ตอนที่ 1135 - คู่ปรับที่ได้พบหน้า

The Divine Nine Dragon Cauldron

ไม่นานหลังจากเขาไปราชาเขตกลางก็มาถึง
  เมื่อรู้ว่าซือหยูมุ่งหน้าไปที่ใดเขาแสดงความรื่นรมย์ในใบหน้า
  “กลับบูรพารึ?โอ้ เจ้าหาทางออกไม่ได้สินะ?”
  ราชาเขตกลางซัดมิติด้วยมือเดียวเขาก้าวเข้าไปด้วยแววตาเย็นชา
  ณทวีปบูรพา
  เซียนขาวดำแทบจะรักษาผนึกม่านพลังป้องกันไม่ได้พวกนางใช้พลังห้าธาตุจากเขาห้าธาตุดับเพลิงเทวะได้ดี
  หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเพลิงเทวะจะลดปริมาณลงและดับมอดในไม่นาน
  “เจ้าสองคนนำตระกูลที่เหลือรอดหนีไปจากที่นี่ประตูมิติขั้นสุดยอดสำรองของตระกูลมีมากพอที่จะช่วยชีวิตคนที่เหลือ”   เซียนขาวมองตระกูลที่สูญเสียอย่างหนักในใจนางเศร้าหมอง
  เจ้าตำหนักเหนือใต้หัวเราะเสียงแข็ง
  “ตระกูลพวกข้ากำลังย่ำแย่แต่พวกท่านกลับอยากให้ข้าหนีเรอะ?”
  เซียนดำพูดอย่างขมขื่น
  “เพลิงเทวะของมันไม่ใช่เรื่องล้อเล่นพวกข้าต้านได้อีกไม่นาน เราไม่จำเป็นต้องให้ตระกูลล่มจมไปด้วยกัน นำคนหนีไปซะ”
  เซียนดำเหลือบมองสภาพของสิ่งรอบข้างและใช้ม่านพลังอีกครั้งนางมองโลหิตที่ลดลงของตงฟางอวี่
  “อวี่เอ๋อเจ้าก็ควรหนีไปเหมือนกัน”
  ตงฟางอวี่หน้าซีดและยิ้มอย่างขมขื่น
  “ข้าฆ่าคนในตระกูลตัวเองชีวิตข้าคือสิ่งที่ช่วยให้ตระกูลอยู่รอด คนอื่นจะได้หนีไปได้ ข้าจะอยู่ที่นี่ จะเป็นตายกับตระกูลของข้า”
  “เจ้าอย่าโทษตัวเองเลยเป็นข้าสองคนต่างหากที่ทะนงตนและต้องการตั๋วเรือ เราสูญเสียเพราะพวกข้า เจ้าเป็นคนปล่อยซือหยูไป ราชาเขตกลางย่อมไม่ได้คิดร้ายกับเรานัก เพียงแต่เชือดไก่ให้ลิงดูเท่านั้น”
  เซียนขาวกล่าวด้วยความเศร้า
  พวกนางบังคับให้ซือหยูแต่งงานกับตงฟางอวี่คุณสมบัติอัดยอดเยี่ยมของซือหยูคือเหตุผลที่สองเท่านั้น เหตุผลที่แท้จริงคือเขามีโอกาสที่จะได้ตั๋ว
  “ท่าน…”
  ตงฟางอวี่รู้สึกผิดในใจ
  “อย่าพูดว่าข้าไม่ได้ทำอะไรผิดเป็นโชคดีที่เจ้าปล่อยเขาให้ออกไปก่อนล่วงหน้า”
  เซียนดำสะบัดมือรวบรวมพลังพลังนั้นล้อมรอบทุกคนในตระกูลบูรพา พวกเขาถูกพาไปยังตำแหน่งลับในตระกูลที่มีประตูกลเคลื่อนย้ายทำงานอยู่
  เมื่อเป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปพวกเขาย่อมเตรียมทางหนีทีไล่ไว้เป็นธรรมดา
  ค่ายกลเคลื่อนย้ายที่จะย้ายพวกเขาไปแบบสุ่มทุกคนจะถูกย้ายไปยังทั่วทุกมุมของทวีป ตระกูลบูรพาจะไม่มีทางถูกใครทำลายล้างไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สายโลหิตของพวกเขาจะยังคงอยู่
  เจ้าตำหนักเหนือใต้มองหน้ากันด้วยน้ำตาจากความเศร้าทั้งสองจ้องมองเซียนขาวดำที่กำลังต้านทานพลัง พวกนางตะโกน
  “คนตระกูลบูรพาตามพวกข้ามา!”
