ตอนที่ 1132 - มังกรวารีผู้เป็นเทพอสูร

The Divine Nine Dragon Cauldron

โครงกระดูกสีทองนั้นมีกะโหลกของมังกรวารีและกระดูกของมนุษย์
  โครงกระดูกจ้องซือหยูด้วยแววตาว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยเพลิงหยกมันราวกับสงสัยว่าเคยเจอซือหยูมาก่อนหรือไม่
  “กัง…กังต้าเหล่ย!”
  ซือหยูตกใจมาก
  เขาจะไม่ตกใจเลยหากโครงกระดูกที่ซ่อนอยู่ในเขาห้าธาตุจะเป็นเทพแต่นี่คือโครงกระดูกของสหายเก่า!
  ในบรรดาคนที่ซือหยูรู้จักคนเดียวที่มีหัวเป็นมังกรวารีและมีร่างกายเป็นมนุษย์ก็คือกังต้าเหล่ย!
  เขาเป็นศิษย์ของผู้เฒ่าจิวที่คอยปกป้องก้นบึ้งมังกรเก้านรก
  เขามาอยู่ที่นี่ในภูเขาโบราณที่มีประวัติศาสตร์หลายแสนปีได้ยังไง?   แล้วก็ทำไมเขาถึงเหลือแค่โครงกระดูก?
  กังต้าเหล่ยเกาหัวจ้องซือหยูครู่หนึ่งดูเหมือนว่าเขาจะยังสับสน สุดท้ายเขาก็เดินเข้าถ้ำต่อไป
  ซือหยูที่ยังตกใจและสับสนมองกังต้าเหล่ยเมื่อเดินตามเขา
  “หึ!หึ! การผสานระหว่างมังกรวารีกับมนุษย์ช่างหาได้ยากนัก!”
  เสียงของเทพปีศาจดังในหัวซือหยู
  “เจ้ารู้จักเขาใช่ไหม?”
  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ
  “ใช่!เขาคือสหายข้า เขามาจาก…”
  จากนั้นซือหยูก็หยุดพูดชีวิตของกังต้าเหล่ยนั้นมีแต่ความลึกลับ เขาถูกผู้เฒ่าจิวพามาจาก…เขตกลาง
  “น่าเสียดายที่เขาตายไปแล้วมิเช่นนั้นเราจะจับตัวเขามาศึกษาได้ ยากมากที่จะได้เห็นมังกรวารีกึ่งมนุษย์ที่มีชีวิตรอด ข้าเชื่อว่ามังกรวารีที่ให้กำเนิดเขาจะต้องเป็นมังกรที่ยอดเยี่ยมแน่!”
  เทพปีศาจอุทาน
  ตาย…ซือหยูตกใจกับคำพูดของเทพปีศาจ
  กังต้าเหล่ยมาถึงจิวโจวโดยตามคนเฉินหลงเข้ามา
  แล้วกังต้าเหล่ยจะตายได้ยังไง?แล้วคนอื่นเล่า? จิงหยูอยู่ที่ไหน? แล้วเซี่ยนเอ๋อล่ะ?
  ประกอบกับการหายตัวไปของผู้เฒ่าเหลียวซือหยูเริ่มรู้สึกไม่ดีและกังวลใจอย่างมาก
  แต่ซือหยูก็บอกตัวเองได้ว่านี่ไม่ใช่เวลามากระวนกระวาย
  ราชาเขตกลางจะมาถึงในอีกไม่นาน
  เพื่อที่จะรู้ว่าคนที่มาจากเฉินหลงเป็นอย่างไรเขาจะต้องผ่านวิบัติไปให้ได้เสียก่อน
  ซือหยูฝืนลืมความกังวลและนั่งลงบนพื้นเขาเริ่มใช้เวลาทำความเข้าใจอักษรอสูร
  เมื่อเวลาผ่านไปความเข้าใจในอักษรอสูรของซือหยูล้ำลึกขึ้นเรื่อย ๆ
  ความหมายของอักษรชัดเจนขึ้นภายใต้แรงกดดันของธาตุทั้งห้า
  เขาเชื่อว่าเขาจะเข้าใจมันได้ในอีกครึ่งวัน
  …
  ณที่แห่งหนึ่งในเขตกลาง
  ฮั่นเสวียนโกรธมากเพราะเท้าของนางถูกพันธนาการเอาไว้กับแท่งเหล็กประหลาดและโซ่ยาว
  แท่งเหล็กฝังลึกอยู่ในพื้นมันมีพลังอันน่ากลัว
  วัตถุดิบของแท่งเหล็กนี้ยอดเยี่ยมมากฮั่นเสวียนพยายามจะทำลายมัน แต่นางก็พบว่าโซ่กับแท่งเหล็กนั้นแข็งแรงเกินไปสำหรับนาง
  นางจ้องมองสาวน้อยตรงหน้าและพูดด้วยความโมโห
  “ศิษย์น้องสามอาจารย์รู้หรือไม่ว่าเจ้าขังขาไว้ที่นี่?”   “ไม่!”
