Ch.18 – เมืองที่สองและอาชีพ

Translator : O-Minus / Author

 

เมืองที่สองในWLO [ดูอัลลิส]

เทียบกับเมืองแห่งการเริ่มต้นแล้ว ที่นี่ถูกสร้างมาเล็กกว่าซึ่งก็ดูดีไปอีกแบบ

นอกจากแผนผังของเมืองแล้ว รูปร่างอาคารหรือถนนไม่ได้ต่างกันมากนัก ถ้าแสดงบัตรเมนูการ์ดแล้วเข้าไปในเมือง ภาพทิวทัศน์อันคุ้นเคยก็จะปรากฏขึ้นมาในสายตา

 

ตอนนี้เป็นเวลาประมาณ5โมงเย็นแล้ว ท้องฟ้าเริ่มถูกย้อมไปด้วยสีของตะวันตกดิน

ถึงฉันจะผ่านมาได้ง่ายๆก็เถอะ แต่ระยะทางจากทุ่งราบไปจนถึงถ้ำแห่งการทดสอบนั้นยาวมากเลยช่วยไม่ได้ที่จะใช้เวลาไปขนาดนั้น

 

“เฮ้ออออ….ถนนจะยาวไปถึงไหนกัน!”

 

[ถึงจะทำแค่เดินเฉยๆล่ะนะ]

[ผู้หญิงคนนี้จะแกร่งเกินไปแล้ว]

[นี่เหมือนกับทัศนศึกษาเลย]

 

“ขนาดฉันพยายามทำให้ดูเหมือนว่าเป็นการต่อสู้ที่ลำบากแล้วแท้ๆ!”

 

โอเค เอาจริงๆแล้วมันง่ายมากเลยล่ะ ฉันคิดว่าเป็นเพราะปาร์ตี้ก่อนหน้าฉันจัดการกับก็อบลินไปจนหมดแล้วในถ้ำแห่งการทดสอบต่างหากล่ะที่ผิด ติ้กไว้เลย

อ๊ะ พูดถึงเรื่องนั้น ค่าสถานะที่ได้จากบอสประจำดันเจี้ยนคือ5แต้มล่ะ

นี่คือรางวัลที่เคลียร์ดันเจี้ยนได้สินะ เพราะฉันไม่ได้ของดรอปอื่นจากบอสอีกเลย

 

“ถึงจะบอกว่าฉันแข็งแกร่งแล้วก็เถอะ แต่รินจังน่ะเลเวล47แล้วนะ ยังไงก็ยังไม่พอหรอก”

 

การไปยังแนวหน้าคือภารกิจสุดยอดที่ฉันเคยคิดไว้เมื่อเช้านี้

เพื่อแสดงความสามารถในฐานะโปรเกมเมอร์ วิธีที่เร็วที่สุดคือการยืนหยัดในแนวหน้าที่ได้รับความสนใจอย่างมาก รินจังบอกเอาไว้อย่างนั้น

“เคยคิด” เหตุผลที่เป็นรูปอดีตเป็นเพราะฉันแสดงความสามารถจากการปราบหมาป่าแดงอาเรียไปแล้ว

ในตอนนี้ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของแนวหน้าแล้ว จากภารกิจสุดยอดจึงถูกลดระดับมาเป็น“ทำให้เร็วที่สุดที่ทำได้”แทน

 

“ตอนนี้ก็ ตามแผนคือฉันจะไปรับอาชีพ อาชีพคือสิ่งที่สามารถลงทะเบียนได้เมื่อถึงเลเวล20แล้ว ในเมืองที่สอง…ดูเหมือนว่าจะมีศูนย์ลงทะเบียนอาชีพอยู่นะ ไปหากันเถอะ”

 

ในWLO คุณสามารถตั้งค่าอาชีพได้ตั้งแต่เลเวล20

โดยจะขึ้นอยู่กับค่าสถานะแล้วก็สกิลแต่ว่า รินจังบอกว่าจะดีกว่าถ้าไปฟังคำอธิบายจากที่นั่นโดยตรง

 

ไม่มี[ศูนย์ลงทะเบียนอาชีพ]ที่เมืองแห่งการเริ่มต้น ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเพียงเมืองเลขคู่ หรือก็คือเมืองที่สองและเมืองที่สี่เท่านั้นที่สามารถลงทะเบียนได้

