Ch.20 – เพื่อนร่วมห้อง

Translator : Asiran / Author

ตอนที่****20 – เพื่อนร่วมห้อง

 

ชนะ!

ในชั่ววินาทีที่ฐานของศัตรูระเบิดออกเหออวี้ก็ถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก อาเคอของศัตรูถึงจังหวะการเล่นจะพังพินาศไปแล้ว การเงินก็อยู่ที่โหล่ แต่เหออวี้ก็ยังกลัวเขามากกว่าคนอื่น ๆ จะอย่างไรเขาก็ไม่มั่นใจในการบังคับควบคุมของตัวเองเลยสักนิด แล้วเพื่อนร่วมทีมของตนเองก็ไม่ได้เป็นอย่างเกาเกอและโจวม่อที่สนามรบฉางผิงเมื่อตอนบ่ายอีกด้วย ว่ากันง่าย ๆ คือไม่ได้มีการสื่อสารใด ๆ กันเลย สุดท้ายยังคงเป็นเหออวี้ที่ค้นพบลักษณะการเล่นของพวกเขาแล้วจงใจเข้าไปร่วมมือด้วยหลาย ๆ รอบ

เหนื่อยมาก แต่ก็น่าสนในมากด้วย ตอนที่เพิ่งจะเข้าเกมเหอวี้รู้สึกว่าตัวเองแทบจะสติแตกไปแล้ว แต่เล่นไปเล่นมาก็ไม่รู้สึกว่าเพื่อนร่วมทีมมันอุบาทถ์อีกต่อไป เพื่อนร่วมทีมพวกนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น พอถึงตอนจบเขาก็รู้สึกว่าก็น่ารักดี ในหน้าหลังจบเกมเขากดถูกใจให้ทุกคนเลย เพื่อนร่วมทีมก็เลิกระแวงแล้ว เขาที่ “แจกเฟิร์สบลัด” แต่ได้รับ MVP ของเกมได้รับการกดถูกใจตอบกลับมาเต็มที่

เหออวี้ยิ้มแล้วออกจากเกม จากนั้นก็เห็นแจ้งเตือนจากระบบ เปิดเข้าไปดูแล้วเป็นฉือลิ่วเย่ขอเป็นเพื่อนกับเขา

เหออวี้อึ้งไปแต่ก็ยังตอบรับคำขอ และได้รับข้อความจากฉือลิ่วเย่อย่างรวดเร็ว

“พี่น้อง อยู่แรงค์ไหน”

“bronze ไง” เหออวี้ตอบ

“ฉันถามถึงไอดีใหญ่ของนาย” ฉือลิ่วเย่พูด

“นี่แหละไอดีใหญ่” เหออวี้พูด

“หลอกใครน่ะ” ฉือลิ่วเย่ย่อมไม่เชื่อ bronze จริง ๆ จะเล่นจนตัวเองจังหวะการเล่นพังพินาศขนาดนี้ได้เลยหรือไง ตัวเองขยะขนาดนั้นเลยเหรอ

“ดูเกมมาไม่น้อย ไม่เคยเล่น” เหออวี้ตอบอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

“…” ยังจะพูดอีก ฉือลิ่วเย่ระแวงและพูดไม่ออก

“ไอดีใหญ่นายแรงค์อะไรล่ะ” ถึงคราวที่เหออวี้ถามกลับ

“platinum มั้ง…” ฉือลิ่วเย่ที่รู้สึกขาดความมั่นใจบอกแรงค์ของตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง จะอย่างไรก็เล่นแพ้มา ตอนนี้ยิ่งพูดแรงค์ตัวเองสูงเท่าไหร่ก็ไม่ยิ่งขายหน้ากว่าเดิมหรอกเหรอ