  สาวน้อยตอบอย่างไร้อารมณ์
  ฮั่นเสวียนถอนหายใจ
  “เจ้าคิดจะทำอะไร?ข้าอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว เจ้าขอให้บ้าบ่มเพาะวิชาหยกสตรีน้ำแข็งสวรรค์และให้โอสถหายากทั้งหมดกับข้าเพื่อที่ข้าจะได้เข้าใจวิชาขั้นสุดท้าย!”
  นางสงสัยว่าเหตุใดอาจารย์และศิษย์น้องสามต้องการให้นางบ่มเพาะวิชานี้ได้สำเร็จนัก
  นางเรียนรู้วิชานี้จากอาจารย์นางไม่รู้ว่าวิชานี้ใช้ทำอะไรเพราะนางไม่อยากรู้ เพราะอย่างไรนางก็เรียนรู้ทุกอย่างที่ได้มาจากอาจารย์
  และตอนนี้นางรู้แล้วว่าวิชานี้ค่อนข้างพิเศษ แม้ว่านางจะเป็นคนโง่ก็ตาม
  “เจ้าไม่รู้หรือ?บ่มเพาะต่อไปก็พอแล้ว!”
  ศิษย์น้องสามกล่าวอย่างไร้อารมณ์นางนั่งข้างฮั่นเสวียนด้วยความรู้สึกซับซ้อนในดวงตาสดใส  จากนั้นนางก็เงยหน้าพู฿ดเบาๆ
  “ข้าเดาว่าเจ้าจะบ่มเพาะจบในสามวันครึ่ง!”
  ในสามวันครึ่งวิบัติผู้คนจะเกินขึ้น
  ผู้มาเยือนที่ไม่คาดคิดได้ปรากฏตัวที่ชายแดนทวีปบูรพา
  เกิดรอยแยกมิติขนาดใหญ่ชายหนุ่มสวมชุดสีทองก้าวออกมา
  ฟ้าดินเงียบกริบทุกสิ่งทุกอย่างกลั้นหายใจราวกับหวาดกลัวราชาแห่งจิวโจว
  เขามองภูเขาและแม่น้ำหลายพันสายจากนั้นจึงมองไปที่เมืองกลางทวีปบูรพา
  เขายิ้ม
  “เจ้ามดปลวก!ข้ามาแล้ว! ไม่มีใครบนโลกช่วยเจ้าได้อีกแล้ว!”
  …
  ที่เมืองกลางทวีปบูรพาหญิงชราสองคนนั่งอยู่ในห้องลับ  นางหนึ่งสวมชุดดำขณะที่อีกคนสวมชุดขาว
  หญิงชราชุดดำสีหน้าตึงเครียดนางลืมตาช้า ๆ
  “เจ้าสัมผัสได้หรือไม่?”
  หญิงชราชุดขาวเองก็ลืมตาและพยักหน้า
  “ราชาเขตกลางกำลังมา!”
  “เราจะทำอย่างไรดี?พวกเราจำเป็นจริง ๆ หรือที่ต้องหยุดวิบัติผู้คนให้ซือหยู?”
  หญิงชราชุดดำถามด้วยความลังเล
  หญิงชราชุดขาวตอบอย่างหนักแน่น
  “แน่นอน!”
  “ราชาเขตกลางทะเยอทะยาน!มันฆ่าราชาจิวโจวเฉินอี้เจิงและคุกเข่าให้กับเซียนมณี ข้าไม่รู้ว่ามันจะแข็งแกร่งเพียงใดหลังจากผ่านมาร้อยปี!”
  สตรีชุดดำกล่าว
  ในฐานะที่เป็นตระกูลที่ดำรงอยู่มานานที่สุดประวัติศาสตร์ตระกูลบูรพานั้นยาวนานเสียยิ่งกว่าประวัติศาสตร์ของทวีป
  ต่อหน้าตระกูลนี้ทวีปจิวโจวหาได้มีความลับไม่
  “ไม่ว่ามันจะแข็งแกร่งเพียงใดเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน เจ้าหนูนั่นอาจได้ตั๋วที่คุ้มค่ากับการเสียสละทั้งหมดของตระกูลบูรพา และข้าก็เชื่อว่าเราสองคนหยุดเซียนคนเดียวได้!”
