Ch.29 – จำลองการแก้แค้น
Translator : Reheikichi / Author
[ ขอบอกไว้ก่อนแล้วกัน คราวนี้เป็นการล้อเล่น แต่แรกผมเองก็ยังไม่ตาย หัวของกุเร็นและมิเซ่ก็เป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นด้วย《แปรธาตุ》]
เอลิเซียรู้สึกตกใจจนพูดไม่ออก
[ ตัวตนของผู้โจมตีก็คือฉันอย่างที่เธอเห็น อีกคนก็เป็นคนรู้จักของผมเอง… พอหมดงานเขาเองก็ไปแล้วล่ะ ]
ผู้โจมตีคนแรกที่ปรากฏตัวออกมาคือเพื่อนร่วมงานของผม
พอถามว่า ช่วยหน่อยได้ไหมพอดีคนไม่พอนะ เขาก็ตกลงทันที แต่สุดท้ายก็กลายเป็นหนี้บุญคุณจนได้
[ ทุกอย่างเป็นเรื่องล้อเล่น … ? งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ก็ … ]
[ ไม่ใช่แค่วันนี้ ]
ด้วยประโยคนั้น ทำให้เอลิเซียเปิดตาโพลง
[ ไม่จริง แล้วโรเบิร์ตที่ฉันล่ะ… ]
ผมพยักหน้าให้กับเสียงบ่นของเอลิเซีย
[ ยังไม่ตาย ที่เอลิเซียฆ่าคือหุ่นที่พวกเราเตรียมไว้ ตัวจริงยังมีชีวิอตอยู่ ]
ความจริงข้อนั้นทำให้เอลิเซียถึงกับหยุดชะงัก
มันก็แน่อยู่แล้ว
ไม่มีทางหรอกที่มือสมัครเล่นจะฆ่าลูกคนที่สองตระกูลดยุคและยังรอดชีวิตกลับมาได้ ไม่ว่าจะโชคดีแค่ไหนก็เป็นไปไม่ได้
การลอบสังหารของเอลิเซีย ไม่มีใครรู้ตั้งแต่แรก
เมื่อคืนจึงเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
และเพราะโรเบิร์ตตัวจริงยังไม่ตาย อัศวินแห่งเซย์รินตัวจริงคงกำลังสนุกกับวันหยุดในเมืองหลวงก็ได้ในตอนนี้
[ เพราะเธอดูท่าจะไม่หยุดการแก้แค้น เพื่อให้สงบสติอารมณ์ให้ได้สักหน่อยผมถึงต้องเล่นละคร เพื่อให้รู้สึกว่าเมื่อฆ่าเขาไปแล้วจะ―― ]
หลังจากอธิบายจนถึงตอนนี้ ผมก็เพิ่งรู้ตัว
กลิ่น เมื่อเห็นแบบนั้นผมก็มองลงไปยังพื้น เห็นแอ่งน้ำเล็กๆ รอบตัวเอลิเซียที่นั่งอยู่บนพื้น
[ …ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนไหม ]
แถวนี้จะมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่ไหมนะ
ผมเริ่มขยับตัวพลางคิดถึงเรื่องนั้น
◆
หลังถอดชุดเกราะออก ผมจึงไปซื้อเสื้อผ้าผู้หญิงที่ร้านและส่งให้เอลิเซีย
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ผมเสนอให้เอลิเซียไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวนสาธารณะใกล้ๆ
เอลิเซียพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นเราจึงไปที่สวนสาธารณะใกล้ๆ ราวกับวิญญาณของเธอหลุดลอยไป
ในช่วงเวลาก่อนมืด สวนสาธารณะดูเงียบสนิท
นั่งบนขอบน้ำพุและนั่งดูอาทิตย์ตก ก่อนจะเปิดปากพูด
