Ch.20 – เรื่องราวในอดีตของรินเนะ
Translator : O-Minus / Author
Trigger Warning มีการใช้กำลังกับสัตว์และเลือด
ผู้เขียน: เรื่องราวของรินเนะ
“ฟู่ว…”
เพื่อนานะแล้ว ฉันได้เดินทางไปที่เมืองแรกสุดจากเมืองที่ห้า แล้วก็เดินทางกลับไปยังเมืองที่ห้าอีกครั้ง
ถ้าจะให้ทำการเดินทางต่อเนื่องเหมือนกับรถไฟแบบนี้ในโลกความจริงก็คงจะเป็นไปไม่ได้ แต่ในเกมแล้วทุกอย่างเป็นไปได้ถ้ามีค่าSPพอ
ใช้เวลาขณะที่สตรีมตั้งแต่ช่วงบ่าย ฉันกลับมาถึงเมืองที่ห้าแล้วก็ล็อกเอาท์ออกจากเกม
ตอนนี้เป็นเวลา2ทุ่มแล้ว
ยิ่งเข้าใกล้แนวหน้าเท่าไหร่ มอนสเตอร์ประกอบฉากก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ การเดินทางจึงใช้เวลามากขึ้น
แต่ว่านะ ที่ทำไปไม่เสียเปล่าต้องขอบคุณพวกมอนสเตอร์ตัวประกอบที่ฉันจัดการไประหว่างทางเลยทำให้ฉันเลเวลเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง
“หิวจัง…”
เป็นระยะเวลาหนึ่งที่ฉันไม่ได้กินอะไร ท้องฉันจึงส่งเสียงเรียกร้องออกมา
สตูเนื้อเมื่อตอนเช้าน่าจะยังเหลืออยู่แต่ว่ากลับมีกลิ่นของสิ่งอื่นที่ถูกปรุงปนอยู่ด้วย
จากที่ฉันคาดเดาไว้ นานะคงจะสตรีมเสร็จก่อนแล้วได้ทำอะไรอย่างแฮมเบิร์ก
“นานะ~ ล็อกเอาท์ออกมาแล้วเหร-…”
โซฟาที่ฉันไม่ค่อยได้ใช้งานมากนักในห้องนั่งเล่นนั้น
ถึงจะไม่ตรงกับรสนิยมของฉันแต่นั่นเป็นของขวัญที่ได้มาจากพี่ชายแต่ว่า…นานะกำลังนอนลงบนโซฟานั้นอยู่
ถึงแม้จะมีพื้นที่มากมายบนโซฟาแต่ว่าเธอก็ยังขดตัวลงเหมือนแมวที่กำลังนอนซึ่งดูน่ารักมากเลย
“กำลังหลับอยู่…สินะ?”
หน้าอกที่ขยับอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ตายแล้ว ฉันบอกไว้ก่อนนะ
เพราะว่านานะหายใจได้โดยไม่ส่งเสียง ถ้าไม่เห็นก็คงไม่เข้าใจแต่ เธอเหมือนเป็นนินจาหรืออะไรทำนองนั้นเลย ไม่ไหวเลยนะ
สำหรับนานะ การที่จะนอนงีบนั้น ฉันสงสัยจังว่านานแค่ไหนกันนะตั้งแต่ครั้งล่าสุด
ก่อนที่เธอจะเสียพ่อแม่ไปเธอหลับเยอะเลยนะ? กลับกันแล้วฉันรู้สึกว่าฉันไม่เคยเห็นเธองีบอีกเลย
แม้ว่าฉันจะมานั่งลงข้างๆนานะที่กำลังขดตัว ก็ยังไม่มีท่าทีว่าเธอจะตื่นขึ้นมา
ฉันลูบผมสั้นๆของเธอ ที่เธอเลือกไว้ทรงนี้เพื่อที่จะได้ไม่เกะกะเวลาเคลื่อนไหว ปล่อยให้เส้นผมเลื่อนผ่านนิ้วของฉันไปเบาๆ
ความเรียบเนียนของเส้นผมของเธอดุจประดั่งผ้าไหม เมื่อก่อนเธอไว้ผมตรงยาวเลยนะ
“รินจั-…?”
