ภาค 6 ยันฟ้าด้วยมือเดียว บทที่ 553 เส้นทางกลับแปดพิภพ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอมองประตูมังกรที่ในที่สุดก็เปิดออก แต่มิอาจเข้าไปอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรอยู่ชั่วขณะ

‘ถ้าหากลิ่นเชียนเฉิงรู้ว่าสถานการณ์ในตอนสุดท้ายจะกลายเป็นเช่นนี้ เกรงว่าคงจะไม่รีบเปิดสุสานฝูงมังกรกระมัง?’

พยายามอย่างเต็มที่ทั้งที่มีอุปสรรค ใช้พิธีกรรมเก้ามังกรกลืนฟ้า ในที่สุดก็เปิดประตูมังกรออกได้ แต่กลับคว้าโอกาสไว้ไม่ทัน ต้องรอให้โลกในประตูมังกรเสถียรเสียก่อนจึงจะเข้าไปได้

ถึงตอนนั้นคนอื่นคงได้รับข่าว เตรียมตัวพร้อมรับมือ ทุกคนจะอยู่ในเส้นทางเดียวกัน

เหตุใดต้องแกว่งเท้าหาเสี้ยน?

ถ้าลิ่นเชียนเฉิงรู้เช่นนี้แต่แรก เกรงว่าจะไม่เห็นพิธีกรรมเก้ามังกรกลืนฟ้าของเขาเป็นของวิเศษอย่างตั้งมั่นแน่

ยังไม่ต้องพูดถึงว่าสำหรับเขาแล้ว สำนักอัสนีเรืองรองประสบหายนะเหมือนที่วางแผนไว้ทุกอย่าง

เยี่ยนจ้าวเกอมองลุ่มน้ำเบื้องล่างด้วยสีหน้าประหลาดใจ ‘อืม เป็นหลุมใหญ่จริงๆ’

จอมยุทธ์สำนักอื่นมารวมตัวกันใกล้ลุ่มน้ำ จอมยุทธ์ที่ตามเยี่ยนจ้าวเกอมาถึงทะเลรางเลือนกำลังมาทางนี้

หลังจากได้ยินเยี่ยนจ้าวเกออธิบายสถานการณ์คร่าวๆ ทุกคนต่างตกตะลึงกันชั่วขณะ พูดอะไรไม่ออก

ลิ่นเชียนเฉิงวางกำดักไว้แต่ต้น ซุ่มโจมตีที่ทะเลรางเลือน รอคนมาติดเบ็ด สุดท้ายกลับเป็นเยี่ยนจ้าวเกอที่เหนือกว่า ทำให้เขาพันรังไหมใส่ตัวเอง

ลิ่นเชียนเฉิงซึ่งเป็นหนึ่งในยอดฝีมือระดับศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามของโลกผืนสมุทร สุดท้ายกลับตายอยู่ในเหวลึกของทะเลรางเลือนอย่างไร้สุ้มเสียง กลายเป็นกุญแจในการเปิดประตูมังกร

เรื่องแดนฝังกระดูกของฝูงมังกรลอดวารีทำให้เหล่าคนที่ได้ยินหัวใจเต้นระรัว ขณะมองประตูมังกรที่ก้นหลุ่มเบื้องล่าง ในใจเกิดความคิดนับไม่ถ้วน

ไม่มีใครไม่เชื่อคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ เป็นเพราะเหตุการณ์ตรงหน้าได้พิสูจน์แล้วว่า ตัวตนที่อยู่ในตำนานนั้นแข็งแกร่งเพียงใด

สำนักอัสนีเรืองรองหนึ่งในหกพรรคมาร ถูกทำลายในชั่วพริบตา

ความสามารถเช่นนี้ มองไปทั่วโลกผืนสมุทรแล้ว ก็ไม่มีใครที่ทำได้

เยี่ยนจ้าวเกอมองคนที่อยู่รอบๆ พลางยิ้มเล็กน้อย “ที่นี่คงไม่เสถียรได้ในวันสองวัน ข้าขอกลับเขาหงส์วิเศษก่อน”

สวีเฟยกับสือจวินย่อมเชื่อการตัดสินของเยี่ยนจ้าวเกอ คนของเขาหงส์วิเศษมองหน้ากันเอง ทิ้งคนไว้คอยจับตาดู ส่วนคนอื่นกลับสำนัก

คนจากสำนักอื่นเห็นดังนั้นก็ลังเลเล็กน้อย

พวกเขารู้สึกถึงกลิ่นอายอันตรายด้านในประตูมังกรเบื้องล่างได้เช่นกัน แต่รู้สึกไม่ยินยอมอยู่บ้าง

มีคนไม่เชื่อ ทดลองเข้าประตูมังกร สุดท้ายถูกปราณมังกรที่น่ากลัวและแข็งกร้าวบดขยี้ ไม่เหลือแม้แต่ซาก

ทุกคนต่างหวาดกลัว พากันตัดใจชั่วคราว แต่ว่าทุกสำนักล้วนเหลือคนไว้คอยจับตาดูและหาโอกาส

