ตอนที่ 1136 - ศรทลายฟ้า

The Divine Nine Dragon Cauldron

“หยุดเวลา”
  ซือหยูพูดเบาๆ
  มังกรม่วงที่มิอาจมองเห็นเข้ารัดราชาเขตกลาง
  ราชาเขตกลางปลดพันธนาการตัวเองได้เพียงการดีดนิ้วเพลิงเทวะไม่ได้ลดพลังลงเลย เขาพูดด้วยความไร้อารมณ์แกมเวทนา
  “หม้อมังกรมีถึงเก้ากระบวนท่าแต่เจ้ากลับเรียนรู้ได้เพียงวิชาเดียว”
  เขาพลิกฝ่ามือมังกรม่วงที่รัดตัวฉีกกระชากหายไป
  พลังหยุดเวลาใช้ไม่ได้ผล
  “วายุมิติ”
  ซือหยูพูดอีกครั้ง
  ราชาเขตกลางส่ายหน้าและไม่แม้แต่หันมองเขาใช้หลังมือตบวายุมิติด้านหลัง  “ข้าบอกว่าเจ้ามันก็ได้แค่นี้เจ้าจะมีหม้อเก้ามังกรไปทำไม ช่างน่าขันนัก”
  เมื่อเจอกับเพลิงเทวะใบหน้าซือหยูไร้สีสัน ดวงตาซ้ายขวาเปล่งแสงสามสีออกมาพร้อมกัน
  เป็นสีแดงม่วง และขาว
  “แบบนี้เจ้าจะว่าอย่างไร?”
  ดวงตาซือหยูขุ่นมัวราวกับสายรุ้งมันดูตระการตา
  “ปรับมิติเวลา!”
  มิติเวลา และวิญญาณ ทั้งสามพลังก่อตัวเป็นโซ่สามสี มันเข้าล้อมรอบราชาเขตกลาง
  บนใบหน้าไร้อารมณ์ของราชาเขตกลางความตกใจได้ปรากฏ เขากังวลเล็กน้อย
  วิชานี้ถูกสร้างขึ้นในวันที่หม้อเก้ามังกรได้เข้ามาในมิติวิญญาณที่เขาขังเทพปีศาจเอาไว้
  ผนึกนี้จะผนึกมิติและเวลากับดวงวิญญาณไปพร้อมกันมันเทียบเท่ากับการจองจำในมิติเวลาที่แม้แต่ความคิดก็จางหาย  “หายไปซะ!”
  ราชาเขตกลางคำรามเบาๆ เขาพยายามจะทำลายพลังของซือหยู แต่ก็ทำได้แต่สร้างรอยแตกเพียงหนึ่งรอด
  แต่ถึงอย่างนั้นรอยแตกเพียงเสี้ยวเดียวก็ทำให้พลังของเซียนมาถึงตัวซือหยู มันเกือบจะทำลายกายหยาบของซือหยูไป
  ระหว่างทั้งสองเห็นชัดเจนว่าไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน
  เมื่อพลังปรับมิติเวลามาถึงแม้ราชาเขตกลางที่แข็งแกร่งก็มิอาจเป็นอิสระจากมันได้ เขามิอาจขยับตัวภายใต้พลังนี้
  “แค่ช่วงสั้นๆ นี้เท่านั้น”
  ซือหยูควบคุมพลังทั้งสามพร้อมกันซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเขาเขามีเวลาหยุดราชาเขตกลางเพียงไม่นาน!
  “เพลิงกระบี่ไตรสุริยา!”
  เขาตะโกนกระบี่ไผ่เงินสามเล่มที่เตรียมมาล่วงหน้าทะลวงมิติเข้าไป  กระบี่ทั้งสามเล่มทะลวงผ่านร่างราชาเขตกลางหลายครั้ง
  เกิดแผลหกแห่งที่โลหิตไหลออกมาไม่หยุด
  พลังปรับมิติเวลาหายไปราชาเขตกลางเพิ่งจะรู้ตัว ในลมหายใจที่แล้ว เขาเห็นเพียงร่างกายที่มิอาจขยับได้ แต่ในลมหายใจต่อมาก็เกิดแผลหกแห่งที่ร่างของเขา
  กระบี่เงินนั้นจมสู่ร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
  แต่การตอบสนองแรกของราชาเขตกลางมิใช่การกำจัดกระบี่แต่เป็นการจู่โจมซือหยูในทันทีทันใด
  ฝ่ามือของเขามีพลังของเซียนอยู่ในโลกขณะนี้ ไม่มีใครที่สามารถหยุดเขาได้
  เขารวดเร็วแต่ก็มีคนที่เร็วกว่า
  “คุกเทวะห้าธาตุ!”
