Ch.25 – พรสวรรค์ในการสั่งการ

Translator : Asiran / Author

ตอนที่****25 – พรสวรรค์ในการสั่งการ

 

ชนะ!

8 นาที 41 วินาที เหออวี้กับพวก Suger สี่คนก็ได้รับชัยชนะในเกมจับคู่นี้ แต่ว่าเขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย

รายงานข้อมูลท้ายเกมยิ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน — เปอร์เซ็นต์การทำดาเมจของเจงกิสข่าน : 10.3%

ตัวทำดาเมจทั้งหลายปกติแล้วจะมีเปอร์เซ็นต์การทำดาเมจกันอยู่ที่ 30% ข้อมูล 10.3% นี้ไม่ต้องมาพูดกันแล้วว่าสอบผ่านหรือไม่ ในเกมออนไลน์ในอดีตเรียกพวกทำดาเมจแบบนี้ว่าเหลวเป๋ว ส่วนใน The Kings of Glory เรียกพวกทำดาเมจแบบนี้ว่า นอนชนะ*

นอกจากนี้เหออวี้ก็ยังเป็นคนเดียวในกลุ่มที่แจกออกไปหนึ่งคิล ทำให้แต้มคิลที่เดิมเป็นศูนย์อย่างสมบูรณ์แบบถูกศัตรูทำให้แปดเปื้อนขึ้นมา

Suger ทั้งสี่คนหันไปมองเขาพร้อม ๆ กัน เหลียงเฉิน, ไป๋หู, เหล่าเสียนอวี๋สามคนหัวเราะออกมา จากนั้นซูเก๋อก็ตบไหล่เหออวี้พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “สู้ ๆ นะ”

เมื่อเทียบกับการเสียดสี ยิ้มหยัน หรือพูดแขวะแล้ว ไม่แน่ว่าคำพูดอ่อนโยนอย่างนี้ยังอาจจะทำให้คนเจ็บปวดที่สุด นี่เป็นความสงสารจากผู้สูงศักดิ์ที่มองต่ำลงมาอย่างหนึ่ง นอกจากนี้แล้วก็ไม่คิดที่จะเสียเวลาข้องเกี่ยวด้วยอีกแม้แต่นิดเดียว

แต่เหออวี้ก็เพียงแค่ยิ้มแล้วพูดว่า “ขายหน้าแล้ว”

“คลื่น7 ตอนนี้มีคนครบห้ารึยัง” ซูเก๋อทอดมองป้ายชื่อบนโต๊ะแล้วถามขึ้นมา

“ครบแล้วครับ” เหออวี้พูด

“ขอให้พวกนายโชคดีนะ” ซูเก๋อพยักหน้า

“จะพยายามเต็มที่ครับ” เหออวี้พูด

“พรูด!” เหล่าเสียนอวี๋ที่อยู่ข้างซูเก๋อหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง แต่ก็รีบชูนิ้วโป้งให้เหออวี้ทันทีแล้วบอกว่า “สู้ ๆ นะ!”

“ขอบคุณครับ” แน่นอนว่าเหออวี้ย่อมต้องได้ยินน้ำเสียงเสียดสีที่อยู่ในคำพูดให้กำลังใจของอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังขอบคุณไปเหมือนไม่รู้เรื่องอะไร

พวก Suger ทั้งหลายเดินจากไป พูดคุยหัวเราะกันไปตลอดทาง บางครั้งบางคราก็จะหันกลับมาชี้นิ้วใส่เหออวี้ตรงนี้ เหออวี้เห็นพวกเขาชี้นิ้วใส่แบบนี้ก็ไม่โกรธแต่กลับยิ้มขึ้นมา