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอกลับสำนัก หายนะที่สำนักมังกรโลหิตเป็นผู้ก่อก็ได้จบลงเช่นกัน

หลังจากเกิดเรื่องที่สำนักอัสนีเรืองรอง สำนักสังหารมังกรและเกาะวิญญาณหลอนก็หยุดการต่อสู้กับวังผลึกวารีและบึงกระบี่โดยสิ้นเชิง ทางวังผลึกวารีและบึงหมื่นกระบี่ก็ไม่ได้ขัดขวาง

ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสนใจการเปลี่ยนแปลงทางด้านทะเลรางเลือนและสำนักอัสนีเรืองรองอย่างใกล้ชิด หลังจากเข้าใจเรื่องราวแล้วก็วางมืออย่างรู้กัน ไม่ต่อสู้กันต่ออีก

โลกผืนสมุทรที่ไฟสงครามลุกลามไปทุกที่ หลังจากเหตุการณ์นี้ สถานการณ์ก็สงบลงอย่างรวดเร็ว

แต่ว่าบรรยากาศที่กดดันก็ยังคงอยู่ ทุกคนต่างคล้ายกับกำลังรออะไรบางอย่าง

กระนั้นในสงครามครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บล้มตาย ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

ทางด้านฝ่ายธรรมะ สำนักมังกรโลหิตแทบถูกล้างสำนัก มหาปรมาจารย์ขั้นบรรลุธรรมสองคนของเกาะจิตประสานเสียชีวิตทั้งคู่ วังผลึกวารีได้รับความเสียหายไม่น้อยในตอนที่ประสบการโจมตีเมื่อตอนแรก

ส่วนฝ่ายมาร ปราชญ์ปีศาจลิ่นเชียนเฉิงเสียชีวิต เจ้าสำนักตาข่ายปีศาจตกตาย สำนักอัสนีเรืองรองถูกทำลายราบพณาสูร

ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายธรรมะหรือฝ่ายมารต่างก็สูญเสียครั้งใหญ่

ส่วนในการต่อสู้ครั้งนี้ ชื่อเสียงของเยี่ยนจ้าวเกอก็เพิ่มขึ้นอีกระดับ แทบจะเหมือนดวงอาทิตย์กลางฟ้า

สำหรับยุทธจักรในโลกผืนสมุทร พลังของเยี่ยนจ้าวเกอจะกำราบเจ้าสำนักสังหารมังกรจ้าวจ้งและราชาวังผลึกวารีหลิ่นซื่อได้หรือไม่ยังไม่พูดถึง แต่ว่าในตอนนี้ความน่าเกรงขามของเขามีมากกว่าสองผู้ยิ่งใหญ่แห่งฝ่ายธรรมะและฝ่ายมารอย่างไม่ต้องสงสัย

โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้ธรรมะและมารตกตะลึงก็คือ นิ้วมังกรทั้งเก้า อาวุธศักดิ์สิทธิ์ของสำนักมังกรโลหิต ตอนนี้อยู่ในมือของเยี่ยนจ้าวเกอ

ถ้าหากปล่อยให้เยี่ยนจ้าวเกอหลอมนิ้วมังกรทั้งเก้าสำเร็จ เช่นนั้นเมื่อมีร่างแยกสมุทรสุดขอบโลกกับนิ้วมังกรทั้งเก้าอยู่กับตัว ชายหนุ่มจะกลายเป็นอันดับหนึ่งบนโลกผืนสมุทรอย่างไม่ต้องสงสัย

ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์หรืออาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เหลืออยู่ ก็จำเป็นต้องร่วมมือกัน ถึงจะสู้เขาได้

มาถึงตอนนี้ คนบนโลกผืนสมุทรเริ่มไม่ค่อยกล้าเรียกชื่อคนหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีผู้นี้ตรงๆ อีกแล้ว

ตอนแรกใช้ชื่อว่า ‘คุนเผิงหมอบ’ เนื่องจากคำเรียกนี้จะมากจะน้อยก็เป็นการพูดกระทบกระทั่ง ว่าเยี่ยนจ้าวเกอชอบใช้ซากจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์สุดขอบโลกจวงคุนแสดงอานุภาพ ดังนั้นตอนนี้เมื่อพูดถึงเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้คนจึงเปลี่ยนเป็นเรียก ราชันมังกรในม่านเมฆ หรือเยี่ยนในม่านเมฆแทน

ชื่อนี้หมายถึงเทพมังกรเห็นหัวไม่เห็นหาง ไม่เห็นร่องรอยในหมู่เมฆ ทว่าทุกคนล้วนกริ่งเกรงและเลื่อมใส ยอดฝีมืออายุเยาว์ที่มีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน ปรากฏตัวขึ้นบนโลกผืนสมุทรอย่างกะทันหัน และทำลายศิลาสั่นสะเทือนสวรรค์ทั้งที่โผล่มาได้ไม่นาน