  พวกนางรอดพวกนางมิได้ผิดหวังกับบรรพบุรุษทั้งสองที่ไม่สนใจชีวิตตัวเองเพื่อถ่วงเวลาให้พวกนางหนี
  ภายใต้เพลิงเทวะทั้งสองจะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างแน่นอน
  คนตระกูลบูรพาที่เหลือถูกส่งไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายทีละคนและหนีไปจากตระกูลบูรพาที่กำลังจะล่มสลายอย่างรวดเร็ว
  เมื่อเพลิงเทวะมาถึงเหล่าคนตระกูลบูรพาก็หายไปหมดแล้ว
  เซียนขาวดำมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มรอยยิ้มของพวกนางขมขื่น ตระกูลบูรพาที่ยืนเคียงคู่จิวโจวมานานนับว่าแตกดับในข้ามคืน
  และพวกนางก็มิได้ล่มสลายเพราะศัตรูคนแรกอย่างเซียนมณีแต่เกิดจากน้ำมือของราชาเขตกลาง
  “ลูกหลานเราจากไปแล้วเจ้ากับข้าจะได้พักที่นี่ เนิ่นนานถึงสามพันปี ข้าเหนื่อยเหลือเกิน…”
  เซียนขาวมองเพลิงที่กำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ข้างในใจนั้นผ่อนคลาย
  เซียนดำพยักหน้าเงียบๆ และเลิกเรียกพลังออกมาป้องกันตัว
  เพื่อการดำรงอยู่ของตระกูลบูรพาการต้องต่อกรกับคำสาป พวกนางเหนื่อยล้าเต็มทน
  บอกได้เลยว่านางโล่งใจจางภาระหน้าที่เมื่อกำลังจะถูกเพลิงเทวะเผาไหม้
  เพลิงเทวะมาถึงตัวเซียนทั้งสองถูกเผาทั้งเป็น  แม้ว่าร่างกายของพวกนางจะฟื้นคืนอย่างรวดเร็วความเร็วก็มิได้เร็วเท่ากับการทำลายล้างของเพลิงเทวะ
  พวกนางเพียงแค่ต้องรอเวลาให้ตัวเองแตกดับเท่านั้น
  แต่ในตอนนั้นเองทะเลเพลิงได้แบ่งแยกออก เกิดคลื่นพัดพามันหายไป
  ซือหยูพุ่งเข้ามาเขาตกตะลึง เพลิงนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับได้เผชิญหน้ากับสายฟ้าขนวิหค
  เขามองเซียนทั้งสองที่ถูกฝังอยู่ในทะเลเพลิงด้วยหัวใจสั่นไหว
  “อยู่นั่นเอง”
  ซือหยูกัดฟันตะโกน
  “ท่านผู้อาวุโสรีบหนีออกมาเถอะ”
  เมื่อได้ยินซือหยูเซียนขาวดำที่กำลังจะนั่งลงทิ้งชีวิตตกใจ เขากลับมา!
  “ตระกูลบูรพาพบเจอภัยพิบัติอย่างไร้เหตุผลทั้งหมดเป็นเพราะข้า ข้าแก้ไขหรือหยุดมันไม่ได้ เราทำได้แค่ช่วยทีละคน”
  เซียนขาวดำใบหน้าหม่นหมองเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะความโลภในตั๋วเรือของพวกนาง ซือหยูกลับมาช่วยพวกนางนั้นทำให้พวกนางเสียใจนัก
  “เพลิงเทวะไร้เทียมทานช่วยพวกข้าไปก็เปล่าประโยชน์ เจ้ารีบหนีไปเถอะ”
  เซียนขาวถอนหายใจนางหลับตารอความตายอีกครั้ง
  ซือหยูโค้งคำนับ
  “หากพวกท่านยืนกรานข้าที่เป็นผู้น้อยย่อมไม่พูดต่อ พวกท่านมีของส่วนตัวที่อยากส่งให้ลูกหลานหรือไม่?”
  ลูกหลานรึ?เซียนขาวดำลืมตาพร้อมกัน พวกนางไม่คิดจะส่งต่อสิ่งใด เจ้าตำหนักเหนือใต้เองก็ถูกสั่งสอนมาอย่างดีในวิถีของการเติบโต
  หลังจากครุ่นคิดเซียนขาวเข้าใจสิ่งที่ซือหยูต้องการ เขารู้สึกเสียดายที่นางจะถูกทะเลเพลิงแผดเผาสินะ?
  เซียนดำไม่พอใจนักนางคิดว่าซือหยูมาเพื่อช่วยพวกนาง แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาเอาของล้ำค่าจากพวกนาง
  พวกนางย่อมโกรธได้แต่พวกนางก็ต้องยอมรับว่าตนมีของดีอยู่กับตัวมากมาย การปล่อยให้มันถูกเผานับว่าน่าเสียดาย
  ทั้งสองมองหน้ากันและโบกมือรอยแยกมิติสองสายเกิดที่หน้าซือหยู มีสมบัติมากมายที่พวกนางสะสมมาตลอดชีวิต
  “ขอบคุณท่านผู้อาวุโสที่รับฟังคำขอจากข้า”
  ซือหยูพูดเบาๆ
  เซียนขาวดำหายไปช้าๆ ในทะเลเพลิง สุดท้ายพวกนางก็แตกสลายไปพร้อมกับความร้อน แม้แต่วิญญาณก็ไม่เหลืออยู่อีก
  ซือหยูมิได้ตื่นตระหนกเขารับสิ่งของจากเซียนทั้งสอง พวกมันไม่ได้ล้ำค่านัก แต่เป็นสิ่งที่พวกนางพกติดตัวอยู่เสมอ มันมีเสี้ยววิญญาณของพวกนางอยู่ด้วย
  ซือหยูยื่นมือมังกรหยกในฝ่ามือเปล่งแสงขุ่นมัว
  “คืนชีพ…”
  ซือหยูพูดเบาๆ
  ภายใต้ฝ่ามือเสี้ยววิญญาณก่อตัวคืนกลับมาพร้อมกับกายหยาบ ทั้งสองได้รวมตัวกันเป็นร่างมนุษย์
  เพียงครู่เดียวเซียนขาวดำที่ถูกเผาเป็นเถ้าถ่านกับตาก็กลับมาปรากฏตัวอย่างน่ามหัศจรรย์ต่อหน้าเขา
  ไม่เพียงแต่พวกนางจะหายใจอย่างสะดวกแต่ใบหน้าพวกนางยังมีสีสัน แม้แต่ความเจ็บปวดที่สะสมมาตลอดชีวิตก็หายไป
  บาดแผลที่ซ่อนอยู่จากการต่อสู้กับเซียนมณีในอดีตและบาดแผลจากราชาเขตกลางถูกลบล้างจางหาย
  ทั้งสองขยับเปลือกตาเพื่อลืมตาตื่นสิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้สายตาพวกนางว่างเปล่า  “ข้ายังไม่ตายอีกรึ?”
  เซียนขาวพูดเบาๆ แต่เซียนดำมิอาจเข้าใจได้เลย
  พวกนางได้ฟังเสียงหนึ่ง
  “ข้าทำสิ่งที่ข้าทำได้ไปแล้วข้าขอลาพวกท่านก่อน พวกท่านรีบไปรวมตัวคนในตระกูลเถิด”
  เมื่อพวกนางเงยหน้าพวกนางก็เห็นเพียงแผ่นหลังของซือหยู
  “เจ้าช่วยพวกเรารึ?”
  เซียนขาวดำตกตะลึงพวกนางรู้สึกลาง ๆ ว่าพวกนางได้สัมผัสการเกิดใหม่ใต้กองเพลิงและได้ร่างกายคืนกลับมา
  เมื่อมองแหวนมิติอีกครั้งพวกนางก็ไม่เห็นว่ามีสิ่งใดที่หายไปเลย
  พวกนางจึงตระหนักได้ว่าพวกนางเข้าใจซือหยูผิด
  “ช้าก่อน!”   เซียนขาวเรียกซือหยู
  “เราจะช่วยเจ้าผ่านวิบัติสามสิบเก้า!”
  ซือหยูตอบโดยไม่หันหลังกลับ
  “ท่านสองคนมีน้ำใจข้าขอน้อมรับ แต่ข้าผู้นี้ย่อมไม่ให้เกิดการเสียสละอันเปล่าประโยชน์ หากท่านอยากตอบแทนข้า…เผ่าผีกำลังมา พวกมันอันตรายไม่น้อยไปกว่าราชาเขตกลาง ข้าอยากให้พวกท่านเตรียมรับมือกับมัน”
  “กองทัพผีเป็นเรื่องใหญ่ราชาเขตของเราย่อมต้องรับมือ แต่เจ้าจะรับมือกับราชาเขตกลางเพียงลำพังได้อย่างไร?”