จู่ๆนานะก็เอ่ยออกมาเสียงเบา
ไม่ใช่ว่าเธอจะลืมตาขึ้นมาหรอกนะ จมูกของเธอขยับไปมาราวกับพยายามดมบางสิ่ง ฉันคิดว่าเธอละเมอออกมาเพราะว่ารู้สึกถึงตัวฉันจากกลิ่นล่ะมั้ง
“เอ- เหะเหะ”
อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้ตัวว่าฉันอยู่ด้วย นานะส่งเสียงออกมาด้วยความดีใจแล้ววางหัวของเธอไว้บนตักของฉัน
จะเรียกว่านอนหนุนตักก็ได้ ร่างกายเล็กๆที่กำลังขดตัวของเธอค่อยๆคลายออกบนโซฟา พร้อมกับใบหน้ามีความสุขขณะที่เธอหลับอยู่
“อึน….”
พอฉันลูบแก้มเธอเบาๆ เธอก็กลับมาขดตัวอีกครั้ง
เธอขยับไปมาอยู่บ่อยๆแม้ว่ามันจะจั๊กจี้ก็ตามแต่ว่าเมื่อได้เห็นเสน่ห์ของสิ่งมีชีวิตตัวเล็กสุดจะน่ารักบนตักของฉันแล้ว แค่นี้เรื่องเล็กๆ
แม้ว่าจะหลับอยู่ก็ตาม แต่เธอนั้นมีใบหน้าที่แสดงออกมาถึงความสุขโดยไม่คิดจะปิดบังอะไร
คนเดียวที่นานะสามารแสดงด้านที่ไร้การป้องกันของเธอออกมาได้นั้นก็คือฉันเพียงคนเดียว
แม้ว่าแต่เดิมแล้วนานะจะแสดงด้านที่ไร้การป้องกันแบบนี้ออกมา เมื่อก่อนนั้นฉันเคยเห็นพี่ชายของฉันพยายามปลุกนานะที่หลับอยู่ เขาถูกจับล็อกในท่าล็อกข้อโดยเธอที่กำลังหลับอยู่
ผู้หญิงคนนี้ เธอมีกลไกการป้องกันตัวเองอย่างสมบูรณ์แบบแม้ว่าตัวเองจะไม่รู้สึกตัวก็ตาม และความสามารถนั้นจะไม่ทำงานเมื่อเป็นฉัน
และนั่นคือความเชื่อใจที่ฉันได้รับมาจากเธออย่างสุจริต เป็นหลักฐานว่าฉันถูกยอมรับโดยนานะ
แค่คิดถึงเรื่องนั้นก็ทำให้ฉันเปี่ยมไปด้วยความสุขแล้ว ตัวตนของเพื่อนสนิทของฉันที่กำลังหลับอยู่เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความน่ารัก
☆
นานะกับฉันได้พบกันครั้งแรกเมื่อตอนฉันอายุ3ขวบ
ต้นเหตุนั้นเกิดจากพ่อแม่ของนานะนั้นได้หนีตากันมาโดยพึ่งพาเพื่อนของพวกเขา ซึ่งก็คือพ่อแม่ของฉัน และพวกเขาก็ได้ให้ลูกๆของพวกเขาเจอกัน
ถ้าเป็นตอนนี้อาจจะนึกไม่ออกแต่ว่านะ นานะแต่เดิมแล้วเป็นเด็กที่เงียบมากๆแล้วก็ดูไร้อารมณ์อีกด้วย เธอเป็นเด็กที่ดูเหมือนกับตุ๊กตาที่ไร้ซึ่งเศษเสี้ยวของความรู้สึกใดๆ
ฉันถูกขอให้ช่วยดูเธอแต่ว่าตามปกติแล้วฉันมักจะเล่นเกมแล้วเธอก็จะเหม่อมองจากด้านหลังของฉัน
ยังไงก็ตามเธอเป็นเด็กที่มักจะดูเหม่อลอย อะไรบางอย่างจึงได้สิงฉันและทำให้ฉันพาเธอไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ
