ตอนที่ 704: เกราะไหมบรรพกาล (1)
ภายใต้สายตาที่จริงจังของหัวหน้ากลุ่มโจรนั้น เจี้ยนเฉินไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร เขาจ้องกลับไปที่หัวหน้ากลุ่มโจรอย่างเย้ยหยันและพูดอย่างเย็นชา “ข้าคือใครนั้นไม่สำคัญ ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อจุดประสงค์เดียว และนั่นคือพาเพื่อคุณหนูตระกูลเทียนฉินกลับบ้านอย่างปลอดภัย ตอนนี้ เจ้าเป็นเซียนสวรรค์วัฎจักรที่ 6 ซึ่งเป็นขั้นสูงสุด การไปถึงจุดนั้นมันไม่ง่าย ดังนั้นก่อนที่ข้าจะฆ่าเจ้า รีบปล่อยตัวคุณหนูซะ”
“เจ้าหนู เจ้าช่างพูดจายโสโอหังและไม่กลัวว่าจะลิ้นขาดเลยนะ เจ้าคิดว่าท่านหัวหน้าเป็นใคร ? ท่านหัวหน้าแข็งแกร่งเป็นรองแค่เซียนผู้คุมกฎ ทั้งในนามและในชีวิตจริง เขาฆ่าเซียนสวรรค์มาหลายคนและเป็นที่รู้จักดีในบริเวณโดยรอบ เจ้าหนูจอมโอหังกล้ามาพูดกับหัวหน้าแบบนี้ได้อย่างไร เจ้าสะกดคำว่าตายเป็นหรือไม่ ? “
“เจ้าเด็กอวดดี เจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ไหม เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใครกัน ? ทำไมพูดจาหยิ่งยโสโอหังกับหัวหน้าของเราแบบนี้ เจ้าจะต้องอยู่ได้ไม่ถึงสิ้นวันนี้เป็นแน่ ทำไมเจ้าไม่รีบขอโทษเสียล่ะ ? ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะยังเก็บศพของเจ้าให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์”
“เจ้ากล้าที่จะทำตัวหยิ่งยโสโอหังกับกลุ่มโจรมังกรวารีของข้าเช่นนี้ เจ้าจะไม่ได้ไปจากที่นี่แบบมีชีวิตอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้น พวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ? “
“ใช่ พวกเราจะให้พวกมันออกไปจากภูเขานี้ไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่าตระกูลเทียนฉินจะจ่ายอย่างงาม พวกมันจะได้รู้ว่าภูเขามังกรขนดไม่ใช่ภูเขาที่ใคร ๆ จะขึ้นมาก็ได้”
หลังจากที่เจี้ยนเฉินพูดจบ เสียงก่นด่าก็ออกมาจากรอบ ๆ พวกกลุ่มโจรรอบ ๆ ทั้งหมดสบถออกมาด้วยเสียงอันดัง ในขณะที่พวกเขากำลังมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างมุ่งร้าย สิ่งที่เจี้ยนเฉินพูดไปนั้นได้ยั่วยุพวกกลุ่มโจรที่ทะนงตัวและพวกกลุ่มโจรที่ขี้โมโห ถ้าหัวหน้าไม่ได้อยู่ที่นี่ละก็ บางทีพวกเขาอาจจะพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินเหมือนกับฝูงผึ้งเพื่อที่จะฆ่าเขาแล้วก็เป็นได้
หลังจากที่ได้ยินเสียงสาปแช่งรอบข้าง เจี้ยนเฉินยิ้มเย็นชาออกมาอย่างช่วยไม่ได้ สายตาเขามองอย่างเสียดแทงไปที่หัวหน้าที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูและพูด “หัวหน้ากลุ่มโจร พวกกลุ่มโจรที่นี่มือแปดเปื้อนไปด้วยเลือด ใครจะรู้ว่ามีกี่ชีวิตที่ต้องตายภายใต้น้ำมือเหล่านั้น พวกมันต้องทำแต่เรื่องชั่วร้ายมา พวกมันคือเนื้อร้ายของโลกใบนี้ ดังนั้นข้าสามารถที่จะฆ่าพวกมันได้โดยไม่ลังเลเลย ดังนั้นมันคงจะดีกว่า ถ้าเจ้าไม่ทำให้ข้าต้องไปฆ่าพวกมัน”