ในเมื่อฉันเองก็เลเวล20แล้ว ฉันเลยคิดว่าจะลองไปดูและลงทะเบียนเลย

 

ขณะที่ฮัมเพลงไปเดินไปในตัวเมือง ดูเหมือนว่าจะมีคนที่ได้ดูสตรีมของฉันในตอนเช้านี้ ฉันรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมา

พูดคุยนิดหน่อยกับคนที่รวบรวมความกล้ามาคุยกับฉัน ฉันได้ใช้โอกาสนี้ในการถามถึงที่อยู่ของศูนย์ลงทะเบียนอาชีพ

 

“อ๊ะ ศูนย์ลงทะเบียนอาชีพต้องไปทางไหนเหรอ?”

 

“อ่า ตรงไปทางนี้จะไปถึงลานกลางเมือง ตึกใหญ่ๆทางซ้ายนั่นล่ะ”

 

“ขอบใจมากนะ~”

 

เขาเป็นชายหนุ่มเผ่ามนุษย์ที่ดูสดชื่น เป็นนักดาบที่ใช้ดาบมือเดียวคู่กับโล่ ค่อนข้างเป็นการเลือกที่สมดุลล่ะ

 

โล่นี่เป็นอะไรที่สะดวกดีนะ จะใช้รับการโจมตีตรงๆหรือจะปัดออกก็ได้ ถ้าอยากล่ะก็จะใช้โจมตีก็ยังได้

เอาจริงๆนะถ้าฉันมีโล่ในตอนที่สู้กับหมาป่าแดงคงจะทำให้สู้ง่ายขึ้นเยอะ

 

เพียงแต่ว่าถ้าถือโล่มือหนึ่งแล้ว สกิลที่ใช้สองมือ…สกิลของ[อาวุธไร้คม]จะใช้ไม่ได้ล่ะ

เพราะว่าสกิล[คฑามือเดียว]ของฉันยังไม่มากพอในตอนนี้ ฉันคงยังไม่มีโอกาสได้ใช้โล่หรอก

 

“ตอนนี้ก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไปแล้วใช้อาวุธไร้คมทั้งสองมือดีกว่า”

 

[อะไรกันนะ จู่ๆก็…]

[น่ากลัว]

[เมื่อกี้นี้ อย่าบอกนะว่า…จะใช้ใส่หมอนั่น…]

[อย่าพึ่งใจร้อนนะ!]

 

“เปล่านะ ฉันไม่ได้จะทำอะไรแบบนั้นหรอกโอเคไหม!? ฉันแค่คิดว่าอาวุธสองมือก็มีข้อดีก็เท่านั้นเองนะ!”

 

เฮ้ คุณผู้ชม ฉันรู้สึกว่าตรรกะความคิดของพวกคุณน่ะมันเพี้ยนไปหน่อยแล้วนะ

แต่ก็นะ ส่วนหนึ่งก็เพราะฉันพึมพำออกมาคนเดียวนี่นา

 

ขณะที่ทำการโต้ตอบเหมือนเล่นตลกให้ใครดู ฉันก็มาถึงลานกลางเมือง

 

“ถ้าจำไม่ผิดจะอยู่ทางซ้าย…อ๊ะ นั่นหรือเปล่า?”

 

มันเป็นตึกที่มีคำเขียนไว้ง่ายๆว่า[ศูนย์ลงทะเบียนอาชีพ]

ขณะที่ผิดหวังที่ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นแล้วเดินผ่านทางเข้าที่ไม่มีประตู ก็พบกับเคาน์เตอร์ของNPCที่เรียงตัวเหมือนกับอาคารของทางการ

 

“จะเข้าแถวไหนก็ได้สินะ?”

 

[ต่อแถวลุงแก่ๆดีกว่า]

[ขอพี่สาวคนสวย!]

[พนักงานน่ารักๆดีกับสายตากว่านะ]

 

“อืม สุ่มๆเอาละกัน”

 

ไม่ใช่ว่าที่นี่จะเต็มไปด้วยผู้คนสักหน่อย ฉันเดินไปยังเคาน์เตอร์ที่เปิดโล่ง มีNPCสาวคนสวยออกมาต้อนรับฉันพร้อมรอยยิ้ม

 

“ยินดีต้อนรับสู่ศูนย์ลงทะเบียนอาชีพค่…เอ๊ะ?”