Platinum เหรอ แล้วก็มั้งด้วย แล้วก็ยังมีจุดอีก

ถึงเห็นว่าคำตอบแปลก ๆ เหออวี้ก็ไม่ได้ไปคิดมาก ตอนแรกเขาดูไม่ออกว่าฉือลิ่วเย่อยู่ระดับไหน แต่หลังจากเห็นการเล่นของเขาก็ไม่คิดว่าเขามีระดับสูงมากเป็นพิเศษ ถึงอาเคอจะสูญเสียจังหวะการเล่นไปเล็กน้อยก็ยังมีวิธีกลับมาได้อย่างรวดเร็ว จะอย่างไรนั่นก็เป็นจุดแข็งที่น่ากลัวของฮีโร่ ฉือลิ่วเย่เปิดมาการเงินพุ่งแรงมาก แต่สุดท้ายกลับเล่นจนกลายเป็นแบบนี้ ได้แต่บอกว่ายังไม่เก่งพอ

เหออวี้ปิดเกม พบว่าในกลุ่มเล็ก ๆ ของคลื่น7 มีข้อความแชตมากมาย

“ไลน์อัพได้อยู่ โคตร bronze”

“สี่คนมาแก้ง เจงกิสข่านม่องแน่…”

“เฟิร์สบลัด เละ”

“แครี่สองคนนั่นม่องแน่ อาเคอคนนี้เล่นเป็นนิ!”

“ม่องแน่…”

“เฮ้ย รอบนี้คิดดีนะ”

……….

……….

“เข้าใจล้วงนะ ในที่สุดก็จับจังหวะฆ่าของตัวเองได้แล้ว”

“ตอนนั้นควรจะไปฟาร์มป่าสิ ถ้าตัดเลนกลางแล้วเดินตามแครี่สองตัวดันไปก็ชนะไปนานแล้ว”

“เอาแต่ไล่ตามเจงกิสข่านไปอยู่ได้ บ้าการล้างแค้นไปหน่อยนะ”

“แครี่สองคนนั้นก็ตลกดีนะ ในหัวไม่ได้คิดอะไรเลยหรือไงกัน”

“น่าเสียดายจริง ๆ เปิดได้ดีแท้ ๆ”

เหออวี้ไล่ดู จากข้อความเยาะเย้ยไม่หยุดจนมาถึงบทสรุปช่วงท้ายก็เห็นได้ชัดว่านี่มันเกมที่ตัวเองเพิ่งจะเล่นไปนี่นา สองคนนั้นก็มาดูการแข่งด้วยเหรอ แต่สุดท้ายแล้วไอ้น้ำเสียงเสียดายเจ็บใจนี่มันอะไรกัน สองคนนั้นอยู่ฝั่งไหนกันแน่เนี่ย

“ผมว่านะ พวกพี่อยากให้ผมแพ้มากเลยเหรอ” เหออวี้ออดไม่ได้ต้องพิมพ์ลงไปในกลุ่ม

“ก็พูดกันตามตรง สถานการณ์ที่นำโด่งขนาดนี้มันดันจบแบบแบบนี้ได้ไงเนี่ย!” โจวม่อยังคงรู้สึกสงสารฉือลิ่วเย่ด้วยใจจริง

“ระดับไม่ดีพอ” เกาเกอพูด

“ผมเล่นเป็นยังไงบ้าง” เหออวี้ยังคงอยากจะฟังว่าทุกคนคิดเห็นอย่างไรกับเขา

“bronze จะมีอะไรให้พูดอีกล่ะ” เกาเกอตอบ

“เมื่อกี้ก็เห็น ๆ อยู่ว่าพวกพี่พูดกันคึกคักเลยนะครับ!” เหออวี้โต้

“น่าเบื่อ” เกาเกอพูด

“….”

ในขณะที่อึ้งจนพูดไม่ออกก็มีเสียงไขประตูดังขึ้น เพื่อนร่วมห้องของเหออวี้กลับมาแล้วในที่สุด เหออวี้มองดูเวลา นี่มันห้าทุ่มกว่าแล้ว พอมองไปที่ประตูอีกครั้งก็เห็นนักศึกษาชายหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งหลังสะพายเป้หนังสือเดินเข้ามา พอเห็นเหออวี้มองเขาอยู่ก็เริ่มทักทายขึ้นมาก่อน “สวัสดี”