  ซือหยูเรียกหอคอยออกมาและย้ายมันไปยังเหนือศีรษะของราชาเขตกลาง  เกิดแสงหลากสีที่ก้นหอคอยมันมีพลังอันสุดยอดของธาตุทั้งห้าแฝงอยู่
  พลังของมันคล้ายกับม่านพลังที่เซียนขาวดำใช้
  ราชาเขตกลางใช้ฝ่ามือลูบหัว
  “นี่มันอะไร?”
  เขาอยากจะทำลายพลังห้าธาตุแต่พลังของห้าธาตุก็ยิ่งใหญ่เกินไป
  ราชาเขตกลางรู้สึกว่าร่างกายถูกกดทับเขากำลังจะเสียพลัง
  ห้าธาตุลดขนาดลงจนเหลือเพียงสามศอกมันค่อย ๆ กักตัวราชาเขตกลางเอาไว้
  ด้วยพลังของคุกเทวะห้าธาตุศัตรูจะถูกกดอยู่กับพื้นและมิอาจขยับตัวได้
  แต่ราชาเขตกลางก็ไม่ได้ร้อนรนร่างกายเขายังคงขยับไม่ได้ แต่พลังระดับนี้หยุดเขาได้ไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำ
  มังกรวารีโผล่หัวออกมาจากคุกเทวะและชักสีหน้า  “เจ้าหนูมันผู้นี้แปลกนัก คุกเทวะห้าธาตุคงรั้งไว้ได้ไม่นาน ตอนนี้มันยังขยับไม่ได้ เจ้าลองกำจัดมันดูก็แล้วกัน”
  ซือหยูพยักหน้าเบาๆ สุริยาทมิฬปรากฏบนแต่ละฝ่ามือของเขา มันรวบรวมพลังสายฟ้าขนวิหคเอาไว้
  ฝ่ามือของเขาราวกับมังกรเขาซัดฝ่ามือลงบนลำตัวราชาเขตกลางอย่างรุนแรง ชัดของราชาเขตกลางกลายเป็นเถ้าถ่าน
  สุดท้ายร่างกายของราชาเขตกลางก็เปิดเผยออกมาซือหยูตกใจ
  ความเป็นมนุษย์ใต้คอของราชาเขตกลางอยู่ที่ใดกัน?ดูอย่างไรก็เป็นร่างกายของอสูร!
  “เจ้าเจ้าไม่ใช่มนุษย์!”
  ซือหยูตกใจ
  นี่ไม่ใช่มนุษย์ที่แปลงกายเป็นอสูรแต่เขาเป็นอสูรตั้งแต่เกิดแล้ว
  “ความลับที่เฉินอี้เจิงกับหลินหลางไม่รู้เผยออกมาแล้ว”
  ราชาเขตกลางกล่าว
  “ข้าคือบุตรเทพมนุษย์และเทพอสูรข้าคือลูกหลานของเทพ แค่วิบัติสายฟ้าขนวิหคน่ะฆ่าข้าไม่ได้”
  ฮ่าๆๆๆๆๆ
  สายฟ้าขนวิหคของซือหยูทำอะไรกับร่างกายเขาไม่ได้เลย
  ลูกหลานเทพ…ซือหยูแอบตกใจเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าถ้าลูกหลานเทพจะกลายเป็นเทพ คนผู้นั้นจะต้องผ่านวิบัติสามสิบเก้าของจริงและเจอกับวิบัติสวรรค์อันรุนแรงอย่างที่เขาเจอ?
  เขาจ้องมองเพลิงเทวะและคิดในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากเชื่อ
  เขาไม่ได้พยายามจะเป็นเทพอยู่หรอกหรือ?
