เทพธิดาแห่งแสง เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดตั้งแต่เสี่ยวเฟิงเคยเห็นมา โรส ยังถูกของสวยของเธอบดบังไปซะจนมิด เพราะอย่างไรก็ตาม โรส ก็เป็นมนุษย์เพศหญิง ในขณะที่ เทพธิดาแห่งแสงนั้นถูกจำลองขึ้นมาจากระบบ
เทพธิดาแห่งแสงนั้น สมบรูณ์แบบและไร้จุดด้อย แต่ความสวยของเธอนั้นถูกจำลองขึ้นมาและสามารถที่ตะมีอยู่ในโลกเสมือนจริงของเกมเท่านั้น
เธอ ดูเป็นคนที่หยิ่งพยองและไม่สนใจโลกอยู่ตลอดเวลา ราวกับว่าเธอนั้นอยู่เหนือกว่ามนุษย์ทุกคน ไม่มีอารมณ์ใดๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้าอันสมบรูณ์แบบของเธอและดูเหมือนว่าเธอจะไม่มีความคิดที่เกี่ยวกับ ความเศร้าโศรก ความสุข และความทุกข์ อยู่เลย เธอเป็นเหมือนเทพธิดาสำหรับบุคคลทั่วไปและเธอก็มองมนุษย์อย่างกับว่าพวกเขาเป็นเพียงแมงหรือแมลง
แต่เสี่ยวเฟิงนั้นไม่พอใจกับทัศนคติของเธอ ทำไมเธอถึงอยู่เหนือกว่าคนอื่นละ?
เสี่ยวเฟิงไม่สามารถหยุดคิดความคิดทีดำมืดได้ ในสายตาของผู้คนทั่วไป เทพธิดาแห่งแสงนั้นศักดิ์สิทธิและอยู่ไกลลิบ เธอจะทำอย่างไรเมื่อเธอพบกับเทพพระเจ้าแห่งแสง? เธออาจจะยอมจำนนและยอมเป็นทาสรับใช้ในตอนนั้น
ถว่า เทพธิดาแห่งแสงอาจไม่ทันสังเหตุเห็นถึงใบหน้าที่ไม่พอใจของเสี่ยวเฟิง เธอมองไปที่เสี่ยวไป๋ที่กำลังกอดต้นขาของเสี่ยวเฟิงไว้แน่น แล้วก็เกิดความโมโหขึ้นมา เธอยากที่จะเข้าใกล้แล้วในตอนนี้ และเธอก็มองเสี่ยวเฟิงด้วยความโกรธ ซึ่งนั้นทำให้เธอดูสมบรูณ์แบบและมีเสน่ห์มากขึ้น
“นักผจญภัยเผ่ามนุษย์ เจ้าได้ทำความผิดอันใหญ่หลวง!”
เทพธิดาแห่งแสง ยังคงเงียบอยู่ ในขณะที่เหล่าบิชอปสูงอายุนั้นก็ถือโอกาสเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เขา บิชอบที่จริงจังและมีหนวดขาวสองคนเดินออกมาข้างหน้า พวกเขาคือ ไคเซอร์ และ เรนัลด์
เรนัลด์ พูดอย่างเย็นชาว่า “พิธีถือกำเนิดของภูเขาเจิดจรัสนั้นถูกจัดขึ้นเพิ่มเป็นการต้อนรับ ออระเคิล! แต่เจ้ากลับเปลี่ยน ออระเคิล ไปเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้า! ”
เรนัลด์ ชี้หน้าเสี่ยวเฟิงแล้วพูดอย่างฉุนเฉียว พอเขามองไปที่เสี่ยวไป๋ที่กำลังกอดต้นขาของเสี่ยวเฟิง เขาก็โกรธหน้าแดงแลำอยากที่จะต่อว่าอรกครั้ง
“ฮาฮ่า โปรดใจเย็นๆ กันก่อนเถอะ”
บิชอปไคเซอร์ ยิ้มและเดินมาข้างหน้าเพื่อเล่นบทผู้รักสันติ เขาพูดว่า “นักผจญภัยมีความสามารถในการทำให้สัตว์เลี้ยงเชื่อง และนี้ก็เป็นกฏที่ถูกเขียนขึ้นโดย ผู้สร้าง เนื่องจาก ออระเคิล นั้นได้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงของนักผจญภัยเผ่ามนุษย์คนนี้ไปแล้ว เราจึงต้องยอมรับความจริงนี้และเราไม่สามารถที่จะละเมิดกฏข้อนี้นี้ได้”
จากนั้น บิชอปไคเซอร์ ก็มองมาที่เสี่ยวเฟิงและพูดว่า “พวกเราพบทางออกหลังจากที่ได้พูดคุบกับคนอื่น ภายใต้ฤกษ์ที่ดีของท่านคุณหญิงเทพธิดา เราจึงร่วมกันลงคะแนนเสียง”
“แล้วทางออกนั้นคือ?”
