ตอนที่ 150-2 คิดจะแย่งชิงผู้ชายของข้า รนหาที่ตาย

จำนนรักชายาตัวร้าย

อวี้เฟยเยียนคือศัตรูอันดับหนึ่งในใจของบรรดาหญิงสาวที่หมายปองซย่าโหวฉิงเทียนอยู่ในขณะนี้ 

 

 

ในเมื่อโจทก์ตัวจริงปรากฎตัวออกมาแล้ว บรรดาหญิงสาวที่เดิมทีกำลังทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่นั้นจึงจับสมานฉันท์กันชั่วคราว รวมหัวกันพุ่งเป้าโจมตีไปที่อวี้เฟยเยียนแล้วในตอนนี้ 

 

 

เผชิญหน้ากับสายตาไม่เป็นมิตรนับร้อยคู่ที่มองมา อวี้เฟยเยียนกลับยิ้มเยาะเล็กน้อย เอื้อมมือออกไปเหนี่ยวรั้งศีรษะของของซย่าโหวฉิงเทียนเข้ามาใกล้ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นเป็นฝ่ายประกบจูบลงไปบนริมฝีปากของซย่าโหวฉิงเทียน 

 

 

“ดูให้เต็มตา นี่คือผู้ชายของข้า!” 

 

 

“ของข้า!” 

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนให้ความร่วมมือกับการแสดงออกของอวี้เฟยเยียนเป็นอย่างดี 

 

 

แสดงความรักต่อหน้าธารกำนัล พี่ชอบ! 

 

 

คนทั้งสองจูบแสดงความรักต่อกันด้วยความเร่าร้อนทำให้คนที่ยืนดูอยู่โดยรอบเคียดแค้นจนต้องกัดฟันกรอด 

 

 

‘นี่มันเป็นการท้าทายกันชัดๆ!’ 

 

 

‘ชัดเจนว่า! หญิงคนนี้น่ารำคาญเป็นที่สุด!’ 

 

 

“ท่านพี่ ท่านรักใคร?” เสียงที่เปล่งออกมาของอวี้เฟยเยียนเย้ายวนทรงเสน่ห์ 

 

 

“พี่รักเจ้า รักเจ้าเพียงคนเดียว!” 

 

 

ซย่าโหวฉิงเทียนทอดมองอวี้เฟยเยียนด้วยแววตาที่ลึกซึ้ง แม้ว่านางจะสวมผ้าแพรปกปิดใบหน้าอยู่ แต่เขาก็สามารถมองทะลุผ้าแพรเข้าไปจนมองเห็นดวงตาที่หวานซึ้งเปี่ยมด้วยความรู้สึกของนางได้ 

 

 

“แล้วพวกนางคืออะไร?” อวี้เฟยเยียนชี้มือไปยังบรรดาหญิงสาวโดยรอบ 

 

 

“มนุษย์ร่วมโลก” ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นเน้นย้ำคำว่า ‘มนุษย์ร่วมโลก’ ด้วยความเย็นชา ซึ่งมันกระทบกระเทือนจิตใจของสาวน้อยทั้งหลายอย่างรุนแรง 

 

 

 พวกนางรอคอยอย่างโง่งม ก็เพื่อหวังว่าจะได้เห็นต้นแบบในดวงใจสักครั้ง ทว่าผลลัพธ์ที่ได้กับเป็นการมองข้าม 

 

 

หรือว่าดวงหน้าที่ถูกบรรจงแต่งแต้มมาเป็นอย่างดี ชุดสวยหลากสีสัน เครื่องประดับที่เล่อค่างดงามของพวกนาง ไม่มีทางดึงดูดใจของซย่าโหวฉิงเทียนเอาไว้ได้เลย เทียบอะไรกับนังผู้หญิงอัปลักษณ์ผู้นั้นไม่ได้เลยอย่างนั้นหรือ? 

 

 

เมื่อมีคนคิดเช่นนี้ จึงมีคนพูดมันออกมา 

 

 

“ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋น ข้าชอบท่าน! ต่อให้เป็นอนุภรรยา ข้าก็ยินดี!” 

 

 

“อนุภรรยา?” ซย่าโหวฉิงเทียนขมวดคิ้ว ชั่วชีวิตของเขาจะรักแมวน้อยเพียงคนเดียว อนุภรรยาบ้าบออะไร เขาไม่ต้องการ! 

