เสี่ยวไป๋ เป็นสัตว์เลี้ยงของเขา แต่เธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงอายุ 8 หรือ 9 ขวบ เธอมีรูปลักษณ์ที่เหม่อลอย อยู่บนใบน่าที่น่ารักน่าชังของเธอ เธอกำลังกอดต้นขาของเสี่ยวเฟิงไว้แน่นและเขาก็ไม่อยากที่จะทิ้งเธอไว้คนเดียวที่นี้

โชคดีที่ เสี่ยวไป๋นั้นคุ้นเคยกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ่อน้ำ เธอปล่อยมือจากเสี่ยวเฟิงและลงไปในบ่อน้ำด้วยตัวเธอเอง ชิ้นสูงที่เรืองแสงอยู่ไม่กี่ชิ้นปรากฏขึ้นในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิแลพก่อตัวเป็นเปลือกไข่ครึ่งฟอง เสี่ยวไป๋ห่อหุ่มอยู่ในเปลือกไขนั้นและลอยลำอยู่ในน้ำ ในขณะเดียวกัน สีของเปลือกไข๋ก็เปลี่ยนไปและมันต่างจากสีที่เสี่ยวเฟิงเคยเห็นมาก่อนหน้านี้ มันดูเหมือนเกราะเดรสสีเงินที่เสี่ยวไป๋ส่วมใส่อยู่

ในขณะเดียวกัน แนวแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และเข้าปกคลุมเสี่ยวไป๋และเปลือกไข่ครึ่งฟอง แต่เแนวแสงศักดิ์สิทธิ์นี้ นั้นไม่เด่นชัดเหมือนกับแนวแสงอันก่อน มันค่อนข้างที่จะไม่แจ่มแจ้ง

เสี่ยวไป๋ เดินเข้าไปในบ่อน้ำศักดิ์สิทธิด้วยตัวของเธอเอง และเสี่ยวเฟิงก็รู้สึกโล่งใจ แต่เขาก็ยังกังวลเรื่องเธออยู่ เธอดูเหมือนเด็ก และเธอก็เป็นสัตว์เลี้ยงของเสี่ยวเฟิงในโลกของเกมนี้

เสี่ยวเฟิง คุ้ยหาไปทั่วกระเป้าของเขา แต่ก็ไม่พบของเล่นหรือขนมใดๆ เลย มีเพียงแต่ ยา อุปกรณ์ ของไว้อวด และวัสดุ

แต่มีไข่สัตว์เลี้ยงอยู่ใบหนึ่งที่เป็นรางวัลจากการสำเร็จภารกิจจับสัตว์ เสี่ยวเฟิงหยิบ ไข่สัตว์เลี้ยง(ไก่อ้อเอ้) ออกมาทันที

เสี่ยวเฟิงได้ยินเสียงร้องของไก่

ไข่สัตว์เลี้ยงนี้สามารถนำมาฟักตัวหรือปล่อยออกไปได้ เสี่ยวเฟิงเลือกที่จะปล่อยมันออกไป ไก่สีทองออกมาจากเปลือกไข่ในทนัที ไก้อ้อเอ้ นั้นเป็นมอนเสตอร์ที่ เป็นกลางและไม่เป็นอันตราย มันดูน่ารักหลังจากที่มันถูกฟังออกมา

“เสี่ยวไป๋ เธอจะเล่นกับไก่ตัวนี้ก็ได้นะ และฉันจะกลับมาหาเธอบ่อยๆ นะ”

เสี่ยวเฟิงสัมผัสศรีษะของเสี่ยวไป๋ที่กำลังนั้งอยู่บนเปลือกไข่ และโยนไก่อ้อเอ้ที่กำลังดิ้นรนและพยามกระพือปีก ไปให้เธอ