ขุมกำลังระดับสุดยอดของฝ่ายธรรมะและอธรรมล้วนเป็นเช่นนี้ ขุมกำลังระดับกลางและระดับเล็กที่อยู่ด้านใต้ รวมถึงจอมยุทธ์พเนจร เวลาพูดถึงเยี่ยนจ้าวเกอ ต่างก็ยกย่องชมเชยเป็นอย่างมาก

คนหนุ่มผู้ทำให้ภารกิจที่หลายคนมิอาจทำได้ตลอดชีวิตให้สำเร็จลงได้ ความเร็วในการผุดขึ้นมาเรียกได้ว่าไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ กลายเป็นตำนานที่ยังมีชีวิตของโลกผืนสมุทร

ปัจจุบันมีเพียงแต่คนที่มีความแค้นกับเยี่ยนจ้าวเกอส่วนหนึ่งเท่านั้นที่พูดจาลับหลัง แต่ก็ได้แต่แอบพูดลับหลังเท่านั้น

สำหรับการพักที่เขาหงส์วิเศษชั่วคราวของเยี่ยนจ้าวเกอ ในตอนนี้เขาเป็นแขกที่มีเกียรติที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

“คิดจะเข้าประตูมังกร เกรงว่าต้องรออีกสักพัก ทุกท่านเตรียมระวังไว้ ถึงตอนนั้นจะเกิดโอกาสหายากขึ้น สำนักอื่นคงจะสั่งสมและเตรียมตัวอยู่เช่นกัน” เยี่ยนจ้าวเกอพูดพลางมองคนในเขาหงส์วิเศษที่อยู่เบื้องหน้า

เจ้าสำนักเขาหงส์วิเศษเกาเทียนจงพยักหน้าช้าๆ “ถูกต้อง หากถึงเวลาท่านได้โปรดช่วยเหลือด้วย”

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้มเล็กน้อย “เจ้าสำนักเกาเกรงใจเกินไปแล้ว”

หลังจากออกจากเขาหงส์วิเศษ เยี่ยนจ้าวเกอ สวีเฟย และสือจวินก็กลับทะเลเผาไหม้ด้วยกัน

สวีเฟยเดินไปพลาง กล่าวถามไปพลาง “จะกระทบต่อการกลับแปดพิภพของเจ้ากับอาจารย์ป้าฟู่หรือไม่”

เยี่ยนจ้าวเกอครุ่นคิดเล็กน้อย “ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ แต่ว่าเรื่องวุ่นวายอย่างการเปิดประตูมังกรทำให้เส้นสายปราณวิญญาณและเขตแดนมิติของโลกผืนสมุทรได้รับผลกระทบไม่น้อย”

เขาหยิบกระจกยังสูงส่งออกมา หลังจากผ่านการพักฟื้นระยะหนึ่ง บนผิวกระจกก็มีแสงกระจกสั่นไหวอีกครั้ง เพียงแต่ไม่ได้ปล่อยออกมาด้านนอก

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอใช้ความคิด ก็มีแสงกระจกสาดออกมาจากด้านใน ส่องไปทั่วบริเวณ

สวีเฟยกับสือจวินแยกแยะทิศทาง ก่อนจะงงงันเล็กน้อย “นั่นคือ…”

เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “ถูกต้องแล้ว ทิศทางของแนวเขาเปี่ยมขจีที่สำนักอัสนีเรืองรองเคยอยู่ บางทีอาจะอยู่ใกล้ที่ตรงนั้น แต่ก็อาจจะอยู่ในประตูมังกร”

“ดังนั้น การกลับแปดพิภพและการเข้าประตูมังกรอาจจะเป็นเรื่องเดียวกัน”

“กระจกยังสูงส่งยังไม่ฟื้่นสภาพดี รอมันฟื้นฟูเสร็จค่อยยืนยันตำแหน่งชัดเจนอีกครั้ง ถ้าหากเขตแดนมิติเปิดร่องแยกด้านในประตูมังกร ทางเชื่อมสายนั้นก็เป็นทางกลับบ้านของพวกเราด้วย”

ชายหนุ่มลูบคางของตัวเอง “ที่จริงข้าก็คาดไว้แต่ต้นแล้ว”

โลกแปดพิภพกับโลกผืนสมุทรต่างมีตำนานแดนฝูงมังกรฝังกระดูก สถานที่ที่มีความเป็นไปได้ที่ทางเชื่อมเขตแดนระหว่างโลกทั้งสองจะปรากฏขึ้นมากที่สุดก็คือที่นั่น

ตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอกับฟูเอินซูมาก่อนหน้านี้ สุสานมังกรยังไม่เปิดออกยังพอทำเนา ตอนนี้ประตูมังกรเปิดออกแล้ว มิติเวลาของโลกผืนสุมทรถูกรบกวน คิดจะไปยังแปดพิภพ ทางเชื่อมที่เกิดขึ้นจึงอาจจะเปิดในสุสานมังกร

เยี่ยนจ้าวเกอพึมพำกับตัวเอง “ไม่รู้ว่าทางด้านแปดพิภพเป็นอย่างไรบ้าง…”