“บัดซบ เจ้าหนูนั้นเริ่มยโสโอหังมากขึ้นทุกที ๆ ท่านหัวหน้า ได้โปรดอนุญาตให้ข้าได้สู้กับมันเพื่อสั่งสอนเจ้าหนูผู้นี้ให้รู้ถึงบทเรียนที่มันพูดจากับเราแบบนี้” หนึ่งในชายชราข้าง ๆ หัวหน้าขออนุญาตอย่างช่วยไม่ได้ เขาเป็นผู้อาวุโสของกลุ่มโจรมังกรวารี และเป็นที่รู้จักดีในความใจร้อนและขี้โมโหของเขา เขาอยู่ในขั้นสูงสุดของเซียนสวรรค์วัฎจักรที่ 3
การยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่าของเจี้ยนเฉินทำให้หัวหน้ากลุ่มโจรแสดงท่าทีน่ารังเกียจออกมา เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างเยือกเย็นและมีแสงเป็นประกายปรากฎผ่านตาของเขา เขาพูดด้วยเสียงที่นุ่มนวล “ผู้อาวุโสหลุง ไปตัดลิ้นของเจ้าหนูนั้นมา”
“ได้เลย ท่านหัวหน้า” ผู้อาวุโสตอบกลับไปด้วยความตื่นเต้นและเดินไปข้างหน้าพร้อมกับจ้องมองเจี้ยนเฉิน อย่างดุร้าย จิตสังหารหลั่งไหลออกมาจากตัวของเขาโดยไม่ได้ปกปิดไว้แต่น้อยและเขาตะโกน “เจ้าหนู คำพูดของเจ้าช่างหยิ่งยโสนัก ถ้าเจ้ายังพูดจาแบบนี้อีก มันคงพาเจ้าไปสู่นรกสักวัน ให้ท่านปู่หลุงคนนี้จัดการการปัญหานี้เอง โดยการตัดลิ้นของเจ้าออกมาซะ” พลังเซียนปรากฏออกมาจากมือขวาของชายชรา มันเปลี่ยนออกมาเป็นอาวุธเซียนที่เหมือนตะขอยาวครึ่งเมตร หลังจากนั้น เขาก็โดดขึ้นไปบนอากาศแล้วพุ่งไปที่เจี้ยนเฉินดุจดั่งสายฟ้า เขาใช้อาวุธเซียนที่เหมือนตะขอในมือของเขาเพื่อที่จะแทงไปที่ปากของเจี้ยนเฉิน
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสามคนนั่งอย่างสงบอยู่บนสัตว์อสูรโดยที่ไม่ได้คิดจะสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวในการต่อสู้ ในเวลานี้ พวกเขาไม่ได้กังวลอะไรเลยแม้แต่น้อย เมื่อพวกเขาได้ประจักษ์ถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินแล้ว พวกเขารู้ดีว่ากลุ่มโจรมังกรวารีซึ่งเป็นที่รู้จักดีและน่ากลัวในบริเวณอาณาจักรรอบ ๆ นี้ก็อ่อนแอไม่ต่างกับฝูงมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเจี้ยนเฉิน โดยไม่สามารถทำอะไรต่อเขาได้เลย
“กลุ่มโจรมังกรวารีได้ทำตัวเหมือนเผด็จการมาหลายศตวรรษโดยที่ไม่มีใครกล้าพอที่จะไปยั่วยุพวกมันเลย แต่ตอนนี้มีคนไปแหย่รังแตนนั้นแล้ว” หัวหน้าตระกูลเทียนฉินหลบอยู่ด้านหลังของเจี้ยนเฉิน เขาจ้องมองไปที่กลุ่มโจรมังกรวารีอย่างยินดี และไม่ได้ห่วงเกี่ยวกับความปลอดภัยของเจี้ยนเฉินแม้แต่น้อย
ตอนที่ชายชรานั้นพุ่งมาที่เขา แสงรุนแรงก็เกิดกระพริบที่นัยน์ตาของเจี้ยนเฉิน เมื่ออาวุธเซียนที่เหมือนตะขอนั้นเข้ามาใกล้ตัวเขา เขาก็ยกมือขวาขึ้นมาอย่างไม่เร่งรีบ การขยับเหมือนกับจะช้ามาก แต่จริง ๆ แล้วมันเร็วอย่างเหลือเชื่อ มันเหมือนกับว่ามือของเขาได้ขยับผ่านระยะทางที่มีอยู่ไป ไปจับยังอาวุธเซียนที่เหมือนตะขอของชายชรานั้นนั้นด้วยความเร็วแสง
ร่างของชายชราที่พุ่งเข้ามานั้นหยุดทันที ร่างกายของเขาทั้งหมดลอยอยู่กลางอากาศ และคงอยู่ในท่าทางที่กะลังจะแทงเจี้ยนเฉิน นี่ไม่ได้เป็นเพราะว่าเจี้ยนเฉินใช้พลังมิติเพื่อหยุดชายชราไว้ แต่มันเกิดจากการที่ชายชราพุ่งเข้ามาแทง