[ … ขอโทษด้วยนะที่ทำเกินไปหน่อย แต่หากไม่ทำถึงขนาดนี้ ก็คุยกันไม่รู้เรื่องหรอก ]
จนถึงไม่กี่วันก่อน
ในดวงตาของเอลิเซียเห็นแต่เพียงความเกลียดชังและเกือบจะควบคุมตัวเองไม่อยู่
ผมจึงตัดสินใจจะกำจัดความเกลียดชังของเธอ…
หมายถึงการทำให้เธอได้รู้สึกถึงการแก้แค้นสำเร็จ
เอลิเซียฟื้นคืนสติได้หลังจากฆ่าโรเบิร์ตตัวปลอมไป
ได้ลิ้มรสถึงการแก้แค้นและความยิ่งใหญ่ของการที่ยังมีอนาคตอยู่ข้างหน้า
เอลิเซียที่เสียความเกลียดชังไป ในที่สุดก็เห็นถึงความจริงสองข้อนี้
ซึ่งบางที ทันทีที่เอลิเซียตัดคอหุ่นสำเร็จ เธออาจจะฆ่าตัวตายในตอนนั้นก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นผมจะเข้าไปหยุดทันที … แต่อย่างที่คาด เธอไม่ได้ฆ่าตัวตาย
คงรู้ว่า
ยังมีความหมายที่จะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้
หลังจากการแก้แค้น เชื่อมั่นว่าเธอจะต้องคิดถึงอนาคตแน่
ไม่มีใครที่จะสดชื่นได้ทันทีหลังการแก้แค้น ผมที่คุ้นเคยกับคนของ ‘เบื้องหลัง’ จึงสามารถบอกได้ว่าอะไรใช่และไม่ใช่
[ อย่างที่บอกไป ทั้งหมดเป็นการล้อเล่น แต่สถานการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น อนาคตจะต้องเป็นอย่างคราวนี้แน่ เพราะที่จริงคนหนึ่งในอัศวินแห่งเซย์รินก็มีประวัติว่าเคยเป็นเด็กกำพร้าที่ถูกโรเบิร์ตช่วยไว้อยู่ด้วย ]
เอลิเซียพยักหน้าอย่างเงียบๆ
ไม่อยากอธิบายมากหรอกนะ คราวนี้ไม่ใช่แค่ผม แต่คริสเองก็ให้ความร่วมมือด้วย
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสถานการณ์ที่หน่วยข้อมูลป้องกันราชอาณาจักรซึ่งเป็นหน่วยสืบข่าวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคาดคะเนว่ามีความเป็นไปได้สูงสุด นี่ไม่ใช่เพียงการคาดคะเนธรรมดา แต่เป็นจากประวัติของอัศวินแห่งเซย์รินแต่ละคนมาวิเคราะห์ คำนวณถึงนิสัยและความแข็งแกร่งของแต่ละคนมาแล้ว
หมายความว่านี่คือการจำลองการแก้แค้น
การแก้แค้นแบบจำลองไงล่ะ
[ อย่างที่เห็นเมื่อครู่ นี่คือจุดจบของการแก้แค้นแห่งหายนะ … รู้ไหมว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้? ]
[ …เพราะฉันตั้งใจจะโยนอนาคตทิ้งไปเพื่อการแก้แค้น ]
[ ถูกต้อง ]
ผมพยักหน้าให้กับเอลิเซียที่พยายามเค้นเสียง
[ ท้ายที่สุดการเตรียมใจตายที่เธอคิดไว้มันก็แค่ของชั่วครู่ในตอนนั้น เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปการเตรียมใจเมื่อก่อนหน้าก็ปลิวหายไปแล้ว… สำหรับการแก้แค้น การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมแต่ละครั้งมันสำคัญมาก เดิมที่คิดว่าเตรียมใจตาย ก่อนจะรู้ตัวก็หวังอยากจะมีอนาคต การที่จิตใจจะเปลี่ยนไปมันเป็นเรื่องธรรมดา ]