 

ในขณะที่ฉันกำลังคิดอยู่ว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่สวยจัง จู่ๆเธอก็นิ่งไป

เอ๋ บัคงั้นเหรอ?

หลังจากที่ค้างไปได้สักพักเธอก็รู้สึกตัวอีกครั้งและก้มหัวลง

 

“…ข-ขอโทษด้วยนะคะ ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นหลักฐานในเมืองแห่งนี้…”

 

สิ่งที่เธอพูดถึงคือ[หลักฐานการปราบบอสยูนีคโซโล่]ที่ห้อยอยู่ที่คอของฉัน

เป็นสร้อยคอที่ไม่ได้ใหญ่มากนักและไม่ได้เกะกะอะไรเวลาที่ฉันต่อสู้อีกด้วย

 

“นี่เหรอ?…มันเป็นอะไรที่สุดยอดขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

“ไม่ใช่แค่สุดยอดนะคะ! มันคือหลักฐานว่าคุณคือหนึ่งในผู้ที่ปราบผู้ถูกเลือกสรรโดยโลกาได้เลยนะ!”

 

มองเผินๆเธอดูเหมือนพี่สาวสุดสวยสายคูลแต่เธอคนนี้กำลังทำตัวเหมือนแฟนคลับที่ตื่นเต้นมากๆอยู่

นี่ใช่ไหมที่ว่าค่าชื่อเสียงในหมู่NPCเพิ่มขึ้นน่ะ?

ยิ่งไปกว่านั้น ฉันสงสัยในคำที่ฟังดูจูนิเบียวนั่นมากกว่า

 

“ผู้ถูกเลือกสรรโดยโลกา…?”

 

“เกี่ยวกับมอนสเตอร์ยูนีคค่ะ มอนสเตอร์ที่ถูกสลักชื่อเฉพาะโดยโลกใบนี้ มีการเล่าขานกันว่าพวกมันมีพลังที่ไม่อาจเทียบเคียงเพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่นบอสของดันเจี้ยนถ้ำแห่งการทดสอบ ยักษ์แดง นั่นไม่ใช่ชื่อเฉพาะแต่เป็นชื่อของสปีชีย์ค่ะ”

 

พอพูดขึ้นมา นึกดูดีๆแล้วยักษ์แดงเองก็ไม่ได้มีชื่อที่ฟังเหมือนชื่อจริงๆ

เพราะฉันปราบมันลงได้ในทันทีฉันเลยไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่ก็พึ่งปราบมันมาฉันเลยยังพอจำได้อยู่

 

แต่ถึงอย่างนั้น ชื่อที่ถูกสลักโดยโลกสินะ?

แบบว่า เป็นมอนสเตอร์ที่สู้ๆอยู่ก็ถูกสลักชื่อโดยโลกแล้วก็บอกว่า[มอนสเตอร์ได้วิวัฒนาการเป็นมอนสเตอร์ยูนีคแล้ว]อะไรอย่างนั้นสินะ

 

“เป็นอย่างนี้นี่เอง…อ๊ะ เรื่องลงทะเบียนอาชีพ”

 

ในเมื่อฉันได้ฟังในสิ่งที่สนใจแล้ว ฉันจึงเปลี่ยนประเด็นกลับมาที่หัวข้อหลักที่ฉันมาที่นี่

คุณพี่สาวที่กำลังตื่นเต้นก็เปลี่ยนไปทำสีหน้าตกใจอย่างกะทันหันแล้วจึงทำสีหน้าเคอะเขินก่อนจะสำรวมตนแล้วเข้าสู่โหมดบริการเต็มที่

 

“อืน…ขออภัยด้วยค่ะ ลงทะเบียนอาชีพนะคะ โปรดแสดงบัตรเมนูการ์ดด้วยค่ะ”

 

“เชิญเลย”

 

“ขอบคุณมากค่ะ เลเวล20ยืนยันเสร็จสิ้น…นี่ค่ะ สิ่งที่จะแสดงขึ้นมาคืออาชีพที่ซุคุนะซามะสามารถเลือกได้ในตอนนี้ค่ะ”

 

“ไหนดูสิ…”

 

 

[นักรบ]

อาชีพที่สู้ทางกายภาพเป็นหลักด้วยอาวุธ

ความแข็งแกร่งและความทนทานจะได้รับอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น

เงื่อนไข : มีทักษะความเชี่ยวชาญอาวุธใดๆ20ขึ้นไป

 