เสี่ยวไป๋ตะแคงศรัษะของเธอและมองไปที่เสี่ยวเฟิงอย่างไม่เข้าใจ แต่เธอสนใจไก่อ้อเอ้ที่ยังคงร้องอ้อเอ้อยู่ในทันที เธออุ้มมันไว้ในอุ้งมือทั้งสองเขาเธอและจ้องไปที่มันอย่างปราศจากความรู้สึก

ในที่สุด เสี่ยวเฟิงก็ยืนขึ้นและเดินออกไป เขาหยิบ คัมภีร์ย้ายกลับของเมือง เตียนหลงออกมาและขย้ำมัน เขามองไปที่เสี่ยวไป๋ก่อนที่ร่างกายของเขาจะกลายเป็นแสงสีขาวและหายไป

เมือง เตียนหลง คึกคักไปด้วยผู้เล่นแล้วในตอนนี้ หลังจากที่เดินออกมาจากวงแหวนเคลื่อนย้ายแล้วเสี่ยวเฟิงก็ตะลึงไปกับความพลุกพลานและความีชีวิตวาของถนนตรงหน้าของเขา นี้มันเเฟื่องฟูกว่าเมือง เชียงชุย เสียงอีก

เสี่ยวเฟิง ปรากฏขึ้นในเมือง เตียนหลง ในเวลาเดียวกันกับที่ ซื๋ออี้ ที่กำลังรอเขาอยู่ที่บันไดที่ตีนเขาของภูเขาเจิสจรัดได้รับข่าวใหม่

“ว่าไงนะ? เขาหายไปหรอ? แล้วเขาออกไปตอนไหน?”

ซื๋ออี้ พูดกับคนที่อยู่ปลายสายด้วยเสียงที่ดังขึ้น

“เขาอาจพึ่งออกจากที่นี้ สมาชิกของพวกเราเห็นเขาอยู่ที่วงแหวนเคลื่อนย้ายของเมือง เตียนหลง”

นั้นคือ สกาย ที่กำลังคุยอยู่กับ ซื๋ออี้ เขาใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบคำถามของเธอ

“โห! ไอคนขึ้เนี้ยว!”

ซื๋ออี้ เปล่งเสียงอย่างไม่พอใจและโอบหน้าอกของเธอ เต้าโตๆ ของเธอดูเด่นขึ้นมากตอนนี้

“เฮ้! แล้วเธอรู้สึกอย่างไร? เธอได้ข้อมูลอะไรมาบ้างไหม?” สกายถาม

“ไม่ได้มาเลย เขาไม่ยอมแบ่งภารกิจให้กับฉัน ยิ่งไปกว่านั้น มีเพียงผู้เล่นที่มีเลเวลสูงกว่าหรือเท่ากับ 50 เท่านั้นที่จะสามารถเข้าภูสู่เขาเจิดจรัสได้ ตำแหน่งของภารกิจนี้เป็นแผนที่ระดับสูง และฉันก็เข้าไปที่นั้นไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“แผนที่ขั้นสูงสำหรับผู้เล่นที่มีเลเวล 50 งั้นหรอ?” สกายที่อยู่ปลายสาย ตะลึง

“ใช้แล้ว มันอาจจะเกี่ยวข้องกับวิหารแห่งแสงก็เป็นได้ ฉันสังเกตุเห็นว่าชุดเกราะและอาวุธของ NPC การ์ด แห่งภูเขาเจิดจรัส นั้นดูคล้ายกับของอัศวินแห่งวิหารแห่งแสงในเมืองหลัก”

“ถ้าเป็ยอย่างนั้น..เธอจะกลับมาก็ได้ตอนนี้ ขอให้ฌะออย่างลืมสถานที่นั้นนะ เหมือนว่าสมาชิกของเราจะได้รับ ภารกิจโซน พวกเราอาจต้องเจ้าไปในโซนภานใยคืนนี้”

“โอเค! ฉันจะกลับไปเดี้ยวนี้แหละ!”