ไม่แน่ใจสไตล์การเล่นของพวกเขา ไม่รู้วิธีเล่นประจำของพวกเขา เพียงแค่วิเคราะห์เจตนาของพวกเขาแล้วก็เล่นตามเกม ทำได้ขนาดนี้เหออวี้ก็พอใจในตนเองมากแล้ว เมื่อรวมกับสนามรบฉางผิงเมื่อวานนี้นี่ก็เป็นเพียงเกมที่สามของเขาใน The Kings of Glory เอง ส่วนแอคเคาน์ของอีกสี่คนนั้นเป็น conqueror ที่แข็งแกร่งที่สุด ถึงจะมีตัวเองเป็น bronze อยู่คนหนึ่ง แต่เหออวี้ก็คาดว่าศัตรูก็คงจะไม่ได้ย่ำแย่อะไรมาก ดังนั้นก็กล่าวได้ว่านี่เป็นเกมขั้นสูง ตัวเองที่มีระดับแค่นี้สามารถจะไปเล่นเกมขั้นสูงได้แบบนี้ เหออวี้ก็รู้สึกว่าไม่เลวอย่างยิ่งแล้ว

ส่วนเรื่องแต้มคิลที่เสียไป พวกเขาไม่ได้พูดถึง แต่ดูสีหน้าก็รู้แล้วว่ารังเกียจข้อผิดพลาดนี้จนไม่อยากพูดถึง นั่นก็เป็นเพราะว่าพวกเขาไม่ได้เห็นตนเองเป็นพวกพ้องที่ต่อสู้เคียงข้างกัน

เมื่อคิดถึงตรงนี้โทรศัพท์มือถือก็แจ้งเตือนขึ้นมา มองไปก็เห็นว่าเป็นกลุ่มคลื่น7 สามคนของพวกเขาที่มีข้อความมาอีกแล้ว พอเข้าไปดูก็พบว่าข้อความที่เข้ามาเป็นการต่อว่า

“ให้นายไปรับสมัครคนใหม่ นี่นายขี้เกียจจนมานั่งเล่นเกมเหรอ @เหออวี้” เกาเกอส่งอีโมติคอนโกรธ

“ถ้าเธอไม่ได้แอบเล่นเกมเหมือนกันจะเห็นเขาได้ยังไง…” โจวม่อผู้ซื่อสัตย์และเที่ยงธรรมเสมอปาดเหงื่อพูด

“เพียงแต่ว่าที่แจกคิลไปตอนนั้นไม่เลวเลยจริง ๆ กินสกิลสำคัญ ๆ ไปหลายสกิลเลย” เกาเกอจู่ ๆ ก็เปลี่ยนเรื่องพูด

“อืม ถ้าไม่ยอมบุกไปรอบนั้นก็อาจจะต้องเล่นกันไปอีกสองนาทีเลยก็ได้” โจวม่อก็พูดขึ้นมา

เหออวี้รู้สึกอบอุ่นใจมาก

นี่ก็คือพวกพ้องของตัวเอง ตั้งใจสังเกตการเล่นของตัวเองในเกมอยู่เสมอ แล้วก็ยังเชื่อมั่นในสายตาของตนเองอีกด้วย สามารถมองออกว่าที่ตัวเองเสียคิลไปนั้นไม่ใช่ความผิดพลาด แต่เป็นหลังจากพบว่าตัวเองก็ไม่ได้ทำดาเมจอะไรได้มากมายแล้ว ในการสู้กันรอบนั้นก็เลยตั้งใจรับดาเมจ ใช้ตัวแครี่บาง ๆ ของตัวเองรับสกิลสำคัญของอีกฝ่ายไป ทำให้ Suger ทั้งสี่คนใช้โอกาสนี้ทำ Ace ได้อย่างราบรื่น จากนั้นก็ตีป้อมในแตกไปรวดเดียว (คนแปล: Ace คือผู้เล่นอีกฝ่ายตายยกทีม)

ยังคงเป็นพวกพี่ที่เข้าใจผม!