  “ต่อให้ข้าล้มเหลวในการเป็นเทพเจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้”   ราชาเขตกลางเผยเรื่องที่น่าตกตะลึง
  เขายังคงพยายามจะเป็นเทพแม้จะผ่านความล้มเหลวหลายครั้งหลายครา
  ไม่แปลกเลยที่เขามีเพลิงเทวะและรอดจากวิบัติสวรรค์ได้ต่อให้เขาล้มเหลว เขาก็ได้ประโยชน์มากมายจากมัน
  การควบคุมเพลิงวิเศษนี้คือสิ่งที่ราชาเขตกลางได้มา
  “ส่งหม้อเก้ามังกรมาให้ข้าได้แล้วเจ้าสมควรตายเพื่อให้ข้าได้ครองบัลลังก์!”
  ซือหยูกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูที่กำลังจะได้ครองใต้หล้า!
  ซือหยูถอนหายใจเขารวบรวมทุกอย่างที่ได้เรียนรู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่าใด เมื่อใช้กับราชาเขตกลาง มันก็ไม่ต่างจากการโยนหินใส่ท้องทะเล
  ผ่านไปครึ่งชั่วยามราชาเขตกลางยังคงไร้รอยข่วน แต่แววตานั้นเยือกเย็นขึ้น
  “เจ้ายังเหลือเวลาอีกครึ่งวันหลังจากครึ่งวันนี้ ข้าจะเอาชีวิตเจ้ากับหม้อเก้ามังกรมาครอง”
  หลังจากนั้นเขาหลับตาและรอให้พลังห้าธาตุหมดลง
  ซือหยูหยุดโจมตีชั่วคราว
  ความห่างชั้นระหว่างเขากับราชาเขตกลางไม่ใช่สิ่งที่วิธีการทั่วไปจะจัดการได้
  เขาเหลือเพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น
  เขาเรียกธนูสีเงินคันเก่าออกมามันสลักรูปมังกรบินเอาไว้พร้อมกับสุริยาจันทรา วัตถุดิบธรรมดาสามัญ
  แม้นักรบที่ระดับต่ำที่สุดในจิวโจวก็แสดงความเหยียดหยามกับธนูคันนี้
  แต่ด้วยธนูนี้ราชาเขตกลางที่หลับตาไปเมื่อครู่สัมผัสบางอย่างได้และเบิกตาโพลง เขาหวาดกลัว
  ในดวงตาตกตะลึงและกระวนกระวายเขากลัวฝังรากลึกถึงหัวใจ
  เขาจ้องมองธนูเงินอยู่นานราชาเขตกลางสีหน้าเศร้าหมอง
  “มันให้ศรทลายฟ้ากับเจ้า!ไม่แปลกใจเลยที่ข้าค้นหาทั่วเขตกลางมาหลายปีแล้วยังไม่เจอมัน มันชิงลูกธนูนั่นไป!”
  ศรทลายฟ้ารึ?ซือหยูโก่งสายธนูด้วยดัชนีทั้งห้า เมื่อสุดแรง เขาก็ปล่อยมือ
  ลูกดอกเปล่งประกายจากมือของเขา
  วัตถุดิบมิใช่ทองคำไม่ใช่ไม้ เนื้อของมันนุ่มลื่นอ่อนโยน มันเปล่งแสงสีทองออกมา
  มีจิตตั้งมั่นแห่งการทำลายล้างอยู่ในศรลูกนี้
  ซือหยูเพียงแค่แตะมันด้วยฝ่ามือพลังทำลายล้างก็ได้พุ่งมาถึงดวงวิญญาณเขากับฝ่ามือ
  ผ้าคลุมจักรพรรดิของเขาในตอนนี้ยังมีรูโหว่เขาอาจจะตายได้
  มันทำลายความตั้งมั่นที่จะมีชีวิตในดวงวิญญาณของเขามันจะทำลายดวงวิญญาณของซือหยูไปด้วยกัน  เมื่อซือหยูพบว่ามีเรื่องร้ายกำลังจะเกิดขึ้นมันก็สายไปแล้ว
  ปั้ง!
  หม้อเก้ามังกรเข้าขวางพลังทำลายล้างจากศรธนู
  ซือหยูหน้าซีดในทันที
  “หม้อเก้ามังกรช่างยอดเยี่ยมมันขวางพลังของศรทลายฟ้าได้ง่าย ๆ”
  ราชาเขตกลางพูดราวกับคิดไว้แล้ว
  ซือหยูตกตะลึงศรทลายฟ้าไม่ใช่ศรที่เขาจะแตะต้องมันได้เลย แล้วเขาจะใส่พลังยังไง?