หลังจากที่เขากลับมายังเมือง เตียนหลง เสี่ยวเฟิงก็ไม่รีบไปรับภารกิจเนื้อเรื่องแต่ว่าเขาเปิดรายชื่อระดับขึ้นมาและตรวจดูมันอีกครั้ง เขาได้ใช้เวลามากเกินไปในการทำภารกิจเนื้อเรื่องทั้งสองให้สำเร็จและหลอด EXP ของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยหลังจากตอนนั้น

รายชื่อการจัดอันดับ ของ เขต Huaxia

อันดับที่หนึ่ง: xxx – เลเวล: 1 – อาชีพ: นักพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่สอง: ซีเหมินชุยเซวีย – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักดาบ – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่สาม: ไดนาสตี้วอร์ก็อต – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักรบเถื่อน – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่สี่: เฟิงยุนจีฉา – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักรบเถื่อน – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่ห้า: นักธนูอายุ 17 ที่อยากจะนอนกับพระ – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักธนู – เข้าร่วม: ไม่มี 无
อันดับที่หก: ดูมส์เดย์ก็อด – เลเวล: 11 – อาชีพ: เจ้าแห่งพลังธาตุ – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่เจ็ด: ฉันคือพาลาดินแห่งการรักษา – เลเวล: 11 – อาชีพ: พาลาดิน – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่แปด: วอร์สปิริตสกาย – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักรบเถื่อน – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่เก้า: เดอะสปิริตออฟอิมอแทลอิทิ – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักฆ่า – เข้าร่วม: ไม่มี

อันดับที่สิบ: กลอรี่ไนน์บราเธอร์ – เลเวล: 11 – อาชีพ: นักเวทธรรมชาติ – เข้าร่วม: ไม่มี

เสี่ยวเฟิงคิดถูกที่เขาเป็นกังวล เขามีเลเวล 12 และเขาก็เข้าไปอยู่ในอันดับที่หนึ่ง แต่ผู้เล่นคนอื่นก็เกือบจะตามเขาทันอยู่แล้ว ผู้เล่นอีกทั้งเก้าคนได้ขึ้นถึงเลเวล 11 แล้ว และเสี่ยวเฟิงแกรงว่าพวกเขาจะตามเขาทันภายในเช้าวันพรุ่งนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นส่วนใหญ่ที่อยู่ในรายการจัดสิบอันดับแรกก็เป็นปประธานของกิลด์หลักทั้งนั้น พวกเขาดื่มด่ำไปกับ ทรัพยากรของกิลด์ขนาดใหญ่ทั้งกิลด์และสามารถอัพเลเวลตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น พวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องโจมตีมอนเสอร์ด้วยตัวของพวกเขาเองด้วยซ้ำ

แต่นี้ก็ยังเป็นตัวบ่งบอกว่า ผู้เล่นที่อยู่กระจัดกระจายกันออกไป นั้น ทั้งแข็งแกร่งและมีความชำนาญ พวกเขาสามารถอยู่รายชื่อในสิบอันดับต้นได้ภายใต้การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ ไนท์คูเออร์ ผู้ที่เคยอยู่ในรายชื่อสิบอันดับต้นมาก่อนนั้นถูกผู้เล่นคนอื่นทิ้งห่างออกไป เพราะไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เธอก็เป็นนักฆ่าและอาชีพนี้ไม่เหมาะกับการฆ่ามอนเสตอร์เพื่ออัพเลเวล

หลังจากที่พบว่าผู้เล่นคนอื่นกำลังจะไล่ตามเขาทัน เสี่ยวเฟิงจึงไม่ตั้งเป้าหมายเพื่อที่จะทำภารกิจนั้น เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการอัพเลเวล

ยิ่งไปกว่านั้น เสี่ยวเฟิงก็สามารถอัพเลเวลด้วยตัวของเขาเองได้แล้วในตอนนี้ เขาได้เปลี่ยนอาชีพของเขาและกลายเป็น นักพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์