  หญิงชราชุดขาวกล่าว
  หญิงชราชุดดำเงียบไปครู่หนึ่งนางพยักหน้าในไม่นาน
  “ย่อมได้!พยายามเพื่อตั๋วของเราเถอะ แม้ว่าจะต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยง!”
  ด้านในเขาห้าธาตุซือหยูเหงื่อไหลเต็มหน้า เขาตัวสั่นอย่างรุนแรงในเวลานี้
  เขาถูกล้อมด้วยวงแสงห้าสีแต่ละวงแสงนั้นแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ
  คุกเทวะห้าธาตุในมือปกคลุมด้วยแสงหลากสี  คุกเทวะห้าธาตุนั้นสั่นหลายครั้งราวกับว่าจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
  สัญญาณหลายอย่างบอกว่าความเข้าใจคุกเทวะห้าธาตุของซือหยูมาถึงจุดสำคัญแล้ว
  ในตอนนั้นเองซือหยูลืมตา ลำแสงหลากสีพุ่งออกมาจากดวงตาของเขาออกจากถ้ำ
  ตงฟางอวี่ที่นั่งรออย่างเงียบเชียบด้านนอกถ้ำชักสีหน้านางรีบหลบลำแสง
  จากนั้นลำแสงทั้งสองก็หายไปในท้องฟ้าหลังจากสร้างหลุมมิติทมิฬในความว่างเปล่า
  ตงฟางอวี่พูดด้วยความตกใจ
  “พลังห้าธาตุของเขาแข็งแกร่งจนทำลายมิติได้แล้ว!เขาบ่มเพาะธาตุทั้งห้าจนถึงระดับสูงสุดแล้วหรือ?”
  จากเท่าที่นางรู้บรรพบุรุษของนางได้ศึกษาพลังของห้าธาตุและมีพลังในระดับสูง
  มันเป็นพลังที่เหนือขีดจำกัดของคนทั่วไป!
  แต่บรรพบุรุษของนางก็บ่มเพาะได้โดยใช้เวลาอย่างยาวนานแล้วซือหยูอายุเพียงเท่าไหร่กัน?
  ตงฟางอวี่ตกใจมากนางลังเลยิ่งกว่าเดิม
  เหตุผลในใจบอกนางว่านางมิอาจบังคับซือหยูให้ทำตามใจได้
  หลังจากลังเลอีกครู่หนึ่งนางก็หันหลังจากไป นางไม่ได้ยินเสียงตะโกนด้วยความดีใจของซือหยูในถ้ำ
  “ในที่สุดข้าก็ทำได้แล้ว!”
  ซือหยูมองคุกเทวะห้าธาตุในฝ่ามือด้วยความดีใจและเช็ดเหงื่อบนใบหน้า
  การบ่มเพาะสมบัติศักดิ์สิทธิ์เป็นเรื่องยากถึงที่สุด!
  เขาต้องใช้ความพยายามอย่างยาวนานเพื่อที่จะทำมันได้สำเร็จ
  หลังจากเข้าใจอักษรทั้งร้อยตัวเขาสามารถควบคุมคุกเทวะห้าธาตุได้แล้ว เขาใช้พลังหนึ่งในสิบของมันได้แล้ว
  ขณะที่ซือหยูกำลังดีใจมังกรวารีเองก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งในมิติมืดด้านในคุกเทวะห้าธาตุ
  “ฮ่าๆๆๆ!สุดท้ายมันก็บ่มเพาะเสร็จแล้ว! พระเจ้าช่วยเหลือคนที่พยายาม ในที่วันนี้ก็มาถึง!”
  มังกรวารีตะโกนด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า
  “เทพมังกรน้ำแข็งเจ้าขังข้าให้อยู่ในนี้มาแสนปี พอข้าได้ออกไป ข้าจะฆ่าลูกหลานเจ้าให้หมดเลย!”
  เสียงคำรามอย่างดุร้ายของเขาดังแสบแก้วหู
  “ข้าจะหนีไปจากที่นี่ตอนที่มันเปิดคุกเทวะห้าธาตุ!”