[นักทำลายล้าง(ครัชเชอร์)]

อาวุธที่เชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้วยอาวุธไร้คม

เมื่อสวมใส่อาวุธไร้คมเท่านั้น เพิ่มความแข็งแกร่งและความทนทาน และเพิ่มพลังโจมตีของอาวุธ

เงื่อนไข : มีทักษะความเชี่ยวชาญอาวุธไร้คม50ขึ้นไป

 

[โจร]

อาชีพที่เชี่ยวชาญในการสำรวจดันเจี้ยน

สามารถเรียนรู้สกิล[ถอนกับดัก]และ[สะเดาะกุญแจ]ได้ ความคล่องแคล่วและความว่องไวจะได้รับอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น

 

[โดวจิ](คันจิเดียวกับ ชูเทน โดวจิ,อิบารากิ โดวจิ)

อาชีพพิเศษสำหรับคิจินผู้ซึ่งละทิ้งค่าสถานะเวทมนตร์ของตน(MP,ปัญญา,ค่าต้านทานเวทมนตร์) เมื่อเลือกอาชีพนี้แล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนได้

เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับการที่ไม่สามารถเพิ่มค่าสถานะโบนัสไปยังค่าสถานะเวทมนตร์ ค่าสถานะทางกายภาพ(ความแข็งแกร่ง,ความทนทาน,ความว่องไว)จะได้รับอัตราการเติบโตที่สูงขึ้น

และเพิ่มชื่อเสียงในหมู่NPCชาวคิจิน

เงื่อนไข : เป็นผู้เล่นเผ่า[คิจิน] และไม่เคยเพิ่มค่าสถานะใดๆในค่าMP,ปัญญา,และความต้านทานเวทมนตร์

 

 

“นึกว่าจะเลือกอะไรก็ได้ซะอีก”

 

“มีหลายคนเลยค่ะที่พูดแบบนั้นเช่นกัน แต่ก็เป็นอย่างที่เห็น”

 

เหมือนกับเวลาติดต่องานราชการเลย แต่นี่ก็เป็นปกติของเกมละมั้ง

ถึงจะพูดยังไงก็ตามแต่อาชีพที่ฉันเลือกได้ก็ไม่เปลี่ยน

 

ในหมู่อาชีพทั้ง4นี้ ฉันตัด[นักรบ]และ[โจร]ออกไปได้เลย

 

จากคำอธิบายอาชีพ [นักรบ]เป็นอาชีพสำหรับผู้เล่นที่อยากใช้อาวุธหลายๆประเภท

ยกตัวอย่างเช่นมีด หือดาบสองมือ หรือคฑามือเดียวกับดาบมือเดียว

จะว่าดีก็ดี จะว่าไม่ดีก็ไม่ดี ฉันคิดว่าการใช้อาวุธหลายๆประเภทไม่ใช่เรื่องแย่หรอกนะ แต่ฉันไม่คิดจะใช้อย่างอื่นนอกจากอาวุธไร้คมหรอก

ส่วน[โจร]นั้นเป็นอาชีพสยสอดแนมแต่แรก ไม่เหมาะกับฉันที่เล่นเป็นแนวหน้าในการต่อสู้เลย

 

นั่นหมายความว่าฉันเหลือตัวเลือกเพียงสองอาชีพ แต่ว่าจะเป็นอันไหนกันล่ะ?

 

[นักทำลายล้าง]คงจะเหมือนกับนักดาบหรือจอมเวท

โดยมีข้อแลกเปลี่ยนกับการจำกัดอาวุธประเภทเดียว อาชีพนี้จะได้รับพลังโจมตีที่สูงขึ้นมาเทียบกับอาชีพนักรบ

ถ้าไม่มีอีกอาชีพให้เลือกฉันคงกดเลือกอาชีพนี้ไปอย่างไม่ลังเลแล้ว อาชีพนี้เหมาะกับสไตล์ของฉันจริงๆล่ะนะ

 

ปัญหาก็คือ อาชีพอีกอันหนึ่ง [โดวจิ]

 

“ขอโทษนะคะ อาชีพพิเศษคืออะไรเหรอคะ?”

 

“อาร่า มีอาชีพพิเศษแสดงขึ้นมาด้วยเหรอ?”

