Ch.26 – สนใจหน่อย
Translator : Asiran / Author
ตอนที่****27 – รับคนใหม่ยากจัง
นอกจากตรงที่พูดเรื่องแจกคิลให้กลุ่มซูเก๋อไปทีหนึ่งแล้ว พอมองไปที่การวิเคราะห์ของเกาเกอและโจวม่อในกลุ่มแชทอีกครั้ง เหออวี้ก็รู้สึกสุขเศร้าระคนกัน
สุขก็เพราะกล่าวได้ว่าเขาไม่ได้วิเคราะห์แผนการเล่นประจำของพวกซูเก๋อที่เป็นผู้เล่น conqueror ผิดพลาดไปเลย เศร้าก็เพราะว่าอย่างที่เกาเกอกับโจวม่อพูดนั่นล่ะ การตระหนักรู้ถูกตรง แต่นอกจากนั้นเล่า ความจริงก็คือนอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรเลย ในฐานะตัวดาเมจ ตั้งแต่ต้นจนจบที่กดอีกฝ่ายสนิทแต่มีดาเมจแค่ 10.3% ความจริงไม่ต้องให้ใครก็เตือนเหออวี้ก็ทราบชัดอยู่แล้วว่าตนเองยังมีอีกหลายจุดมาก ๆ ที่เล่นไม่ได้เรื่อง ส่วนตรงที่ไปรับสกิลแทนคนอื่นรอบนั้นก็ไม่ได้เป็นกุญแจสำคัญที่ตัดสินผลแพ้ชนะอะไร พูดอย่างไม่น่าฟังก็คือ คงจะเป็นความสำเร็จของการเอาขยะไปรีไซเคิลเท่านั้น
ฉันยังอยู่อีกห่างไกลนัก!
เมื่อได้มาสัมผัสเกม โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มาเล่นเกมกับยอดฝีมืออย่างพวกซูเก๋อแล้ว ความเข้าใจของเหออวี้ก็ยิ่งแจ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ว่าในการพัฒนาขีดความสามารถนั้นไม่มีเส้นทางลัด สิ่งที่ต้องทำก็มีเพียงการฝึกซ้อมให้มากขึ้น แต่ว่าการฝึกซ้อมพวกนั้นจะได้ผลกว่าในเกมระดับสูง เพียงแค่เกมจับคู่เกมนี้เมื่อเทียบกับเกมไต่แรงค์ bronze แล้วเหออวี้ก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างมากมาย ส่วนแรงค์ bronze ต้องสู้ยังไงนั้น อันที่จริงเหออวี้ก็ดูออกแล้ว ไม่ต้องใช้การควบคุมอะไร ขอแค่มีความตระหนักรู้ในจุดหนึ่งก็พอ นั่นก็คือ ฟาร์ม
เมื่อคิดถึงตรงนี้เหออวี้ก็เริ่มคันไม้คันมือขึ้นมา มองไปด้านข้าง นักศึกษาจากกลุ่มศึกษาเขตหนานหูได้หายตัวไปอย่างลึกลับแล้ว ตัวเองก็ได้เฝ้าอยู่ตรงนี้ตั้งใจทำงานมาเยอะแล้วนะ…สักเกมไหม
หลังจากเหลือบมองไปรอบ ๆ เหมือนตัวเองเป็นโจรแล้วก็ไม่เห็นว่ามีนักศึกษาคนไหนเดินผ่านมา สุดท้ายเหออวี้ก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเริ่มเกมไต่แรงค์
ทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ สำหรับเขาที่ได้ศึกษาเรื่อง The Kings of Glory มาอย่างลึกซึ้งแล้ว ถึงแม้ว่าการควบคุมจะแปลกใหม่มาก แต่ในแรงค์ bronze ก็ใช่เรื่องยากอะไร ขอแค่คอยระวังเรื่องการเงินเอาไว้หน่อยหนึ่ง ไม่กี่นาทีต่อมาเจงกิสข่านของเหออวี้ก็นำโด่ง จากนั้นก็เดินไปทั้งสามเลน จับใครได้ก็ฆ่า บวกกับการรู้จักวิธีการดันป้อม 9 นาที 21 วินาทีให้หลังอีกฝ่ายก็ประกาศยอมแพ้ สถิติ 13-0-3 อัตราดาเมจ 51% ข้อมูลตอนจบของเกมนี้น่าตื่นตาตื่นใจมาก เหออวี้ไม่ได้ภาคภูมิใจ เพียงแต่อดไม่ได้ที่จะกดปุ่มเริ่มเกมใหม่ก็เท่านั้น
ดังนั้นจึงเป็นเกมที่สอง เกมที่สาม เกมที่สี่…
ชัยชนะอย่างต่อเนื่อง สถิติเกมอันน่าตื่นตาตื่นใจอย่างต่อเนื่อง แรงค์ของเหออวี้พุ่งขึ้นไปราวจรวด แปบเดียวก็ไปถึงแรงค์ bronze สามดาวแล้ว ขอแค่ชนะอีกตาเดียวก็จะไปถึงแรงค์ silver ตอนนั้นเองที่เหออวี้ได้เห็นเกาเกอกับโจวม่อสองคนเดินมาทางนี้ รีบปิดเกมลงทันทีแล้วยืดตัวนั่งนิ่ง ๆ บนใบหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนมองดูนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมา
“ยังจะมาเล่นละครอีกเหรอ” เกาเกอที่เดินมาถึงตรงหน้ามองดูเขาแล้วถาม
“แฮะแฮะแฮะ…” เหออวี้ได้แต่หัวเราะโง่ ๆ รู้ว่าเรื่องที่ตัวเองกำลังเล่นเกมถูกจับได้แล้ว เพื่อนร่วมทีมสองคนนี้ก็ช่างห่วงใยเขาที่เป็นเด็กใหม่คนนี้เหลือเกิน คอยสนอกสนใจเขาตลอดเวลา
“เกม bronze ไม่ได้ยากสำหรับนายเลยใช่ไหม” โจวม่อกล่าว
“อืม ขอแค่สนใจฟาร์มหน่อยก็พอแล้ว” เหออวี้พูด
“ที่จริงแล้วจนถึงแรงค์ platinum ก็ประมาณนี้นั่นแหละ ความตระหนักรู้ของผู้เล่นแรงค์ พวกนี้เกี่ยวกับเรื่องของการเงินมันไม่ค่อยแข็งเท่าไหร่” โจวม่อพูด
“แบบนี้ผมคงจะไปถึง diamond ได้เร็วมาก ๆ เลยสินะครับ” เหออวี้พูด
“ฮะ ๆ” เกาเกอหัวเราะ
“รุ่นพี่มีคำแนะนำอะไรครับ” เหออวี้รู้สึกว่าเสียงหัวเราะของเกาเกอนี้ดูจะมีความหมายแฝงอยู่จึงรีบถาม
“นายเล่นเมื่อไหร่ก็รู้เองแหละ ฉันแค่อยากจะมาปลุกนายให้ตื่นจากฝันหวาน ถ้าแครี่อยากจะนำตลอดเวลา ถึงจะเป็นเกมระดับต่ำก็ต้องควบคุมหนักมาก” เกาเกอกล่าว
“นั่นเป็นเรื่องที่ผมต้องการเลย” เหออวี้พูด
“สู้ ๆ นะ ที่นี่ปล่อยให้พวกเราเอง” เกาเกอโบกมือบอกให้เหออวี้ลุกขึ้น
“รุ่นพี่ ผมขอพูดตรง ๆ นะ นี่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเลย…” เหออวี้ลุกขึ้นพลางพูดขึ้นมา สายตาอดไม่ได้ที่จะกวาดมองผ่านบรรดาชมรมที่ยอดเยี่ยมพวกนั้นซึ่งอยู่รายรอบ ทุกคนนั่งอยู่กันมาครึ่งบ่ายเหมือน ๆ กัน สามารถที่จะดึงดูดสายตาใคร่รู้มาได้บ้าง แต่ถ้าพูดถึงการที่มีคนสมัครเข้าชมรมนั้นก็ไม่มีแม้แต่คนเดียว สถานการณ์ของชมรมที่ยอดเยี่ยมพวกนั้นจะว่าไปแล้วยังดีกว่าคลื่น7 