ตอนที่ 802 เริ่มสู้กันเอง

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

อู๋ตี้หรี่ตายิ้มอย่างอันตราย และกล่าวว่า “เจ้าแน่ใจแล้วเหรอว่าจะตั้งตนเป็นศัตรูกับข้า?”

พลังการกดดันอันน่าสะพรึงกลัวพัดกระโชกมา

นั่นไม่ใช่พลังการกดดันของระดับขั้น แต่เป็นการพลังการกดดันมาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ

ร่างอันใหญ่มหึมาของสัตว์อสูรมรกตตนนั้นอดไม่ที่จะสั่นกลัว

พลู! เปลวไฟอันแดงฉานพุ่งออกมาตบไปทั่วทุกสารทิศ

เสี่วหงกล่าว “ในเมื่ออยากจะต่อสู้ พวกข้าก็ยินดีที่จะตอบสนอง เจ้าแมวโง่นี่ได้เลื่อนขั้นแล้ว ข้ารู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมากเลยล่ะ ข้าไม่มีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ให้ประมือทำให้ข้าเลื่อนขั้นอยู่พอดี เจ้ามาสู้กับข้าเถอะนะ”

เห็นได้ชัดว่าเป็นอุณหภูมิที่แผดเผา แต่กลับทำให้สัตว์อสูรหนาวสั่นสะท้านได้

“นี่พวกเจ้า…พวกเจ้า…”

มันไม่รู้แน่ชัดว่าเจ้าสองตัวที่อยู่ตรงหน้าจะประหลาดได้เพียงใด

แต่ลางบอกเหตุของมันบอกกับมันว่าเจ้าสองตัวนี้ไม่อาจไปยั่วยุได้เด็ดขาด…

สัตว์อสูรมรกตกล่าว “ไขกระดูกราชาหยกมรกตนี้ข้า…เอ่อ ข้าน้อย ข้าน้อยมอบให้ท่านทั้งสอง ข้าน้อยต้อง ขะ ขะ ขอตัวไปรักษาอาการบาดเจ็บก่อน!”

มันเป็นถึงราชาแห่งป่าฉงอวี่ นึกไม่ถึงว่าแทนตัวเองกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเดียวกันตัวหนึ่งและสัตว์ระดับต่ำกว่ามันว่าข้าน้อย…

ช่างเสียชื่อที่เป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ! ฮือ ฮือ ฮือ!

แต่ก็ไร้ซึ่งหนทางแล้ว เพราะมันหวาดกลัวจริง ๆ หนิ!

อู๋ตี้ยิ้มพลางกล่าว “เจ้าร่างใหญ่มหึมาผู้นี้ ช่างขี้ขลาดตาขาวเสียจริงเลย”

เสี่ยวหงกล่าวอย่างเกียจคร้านว่า “ข้าก็ขี้เกียจลงมือพอดี แต่…”

สายตาของมันมองไปที่ร่างของอู๋ตี้ “เจ้าแมวโง่ เจ้ามันไม่ได้เรื่องเอาซะเลย”

อู๋ตี้กล่าว “เจ้าหมูขี้เกียจ แล้วเจ้าได้เรื่องอะไรบ้างล่ะ?”

“เจ้านั่นแหละที่ไม่ได้เรื่อง!”

“เจ้านั่นแหละไม่ได้เรื่อง!”

ทั้งสองทะเลาะกันขึ้น จนสุดท้ายอู๋ตี้ตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “พอได้แล้ว! เดี๋ยวพวกเราจะตามนายท่านไม่ทันนะ”

หากมู่เฉียนซีเข้าไปในหุบเขาหมอเทวดาแล้ว พวกเขาก็จะไม่มีความสามารถทำลายค่ายกลปกป้องหุบเขานั้นของหุบเขาหมอเทวดาเข้าไปได้