พวกเราอยู่ด้วยกันอยู่ตลอดทุกๆวัน หลังจากประมาณเดือนหนึ่ง ฉันไม่ต้องพูดอะไรเธอก็ตามฉันมาด้วยตัวเองแล้ว
เดินเตาะแตะตามฉันอยู่ข้างหลังหนึ่งก้าวเสมอพร้อมกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ตามเดิมทุกวัน แต่ฉันจำได้ว่าฉันไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไร
เมื่อผ่านไปได้ปีหนึ่งหลังจากที่พวกเราได้พบกันก็ได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น
นานะโตพอที่จะตอบกลับฉันได้แล้ว ฉันทำเหมือนกับว่าเธอเป็นลูกน้องของฉัน
ในตอนนั้น จู่ๆฉันก็ตัดสินใจเล่นเกมด้วยกันกับนานะ
มันเป็นเกมที่ล้าสมัยแล้วในตอนนี้แต่มันเป็นเกมแนวสงครามที่ดังมากในสมัยนั้น
ฉันที่เล่นเก่งจนชนะพี่ชายของฉันได้และอยากให้นานะได้รู้ถึงความสุดยอดของตัวเอง ด้วยความคิดแบบเด็กๆนั้นฉันจึงได้แข่งกับนานะผู้ซึ่งเป็นมือสมัครเล่น
ฉันแพ้นานะอย่างไม่มีโอกาสแก้ตัวเลย
เป็นการพ่ายแพ้อย่างไร้ที่ติ ฉันไม่สามารถที่จะทำคะแนนได้แม้แต่คะแนนเดียวด้วยซ้ำ
เพราะว่าฉันยังไม่ได้เตรียมตัวฉันเลยท้านานะอีกรอบ และฉันก็พ่ายแพ้ให้กับนานะที่ขัดเกลาฝีมือของตัวเองไปอีกขั้น
ไม่ว่าจะทำยังไงกี่ครั้งต่อกี่ครั้งฉันก็ชนะไม่ได้ ด้วยความเป็นเด็กฉันเลยร้องไห้ออกมา
ถึงแม้ว่าเธอจะตอบกลับมาได้บ้างแล้ว แต่ว่านานะก็ยังคงไม่ถนัดในการเข้าใจอารมณ์ของคนอื่นๆ
เมื่อเห็นฉันร้องไห้ไม่หยุด เธอจึงได้โอบกอดฉันพร้อมกับลูบหัวฉัน พยายามทำทุกอย่างเพื่อปลอบใจฉัน
แต่เพราะว่าฉันนั้นยังไม่พอใจกับท่าทีที่นานะทำ ฉันตบแก้มของเธอแล้ววิ่งหนีออกมา
ดูเหมือนว่านานะนั้นได้แต่ยืนนิ่งโดยที่ใช้มือแตะไปยังแก้มที่โดนตบอย่างไร้อารมณ์
เป็นเพราะว่าเธอยังไม่รู้ถึงวิธีรับมืออารมณ์โกรธที่ฉันแสดงออกมา
หลังจากวันนั้นและวันถัดๆมา นานะก็มาหาฉันเหมือนทุกวัน ทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
เพียงแต่ว่านานะ ผู้ซึ่งฉันเข้าใจว่าจะไม่ยอมพูดออกมาถ้าฉันไม่พูดด้วยก่อน ได้เริ่มต้นพูดด้วยตัวเอง
แม้จะเป็นเรื่องเล็กแต่นั้นเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
แม้แต่ตอนนี้ฉันก็ยังคิดอย่างนั้นเหมือนเดิม