  เขาเห็นได้เลยว่าราชาเขตกลางกลัวศรทลายฟ้ามากแต่เขาไม่กลัวซือหยูที่ใช้ศรไม่ได้
  “น่าเสียดายที่เฉินอี้เจิงฝากความหวังที่จะล้างแค้นไว้กับเจ้าเจ้าเจอข้าเร็วไป ถ้าเจ้าได้เป็นเซียน ข้าคงจะต้องหนีไปให้พ้นทาง แต่ตอนนี้เจ้ายังจับมันไม่ได้ด้วยซ้ำ”
  ราชาเขตกลางยิ้ม  “เจ้ามีหม้อเก้ามังกรกับศพทลายฟ้าสวรรค์ทำกับข้าเยี่ยงนี้ ถ้าข้าไม่ได้สองสิ่งนั้นมาครอง มันจะไม่ใช่การขัดบัญชาจากสวรรค์รึ?”
  “มนุษย์!อสูร! แปลงกาย!”
  พลังที่กดทับราชาเขตกลางสลายไปเขาขยายร่างจากมนุษย์สู่คนสูงเจ็ดศอก แต่เขากำลังใหญ่ขึ้นไปอีก
  สิบศอกยี่สิบศอก สามสิบศอก…
  เขาขยายขนาดจนชนเพดานถ้ำและขยายไม่ได้อีกเขาสูงร้อยศอกเข้าไปแล้ว!!
  ต่อหน้าเขาซือหยูเล็กจ้อยราวมด
  “แย่แล้วมันมีพลังอื่นอีก พลังร่างนี้มากมายนัก ข้าหยุดมันไม่ได้อีกแล้ว หนีไป!”
  มังกรวารีชักสีหน้า
  “ข้าเป็นเทพอสูรย่อมรู้ดีถึงการมีอยู่ของลูกหลานของมนุษย์และอสูรว่ากันว่าลูกหลานของเทพมนุษย์และอสูรสามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์และอสูรได้อย่างง่ายดายตั้งแต่กำเนิด และแต่ละครั้งที่ทำก็จะเพิ่มพลังขึ้นอย่างมหาศาล”
  “แต่สิ่งที่แลกย่อมไม่ใช่สิ่งเล็กน้อยมันจะริบอายุขัยไปมากกว่าหนึ่งในสาม แต่มันคือวิธีสุดยอดที่จะช่วยชีวิตในยามคับขัน”
  ซือหยูกังวลกว่าเดิมมากเมื่อได้ฟังคำอธิบาย
  “คิดจะหนีอีกแล้วเรอะ?เจ้าจะไปไหนได้?”
  ราชาเขตกลางตัวสั่นอย่างรุนแรงคุกเทวะห้าธาตุเหนือศีรษะสั่นสะเทือนและหล่นลงพื้นใกล้ซือหยู
  ซือหยูกำลังเผชิญหน้าอยู่กับอสูรขนาดยักษ์
  จะมีอะไรน่าขันไปกว่าการพาตัวเองมายังทางตันแล้วถูกคร่าชีวิตเล่า?
  “หม้อเก้ามังกรเอามันมาให้ข้า!”
  ราชาเขตกลางตบฝ่ามือใส่ซือหยู
  ซือหยูเหมือนกับเรือลำน้อยที่เผชิญหน้ากับคลื่นยักษ์เขาพร้อมตายในทุกเมื่อ
  “เจ้าหนูเจ้าทำข้าได้นะ!”
  มังกรวารีโกรธแค้น
  “หุบปาก!หยุดมันซะ!”
  ซือหยูไม่กระวนกระวายเขาหันไปมองม่านพลังด้านหลัง
  เขามองข้ามม่านพลังไปและเห็นสิ่งที่อยู่ลึกสุดข้างใน
  “กังต้าเหล่ยหวังว่าการพบเจ้าจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ!”
  “หวังว่าข้าจะคิดไม่ผิด!”
  “เร่งเวลา!”
  ซือหยูร้องคำรามในทันทีโลหิตเดือดพล่านในภาวะนี้ เขาพุ่งไปยังม่านพลังต่อหน้า
  เขากำลังเข้าไปยังส่วนลึกที่สุดในภูเขาที่แม้แต่เซียนก็มิอาจย่างกรายเข้าไปได้