เหออวี้ตื้นตันใจ เตรียมที่จะพิมพ์ลงไปสักสองประโยค แต่อีกสองคนในกลุ่มก็คุยกันต่อ

“แต่ว่านอกจากตรงนี้แล้ว ที่เหลือก็ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ดาเมจ 10.3%…” เกาเกอกล่าว

“นี่ ยังไงก็เป็นเกมระดับสูงนะ ฉันไปเช็คดูห้าคนของอีกฝ่ายมาแล้ว conqueror สาม star สอง ตอนนี้เพิ่งจะเริ่มซีซั่นใหม่ แค่เป็น gold ก็ยอดเยี่ยมแล้ว”

“แต่ให้พวกซูเก๋อสี่คนถล่มจากแผนการเล่นประจำได้ เกรงว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้มาเป็นทีม” เกาเกอพูด

“เหออวี้ก็ยังนับว่าจับจังหวะการเล่นของพวกซูเก๋อได้นะ เจงกิสข่านจะทำดาเมจยังไงก็ยากอยู่แล้ว ต้องฝึกฝนต่อไป” โจวม่อพูด

“ผมขอบคุณพวกพี่มากครับ…” เหออวี้ทนดูต่อไปไม่ได้ รีบลุกขึ้นมาพูด สองคนนี้ เกาเกอออกมาพูดตรง ๆ ส่วนโจวม่อดูจะรักษาน้ำใจเขา แต่ความหมายที่พูดออกมาก็คือเห็นพ้องต้องกันว่าเขาในตอนนี้ยังไม่ดีพอ ถ้าตัวเองอยากที่จะได้ยินคำชมที่ไม่ผสมคำด่าในตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะยากมาก

“แล้วนายไปทำอีท่าไหนถึงไปเล่นกับพวกเขาได้ล่ะ” เกาเกอถามขึ้นมา

“พวกเขาเดินผ่าน ผมไม่ทันมอง ไปชวนซูเก๋อมาเข้าร่วม…” เหออวี้พูดเรื่องน่าขายหน้าของตัวเอง

“ทำไปได้นะ งั้นเขาตกลงไหมล่ะ” เกาเกอถาม

“….” นี่เห็นได้ชัดว่าเป็นการพูดแซว เหออวี้ได้แต่แจกจุดตอบกลับไป

“แล้วทำไมตอนหลังถึงมาเล่นด้วยกันได้ล่ะ” โจวม่อยังคงสงสัยต่อไป

“ถามผมว่าแรงค์อะไร ผมบอกว่ามันซับซ้อนบอกไม่ได้ พวกเขาก็ขอให้ผมเล่นให้ดู ผมก็เลยเล่นให้ดู” เหออวี้กล่าว

“ที่นายทำนั่นเรียกเล่นเหรอ นั่นคือการเล่นแล้วเหรอ” เกาเกอถาม

“สำหรับระดับในปัจจุบันของเหออวี้น่าเรียกว่าจะพยายามเล่นสุด ๆ แล้วมั้ง” โจวม่อกล่าว

ตัวเองพยายามเล่นสุด ๆ แต่ว่าหลังจากนั้นก็เล่นเหมือนเป็นตัวประกอบงั้นหรือครับ

โชคร้ายที่รุ่นพี่โจวม่อนี่ชอบพูดตอกย้ำอย่างนี้เสมอเลย ทำให้เหออวี้ไม่สามารถจะเถียงกลับไปได้ เขาเพียงแต่อยากจะบอกรุ่นพี่โจวม่อว่า มีดที่ไม่ได้ตั้งใจแทงมักจะแทงได้ลึกเป็นพิเศษ

พวก Suger ที่อยู่ห่างไกลแล้วตอนนี้ก็ยังคงพูดคุยเกี่ยวกับเหออวี้อยู่ เพียงแต่เสียงหัวเราะเยาะเย้ยได้เปลี่ยนเป้าหมายไปแล้ว ไม่ใช่เหออวี้อีกต่อไป แต่เป็นพวกจางเฉิงห่าวสามคนที่เพิ่งจะถูกเหออวี้เอาชนะไปเมื่อวาน