 

 

เมื่อมีคนเริ่ม คนอื่นๆจึงรีบแสดงความในใจของตนเองออกมาทันที 

 

 

“ข้าไม่ต้องการเป็นอนุภรรยา ข้าเป็นเพียงสาวใช้ ยกน้ำชาตักน้ำ ข้าก็พอใจแล้ว——” 

 

 

“ใช่ๆ ให้เป็นเพียงคนรับใช้พวกเราก็เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง!” 

 

 

เมื่อเห็นซย่าโหวฉิงเทียนเริ่มจะขุ่นเคือง อวี้เฟยเยียนก็จับมือปรามเขาเอาไว้ จากนั้นนางฉีกยิ้มสดใสชี้ไปยังหญิงคนที่ต้องการเป็นอนุภรรยาคนเมื่อครู่ 

 

 

“เจ้ายินดีที่จะเป็นอนุภรรยา?” 

 

 

ได้ยินคำถามของอวี้เฟยเยียน ซุนซินก็เชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง 

 

 

“ใช่!” ตระกูลของนางเปิดร้านขายผ้าแพรผ้าไหม ฐานะทางบ้านของนางจึงถือได้ว่าร่ำรวยมีอันจะกิน การที่ซุนซินเดินทางมาเมืองเฮ่อในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากผู้เป็นบิดา 

 

 

เพราะบิดาของนางคิดว่า หากสามารถดองเป็นทองแผ่นเดียวกันกับประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่น ให้ซุนซินกลายเป็นอนุภรรยาของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่นได้ละก็ สกุลซุนของพวกเขาก็จะได้เจริญก้าวหน้า 

 

 

“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าอนุภรรยาต้องทำอะไรบ้าง?” อวี้เฟยเยียนอบซบอกของซย่าโหวฉิงเทียนอย่างเกียจคร้าน ขณะเดียวกันก็ยื่นมือออกไปลูบหัวของหานจื่อไปด้วย 

 

 

“หน้าที่ของอนุภรรยาแน่นอนว่าย่อมต้องปรนนิบัติสามีให้ดี——” 

 

 

ในขณะที่ซุนซินกล่าวตอบนั้น สายตาก็ทอดมองไปยังซย่าโหวฉิงเทียนท่าทางเนียมอาย 

 

 

นางเป็นชาวเมืองลู่ จึงได้เห็นวินาทีที่ซย่าโหวฉิงเทียนสังหารสุ่ยฮั่วอีอย่างเท่ห์นั้นด้วยตาของตัวเอง ดังนั้น ในใจของนางแล้วซย่าโหวฉิงเทียนถูกต้องตรงตามลักษณะของอัศวินขี่ม้าในฝันของนางทุกประการ ดังนั้นนางจึงตามที่นี่ทันที 

 

 

“ผิด——”อวี้เฟยเยียนยิ้มเยาะ 

 

 

“หน้าที่ของอนุภรรยาคือการปรนนิบัติรับใช้คุณนายใหญ่ของบ้าน หากว่าคุณนายใหญ่ให้เจ้าคุกเข่า เจ้าก็ห้ามยืนเด็ดขาด หากว่าคุณนายใหญ่ให้เจ้ากินอาหารสุนัข เจ้าก็ห้ามกินข้าว คุณนายใหญ่ล้มป่วย เจ้าต้องคอยดูแลปรนนิบัติทั้งวันทั้งคืน คุณนายใหญ่ตบตีเจ้า จ้ำม่เพียงแต่ต้องอดทนอดกลั้น ทั้งยังต้องขอบคุณอีกด้วย….” 

 

 

หากว่าคุณนายใหญ่ไม่พอใจ ขายเจ้าออกไป ไม่ว่าจะขายให้กับหอนางโลมหรือขายให้กับกรรมกรไปเป็นเมีย เจ้าก็จะไม่มีแม้แต่ที่ๆจะให้ระบายความทุกข์ใจ!” 

 

 

“ท่านพี่ ท่านว่าข้าพูดถูกต้องหรือไม่?” 

 

 

“อื้ม!” รู้ดีว่าอวี้เฟยเยียนต้องการเล่นสนุก ซย่าโหวฉิงเทียนก้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างยิ่งด้วยการพยักหน้ารับ 

 

 

“ข้าจะเพิ่มเติมอีกข้อหนึ่ง หากว่าคุณนายใหญ่ต้องการจะฆ่าพวกเจ้าละก็ พวกเจ้าก็ต้องล้างคอให้สะอาดและเตรียมส่งมันมาอย่างว่าง่าย!. 