เสี่ยวเฟิงถามด้วยความลังเล เขารู้สึกได้ว่า บิชอปไคเซอร์ นั้นฉลาดหลักแหลมและเจ้าเล่ห์
“ออระเคิล เป็นของภูเขาเจิดจรัส และเจ้าไม่สามารถเอาเธอออกไปได้”
“ว่าไงนะ? ขอปฎิเสธ! เธอเป็นสัตว์เลี้ยงของฉันและฉันจะไม่ทิ้งเธอไว้ที่นี้คนเดี่ยว”
เสี่ยวเฟิง ปฎิเสธข้อเสนอของพวกเขาทันที และส่ายหัวโดยไม่ลังเล เสี่ยวไป๋มีความสามารถในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและจะช่วยเหลือเขาได้มาก เขาจะไม่มีทางทิ้งเธอไว้ใน วิหารแห่งแสง
“แต่ เจ้าไม่มีสิทธิที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเรา!” ออระเคิล เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อวิหารแห่งแสงและเธอจะต้องอาศัยอยู่ที่นี้! เจ้าควรจะยอมรับข้อตกลงนี้สะดีกว่า ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกกักขังไว้ในภูเขาเจิดจรัสและจะไม่มีทางออกไปจากที่นี้ได้!” เทพธิดาแห่งแสงส่งเสียอย่างไม่พอใจแล้วแล้วพูดอย่างเย็นชา
“ฉันไม่กลัวมันหลอก! พวกนายจะลองดูก็ได้! ฉันจะเอาเสี่ยวไป๋ไปไว้ใน พื้นที่สัตว์เลี้ยง (pet space) และวิหารแห่งแส่งจะไม่มีวันหา ออระเคิล ของพวกเขาเจอ!” เสี่ยวเฟิงพูดอย่างไร้ยางอาย
ผู้สร้าง ที่พวกเขาพวกเขาน่าจะเป็น ระบบของเกม นั้นหมายความว่าพวกเขาไม่สามารถละเมิดกฏของระบบได้ และพื้นที่สัตว์เลี้ยงนั้นก็เป็นระบบส่วนตัวของผู้เล่น
“เจ้าบ้า!” เทพธิดาแห่งแสง โกรธหน้าแดงในทันทีและหยุดพูดกับเสี่ยวเฟิง หน้าอกโตๆ ของเธอกระเพื่อมแล้วใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นยะเยือก
“โปรดอย่าเพิ่งใช้อารมณ์กันเลย ใจเย็นๆ กันก่อน พวกเราสามารถพูดคุยกันและหาทางออกที่ดีกว่านี้ได้!” บิชอปไคเซอร์ พูดแทรากขึ้นมาอีกครั้ง และมองไปที่เสี่ยวเฟิงด้วยร้อยยิ้ม
“เทพธิดาแห่งแสงพูดถูก กองทัพแห่งความมืดปรากฏขึ้นอีกครั้งและพวกเราจัดพิธีถือกำเนิดและเรียก ออระเคิล ลงมายัง ดินแดนแห่งพระเจ้าเพื่อที่จะกำจัดพวกมัน ดังนั้น ออระเคิล จำเป็นต้องแบกรับภาระอันใหญ่ยิ่งเอา แม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้า เธอก็ยังได้รับมอบหมายงานสำคัญเอาไว้ เพราะฉนั้น ออระเคิล จึงต้องอยู่ในภูเขาเจิดจรัส ”
เสี่ยวเฟิง เปิดปากและต้องการที่จะโต้เถียงเขา แต่ บิชอปไคเซอร์ ขัดเขาไว้อีกครั้งแล้วพูดต่อว่า “โปรดฟังฉันก่อน”
“เพราะว่าเจ้าเข้าแทรกแซงพิธีถือกำเนิด ทำให้ ออระเคิล ยังไม่โตเต็มที่ในตอนนี้ เธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำลายกองทัพแห่งความมืด ดังนั้น เธอจึงต้องอยู่ในภูเขาเจิดจรัสเพื่อฟื้นฟูพลังของเธอ”