“ถึงขนาดถูกไก่แบบนี้เอาชนะไปได้ หวงเฉาพวกนั้นก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ ดูเหมือนว่าแชมป์ของเทอมนี้ก็ยังอยู่ที่ Suger ของพวกเราไม่หนีไปไหนได้” เหลียงเฉินกล่าว

“พวกนายคิดจริง ๆ เหรอว่าเหอเหลียงอวี้คนนั้นไก่มาก” ซูเก๋อที่เพียงแต่ฟังคนอื่นพูดเงียบ ๆ มาตลอดทางจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาหนึ่งประโยค

“เอ่อ แน่นอนว่าก็ไม่ได้ไก่เป็นพิเศษ จะยังไงพวกเราก็ไม่ได้แบกเขามากมาย แต่ว่าการที่เขาสามารถจะตามพวกเราได้ทันก็บอกได้ว่าความตระหนักรู้ดีมาก” พอเห็นซูเก๋อดูจะจริงจังขึ้นมา คนทั้งหลายก็เลิกล้อเล่น เหลียงเฉินครุ่นคิดอย่างจริงจังแล้วกล่าวขึ้น

“ถ้าเขาเป็นศัตรูของเรา เป็นไปได้ไหมว่าจะดูเจตนาของพวกเราทุกคนออกจนหมด” ซูเก๋อกล่าว

“นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าวิชั่นที่ได้ดีหรือไม่ดีไหมอะ” เหลียงเฉินพูด

“แล้วถ้าเขาเป็นซัพพอร์ตที่มีหน้าที่ส่องหาวิชั่นล่ะ” ซูเก๋อพูดอีกครั้ง

ทุกคนต่างไม่พูดไม่จา

ถ้าเหอเหลียงอวี้ที่เจอคนนี้เป็นตัวซัพพอร์ต ตัวเองรู้ว่าจะต้องไปส่องหาวิชั่นที่ไหน จากนั้นก็วิเคราะห์การกระทำของอีกฝ่ายจากการสังเกตของตัวเอง จากนั้นก็สั่งการทีม…

“ทหารกล้าพันคนหาง่าย หนึ่งยอดขุนพลยากพบเจอ แต่เหนือว่ายอดขุนพลก็ยังมียอดแม่ทัพ ถ้าเราจะเทียบบรรดาผู้เล่นมากมายว่าเป็นทัพพันทหารหมื่นอาชาแล้ว งั้นพวกนักเล่นเกมอาชีพก็เป็นขุนพลมีชื่อ ส่วนแม่ทัพที่หายากยิ่งกว่าซึ่งมีหน้าที่สั่งการขุนพลมีชื่อพวกนี้ในเกม ในทีมอาชีพทั้ง 12 ทีมของ KPL เท่าที่ฉันรู้มาผู้ที่สั่งการได้เก่งกาจจริง ๆ มีไม่เกินสี่คน นายว่าพรสวรรค์แบบนี้มันน่ากลัวแค่ไหนกันล่ะ” ซูเก๋อพูด

“สี่คนไหนเหรอ” เหลียงเฉินถามอย่างอยากรู้

“ออฟเลนทีมเวยเฉิน หยางเมิ่งฉี, เลนกลางทีมเทียนเจ๋อ โจวจิ้น, ตัวป่าทีมอีสือกวง หลี่เหวินซาน, ซัพพอร์ตทีมซานกุ่ย สูเฮ่อเสียง” ซูเก๋อกล่าว

 

………………………………………………………..

*โอเค นี่เป็นสแลงจีนที่เราไม่แน่ใจว่ามีคำไทยกันบ้างรึเปล่า

เหลวเป๋ว คือ划水 (คาดว่าน่าจะเป็นคำเดียวกับที่ดราม่ากันหนักมากในกลอรี่) 划= พาย(เรือ) 水=น้ำ

นอนชนะ คือ 躺=นอน 赢=ชนะ

 

เรื่องนี้ก็มีสี่เจ้ากลยุทธ์เหรอเนี่ย…