 

 

คำพูดของอวี้เฟยเยียนที่กล่าวต่อหน้าทุกคนว่าเกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าคำพูดของประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่นที่กล่าวเสริมเข้ามาจะยิ่งโหดร้ายทารุณยิ่งกว่า 

 

 

เปรียบเทียบกันแล้วทั้งสองคน สิ่งที่อวี้เฟยเยียนกล่าวมาว่าคุกเข่าเอย กินอาหารสุนัขเอย ถือว่านุ่มนวลมากแล้ว 

 

 

“ได้ยินหรือยัง?” อวี้เฟยเยียนเหลือบมองไปยังซุนซิน  

 

 

“นี่คือกฎของบ้านเรา! หากเจ้าต้องการเข้ามา ก็ต้องทำตามกฎของเรา!” 

 

 

“ข้า…” ซุนซินในตอนนี้เตรียมที่จะล้มเลิกทุกสิ่งทุกอย่างกลางคันเสียแล้ว 

 

 

มองดูอวี้เฟยเยียนไม่ใช่พวกที่จะเข้าหาได้ง่ายสักเท่าไหร่ ข้อกำหนดเหล่านี้ทารุณเสียยิ่งกว่าการเข้าไปเป็นอนุภรรยาของสกุลทั้งแปดเสียอีก 

 

 

แต่ก็อย่างว่า ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ๋นแข็งแกร่งเก่งกาจเพียงนี้ ทั้งยังรูปร่างหน้าตาหล่อเหลา ทั้งมีเงินมองมากมาย เขาคนเดียวครอบครองอาณาเขตของสองตระกูลใหญ่ ทำให้ซุนซินยากนักที่จะตัดใจไปได้ 

 

 

ซุนซินเงียบลงไป ทว่าหญิงข้างกายของนางกลับร้องตะโกนขึ้น ประมุขแห่งถ้ำจื่ออวิ่น ข้ายินดี! ให้ข้าไปตายตอนนี้เพื่อท่านข้าก็ยินดี! 

 

 

“เช่นนั้นไหนเจ้าลองตายดูสักครั้งสิ——” 

 

 

อวี้เฟยเยียนลูบหัวหานจื่อ หานจื่อก็รู้งานพุ่งออกไปอย่างรวดเร็วราวกับลูกธนู ยังไม่ทันที่ใครจะได้ทันตั้งตัว หานจื่อ็กัดกอหอยของหญิงผู้นั้นจนขาดเสียแล้ว 

 

 

“เฮอะ——” 

 

 

‘ยัยคนน่าไม่อาย สาระแนสมควรตาย!’ 

 

 

หานจื่อคายศีรษะของหญิงผู้นั้นลงบนพื้น ทั้งยังใช้กรงเล็บของมันข่วนซ้ำลงบนศีรษะนั้นหลายครั้งจนละเทะไม่มีชิ้นดี จากนั้นมันจึงเงยหน้าขึ้นตวัดสายตาเ**้ยมเกรียมมองกราดไปยังผู้คนที่อยู่โดยรอบทำเอาพวกเขาหวาดกลัวจนต้องถอยร่นไปด้านหลังแทบไม่ทัน 

 

 

“ตายแล้วจริงด้วย! เห็นทีว่านางคงจะจริงในกับเจ้าจริงๆนะ!” อวี้เฟยเยียนหยอกเย้าซย่าโหวฉิงเทียนยิ้มๆ 

 

 

“พวกเจ้ายังมีใครอยากจะแสดงความจริงใจของตนเองอีกหรือไม่?” 

 

 

“ท่าน ท่านเห็นชีวิตคนเป็นผักปลา!” ซุนซินตกใจเสียขวัญจนปากคอสั่น คนที่เมื่อครู่ยังนี้ยังดีๆอยู่เลย ตอนนี้กลับต้องมาตายศพไม่ครบร่างเสียแล้ว น่าหวาดกลัวเหลือเกิน! 

 

 

“คนชั้นต่ำก็สมควรตาย” อวี้เฟยเยียนหัวเราะเยาะ อย่างชั่วร้ายราวกับเห็นชีวิตใครในสายตา