เมื่อได้เห็นอาวุธเซียนถูกรับไว้ด้วยชายหนุ่มอายุยี่สิบเศษ ชายชราก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มเยาะและพลังเซียนในตัวของเขาก็ระเบิดออกอย่างรวดเร็ว และเข้าไปรวมอยู่ในอาวุธเซียน มันทำให้อาวุธเซียนเปล่งแสงสว่างออกมาทันที เพื่อหวังที่จะทำให้เจี้ยนเฉินบาดเจ็บที่มือด้วยพลังเซียนที่ทรงพลัง
แม้ว่ามือของเจี้ยนเฉินนั้นจะดูเล็กและอ่อนแอ แต่ตอนนี้มันเหมือนที่หนีบอันใหญ่ ซึ่งยึดอาวุธเซียนของชายชราไว้ไม่ให้ขยับได้ ไม่ว่าชายชราจะใส่พลังเซียนมากลงไปเท่าไร เขาก็ไม่สามารถสะบัดอาวุธที่ถูกเจี้ยนเฉินจับไว้อยู่ได้
“นะ นี่เป็นไปได้เช่นไร ? บางทีมือของเขาอาจจะลบล้างการโจมตีจากพลังเซียนได้หรือ ? ” ชายชราไม่สามารถรักษาความนิ่งได้เหมือนก่อนหน้านี้และรู้สึกตกใจ สถานการณ์ในตอนนี้ช่างต่างจากที่เขาจินตนาการไว้มากนัก ซึ่งมันยากที่จะยอมรับได้
แสงที่ดุดันส่องประกายเข้าไปในตาของหัวหน้าที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เขาพูดด้วยเสียงนุ่มนวล “เจ้าคนที่ถูกตระกูลเทียนฉินพามานี่เหมือนจะมีดีอยู่บ้าง แต่ถ้านี่คือทั้งหมดที่เขาทำได้ มันก็คงไม่ได้ออกไปจากภูเขามังกรขนดแน่นอนวันนี้ การป้องกันของร่างกายมันอาจจะสูงมาก แต่ต่อหน้าทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์แล้ว ตัวมันก็เหมือนเต้าหู้นั้นแหละ”
แคร่ก !
ทันใดนั้นเอง เจี้ยนเฉินใช้พลังบางอย่างทำให้อาวุธเซียนของชายชรานั้นแตกออก อาวุธเซียนนั้นเชื่อมโยงกับชีวิตผู้ใช้ ดังนั้นการที่อาวุธเซียนเสียหาย ชายชราก็ได้รับบาดเจ็บด้วย หัวใจของชายชราเหมือนถูกบีบ ทำให้เลือดพุ่งออกมาจากปากของเขา ในตอนนั้น ผิวหน้าของเขาซีดเผือด เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก
“ผู้อาวุโสหลุง ! ” เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนจากกลุ่มโจรมังกรวารีตกตะลึงเป็นอย่างมาก ผู้อาวุโส 2 คนโดดออกมาจากข้างหลังของหัวหน้าทันทีเพื่อที่จะช่วยชายชราพร้อมด้วยอาวุธเซียนที่แตกหัก
มุมปากของเจี้ยนเฉินแค่นยิ้มเย้ยหยันออกมา เขาไม่ได้ตั้งใจจะปล่อยให้ผู้อาวุโสหลุงรอดไปได้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงฟาดฝ่ามือไปที่หัวของผู้อาวุโสด้วยความเร็วแสง
“หยุดนะ ! “
“หยุดนะ ! “
ชายชราที่กำลังพุ่งเข้ามาทั้ง 2 ตะโกนออกมา อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจในเสียงนั้นและก็ปลดปล่อยฝ่ามือไปที่หน้าผากของผู้อาวุโสหลุงด้วยความเร็วสูง พลังบรรพกาลสีเงินหลั่งไหลเข้าไปที่สมองของผู้อาวุโสหลุงซึ่งทำให้วิญญาณของเขาหายไป
นัยน์ตาของผู้อาวุโสมืดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เขาจะล้มลงบนพื้น
“เจ้าหนู เจ้าอยากตายมากใช่หรือไม่ ! “
“เจ้าต้องชดใช้ที่ทำกับผู้อาวุโสหลุงเช่นนี้ ! “
ชายชรา 2 คนนี้มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้อาวุโสหลุง พวกเขาคำรามออกมาอย่างโกรธแค้นใส่เจี้ยนเฉิน ในขณะที่จ้องมองเขาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ หลังจากนั้นพวกเขาก็พุ่งตรงมาที่เจี้ยนเฉินโดยไม่ได้ลดความเร็วลง และแทงไปที่คิ้วและคอของเจี้ยนเฉินด้วยดาบของพวกเขา