เสียอีก ตรงหน้าทีมคลื่น7 ยังมีศัตรูกล้าแกร่งที่ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยตงเจียงอย่างเจิดจ้าจนเทียบไม่ติด นั่นก็คือชมรม The Kings of Glory ที่แม้แต่นักเล่นเกมอาชีพก็ยังมาร่วมกิจกรรมด้วย ส่วนการรับสมัครคนของทีมคลื่น7 นั้น นักศึกษาเก่าในแวดวง The Kings ของมหาวิทยาลัยตงเจียงก็ไม่ชอบขี้หน้า ส่วนนักศึกษาใหม่ก็รู้สึกว่าประหลาดพิกล และเหออวี้ก็สังเกตเห็นแล้วว่าทีมคลื่น7 ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนสนใจ ถึงจะมาซ่อนตัวอยู่หัวมุมห่างไกลแบบนี้ บางครั้งบางคราวชมรม The Kings of Glory ก็จะเข้ามาด้อม ๆ มอง ๆ ก็ไม่รู้ว่าตอนแรกเกาเกอไปเหม็นขี้หน้าคนไว้สักเท่าไหร่ถึงทำให้คลื่น7 ถูกเพ็งเล็งแบบนี้
“ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยปะ” เกาเกอกล่าว ในน้ำเสียงเจือความจนใจเล็กน้อย
“งั้นผมไปก่อนนะ”
“ไปเหอะ”
เหออวี้เดินจากไป หลังจากเดินไปได้สักพักก็อดไม่ได้ที่จะหันกลับไปดู เห็นเกาเกอที่ก่อนหน้านี้พูดกับเขาว่า “ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย” ด้วยสีหน้าจนใจกับโจวม่อตั้งอกตั้งใจเชิญชวนนักศึกษาที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างจริงจังด้วยกันแล้ว ในใจก็มีความรู้สึกซับซ้อนขึ้นมา คนอย่างเกาเกอกับโจวม่อที่จริงจังกับเกมมากทำไมถึงได้ถูกบีบจนถึงขนาดนี้ เหออวี้ก็คิดไม่ออก
ตัวเราก็ต้องตั้งใจมากกว่านี้ พยายามช่วยทีมหาคนเก่ง ๆ
ตลอดทางเหออวี้ครุ่นคิดเรื่องนี้มาโดยตลอด เพิ่งจะมาถึงชั้นล่างของหอตัวเองก็เห็นคนสองคนเดินออกมา เหออวี้มองแล้วถึงจะยังนึกชื่อไม่ออกแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนแน่ ๆ ทั้งสองคนก็จดจำเหออวี้ได้เหมือนกัน ยิ้มแย้มพยักหน้าให้เขาเป็นการทักทาย เหออวี้ทางหนึ่งก็ยิ้มและพยักหน้าตอบอีกทางก็เปิดปากพูดว่า “เพื่อน ๆ เล่น The Kings of Glory ไหม”
ทั้งสองคนต่างก็อึ้งไปกับคำถามที่มาอย่างกะทันหันนี้ แต่แล้วก็ส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “ไม่เล่น”
“อ้อ” เหออวี้พยักหน้าและไม่พูดอะไรอีก ทั้งสองฝ่ายกล่าวคำอำลาไปแบบนี้ สองคนนั้นจะต้องระแวงแน่ ๆ ก็เลยหันหน้ากลับมาดูเหออวี้ทั้งคู่ แต่ตอนนี้เหออวี้ก็มีความคิดอย่างหนึ่งในใจขึ้นมาแล้ว นักศึกษาที่อยู่ในห้องเรียนเดียวกันหรือแม้แต่ภาควิชาเดียวกัน พวกคนใกล้ตัวพวกนี้* ก็เดินไปหาถึงประตูแล้วถามรอบวงเลยก็ได้!