  มังกรวารีรอคอยเวลาที่ซือหยูจะลองใช้งานคุกเทวะห้าธาตุ
  แต่ผ่านไปนานซือหยูก็ไม่ทำอะไรมังกรวารีกลอกตา จากนั้นมันก็แปลงกายเป็นมังกรภาพลวงคลานออกมาจากคุกเทวะห้าธาตุ  “ยินดีด้วย!ในที่สุดเจ้าก็ทำได้แล้ว!”
  มังกรวารีพูดอย่างมีความสุขสีหน้าดุร้ายของมันหายจากใบหน้าไปนานแล้ว
  ซือหยูที่ไม่แปลกใจเลยพยักหน้าอย่างใจเย็น
  “ใช่แล้ว!ข้าทำได้”
  “แล้วข้าจะใช้มันยังไง?ใช้พลังเหมือนตอนที่ข้าใช้คลื่นห้าชีพจรหรือ?”
  มังกรวารีส่ายหน้าอย่างแรง
  “ไม่!เจ้าเข้าใจอักษรอสูรร้อยตัวแล้ว เจ้าใช้พลังพลังที่แท้จริงของคุกเทวะห้าธาตุได้แล้ว! เจ้าแค่ต้องใช้มันจากคาถาของข้า!”
  “ย่อมได้!คาถาว่าอย่างไรล่ะ?”
  มังกรวารีพยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะกลบความตื่นเต้นในใจไม่ให้ซือหยูสัมผัสได้จากนั้นมันก็ร่ายคาถาประหลาดออกมา
  เมื่อกำลังท่องคาถาคุกเทวะห้าธาตุสั่นราวกับสัมผัสบางอย่างได้  “เจ้าจำได้หรือไม่?”
  มังกรวารีจ้องซือหยูหลังจากที่ท่องคาถา
  ซือหยูพยักหน้า
  “เอาล่ะเจ้าลองใช้พลังของมันดูสิ เชื่อข้า เจ้าจะต้องประทับใจแน่!”
  มังกรวารีกล่าว
  แต่ซือหยูเพียงแค่จ้องมังกรวารีโดยไม่ขยับตัว
  สายตาใจเย็นของมันกรวารีทำให้ซือหยูไม่สบายใจซือหยูยิ้ม
  “อะไรของเจ้า?เจ้าไม่อยากจะควบคุมคุกเทวะห้าธาตุรึ?”
  ซือหยูส่ายหน้า
  “บอกตามตรงข้าไม่อยากจะถูกคนอื่นควบคุมหรอก!”
  “เจ้าหมายความว่ายังไง?”
  มังกรวารีหัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะแต่ใบหน้ามันก็แสร้งแสดงความสับสนออกมา  ซือหยูพูดต่อ
  “เจ้าไม่เหนื่อยรึที่แสร้งทำเป็นจิตวิญญาณสมบัติมานานเช่นนี้?”
  มังกรวารีงุนงงในสายตาซือหยู มันบอกได้เลยว่าซือหยูรู้ความจริงแล้ว มังกรวารีหายใจเข้าลึกและพูดอย่างชั่วร้าย
  “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าไม่ใช่จิตวิญญาณสมบัติ?”
  ซือหยูตอบอย่างใจเย็น
  “เพราะเจ้าไม่เคยเรียกข้าว่าเจ้านายนั่นก็เป็นไปไม่ได้ว่าเจ้าคือจิตวิญญาณสมบัติ!”
  จิตวิญญาณสมบัติควรจะเคารพผู้ถือครองมันคือหลักการที่ไม่มีทางเปลี่ยน
  มังกรวารีเพียงแค่เรียกซือหยูว่า‘เจ้า’ หรือ ‘เจ้าหนู’ เพราะมันไม่อยากเรียกซือหยูว่า ‘เจ้านาย’ แม้แต่น้อย
  “เพราะแบบนี้รึ?”
  มังกรวารีจ้องซือหยู  ซือหยูตอบ
  “แล้วจะมีอะไรอีกเล่าท่านเทพอสูร? ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็เป็นเจ้าของจริงของคุกเทวะห้าธาตุ!”
  เมื่อได้ฟังมังกรวารีเบิกตากว้าง จากนั้นมันก็ถามด้วยความหวาดกลัว
  “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้าเป็นเทพอสูร?ข้าไม่เคยเปิดเผยสิ่งที่เป็นพลังเทพอสูรกับเจ้า!”
  มังกรวารีมองรอบๆ ก่อนจะจ้องลึกข้างในภูเขา
  “แล้วก็ใครบอกเจ้าว่าข้าเป็นเจ้าของคุกเทวะห้าธาตุ?”