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ฉันก็ทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนานะที่ไม่เปลี่ยนท่าทีไปเลย สุดท้ายฉันก็เป็นคนที่ยอมแพ้และการทะเลาะ…ไม่สิ การงี่เง่าฝ่ายเดียวนั้นก็ไม่มีอีก
ตั้งแต่ตอนนั้นมาพวกเราก็ได้อยู่ในความสัมพันธ์ที่เรียกได้เต็มปากว่าเป็นเพื่อนกันจริงๆ
แล้วเหตุการณ์นั้นก็เกิดขึ้น
ต้นเหตุมาจากการที่พวกเราทั้งคู่อยู่ด้วยกันที่สวนสาธารณะ
พวกเราสองคนที่กำลังเล่นกันอยู่ในกระบะทรายจู่ๆก็ถูกบุกทำร้าย
ตัวการคือสุนัขตัวหนึ่ง มันเป็นพันธุ์พิตบูลที่ถูกเลี้ยงโดยหนึ่งในคนรวยที่ไปที่สวนเดียวกับพวกเรา
มันอยากจะเล่นด้วยงั้นเหรอ? หรือมีอะไรที่ไปกระตุ้นมันเข้า?
สำหรับฉันที่ยังเป็นเพียงเด็กเล็กแล้ว สุนัขที่จู่ๆก็วิ่งวนไปทั่วได้วิ่งเข้าหาพร้อมกับเห่าเสียงดัง ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากสั่นกลัวและไม่ทันได้คิดอะไรก่อนจะขว้างก้อนโคลนใส่มัน
สิ่งที่เกิดขึ้นคือสุนัขพิตบูลนั้นโกรธขึ้นมา
สุนัขสายพันธุ์ดุร้ายที่สามารถฆ่าได้แม้กระทั่งผู้ใหญ่ ได้โจมตีฉันที่เป็นแค่เด็ก4ขวบ
มันน่ากลัวมากๆเลย ฉันคิดว่าฉันร้องไห้ด้วยเมื่อตอนนั้น
พิตบูลกระโจนใส่ฉัน ฉันกลัวมากจนหลับตาลง แต่ว่าในตอนนั้นก็ได้มีเสียงของอะไรบางอย่างที่ถูกบดขย้ำ
ไม่เจ็บตรงไหนเลย ไม่มีแรงกระแทกใดๆ มีเพียงของเหลวอุ่นๆบนตัวของฉัน
ในตอนที่ฉันได้แต่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น นานะก็อยู่ข้างหน้าฉันแล้ว
เพื่อนของฉันที่ถูกกัดเข้าไปยังหัวไหลและมีเลือดไหลออกมา
“เป็นอะไรไหม?” เธอถามอะไรทำนองนั้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล
เมื่อเธอแน่ใจแล้วว่าฉันปลอดภัย นานะแทงพลั่วของเล่นลงไปในเบ้าตาของพิตบูลแล้วกระชากออกมา
แล้วสุนัขที่ถูกควักตาออกไปก็ล้มลงด้วยความเจ็บปวด หัวของมันก็ถูกกระแทกด้วยพลั่วในมือของเธอสุดกำลัง
ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำไปซ้ำมา ซ้ำไปซ้ำมา
แม้รูปร่างของหัวจะบิดเบี้ยวไปจนจำไม่ได้ เธอก็ทำต่อไปซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งมันไม่ขยับอีก
หลังจากที่ตรวจดูแล้วว่ามันขยับอีกไม่ได้ นานะก็ล้มลง
แรงกายที่เป็นไปไม่ได้สำหรับเด็กเล็ก4ขวบ นานะได้อัดพิตบูลจนตาย