เรื่องผู้เล่น The Kings of Glory เหออวี้เชื่อว่าในหมู่นักศึกษาหนึ่งร้อยกว่าคนนี้จะต้องมีคนเล่นแน่ ๆ ว่าไม่ได้นะ อาจจะดึงมาร่วมทีมได้ก็ได้เนอะ
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เหออวี้ก็เดินมาถึงชั้นสามแล้ว พวกเด็กใหม่ของภาควิชาฟิสิกส์ล้วนอยู่ที่ชั้นนี้ แต่นอกจากคนในห้องตัวเองแล้ว นักศึกษาของห้องอื่นยังไม่เคยมาพบปะสังสรรค์กันเลยด้วยซ้ำ แต่เหออวี้ก็เพียงแค่ลังเลไปครู่หนึ่งเท่านั้นก่อนที่จะเดินไปเคาะประตูห้อง
“เพื่อน ๆ เล่น The Kings of Glory ไหม” ประโยคแรกหลังจากประตูเปิดออกก็คือคำพูดนี้ ทุกคนต่างก็แปลกใจ แต่ส่วนมากแล้วก็ตอบกันมาตามจริง ไม่ต่างจากที่เหออวี้คาดการณ์เอาไว้ ในหมู่นักศึกษาชายร้อยกว่าคนก็มีผู้เล่น The Kings of Glory จริง ๆ สมแล้วที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของ The Kings of Glory เพียงแต่ว่าข้อเสนอต่อไปมันดำเนินไปได้ไม่ดีเลย เรื่องการเชิญเข้าร่วมทีมส่วนมากต่างก็งุนงงและสั่นศีรษะ และส่วนน้อยที่มีอยู่ก็ได้เข้าร่วมชมรม The Kings of Glory ไปแล้ว หลังจากเหออวี้ถามแล้วถึงได้รู้ว่าเพิ่งจะเมื่อวานนี้ตอนที่เขาตามเกาเกอและโจวม่อไปติดประกาศใหม่รอบสถาบัน ทุกคนในชมรม The Kings of Glory ใช้พลังมวลชนที่เหนือกว่าแจกแผ่นพับของชมรมไปทั่ว และได้เดินมาเคาะประตูห้องกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ผู้ที่มีความสนใจอยู่แล้วก็ถูกชมรม The Kings of Glory ดึงตัวไป ส่วนพวกที่ไม่สนใจก็คงจะไม่ปฏิเสธการเข้าร่วมชมรมใหญ่ แล้วมาเข้าร่วมทีมเล็ก ๆ อย่างไม่มีที่มาที่ไปใช่ไหมล่ะ
คิดที่จะมีเพื่อนร่วมทีมเป็นเรื่องยากจังเลยนะ…เหออวี้ถอนหายใจในใจ ได้แต่กลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างไร้เรี่ยวแรง
…………………………………………….
*พวกคนใกล้ตัว ความจริงแล้วเป็นสำนวนจีนค่ะ 这近水楼台先得月 แปลว่า ศาลาริมน้ำย่อมได้รับแสงจันทร์ก่อน ความหมายคือคนใกล้ตัวผู้มีอิทธิพลย่อมได้รับผลประโยชน์ …หรือก็คือเหออวี้จะอกว่าตัวเองเป็นผู้มีอิทธิพล คนใกล้ตัวคือเพื่อนร่วมชั้น ส่วนผลประโยชน์คือได้ร่วมทีมคลื่น7 … ไม่ค่อยเลยนะน้อง แต่เรานึกคำที่เป็นสำนวนแบบที่เราคนไทยจะเข้าใจง่าย ๆ ไม่ออกค่ะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่นิยายย้อนยุคก็เลยไม่อยากใช้สำนวนจีนตรง ๆ เลย มันดูผิดมู้ดไปหน่อย ก็เลยแปลความหมายแบบสรุปความเอาเลยแล้วมาเติมตรงนี้แทนค่ะ
น้องจวนจะกลายเป็นพวกขายตรงแล้วนะ