“สวัสดี ฉันเหออวี้นะ” เหออวี้แนะนำตัวเองกับอีกฝ่าย

“เห็นจากบอร์ดประกาศแล้ว ฉันชื่อม่อเซี่ยน” เด็กหนุ่มพูดพลางเดินไปที่โต๊ะเรียนของตัวเอง วางเป้หนังสือลงบนโต๊ะ น้ำเสียงน่าฟังของเขาไม่ได้มีความกระตือรือร้นสักเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนว่าเป็นแค่การตอบอย่างสุภาพไปเท่านั้น เพียงสองประโยคสั้น ๆ ก็ทำให้คนคิดแล้วว่านี่เป็นคนที่คบหายากคนหนึ่ง

“นายไปทำอะไรมาน่ะ” เมื่อมองเห็นม่อเซี่ยนดึงหนังสือเรียนออกมาจากกระเป๋าเป้ เหออวี้ก็พยายามหาเรื่องคุยด้วย

“ติวรอบดึก” ม่อเซี่ยนพูด

“หะ” เหออวี้นึกว่าตัวเองได้ยินผิดไป

“ติวรอบดึก” ม่อเซี่ยนพูดซ้ำอีกรอบ แล้วเหลือบตาไปมองดูเหออวี้

เหออวี้ที่รู้สึกนับถืออย่างลึกซึ้งลงมาจากเตียง นี่มันเป็นวันรายงานตัวแท้ ๆ ยังไม่ถึงวันเริ่มเรียนอย่างเป็นทางการเลย มีการบอกรายชื่อตำราเรียนหรือยังน่ะ แล้วคอร์สเรียนน่ะรู้แล้วเหรอ ห้องติวหนังสือมันอยู่ที่ไหนเข้าได้รึยัง นี่เริ่มติวรอบดึกกันแล้วเหรอ ติวรอบดึกเนี่ยนะ

เหออวี้เดินสองสามก้าวเข้าไปหาโต๊ะเรียนของม่อเซี่ยน ส่องดูของที่ม่อเซี่ยนหยิบออกมาจากกระเป๋า ชื่อหนังสือ “หลักการคณิตศาสตร์ว่าด้วยปรัชญาธรรมชาติ” พุ่งเข้าสู่สายตา นี่มันหนังสืออะไรเหออวี้ก็ไม่รู้สักนิด แต่ก็ยังเหลือบไปดูชื่อคนแต่ง — นิวตัน ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงพลังแห่งความรู้ที่พุ่งเข้ากระแทกหน้า ทำให้เขารู้สึกอยากจะคุกเข่ากราบกรานขึ้นมา

เพื่อนร่วมห้องของตนคนนี้จะต้องเป็นพวกเด็กเนิร์ดในตำนานแน่ ๆ “นายได้คะแนนตอนสอบเข้ามาเท่าไหร่” ซึ่งเป็นคำถามที่พวกเด็กใหม่มักจะเอามาถามกันเองที่หอพักเกรงว่าคงจะเป็นการหาเรื่องเจ็บตัวแน่ ๆ ตอนนี้การไปแปรงฟันซะคงจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดที่สุด

“ฉันไปล้างหน้าล้างตาก่อนนะ” เหออวี้ระงับสติแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

“โอเค” ม่อเซี่ยนที่อยู่ตรงนั้นก็ส่งเสียงตอบรับและเก็บของของตัวเองต่อ จนกระทั่งแต่ละคนต่างนอนลงบนเตียง เด็กหนุ่มทั้งสองก็เริ่มพูดคุยกันอีกรอบ

“ปิดไฟไหม” เหออวี้ถาม

“โอเค ขอบคุณ” ม่อเซี่ยนพูด

บทสนทนาจบลง ทั่วทั้งห้องมืดสนิท เหออวี้ยังไม่หลับ ถ้าเกิดเพื่อนร่วมห้องเป็นคนธรรมดา ตอนนี้เขาก็คงจะถามไปแล้วว่าอีกฝ่ายเล่น The Kings of Glory รึเปล่า แต่ว่านิสัยเย็นชาของม่อเซี่ยนรวมทั้งเจ้า “หลักการคณิตศาสตร์ว่าด้วยปรัชญาธรรมชาติ” เล่มนั้นทำให้เหออวี้ละทิ้งความคิดนี้ไปจนหมดสิ้น เขาเชื่อว่าม่อเซี่ยนที่ติวหนังสืออย่างขยันขันแข็งคงจะไม่ได้ไปศึกษาหาความรู้เรื่องหุบเขากษัตริย์แน่นอน