 

“ค่ะ อาชีพ[โดวจิ]”

 

“[โดวจิ]…อาชีพพิเศษสำหรับคิจินที่ละทิ้งค่าสถานะทางเวทมนตร์จึงจะเลือกได้ ถ้าให้ตอบตามตรงล่ะก็ แทบไม่มีใครเลือกเลยค่ะ”

 

สำหรับฉันแล้ว นั่นมันไม่คาดคิดอย่างมาก

เพราะว่าไม่มีมอนสเตอร์ที่ใช้เวทมนต์ได้เลยในแถวๆเมืองแห่งการเริ่มต้น ผู้เล่นเผ่า[คิจิน]ที่มาถึงจุดนี้ได้ส่วนใหญ่แล้วมักจะผ่านเงื่อนไขการได้รับ[โดวจิ]

 

นอกจากผู้เล่นที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลหรือผู้เล่นที่อยากท้าทายตัวเองด้วยการเล่นเป็นคิจินสายเวทแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องใส่แต้มสถานะลงในด้านเวทมนตร์เลย

 

แล้วถ้าได้เจอกับอาชีพเฉพาะทางแบบนี้เวลาที่มาลงทะเบียน คนส่วนใหญ่คงจะเมินข้อเสียไปแล้วเลือกกันนะ ตามนิสัยของมนุษย์แล้ว ฉันคิดว่าอย่างนั้นนะ

 

ความพิเศษ เอกลักษณ์เฉพาะตัว คำเหล่านั้นมักดึงดูดผู้คนล่ะ

 

ฉันทำสีหน้าไม่เชื่อออกมาหรือเปล่านะ? คุณพี่สาวที่เห็นหน้าของฉันจึงได้อธิบายต่อ

 

“หรือว่า บางทีแล้ว ซุคุนะซามะพึ่งจะมาถึงเมืองนี้หรือเปล่าคะ?”

 

“พึ่งถึงเมื่อกี้เลยล่ะ”

 

“เข้าใจแล้วค่ะ แล้วคุณรู้จักดันเจี้ยนที่เชื่อมต่อไปยังเมืองที่สาม[ทรีอา]หรือเปล่าคะ?”

 

“ไม่ล่ะ ไม่รู้เลย”

 

“ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้หรอกนะคะ ผ่านประตูทิศเหนือไปคือทะเลป่าที่ล้อมรอบทุ่งกว้างไว้ที่มีชื่อว่า[ป่าแห่งเวทมนตร์] มอนสเตอร์ทุกตัวที่นั่นล้วนใช้เวทมนตร์ได้ เป็นดันเจี้ยนที่เชี่ยวชาญในเรื่องเวทมนตร์ค่ะ ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่มาที่นี่จะต้องเพิ่มเลเวลถึงเลเวล20กันที่นั่นค่ะ”

 

“อ๊ะ…เข้าใจแล้วล่ะ”

 

ด้วยคำอธิบายของคุณพี่สาว ฉันถึงได้เข้าใจในปริศนาที่ฉันมีอยุ่ในหัวนี้

 

หรือก็คือ

ไม่เหมือนกับฉันที่ได้เจอกับอาเรียและไม่เคยสัมผัสกับเวทมนตร์เลยก่อนจะถึงเมืองนี้ ผู้เล่นปกติจะได้รับ[เวทมนตร์นั้นอันตราย]ฝังอยู่ในหัว

เพราะว่าการจะมาถึงเมืองนี้ได้ แค่เลเวล15ก็เพียงพอแล้ว

น้อยคนนักที่จะเลเวลเกิน20แล้วถึงค่อยข้ามจากเมืองแห่งการเริ่มต้นมายังที่แห่งนี้

 

อีกทั้งเผ่าคิจินนั้นมีความต้านทานเวทมนตร์ที่ต่ำ เพราะงั้นเวทมนตร์ที่ได้รับจากมอนสเตอร์เลเวลพอๆกันมักจะอันตรายอย่างมาก

“ค่าสถานะจากตัวฉันที่มีเลเวล21เท่ากับของมนุษย์เลเวล1” ถ้าพูดแบบนี้จะสื่อได้ไหมนะ?