ภายใต้ความสามารถของ พลังแห่งพระเจ้า สกิลรักษาของเสี่ยวเฟิงจะกลายเป็นสกิลที่สร้างความเสียหายตราบใดที่เป้าหมายของเขาคือ ผีดิบ หรือ พวกเผ่าแห่งความมืด สิ่งนี้ช่วยเพิ่มสมถรรมในการสร่้างความเสียหายของเสี่ยวเฟิงได้อย่างมาก

ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้ผลของสกิล นภาแห่งพระเจ้า ของ เสี่ยวไป๋ เสี่ยวเฟิงจะสามารถปล่อยสกิลรักษาของเขาใส่เป้าหมายที่อยู่ในสายตาของเขาได้ในเวลาเดียวกัน!

มันหมายความว่า เสี่ยวเฟิง สามารถผสมผสานสกิล นภาแห่งพระเจ้า กับ สกิล พลังแห่งพระเจ้าได้ ถ้าเขาสารถหา จุดเติมพลังที่มีมอนเสตอรืผีดิบจำนวนมากได้พบ เขาจะสามารถฆ่าพวกผีดิบและอัพเลเวลได้ด้วยความเร็วที่น่ากลัว

ดังนั้น เขาจึงต้องการเพียงหาจุดเติมพลังให้พบ และทำการเตรียมการบ้างอย่างในขณะนี้
อย่างเช่น เขาต้องซื้อยาให้เพียงพอและขยายกระเป้าของเขา มันจะผลาญ MP จำนวนมากเพื่อการ อัพเลเวลโดยใช้การใช้สกิลเหล่านั้น นอกจากนั้น เขาจะสังหารมอนเสตอร์เป็นจำนวนมากและจะมีได้รับของดรอปมากมาย เขาไม่จะสามารถทิ้งมันไปได้หากประเป๋าของเขาไม่ใหญ่พอ

“เราต้องการเหรียญทองหนึ่งเหรียญในการเพิ่มพื้นที่ในกระเป๋าหนึ่งช่อง…โอ้! คุณคือ อาชบิชอบนิ! คุณต้องการที่จะขยายกระเป๋าของคุณไหม?”

เขาไปที่บริเวณโกดังในตอนแรกเพื่อจะเอา ใบรับรองภารกิจ กุญแจปิดผนึก และไอเทมอื่นๆ ที่เขายังไม่สามารถมใช้งานได้ในตอนนี้เก็บเข้าไปในโกดัง แล้วเขาก็พบกับ NPC หัวหน้าทีจะช่วยขยายกระเป๋าของเขา

แต่ NPC หัวหน้าที่อ้วนตุตะคนนี้ ตัวสั่นขึ้นมาในทันทีหลังกจากที่เห็นฉายา อาชบิชอปบนศรีษะของเสี่ยวเฟิง และจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาเสี่ยวเฟิงด้วยความเคารพและหวาดหวั่น

“ใช่ ช่วยเพิ่มให้ฉันสิบช่อง และนี้คือเหรียญทองสิบเหรียญ” เสี่ยวเฟิงพยักหน้า แต่เขาก็กหวาดหวั่นกับทัศนคติของ NPC หัวหน้าตัวอ้วนคนนี้ทันที

“ไม่ ไม่ ไม่! นี้เป็นเกียรติของข้าน้อยที่ได้ขยายกระเป๋าให้กับท่าน อาชบิชอบ! ข้าน้อยจะรับเงินของท่านได้อย่าไรกัน? ข้าน้อยจะช่วยท่านขยายช่องกระเป๋าใบนี้จนถึงขีดจำกัดสูงสุด เดี้ยวนี้แหละ!