หลังจากที่ออกจากป่าฉงอวี่ เดิมทีพวกเขาต้องรอผู้อาวุโสสูงสุดด้านนอก

ทว่า ซือคงชัวนั้นได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจำเป็นต้องแบ่งกองกำลังออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งออกไปตามหาผู้อาวุโสสูงสุด ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเดินทางกลับหุบเขาหมอเทวดา

การออกมาฝึกประสบการณ์ของหุบเขาหมอเทวดาในครั้งนี้เต็มไปด้วยความยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง

แม้แต่ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาได้รู้ข่าวนี้แล้วก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้น “ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของหุบเขาหมอเทวดา นึกไม่ถึงว่าพวกเขาจะต่อสู้กันเอง ทำให้สูญเสียผู้ดูแลไปมากมายถึงเพียงนี้!”

“เจ้าเก๋อเหลียงไร้ประโยชน์ผู้นั้นตายไปก็ไม่เป็นไร แต่เก๋อซือทำให้ซือคงชัวพิการเช่นนี้น่ะสิ”

“ไร้ประโยชน์! พวกไร้ประโยชน์ ไม่ได้เรื่อง ชอบทำให้เสียการ ไขกระดูกราชาหยกมรกตกับผู้อาวุโสสูงสุดก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน บัดซบยิ่งนัก!”

หลังจากที่ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาระบายความโกรธออกมาแล้ว เขาก็กล่าวถามว่า “สองคนนั่น ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ตายขอรับ! หลังจากปรับสมดุลแล้วก็สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ แต่ซือคงชัว ท่านผู้เฒ่าจะลงมือเองหรือไม่ขอรับ?” ท่านผู้ดูแลใหญ่กล่าวถาม

“เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับพ่อของเขา ว่ายังมีประโยชน์หรือไม่ หากไร้ประโยชน์ ก็ไม่จำเป็นต้องช่วย!” ท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดากล่าว

มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีรักษาอาการบาดเจ็บอย่างสบายใจ ส่วนหัวหน้าหุบเขาเก๋อตอนนี้ได้ไปอาละวาดที่หัวหน้าซือคงแล้ว

“ซือคงเลี่ยว เอาตัวไอ้สารเลวนั่นออกมาให้ข้า ข้าจะฆ่ามัน!”

“บังอาจมาก กล้าเรียกนายน้อยแห่งหุบเขาหมอเทวดาเช่นนี้ เจ้านับวันชักจะยิ่งบังอาจมากเกินไปแล้ว” หัวหน้าหุบเขาซือคงเดินออกมาพลางกล่าว

บุตรชายของตนเองถูกตัดเส้นปราณที่ข้อเท้าปางตาย เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นเช่นกัน

หัวหน้าเก๋อกล่าว “เหอะเหอะเหอะ! ซือคงเลี่ยว เจ้าคิดว่าคนไร้ประโยชน์ ไร้ความสามารถเช่นเจ้าจะเป็นหัวหน้าหุบเขาหมอเทวดาได้อีกเหรอ บุตรชายของเจ้า ก็ไม่มีทางจะกลับมาเป็นนายน้อยของหุบเขาหมอเทวดาได้แล้ว”

ตูม! ทันทีที่ซือคงเลี่ยวลงมือ ร่างของหัวหน้าเก๋อก็กระเด็นลอยไปทันที

หัวหน้าเก๋อกล่าวอย่างตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “นี่เจ้า…เจ้าไม่ได้เป็นอะไร พลังของเข้าฟื้นกลับมาแล้ว เจ้า…”

เพราะพลังของหัวหน้าหุบเขาซือคงฟื้นคืนมาแล้ว และการตอบโต้นี้เป็นเรื่องที่หัวหน้าเก๋อคิดไม่ถึงจริง ๆ ดังนั้นการต่อสู้กันเองครั้งนี้ หัวหน้าเก๋อพ่ายแพ้ไปอย่างอนาถ