ในตอนนั้นฉันไม่ได้ใส่ใจอะไรเกี่ยวกับสุนัขที่นานะฆ่าเลย ฉันร้องไห้ออกมาด้วยความกังวลเพราะนานะที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเลือด
ผู้ใหญ่ที่ได้ยินเสียงเหตุการณ์ก็ได้มาถึงและติดต่อโรงพยาบาล
นานะเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ฉันได้มารู้ทีหลังว่าเธอเกือบตายเพราะช็อกจากการเสียเลือดจำนวนมาก
ดูเหมือนว่าสิ่งแรกที่ออกมาจากปากของนานะเมื่อเธอรู้สึกตัวคือชื่อของฉัน
เมื่อฉันรีบไปหาเธอ เธอก็อยู่ตรงนั้นเหมือนทุกครั้ง
ฉันขอโทษแล้วก็ขอโทษ ฉันรู้สึกโล่งใจขึ้นมาแล้วก็ร้องไห้อีกครั้ง
นานะทำเพียงแค่ลูบหัวฉันเบาๆในตอนที่ฉันเป็นแบบนั้น
หลังจากนั้นพ่อฉันก็จัดการกับคนอื่นๆโดยที่ฉันไม่รู้
ได้ยินว่าเจ้าของสุนัขนั้นโกรธมากๆ แต่เดิมแล้วเจ้าของสุนัขต่างหากที่ไม่มีความรับผิดชอบโดยการปล่อยสุนัขออกมาโดยไม่มีสายจูง
แต่ว่าข่าวเรื่องที่นานะอัดสุนัขจนตายแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
เธอถูกเรียกว่าสัตว์ประหลาด เธอถูกบอกว่าไม่ใช่มนุษย์ แม้ไม่ใช่ในทางตรงแต่เป็นเสียงนินทาว่าร้าย นานะถูกทำเหมือนเป็นตัวประหลาด
ฉันไม่รู้ว่านานะจะรู้ตัวหรือเปล่า แต่ฉันคิดว่าแม้แต่พ่อแม่ของนานะเองก็กลัวความผิดปกติของนานะ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันสาบานตน
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะเป็นสหายของนานะ
เพราะนั่นเป็นเพียงไม่กี่สิ่งที่ฉันทำได้เพื่อเธอ
เพื่อเพื่อนที่ฉันรัก นั่นเป็นอะไรที่มีเพียงฉันที่ทำได้
☆
“…-จัง รินจัง?”
“…นานะ?”
เมื่อรู้สึกถึงหัวไหล่ที่ถูกขยับไปมา ฉันก็ได้รู้สึกตัวขึ้นมา
ขณะที่ฉันกำลังให้นานะนอนหนุนตัก ดูเหมือนว่าฉันเองก็หลับไปเหมือนกัน ขณะที่ยังงัวเงียกึ่งหลับกึ่งตื่น ฉันก็ได้โอบกอดไปยังตัวของนานะ
“มีอะไรเหรอ?”
“เรื่องตอนที่พวกเรายังเป็นเด็กน่ะ พอดีฉันฝันถึงมันนิดหน่อย”
“อย่างนี้นี่เอง…พวกเราไปนอนกันเลยดีไหมคืนนี้”
“…นั่นสิ”
นานะคอยพยุงฉันที่ก้าวเดินอย่างวกวนจากด้านข้าง
“นานะ”
“อะไรเหรอ?”
“…วันนี้น่ะสนุกหรือเปล่า?”
“วันนี้ฉันสนุกมากเลยนะรู้ไหม”
“อืม ดีแล้วล่ะ”
พอถึงเตียงฉันก็ทิ้งตัวลงไป
แล้วก็ดึงตัวนานะลงมาด้วย แม้ว่าเธอจะมีสีหน้าประหลาดใจแต่ก็ไม่ขัดขืนอะไรเธอล้มตัวตามลงมา
“นานะ ราตรีสวัสดิ์”
“อืม ราตรีสวัสดิ์นะ”