ถ้าต้องมีสภาพแบบนั้นในดันเจี้ยนที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ ฉันนึกออกเลยว่าคงจะเลวร้ายมากแน่ๆ

 

ถึงแม้ว่า แม้ว่าบางทีแล้วคุณอาจจะไม่เคยได้เพิ่มความต้านทานเวทมนตร์เลยจริงๆ

ถ้าถูกบอกว่าจะไม่สามารถเพิ่มค่าสถานะทางเวทมนตร์ได้อีกเป็นเงื่อนไขในการเลือก[โดวจิ] มีโอกาสสูงที่พวกเขาอาจจะไม่เลือกแต่แรกเพราะว่ามีอาชีพที่เหมาะสมกว่าให้เลือกก็เป็นได้

แม้แต่ฉันเองก็ยังลังเลระหว่าง[โดวจิ]กับ[นักทำลายล้าง]เลย

 

“ในสายตาของผู้คนแล้วเป็นยังไงเหรอ? เจ้านี่น่ะ”

 

“ไหนดูสิ เป็นเพราะว่าอาชีพนี้เพิ่มค่าสถานะให้สูงมาก และยังสามารถดึงจุดเด่นของเผ่าคิจินออกมาได้อีกมาก แต่ว่าข้อเสียเองก็สูง ผู้คนบนโลกนี้ที่มีเพียงชีวิตเดียวคงจะไม่เลือกกัน เพราะงั้นถ้าคุณเลือก[โดวจิ]และฝึกฝนจนเชี่ยวชาญล่ะก็ คิจินทุกตนบนโลกคงจะมองคุณด้วยความอิจฉาเป็นแน่…แต่ฉันไม่แนะนำหรอกนะคะ”

 

“เข้าใจล่ะ งั้นฉันเลือก[โดวจิ]ละกัน”

 

คุณต้องการเลือก[โดวจิ]ใช่หรือไม่? ใช่

แน่ใจใช่ไหม? ใช่

คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนได้อีก แน่ใจแล้วใช่ไหม? ใช่

 

เลือกผ่านตัวเลือกสามชั้นบนหน้าจอเมนูเพื่อยืนยัน ฉันได้เลือกอาชีพพิเศษ[โดวจิ]

 

แล้วฉันก็ยื่นบัตรเมนูการ์ดที่มี[โดวจิ]เขียนเอาไว้ให้กับคุณพี่สาว

 

“เอ๋? เลือกไปแล้วเหรอคะ…!! ได้ฟังที่ฉันพูดหรือปล่าคะ!?”

 

“ฟังแล้วล่ะ แต่ว่านะ…นี่ไง พิเศษเลยนะ เยี่ยมเลยไม่ใช่เหรอไง?”

 

คุณพี่สาวกระสับกระส่ายไปกันใหญ่แต่หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เธอเล่ามา ฉันตัดสินใจได้ว่ามันไม่เป็นปัญหาสำหรับฉัน

เฉพาะทางเกินไป แล้วยังไงล่ะ ฉันรับได้อยู่แล้ว

แต่แรกเลยที่ฉันเลือกเผ่าคิจินมาก็เพื่อ[หลบทุกอย่างแล้วฟาดมันซะ]

แทนที่จะห่วงเรื่องความป้องกันเวทมนตร์แล้วรักษาค่าสถานะให้สมดุล ฉันคิดว่าฉันเลือกที่จะฮึดสู้แล้วทำลายทุกอย่างที่ขว้างทางซะจะดีกว่า

 

อีกอย่าง ถ้าไม่เลือกอาชีพพิเศษในตอนนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าฉันจะสูญเสียอะไรไปหลายๆอย่าง

เธอบอกว่าแทบไม่มีใครเลือกแต่นั่นหมายความว่ามีคนเลือกไปก่อนหน้าฉันแล้ว ฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องมาเกรงใจอะไรนี่

 

“แล้วก็นะพี่สาว ฉันน่ะแข็งแกร่งพอจะมีเจ้านี่เลยนะ”

 

“อุ….”

 

ฉันเหยียดยิ้มพร้อมกับโชว์[หลักฐานการปราบบอสยูนีคโซโล่]ให้เธอดูจนยอมแพ้ไป

ฉันรู้อยู่ว่าสิ่งนี้ไม่ได้เอาไว้ใช้ทำอะไรอย่างนี้ แต่ว่าไม่มีวิธีไหนที่จะแสดงความแข็งแกร่งในแบบที่เลเวลคือค่าสถานะก็แสดงไม่ได้แล้ว

 

และแบบนี้ฉันจึงได้รับการว่าจ้าง(?)ในอาชีพเฉพาะสุดพิเศษ[โดวจิ]

 

ซุคุนะ โดวจิ