วิธีแก้ปัญหานี้ เหมือนจะน่ายอมรับมากสำหรับ เสี่ยวเฟิง ในตอนนี้ เสี่ยวไป๋ นั้นแข็งแกร่งพอสำหรับเสี่ยวเฟิงและผู้เล่นทั่วไป แต่เห็นได้ขัดว่า NPC ระดับสูงเหล่านี้ไม่พอใจ กับความแข็งแกร่งของเธอ เพราะอย่าไรก็ตาม เสี่ยวไป๋ก็เป็นสัตว์เลี้ยงของเขา ถ้าเธอสามารถอาศัยอยู่ที่ ภูเขาเจิดจรัสและฟื้นพลังของเธอ เธอจะสามารถช่วยเสี่ยวเฟิงได้มากขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มสมรรถภาพในการต่อสู้ให้ของเขา
เสี่ยวเฟิง จับโซ่ของเขาและจมอยู่ในความคิด
“นี้เป็น ข้อยินยอมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่วิหารแห่งแสงสามารถทำได้ เราสามารถยอมรับได้ว่าเจ้า คือเจ้านายของ ออระเคิล แต่เจ้าต้องนับถือในพระเจ้าแห่งแสงสว่างอย่างสัตย์จริง และช่วยเหลือกองทัพแห่งแสงหลังจากที่ ออระเคิล ตกเป็นสัตว์เลี้ยงของเจ้า เมื่อกองทัพแห่งความมืดกลับมา เจ้าจะต้องช่วยพวกเราต่อกรกับพวกมันและทำผลงานชองเจ้า” บิชอปไคเซอร์ พูดต่อไป แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะดูเป็นมิตร แต่เขากำลังขู่เสี่ยวเฟิงอยู่
พวกเขาได้ทางออกนี้ มาด้วยการลงคะแนน และการคัดค้านของ เสี่ยวเฟิง นั้นไม่มีผล เขาอยู่ที่เลเวล 12 และเป็นเพียงผู้เล่นที่ไม่มีความสำคัญ ถ้าเขายังยืนกรานความเห็นของเขา บิชอปเหล่านี้อาจจะใช้มาตรการที่ร้ายแรงกว่าเดิม
เสี่ยวเฟิง เข้าจุดนี้ดี แม้แต่ โบลตัน ที่เป็นกัปตันของอัศวินแห่งสาขาย่อยในเมือง เตียนหลง ยังเป็น บอสที่น่าหวาดกลัวและเกือบที่จะขึ้นไปถึงระดับตำนาน บิชอปที่กำลังยืนอยู่ใน วิหารแห่งแสง เหล่านี้ต้องอยู่ในระดับที่สูงกว่า และเสี่ยวเฟิงก็ไม่ใช้คู่มือสำหรับพวกเขา
“สัตว์เลี้ยงเป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถสำหรับนักผจญภัยอย่างพวกเราและพวเราก็สามารถมีสัตว์เลี้ยงได้เพียงตัวเดียวเ่ทานั้น ถ้าฮฉันทิ้งเสี่ยวไป๋ไว้ที่นี้ ฉันก็จะไม่มีสัตว์เลี้ยงครอบครองและสิ่งนี้จะส่งผลต่อพลังในการต่อสู้ของฉันอย่างมาก
เสี่ยวเฟิง จับคางของเขาด้วยมือข้างหนึ่งและแตะศรีษะของเสี่ยวไป๋ด้วยมืออีกข้าง เขายอมรับข้อตกลงนี้แต่เขาก็ต้องการสิ่งไว้ชดเชย
ถ้าเขาไม่สามารถเอาเสี่ยวไป๋มากับเขาได้ เขาจะเสียงฉายาสัตว์เลี้ยง เขาจะเสียเปรียบเพราะผู้เล่นคนอื่นมีสัตว์เลี้ยงในขณะที่เขาไม่มี
แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวนั้นกำลังทำตัวไม่มีเหตุผล สกิลติดตัวของเสี่ยวไป๋สามารถที่จะแบ่งปันได้และเขาก็สามารถได้รับผลของสกิลแม้ว่าเธอจะอยู่ไกลสุดลูกหูลูกตาก็ตาม เขาไม่สามารถใช้ความสามารถในการโจมตีของเธอได้ หากเธอต้องอยู่ในภูเขาเจิดจรัส แต่ก็เขาไม่ได้สูญเสียอะไรไปมากเพราะสกิลติดตัวของเสี่ยวไป๋นั้นแข็งแกรง
“แน่นอนว่าเราพิจารณาสิ่งนี้ไว้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ตามกฏที่ถูกเขียนขึ้นโดย ผู้สร้าง ออระเคิล นั้นเป็นของเจ้าและพวกเราไม่ควรจะเก็บเธอไว้ใน ภูเขาเจิดจรัส เจ้าเป็นเจ้าหนายของ ออระเคิล หลังที่ได้พูดคุยและไตรตรองกัน พวกเราดัดสินที่จะประทาน กิติมศักดฺิ์ของอาชบิชอปแห่งวิหารศักดฺ์สิทธิ ให้กับเจ้า! ”
เสี่ยวเฟิงกำลังจ้องไปที่ บิชอปไคเซอร์ และรอค่าชดเชยของเขา เมื่อ บิชอปไคเซอร์ พูดเสร็จ เสี่ยวเฟิงก็ถามด้วยความสงสัย“แค่นี้หรอ?”
“ก็ใช่นะสิ!”
ใบหน้าของ บิชอปไคเซอร์ เปลี่ยนเป็นแข็งกระด้าง เข้าต้องเสี่ยวเฟิงด้วยความโมโหและไม่สบอารมณ์กับ ทัศนคิติที่ไม่รู้ถึงคุณค่าของเขา
“เจ้าจะโลภเกินไปแล้ว! อาชบิชอปแห่งวิหารศักดิ์สิทธินั้นแข็งแกร่ง! เจ้าจะได้รับอภิสิทธิ์ที่เจ้่าไม่มีทางที่จะจิตนาการออกมาได้ ใน ดินแดนแห่งพระเจ้า! เจ้าเป็นเจ้านายของ ออระเคิล ไม่เช่นนั้น พวกเราจะไม่มอบฉายานี้ให้กับนักผจญภัยคนหนึ่งหรอก! มีบุคคลไม่ถึงสิบคนในวิหารแห่งแสงของพวกเรา ที่มีฉายา อาชบิชอป!
บิชอปเรนัลด์ ไม่สามารถยังยั้งความโกรธของเขาได้ และตะโกนใส่เสี่ยวเฟิง
“อ่า ฉันเข้าใจแล้ว”
เสี่ยวเฟิง ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหนาย ของตอบแทนนั้นเป็นเพียงฉายากิตติมศักดิ์และมันก็จะไม่นำประโยชน์สำคัญใดๆ มาให้กับเขา
“เจ้าตกลงที่จะทิ้ง ออระเคิล ไว้ที่ภูเขาเจิดจรัส และข้าจะมอบ ฉายาอาชบิชอปแห่งแสง เป็นสิ่งตอบแทน เจ้าไม่สามารถพา ออระเคิล ไปจากภูเขาเจิดจรัสได้ถ้าฉันไม่อนุญาติ ”
เทพธิดาแห่งแสงพูดออกมาเบาๆ เธอก้าวออกมาและสัมผัสหน้าอกของเสี่ยวเฟิงด้วยนิ้วมือสีขาวของเธอ อย่างแผ่วเบา
ในขณะเดียวกัน แสงสีทองก็ก่อตัวขึ้น เหรียญตราที่งดงามกว่าเดิมบนหน้าอกของเขา และบดบังเหรีญตราสาวกผู้เลื่อมใส
“เฮ้! คุณได้รับเหรียญตรากิตติมศักดิ์: อาชบิชอปแห่งแสง”
เสี่ยวเฟิงมองดูความสามารถของมัน มันคืออุปกรณ์พิเศษเหมือนกับเหรียญตราสาวกผู้เลื่อมใสเช่นกัน มันไม่มีการเพิ่มค่าพลังพิเศษอย่างอื่น แต่ผู้เล่นสามารถส่วมใส่เหรียญตราที่แตกต่างกันได้หลายอัน ในเวลาเดียวกันและเลือกผลพิเศษของเหรีญตราเหรียญหนึ่ง
เหรียญตรากิตติมศักดิ์: อาชบิชอปแห่งแสง
ชนิด: อุปกรณ์พิเศษ
