จวินอู๋เสียไม่ได้ออกจากห้องเลยตลอดสามวัน นอกจากเจ้าแมวดำ ไม่มีใครรู้ว่านางทำอะไรอยู่ในนั้น
ในวันที่สาม เมื่อดวงอาทิตย์แตะเส้นขอบฟ้า แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างกระทบกับพื้นดิน
ในห้องที่เงียบสงัด เศษซากสมุนไพรกระจัดกระจายเกลื่อนพื้น รวมทั้งขวดที่วางอยู่เต็มพื้นที่
จวินอู๋เสียนั่งอยู่บนพื้น กำลังปิดฝาขวดใบสุดท้าย นางถอนหายใจเบาๆ ดวงตามองไปที่ขวดยาในมือ แววตาของนางเย็นชา ไม่มีใครรู้ว่านางกำลังคิดอะไร
เจ้าแมวดำลุกขึ้นยืน อุ้งเท้าเล็กๆของมันก้าวไปบนพื้นที่ว่างระหว่างเศษซากสมุนไพรบนพื้น และเดินเข้าไปที่ข้างกายนาง “เหมียว” มันส่งเสียงครืดคราดเบาๆและอ่อนโยน พร้อมกับเอาตัวถูไถหลังมือของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นลูบหัวมันเบาๆ จากนั้นก็กวาดขวดยาทั้งหมดบนพื้นลงกระเป๋ามิติ
ความพยายามดิ้นรนตลอดสามวันจะแลกมาซึ่งชัยชนะได้หรือไม่?
ไม่มีใครรู้
……………
มันเป็นวันที่สดใสในฤดูใบไม้ผลิ ดวงอาทิตย์ส่องสว่างเจิดจ้า ท้องฟ้าโปร่งไร้เมฆ ภูเขาที่เขียวขจียิ่งดูสง่างามภายใต้แสงตะวัน นกร้องขับขานคลอไปกับเสียงน้ำไหล ไม่มีใครคิดว่าสถานการณ์บนยอดเขาฝูเหยาจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
สำนักธาราเมฆที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่าครึ่งปี ทันใดนั้นก็มีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามารบกวนความเงียบสงบภายในสำนัก
ภายใต้แสงอาทิตย์ที่เจิดจ้า ผู้คนหลั่งไหลออกมาจากอาคารของสำนักธาราเมฆกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ผู้คนนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของสำนักธาราเมฆ
ด้านหน้ารูปปั้นหินก้อนเมฆซึ่งเป็นสัญลักษณ์ความรุ่งโรจน์ของสำนักธาราเมฆ ศิษย์เก้าอารามที่แต่งตัวเรียบร้อยยืนอยู่ทั้งสองข้าง แต่ละคนมีสีหน้ามืดมน ต่างยืนนิ่งอยู่กับที่โดยไม่พูดอะไรสักคำ
คนกลุ่มใหญ่ที่ออกจากอาคารสาขาจ้าววิญญาณล้วนมีรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดี แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เรียบหรู
ในอาณาจักรกลาง ศิษย์ของเก้าอารามนับว่าเป็นมังกรในหมู่มนุษย์ แต่เมื่อพวกคนในชุดดำปรากฏตัว ลมหายใจของศิษย์เก้าอารามทั้งสองข้างก็ระส่ำระส่าย พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าพวกชายชุดดำตรงๆ ได้แต่ก้มหน้าแอบดูเท่านั้น
ท่ามกลางกลุ่มชายชุดดำที่น่าเกรงขาม พลันปรากฏร่างที่น่าตกใจขึ้น
เสียงฆ้องดังก้องไปทั่วจัตุรัสกว้าง ผู้หญิงผอมบางคนหนึ่งค่อยๆเดินเข้าสู่สายตาของศิษย์เก้าอารามภายใต้การเร่งของชายชุดดำ นางดูเป็นหญิงสาวในวัยยี่สิบปี ร่างสูงเพรียว แววตาดื้อรั้นไม่ยอมคน นางควรเป็นหญิงงามคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในอารมณ์ชื่นชมความงามของนาง novel-lucky
นางถูกล่ามด้วยตรวนเหล็กหนาหนักรอบข้อเท้า ผิวขาวเนียนเต็มไปด้วยบาดแผลที่เกิดจากโซ่ตรวนซึ่งรัดแน่นรอบข้อเท้าของนาง นางเดินเท้าเปล่า หนังเท้าแตกทิ้งรอยเลือดเป็นทาง แต่ละก้าวของนางจะทิ้งรอยเท้าสีแดงเอาไว้ตามทางที่นางเดินผ่าน ภาพรอยเท้าสีแดงเลือดดูน่าขนลุกอย่างยิ่ง
ไม่เพียงแต่เท้าของนาง แต่บนร่างของผู้หญิงคนนั้นก็เต็มไปด้วยบาดแผลสดๆ ไม่มีส่วนไหนที่ยังสมบูรณ์ดีอยู่เลย เสื้อผ้าของนางขาดวิ่น เปื้อนทั้งเลือดและโคลน สีเดิมเป็นสีอะไรก็ไม่สามารถบอกได้ บนมือที่ผอมแห้งคู่นั้นถูกล่ามไว้ด้วยกุญแจมือ โซ่จากกุญแจมือยาวไปถึงข้างหลัง ลูกเหล็กขนาดใหญ่เท่าศีรษะถูกผูกติดไว้ทำให้ทุกก้าวที่นางเดินคือความทรมานอย่างยิ่ง