เหออวี้นอนจิ้มโทรศัพท์มือถือ พบว่าเกาเกอและโจวม่อก็กล่าวคำอำลากันกันไปแล้ว เป็นเหอเหลียงที่ส่งข้อความมาให้เขา

“เล่นได้ไม่เลว”

“พี่ก็ดูด้วยเหรอครับ” เหออวี้แจ่มใสขึ้นมา

“ดู จังหวะการเล่นดีมากเลย” เหอเหลียงตอบ

“แล้วไงต่อ” เหออวี้ถาม

“ยังจะมีอะไรต่อล่ะ”

เหออวี้หดหู่ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่การเล่นแรงค์ต่ำแต่มันก็ยังน่าสนใจออกจะตายไปนี่นา ทำไมทุกคนดูเหมือนจะคิดว่าการเล่นของเขามันโคตรน่าเบื่อไม่มีอะไรให้พูดถึงเลยกันหมดนะ

เหออวี้วางโทรศัพท์ลงแล้วแหงนหน้ามองเพดานห้อง

สำหรับเขาแล้ว การก้าวเข้าสู่หุบเขากษัตริย์นี่ก็เหมือนกับการก้าวเข้าสู่ช่วงชีวิตใหม่ เหมือนกับการได้เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เฝ้าฝันถึง ในแรงค์ bronze จากตอนแรกที่แทบจะสติแตกจนมาถึงตอนจบที่สุดท้ายก็ชนะ ความสนุกของเหออวี้ไม่ได้อยู่แค่ตอนที่ฐานของศัตรูแตกเท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่เขาดูการแข่งขันมามากมายก็ไม่ได้รับประสบการณ์แปลกใหม่แบบนี้เลย เขาไม่รู้ว่าจะบรรยายมันอย่างไรดี ตอนนี้ได้แต่สรุปอารมณ์ความรู้สึกของเขาออกมาสั้น ๆ แค่ว่า — สนุกดี

ด้วยอารมณ์ความรู้สึกเช่นนี้เอง เหออวี้ก็ค่อย ๆ เคลิ้มหลับไป

ในห้วงฝันอันง่วงงุนของเขาเหมือนจะได้ยินเสียงจากระบบดังสะท้อนในใบหูว่า “Penta Kill”

………………………………..

หลักการคณิตศาสตร์ว่าด้วยปรัชญาธรรมชาติ (Philosophiæ Naturalis Principia Mathematica) หนังสือภาษาละตินที่โด่งดังไปทั่วโลกของเซอร์ไอแซค นิวตัน (คนที่ทำแอปเปิ้ลตกใส่หัวแล้วได้ทฤษฎีแรงโน้มถ่วงมาอะค่ะ) เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหนังสือที่สำคัญที่สุดในโลกด้านวิทยาศาสตร์เลย โดยเฉพาะกับพวกนักฟิสิกส์ทั้งหลายเรียกว่าเอามาบูชากันเลยล่ะค่ะ ขนาดเราที่เรียนเลขเป็นหลักยังคุ้น ๆ ชื่อ The Principia เลย

 

น้อง ………. โอ๊ย นึกถึงม.ปลาย ตอนที่เรานอนกลิ้งอ่านการ์ตูน (ตรงข้ามรร.มีร้านเช่า) อ่านนิยาย (ห้องสมุดรร.มีเยอะมาก) เข้าห้องคอมเล่นเกม เพื่อนร่วมห้องในหอก็มีคนที่อ่านหนังสือจริงจังเหมือนกัน ประมาณว่าวันปกติทุกคนนอนกันหมดแล้วมีเราตื่นอ่านนิยายอยู่คนเดียว ส่วนวันสอบตรงข้ามคือเพื่อน ๆ นั่งติวกันครึกโครม เรานอนแต่หัววัน  ส่วน ป.ตรีโชคดีหน่อยที่ทุกคนขี้เกียจพอกัน 555