สุนัขรับใช้ของเขาถูกหัวหน้าหุบเขาซือคงใช้อุบายโหดเหี้ยมจัดการไปไม่น้อยแล้ว

ความแข็งแกร่งของหุบเขาหมอเทวดาอ่อนแอลงไปไม่น้อย และดูเหมือนว่าท่านผู้เฒ่าแห่งหุบเขาหมอเทวดาก็จะไม่สนใจในเรื่องนี้

ดูเหมือนกับว่าจะพึงพอใจเป็นอย่างมากที่หุบเขาหมอเทวดาได้กำจัดองค์ประกอบที่ไม่มั่นคงนี้ไปได้

เหตุการณ์ความวุ่นวายในครั้งนี้ มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีก็ได้รักษาอาการบาดเจ็บวางตัวออกห่าง ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด

งานเลี้ยงฉลองความสำเร็จหลังจบสิ้นเหตุการณ์วุ่นวายภายใน หัวหน้าหุบเขาซือคงกับซือคงชัวนั้นไม่ลืมพวกเขาแน่นอน หลังจากที่ได้ส่งสมุนไพรวิญญาณและยาวิญญาณที่ดีที่สุดมาปลอบขวัญ ก็ได้เชิญพวกเขาไปร่วมการฉลองด้วย

พวกเขาทั้งสองเป็นศิษย์ใหม่ของหุบเขาหมอเทวดาเพียงสองคนที่มีสิทธิ์เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองในครั้งนี้

ภายในงานฉลอง หัวหน้าหุบเขาซือคงยิ้มพลางกล่าวว่า “ทุกคนคงจะแปลกใจมากว่าเพราะเหตุใดร่างกายของข้าถึงได้ฟื้นคืนกลับมาเช่นนี้ และไม่ปล่อยให้พวกสุนัขเหล่านั้นกระทำสำเร็จ ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะสาวน้อยเยี่ยซี นางได้เอายาวิญญาณอันล้ำค่าที่ท่านอาจารย์ของนางมอบให้นางมาให้กับข้า ร่างกายของข้าจึงได้ฟื้นกลับมาเช่นนี้”

“เยี่ยซี!”

“เยี่ยซีเป็นใครกัน?”

“……”

“มานี่สิ!” หัวหน้าซือคงกวักมือเรียกมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีเดินไปอย่างจนปัญญา จากนั้นหัวหน้าหุบเขาซือคงก็ได้กล่าววาจาซาบซึ้งในน้ำใจออกมาไม่น้อย และกล่าวว่า “นับจากนี้ต่อไป เจ้าสองคนจะย้ายไปอยู่ที่จวนของข้า ต้องการสิ่งใดก็บอกข้าได้เลย”

อย่างไรก็ตาม ทัศนคติที่หัวหน้าหุบเขาซือคงมีต่อมู่เฉียนซีนั้นดีมาก สนิทสนมมากเสียยิ่งกว่าบุตรแท้ ๆ ของเขาเสียอีก

ถึงอย่างไรเสีย มู่เฉียนซีก็ไม่เพียงแต่จะช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่นางยังช่วยบุตรชายของเขาเอาไว้ด้วย

ภายใต้การเชิญชวนของหัวหน้าหุบเขาซือคง มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่ในจวนหัวหน้าหุบเขา

จวินโม่ซีกล่าว “เจ้าคิดว่าตาเฒ่าผู้นี้คิดจะทำสิ่งใดกันแน่?”

มู่เฉียนซีกล่าว “ตอนนี้พวกเราอาศัยอยู่ที่จวนหัวหน้าหุบเขา เจ้าต้องระวังให้ดีอย่าได้เผยพิรุธออกมาล่ะ ตอนนี้เราเข้าใกล้แกนกลางของหุบเขาหมอเทวดามากแล้ว คิดจะหาโอกาสดี ๆ ก็ง่ายมากขึ้นแล้วล่ะ”

“ขาดก็แค่ผู้เฒ่าของหุบเขาหมอเทวดาผู้นั้นที่ไม่เคยได้พบเจอมาก่อน ผู้เป็นนายของหม้อพิษสามอสูร!”