  เซียนดำจ้องซือหยูแต่ก็รู้สึกว่าซือหยูที่ยังไม่เป็นจ้าวเทวะนั้นยิ่งใหญ่มาก
  “ข้ามีหนทางของข้าพวกนางรีบรวมคนในตระกูลเสียก่อน เราค่อยหารือกันทีหลัง”
  ซือหยูพูดจบและก้าวเข้าไปยังภูเขาห้าธาตุ  เซียนขาวดำแปลกใจพวกนางรู้ว่าเขาห้าธาตุมีเพียงทางตันข้างใน ใยเขาเข้าไปเล่า…พวกนางไม่เข้าใจ
  แต่พลังอันแข็งแกร่งของราชาเขตกลางก็ปะทุตามมาทั้งสองมองหน้ากัน พวกนางมองเขาห้าธาตุและเดินเข้าไป
  ฟึ่บ!
  ราชาเขตกลางปรากฏตัวด้วยความสับสน
  “พวกมันรอดจากเพลิงเทวะรึจะต้องมีทางหนีที่ทำให้พวกมันหนีไปได้”
  ราชาเขตกลางไม่สนใจความเป็นความตายของตระกูลบูรพาเขาสนใจเพียงความตายของซือหยูเท่านั้น
  ราชาเขตกลางมองไปยังเขาห้าธาตุ
  “พวกมันไม่มีที่ไปจริงๆ เลยต้องไปหลบที่นั่น”
  ราชาเขตกลางไปถึงหน้าถ้ำอย่างรวดเร็วเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าซือหยูอยู่ที่นี่ ซือหยูกำลังเดินลึกเข้าไปในเขา
  ราชาเขตกลางไล่ตามต่อไปพลังห้าธาตุนั้นทำอะไรเขาไม่ได้
  เมื่อมาถึงส่วนลึกเขาก็ได้ใช้พลังเซียน
  เขามาถึงทางตันที่เซียนสามารถมาได้และเขาก็ได้เห็นซือหยู
  ซือหยูเผชิญหน้ากับราชาเขตกลาง
  ตั้งแต่ที่ซือหยูมาจิวโจวทั้งเขาและราชาเขตกลางก็ถูกลิขิตให้ต่อสู้กันจนตัวตายแล้ว พวกเขาได้ต่อสู้กันมาหลายครั้ง
  แต่นี่คือการเผชิญหน้าตรงๆ ครั้งแรก
  ซือหยูมองราชาเขตกลางราชาเขตกลางเองก็มองเขาเช่นกัน
  “ในที่สุดเราก็ได้พบหยินหยู ซือหยูเซี่ยน ซือหยู”
  ราชาเขตกลางกล่าวอย่างไร้อารมณ์
  ซือหยูพูดเบาๆ
  “อืมสุดท้ายก็ได้เจอ ศิษย์รักของเฉินอี้เจิง”
  ราชาเขตกลางยังคงสีหน้าดังเดิมเขาไม่สนใจว่าซือหยูจะรู้ว่าเขาหลอกอาจารย์ตัวเองและตามสังหารผู้สืบทอดไป
  “คนดื้อด้านเช่นนั้นและไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง”
  ราชาเขตกลางส่ายหน้าเขาไม่ได้สู้สึกผิดเลยสักนิด
  “หากย้อนเวลาได้ข้าก็ไม่ลังเลที่จะฆ่ามัน เช่นเดียวกับที่ฆ่าไม่ลังเลที่จะฆ่าเจ้า”
  แสงพุ่งออกจากตามันผนึกซือหยูเอาไว้ให้อยู่กับที่
  เขาไม่รอให้ซือหยูลงมือฝ่ามือใหญ่บนนภากำลังจะปรากฏ เขาจะฆ่าซือหยูทั้งอย่างนี้
  “จุดสูงสุดมันยอดเยี่ยม…”
  ราชาเขตกลางส่ายหน้าอีกครั้ง
  “เคราะห์ร้ายที่เจ้ายังคงมิอาจเปลี่ยนชะตาตัวเองได้”   เส้นผมของเขาร่ายรำราชาเขตกลางมีพลังแข็งแกร่งรายล้อม เพลิงสีทองค่อย ๆ แผ่ออกมาจากร่าง
  “หม้อเก้ามังกร…เจ้าไม่คู่ควรกับมันสักนิดเดียวเจ้าให้มันกับราชาที่จะทำให้มันเปล่งประกายอย่างแท้จริงเสียเถอะ”
  ราชาเขตกลางมองซือหยูเพลิงเทวะพุ่งราวศรธนูตรงไปยังซือหยู
  ซือหยูเองก็ลงมือในเวลาเดียวกัน!