การแก้แค้นของเอลิเซียไม่ได้คำนึงถึงเวลาสภาพแวดล้อมภายนอกเปลี่ยนไปด้วย
ในตอนสุดท้ายเธอถึงเพิ่งตระหนักว่าตัวเองล้มเหลว
[ ทุกอย่างเป็นไปตามที่นายพูด ]
เอลิเซียเสริม
[ ในตอนแรกที่แก้แค้นสำเร็จ ฉันรู้สึกดีใจมาก หลังจากผ่านไปหนึ่งคืนมันกลับเหลือเพียงความว่างเปล่า … ในขณะที่หาสิ่งมาเติมเต็มความว่างเปล่าก็คิดถึงเรื่องอนาคตข้างหน้า ก่อนจะรู้ตัวว่า “ผิดพลาด” ไปแล้ว ตั้งแต่ที่พ่อตายฉันก็มีชีวิตอยู่เพื่อการแก้แค้นมาตลอด แต่ว่าสิ่งที่รอฉันอยู่หลังการแก้แค้นมีเพียง ความว่างเปล่า… รู้สึกกังวล ว่าสักวันฉันจะบอกพวกอัศวินถึงสิ่งที่ทำได้ไหมนะ จะกลับไปมีชีวิตปกติได้ไหมนะ ความกังวลนั้นไม่หายไปจากในหัว นี่สินะคือการแก้แค้นแห่งหายนะ กังวลว่าจะมีจุดจบที่โหดร้ายแบบนี้ …. ในตอนนั้นเรื่องการตระหนักถึงความเสียใจที่ต้องตายไม่มีอยู่ในหัวฉันเลย มีเพียงแค่ว่าถ้ามันจะเป็นแบบนี้ สู้ฉันไม่แก้แค้นซะยังดีกว่า คำพูดในตอนนั้นเป็นความจริงแน่นอน ]
[ …โล่งใจหน่อย ที่เธอพูดได้แบบนั้น ]
ผมพูดกับเอลิเซียที่พูดถึงเรื่องของตัวเธอเอง
โรเบิร์ตยังมีชีวิตอยู่ แต่เธอไม่คิดจะแก้แค้นอีกแล้ว
และคงไม่มีการแก้แค้นแห่งหายนะอีก
แม้จะเป็นสถานการณ์แกมบังคับอยู่นิดหน่อย แต่ดูเหมือนสุดท้ายก็โน้มน้าวเธอได้แล้ว
นี่ก็เพื่อปกป้องชีวิตประจำวันแสนธรรมดาของเราไว้
[ ――แต่ว่า ความจริงมันก็ยังมีวิธีที่อยู่เหนือกฏนี้อยู่ ]
ด้วยคำพูดของผม เอลิเซียก็เงยหน้าขึ้นเหมือนโดนดูถูก
[ จำได้ไหม ที่ผมเคยพูดว่าการแก้แค้นต้องได้ประโยชน์ถึงจะทำ ]
[ อือ … แต่ฉันก็ทำแบบนั้นไม่ได้ ]
[ ไม่แปลกหรอก เพราะการแก้แค้นโดยที่เราได้ประโยชน์มันยาก มันต่างหากเธอที่บุกเข้าไปตรงๆ หรือซิคที่ใช้อำนาจในการแก้แค้น … การแก้แค้นของมือสมัครเล่น สิ่งที่ตามมาส่วนใหญ่ก็คือหายนะ ดังนั้นถึงได้มีมืออาชีพ… ผู้เชี่ยวชาญที่สามารถแก้แค้นทำให้ได้ประโยชน์ คอยช่วยเหลือมือสมัครอย่างพวกเธออยู่ รวมถึงการดูแลหลังการขายด้วยน่ะนะ ]
จากนั้นกุเร็นและมิเซ่ก็วิ่งมาหาพวกเราจากทางเข้าสวนสาธารณะ
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ หลบสายตาทั้งสองคน
[ ฝากหลอกทั้งสองคนให้ด้วยแล้วกัน ]
[ …จะไปไหนนะ? ]
ผมตอบเอลิเซียกลับมาด้วยประโยคสั้นๆ
[ งานน่ะ ]