เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 901
เหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่ทำให้คนตื่นตกใจ ฟาดลงบนหัวของหยางติ่งเทียนอย่างโหดร้าย

สีหน้าของหยางติ่งเทียนก็ขาวซีดในพริบตาไม่มีสีเลือดแม้แต่นิด

หยางเฟิงมองท่าทางนี้ของหยางติ่งเทียนอยู่ ในใจไม่มีความสงสารใด ๆ

เรื่องในปีนั้นถึงแม้หยางเฟิงไม่รู้ทั้งหมด แต่ก็รู้บ้างเล็กน้อยยังไงเวลานั้นเขาได้อายุสิบกว่าปีแล้ว

เขารู้ หยางติ่งเทียนไล่แม่ของตัวเองไปคือหมดหนทางจริง ๆ

แต่ในฐานะของพ่อคนหนึ่ง!

ในฐานะของสามีคนหนึ่ง!

ในฐานะของผู้ชายคนหนึ่ง!

หยางติ่งเทียนไม่ได้ทำหน้าที่ความรับผิดชอบที่ควรจะทำของพ่อคนหนึ่ง!สามีคนหนึ่ง!ผู้ชายคนหนึ่ง!

จุดนี้เป็นสิ่งที่หยางเฟิงไม่ว่ายังไงต่างก็จะไม่ยกโทษให้กับหยางติ่งเทียน!

ผู้ชายมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ก็ต้องปกป้องคุ้มครองลูกและภรรยาของตัวเองไม่ให้ได้รับการทำร้าย

นี่เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของผู้ชายคนหนึ่งที่ควรจะมี!

ถ้าหากทำไม่ได้ เขาก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นผู้ชายคนหนึ่ง!

มองเงาหลังของหยางเฟิงที่ออกไปอยู่

ใจของหยางติ่งเทียนหยุดไม่อยู่ที่จะสั่นไหว บนหน้าก็เปิดเผยท่าทางที่หมดหวังออกมา

สุดท้าย……

หยางเฟิงยังคงไม่ยอมยกโทษให้ตัวเอง

น้ำตาสองบรรทัด อดไม่ได้ที่จะไหลร่วงลงมาจากกรอบตาของเขา

ถ้าหากเวลาย้อนกลับไปได้

ถึงแม้เขาเอาชีวิตนี้ของตัวเองสู้ตายแล้วก็ต้องปกป้องหยางเฟิงแม่ลูก

เพียงแต่น่าเสียดาย บนโลกนี้ไม่มีคำว่าถ้าหาก……

มองเห็นท่าทางนี้ของหยางติ่งเทียน

หลงโยวหลิงมีใจอดไม่ได้ หล่อนเดินขึ้นไปพูดปลอบ“ติ่งเทียน ก็ไม่ต้องเสียใจมากไป!หยางเฟิงเด็กคนนี้มีเมตตาเหมือนกับแม่ของเขา รอเขารู้ความจริงของเรื่องในปีนั้นแล้วไม่ช้าก็เร็วจะมีวันหนึ่งที่เขาจะอภัยให้คุณ!”

หยางติ่งเทียนส่ายหน้าแล้ว“ไม่ ผมไม่โทษเขา!เขาเกลียดผมต่างก็สมควรแล้ว เขาพูดถูกผมไม่คู่ควรเป็นผู้ชาย! ในฐานะของผู้ชายคนหนึ่งกระทั่งภรรยาและลูกชายของตัวเองต่างก็ปกป้องไม่ได้ ผมก็คือคนขี้ขลาดคนหนึ่ง!”

พูดถึงสุดท้าย

หยางติ่งเทียนยิ้มอย่างน่าเวทนาแล้วเสียงหนึ่ง

จากจุดนี้ หยางเฟิงทำต้องแข็งแกร่งกว่าตัวเอง

ไม่ว่าเจออันตรายอะไรแล้ว หยางเฟิงมักจะยืนออกมาปกป้องเย่เมิ่งเหยียนเป็นเวลาแรก!ปกป้องหยางพั่นพั่น!

เพราะหยางเฟิงรู้ เขาไม่สามารถเหยียบซ้ำความผิดพลาดของพ่อตัวเองได้อย่างเด็ดขาด!

มองเห็นที่นี่

หลงโยวหลิงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีแล้ว

เรื่องของปีนั้นไม่โทษหยางติ่งเทียนจริง ๆ

เปลี่ยนเป็นคนอื่น เกรงว่าก็ทำได้ไม่ดีกว่าหยางติ่งเทียน

แต่หยางติ่งเทียนในฐานะที่เป็นสามีและพ่อคนหนึ่ง ทำให้หยางเฟิงแม่ลูกผิดหวังแล้วจริง ๆ

การติดค้างนี้ เขาต่างก็ไม่สามารถชดเชยได้ตลอดชีวิต!

หยางติ่งเทียนจู่ ๆ หันหน้ามา ถามว่า“สิ่งของ คุณให้เมิ่งเหยียนแล้วหรือยัง?”

หลงโยวหลิงพยักหน้าแล้ว จากนั้นถามอย่างไม่แน่ใจเล็กน้อย“สิ่งของนั่น คุณแน่ใจว่าจะให้หล่อนเหรอ?ต้องรู้ว่านั่นเป็นของล้ำค่าที่ตกทอดของครอบครัวตระกูลหยางของคุณ……”

มีประโยคหนึ่งหลงโยวหลิงไม่ได้พูด

ตอนแรกที่ตระกูลหยางได้เจอภัยพิบัติใหญ่อย่างนี้

ก็เป็นเพราะของสิ่งนั้น

แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าหยางติ่งเทียนเอาของนี้ให้เย่เมิ่งเหยียน

อยากที่จะยืมมือของเย่เมิ่งเหยียนส่งต่อให้หยางเฟิง!

“เฮ้อ!”

หยางติ่งเทียนถอนหายใจเบา ๆ พูด“ของสิ่งนั้นเก็บไว้ที่ตระกูลหยางก็ไม่มีประโยชน์ อีกทั้งผมก็มีเพียงเขาลูกชายคนเดียวอย่างนั้น หลายปีนี้ผมติดค้างเขามากมายจริง ๆ ก็ถือว่าผมพ่อคนนี้ให้การชดเชยกับเขานิดหน่อยแล้วกัน!”

……

บนรถ

หยางเฟิงไม่พูดสักคำ สีหน้าเย็นชาตั้งแต่ต้นจนจบ

เย่เมิ่งเหยียนไม่กล้าพูด แอบมองหยางเฟิงแวบหนึ่งอย่างระมัดระวังแล้ว

บรรยากาศในรถมีความหดหู่เล็กน้อย

เสือขาวขับรถอยู่ก็ไม่กล้าพูด

ติดตามข้างกายท่านแม่ทัพมาหลายปีอย่างนี้ ประสบการณ์บอกเขาเวลานี้ไม่สามารถพูดได้อย่างเด็ดขาด

มองเห็นหยางเฟิงรักษาความเงียบอยู่ เย่เมิ่งเหยียนถอนหายใจเบา ๆ แล้ว