เจี้ยนเฉินจ้องมองอย่างเย็นชากลับไปอย่างไร้เมตตา เมื่อดาบทั้งสองนั้นเข้ามาใกล้ เขาก็ได้ยื่นแขนออกไปข้างหน้า เมื่อมือของเขาสัมผัสถูกอาวุธเซียน พวกมันก็หักสลายไปจนถึงด้ามดาบ ท้ายที่สุด ฝ่ามือของเจี้ยนเฉินก็กระแทกไปที่หน้าอกของผู้อาวุโสทั้งสอง
ปัง ! เกิดเสียงดังขึ้น หน้าอกของเซียนสวรรค์ทั้งสองก็ยุบตัวลง ฝ่ามือของเจี้ยนเฉินนั้นดูเหมือนจะไม่มีคลื่นพลังงานอะไร แต่จริง ๆ แล้วมันซ่อนพลังเอาไว้อย่างมาก แค่ฝ่ามือนั้นมันก็ทำให้กระดูกทั้งหมดของเซียนสวรรค์ทั้งสองคนนั้นแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แม้แต่อวัยวะภายในของพวกเขาก็ถูกทำลาย
เซียนสวรรค์ทั้งสองของกลุ่มโจรมังกรวารีลอยกระเด็นไปด้านหลัง กระแทกไปที่กำแพงที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตร ทำให้เกิดรูที่กำแพงซึ่งถูกตกแต่งไปด้วยกระดาษสีแดง
รอบข้างเต็มไปด้วยความเงียบสงัด ทุกคนจ้องมองไปยังสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างประหลาดใจและมึนงง หัวใจของพวกเขาเต้นกระหน่ำ จอมยุทธทั้งสามของกลุ่มโจรมังกรวารีถูกกำจัดตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มสู้ ความแข็งแกร่งอันมหาศาลนี้ได้ส่งผลให้กลุ่มโจรมังกรวารีทั้งหมดต่างพากันตกใจอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครกล้าที่จะเอ่ยปากสั่งสอนบทเรียนอะไรกับเจี้ยนเฉินอีกเลย แม้แต่พวกโจรที่อยู่รอบ ๆ ตระกูลเทียนฉินก็เริ่มขาอ่อนและถอยหลังออกไปด้วยท่าทีที่หวาดกลัว
“เจ้ามีพลังมากมายถึงเพียงนี้ เจ้าต้องไม่ใช่คนไร้ชื่อเสียงเป็นแน่ ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้าคือใคร ? ” ท่าทางของหัวหน้าจริงจังในขณะที่จ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างพิจารณา
“ข้าจะถามเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าจะปล่อยคุณหนูหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินไม่ได้ตอบคำถามแต่กลับถามคำถามออกไปแทน น้ำเสียงของเขาเย็นเฉียบ
ท่าทางของหัวหน้าเริ่มเศร้าหมอง ด้วยเหตุการณที่เกิดมานี้ เขาก็เชื่อจริง ๆ แล้วว่าผู้พิทักษ์แห่งสวรรค์และโลกทั้งสี่คนถูกกำจัดด้วยน้ำมือของเจี้ยนเฉินจริง ๆ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้กลัวเจี้ยนเฉินแม้แต่น้อย เพราะว่าเขามั่นใจในพลังของตนเองมาก เขาเย้ยหยันออกมาทันที “ตอนแรกเจ้าฆ่าผู้อาวุโสตายไป 5 คนบนภูเขามังกรขนดของข้า หลังจากนั้นเจ้าก็ทำร้ายผู้อาวุโสทั้งสองต่ออีก ซึ่งข้าไม่แน่ใจว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า และเจ้าช่างโอหังนัก ดูเหมือนเจ้าจะตัดสินใจที่จะให้กลุ่มโจรมังกรวารีเป็นศัตรูของเจ้า นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาตัดสินใจที่จะทำกัน” ชิ้นหยกได้ปรากฏขึ้นมาที่มือของหัวหน้า หลังจากนั้น เขาก็บดขยี้มันโดยไม่ลังเล เพื่อเตือนให้จอมยุทธที่ฝึกตนระยะยาวอยู่ที่ด้านหลังภูเขาให้ได้รับรู้
ไม่นานหลังจากนั้น การมีอยู่ถึงพลังสิบกว่าสายก็ได้ปรากฏขึ้นด้านหลังภูเขา เซียนสวรรค์ 14 คนร้องคำรามขึ้นบนท้องฟ้า และรีบบินมาจากด้านหลังของภูเขา เซียนสวรรค์ 14 คนนั้นคืออาวุธลับอันสุดยอดของกลุ่มโจรมังกรวารี