ความสามารถ: หลังจากที่ส่วมใส่มันแล้ว คุณจะได้รับการปฎิบัติเหมือนกับ อาชบิชอป ในเขตอิทธิพลของกองทัพแห่งแสงสว่างทั้งหมด คุณสามารถใช้สิทธิของอาชบิชอปได้ในสาขาย่อยของวิหารแห่งแสงทั้งหมด
ความพิเศษ: หลังจากที่ส่วมใส่มันแล้ว ฉายา อาชบิชอป จะปรากฏขึ้นบนชื่อตัวละคนของคุณ
คำอธบายความสามารถนั้นก็ยังคล้ายกับของ สาวกผู้เลื่อมใส อีกด้วย และเสี่ยวเฟิงก็ไม่พบสิทธิพิเศษใดๆ นี้อาจจะเป็นเพียงแค่ฉายากิตติมศักดิ์สำหรับผู้เล่น เขาไม่สามารถที่จะระดมผลอัศวินของวิหารสว่างได้เหมือนกับเหล่า NPC บิชอป
“พา ออระเคิล กลับไปยังบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เธอสามารถฟื้นฝูพลังแสงของเธอได้ในที่นั้น และจงจำไว้ว่า อย่าเรียกเธอไป หากฉันไม่อนุญาติ”
เทพธิดาแห่งแสง จากไปหลังจากที่พูดจบและกลุ่ม คาร์ดินัลก็เดินออกไปแล้วเช่นกัน
“เจ้าบ้า เจ้…” บิชอปเรนัลด์ รีบเดินเข้ามาหาและอยากจะเถียงกับเสี่ยวเฟิงอีกครั้ง แต่ บิชอปไคเซอร์ ขัดจังหวะเขาไว้
“อ่า บิชอปเรนัลด์ โปรด ใส่ใจในทัศนคติของท่านที่มีต่อ อาชบิชอปด้วย”
ไคเซอร์ จงใจที่จะไอออกมาเพื่อเตือนใจ เรนัลด์ แต่เขากลับยิ้มเหมือนกับว่าเขาได้ระบายความโกรธออกไปแล้ว
หลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด เสี่ยวเฟิงจึงแสดง ฉายา อาชบิชอป บนศรีษะเขาในทันที เขามองไปที่ บิชอปเรนัลด์ อย่างจริงจังราวกับว่าเขากำลังตรวจงานลูกน้องเขา
“…” บิชอปเรนัลด์ เงียบไปในทันใด เขาหน้าแดงและย้อมแพ้ไปในที่สุดหลังจากที่เขาเห็นฉายาบนศรีษะของเสี่ยวเฟิง จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “อาชบิชอบ โปรดเพิ่มเลเวลของท่านอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ออระเคิล เป็นสัตว์เลี้ยงของท่านและเลเวลของเธอก็จะถูกจำกัดด้วยตัวท่าน จะเป็นการยากสำหรับเธอที่จะฟื้นฝูพลังทั้งหมดของเธอในขณะที่กองทัพแห่งความมืดนั้นมีความแข็งแกร่ง ยิ่งไปกว่านั้นวิหารแห่งสร้างก็ไม่สามรถที่จะจัดการกองทัพที่เหลืออยู่ของพวกมันได้” ปราศจากความช่วยเหลือจากพระเจ้า ผู้คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในดินแกนแห่งพระเจ้าจะตกอยู่ในความทุกย์ยากที่แสนสาหัสเหมือนเมื่อหลายพัน ปีก่อน
ผลที่ตามานั้นร้ายแรงและเสี่ยวเฟิงจำเป็นต้องให้คำสัญญากับเขา แต่เจาจะพยายามให้ดีที่สุดในการเพิ่มเลวเลของเขา โดยไม่ต้องให้พวกบิชอปมาเตือน
จากนั้นเขาก็กลับไปยัง บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านหลัง วิหารกลาง เมื่อมองไปที่เสี่ยวไป๋ เสี่ยวเฟิงก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป