่ทะนงตน ไม่ได้กล้าๆ กลัวๆ แต่สงบนิ่งเหมือนแผ่นดิน มั่นคงเหมือนขุนเขา
เฟิงฉือเอ่ยว่า “คนอย่างเจ้าไม่กลัวการแบกภาระ ข้าไม่กลัวว่าจะเพิ่มแรงกดดันให้เจ้า ครั้งนี้ข้าเอาใจช่วย”
“ขอบคุณอาจารย์ลุงที่อวยพร” เฟิงอวิ๋นเซิงบอกลาเฟิงฉือกับเฟิงม่อหยาง หลังจากเดินออกมาก็เห็นพวกซือคงจิงกับอิงหลงถูรออยู่ที่นั่น
เฟิงอวิ๋นเซิงพยักหน้าให้กับพวกเขา บอกว่าอาการบาดเจ็บของตนไม่เป็นไร
คนทั้งสองร่วมทางกัน ซือคงจิงเอ่ยขึ้นก่อน “สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะยึดมงกุฎจันทราไว้ ยกเลิกการทดสอบแห่งจันทราหรือไม่”
เฟิงอวิ๋นเซิงตอบ “น่าจะไม่ยกเลิก เช่นนั้นจะเป็นการผลักหอคลื่นโหมมายังฝั่งเรา ตำหนักอัสนีสวรรค์ใช่ว่าจะพอใจ ถึงสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์จะได้ขวานจามสวรรค์ไป แต่พวกเขายังทำตัวยิ่งใหญ่ไม่ได้”
ซือคงจิงพยักหน้า ในดวงตาที่กระจ่างใส่เปล่งประกายเย็นเยียบ “เช่นนั้นก็ประเสริฐ”
เฟิงอวิ๋นเซิงสูดหายใจลึก “ถูกแล้ว ประเสริฐยิ่ง”
ด้านหน้าของนางปรากฏใบหน้าแล้วใบหน้าเล่า มีใบหน้าของฟูเอินซูผู้เป็นอาจารย์ ใบหน้าของอาจารย์ปู่หยวนเจิ้งเฟิง…
สุดท้ายหยุดอยู่บนใบหน้ายิ้มที่ดูเรียบร้อย แต่ความจริงอวดโอ่ของเยี่ยนจ้าวเกอ