จวินโม่ซีกล่าว “ก็แค่ตาเฒ่าที่ใกล้จะหมดอายุขัยคนเดียว ไม่มีอะไรให้ต้องพบเจอหรอก เจ้าก็แค่คิดหาวิธีหลอกล่อทำให้เขาตายไปก็ได้แล้ว”

มู่เฉียนซีกรอกตามองบนใส่จวินโม่ซี “เจ้าคิดว่าตาเฒ่าประหลาดที่มีชีวิตมายาวนานพันกว่าปีจะหลอกง่ายอย่างนั้นเหรอ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว เพราะสาวน้อยอย่างเจ้า ยังร้ายกาจกว่าตาเฒ่าประหลาดอายุพันกว่าปีนั้นมาก”

“นี่เจ้าชมหรือว่าหลอกด่าข้ากันแน่!”

“ต้องชมสิ! ข้าเหรอจะกล้าหลอกด่าเจ้า เจ้าเป็นถึงคูปองอาหารของข้าเชียวนะ หากข้าล่วงเกินเจ้า ข้าก็คงต้องเร่รอน เป็นคนหิวโหยอาหารเป็นแน่” จวินโม่ซียิ้มพลางกล่าว

หลังจากที่จวินโม่ซีกับมู่เฉียนซีย้ายเข้าไปอยู่ในจวนหัวหน้าหุบเขา หัวหน้าหุบเขาซือคงก็มาหาซือคงชัวและได้พูดคุยกันอย่างลับ ๆ

“ชัวเอ๋อร์ ถึงแม้ว่าท่านผู้เฒ่าจะต่อเส้นปราณให้กับเจ้า แต่ยาวิญญาณที่เจ้าได้ใช้เพื่อบีบบังคับพลังวิญญาณนั้น มันจะทำให้เจ้าก้าวหน้าได้ยากขึ้นในภายภาคหน้า และดูเหมือนว่าท่านผู้เฒ่าไม่เห็นเจ้าในสายตาแล้ว”

สีหน้าของซือคงชัวซีดเผือด“ฮะ……เช่นนั้นควรจะทำเช่นไรดีท่านพ่อ?”

“พ่อยังมีวิธีสุดท้ายวิธีนึง นั่นก็คือเจ้าต้องไปจีบสาวน้อยเยี่ยเฟิงซีผู้นั้น”

“อะไรนะ? ท่านพ่อจะให้ข้าไปจีบสาวน้อยผู้นั้นเนี่ยนะ ท่านพ่อ……” เขาเป็นถึงนายน้อยแห่งหุบเขาหมอเทวดา เพียงแค่กวักมือ สาวงามทั่วทั้งแดนใต้เขาสามารถเลือกได้ทุกคน ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าท่านพ่อของตนเองกลับให้เขาไปตามจีบหญิงสาวหน้าธรรมดา ๆ ผู้หนึ่ง

“ชัวเอ๋อร์ ถึงแม้ว่าสาวน้อยผู้นั้นจะหน้าตาธรรมดา แต่พรสวรรค์ของนางไม่ได้อ่อนแอเลยนะ นางมีโอกาสจะได้เป็นศิษย์สายตรงของท่านผู้เฒ่า อย่างไรเสียอวี้เหลียนชิงเขาก็ได้เป็นคนไประโยชน์ไปแล้ว”

“ขอเพียงเจ้าจีบนางได้ มีบุตรสักคนที่มีพรสวรรค์ไร้เทียมทาน ต่อให้วันข้างหน้าเจ้าประสบความสำเร็จไม่มาก แต่ตำแหน่งหัวหน้าหุบเขายังไงก็ต้องเป็นของเจ้า ท่านผู้เฒ่าไม่มีทางมอบให้คนอื่นแน่นอน”