NPC หัวหน้าตัวอ้วน โบกมืออย่างต่อเนื่อง และจากนั้นเสี่ยวเฟิงก็ได้ยืนเสียงเตือนของระบบ กระเป้าของเขามี 100 ช่องแล้วในตอนนี้

เสี่ยวเฟิงหยิบเงินของเขากลับมา เขาประหลาดจะที่นึกขึ้นได้ว่า ฉายา อาชบิชอปกิตติมาศักดิ์ นั้นมีประโยชน์มากกว่าที่เขาคิด

“ความสามารถของข้าน้อยจำกัดให้ข้าน้อยสามารถขยายกระเป๋าให้ท่านได้เพียง 100 ช่องเท่านั้น อาชบิชอบ หากท่านหา หินอวกาศ พบ ข้าน้อยจะสามารถเพิ่มช่องของกระเป๋าให้กับท่านได้มากกว่าเดิม”

NPC หัวหน้าตัวอ้วน ส่งเสี่ยวเฟิงออกไปทางประตูอย่างเคารพและขอให้เขาแวะมาที่นี้บ่อยๆ

เสี่ยวเฟิง นั้นมีความสุขสุขสันต์ เขาไม่คาดไม่ถึงว่า อาชบิชอปย จะมีสิทธิพิเศษที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เขาคิดอะไรบ้างอย่างขึ้นมาทันที และเดินไปยัง คฤหาสน์ของเจ้าเมือง

เฉียนโตวโตว เคยขอให้เขาก้าวล้ำหน้า กิลด์อื่นและสมาคมอื่นๆ เอาไว้ และจากนั้นค่อยซื้อที่ดินในเมืองหลัก เสี่ยวเฟิงสงสัยว่าเขาจะสาารถได้ที่ดินมาด้วยการใช้ฉายา อาชบิชอป อย่างเต็มที่ได้หรือไม่

คฤหาสน์ของเจ้าเมืองเตียนหลง นั้นดูโอ่อ่า มันดูเหมือนคฤหาสน์ของนายพลในละครชุดเก่า และมันยังตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเตียนหลงอีกด้วย

ในขณะนี้ มีผู้เล่นหลายคนอยู่ด้านนอกของคฤหาาน์ และ NPC ทหารยามเกือบทุกคุณก็ถูกผู้เล่นที่กำลังทำภารกิจล้อมอยู่

“นักผจญภัย ภรรยาของเจ้าเมือง ต้องการที่จะรับประทานเนื้อปลาประโทงแทงดาบสีขาว ที่มีอยู่มากมาย ในแม่น้ำ ซึเชียง (Xicheng river) คุณช่วยจับปลานั้นมาให้ฉันสิบตัวได้หรือไม่?”
“มันเป็นภารกิจการเก็บเกี่ยว ฉันต้องการปลากระโทงแทงดาบสีขาว 10 ตัว บอกให้ใครสักคนเอาปลาพวกนั้นมาให้ฉันเดี้ยวนี้”

มี NPC ทหารยามมากมายอยู่ด้านนอกของคฤหาสน์ของเจ้าเมือง และพวกเขาทุกข้าก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้เล่น ยังมี คนใช้ คนหนึ่ง ที่มีผู้เล่นล้อมอยู่เพียงไม่กี่คน

ผู้เล่นคนอื่นก็ต้องการที่จะเดินเข้ามาและรับภารกิจของ คนใช้ เช่นกัน แต่พวกผู้เล่นไม่กล้าที่จะเดินเข้ามาหลังจากที่ได้เห็นคำนำหน้า มิดซัมเมอร์ บนศรีษะของพวกที่ล้อม คนใช้ อยู่

“คุณ คนใช้ เราจะเข้าไปในคฤหาสน์และพบกับเจ้าเมืองได้หรือไม่?”

ทันไดนั้น เสี่ยวเฟิงก็ได้ยินเสี่ยวที่เย็นชาและน่าฟัง และได้กลิ่นหอมของดอกบัว

นั้นคือ มิดซัมเมอร์ โรส ผู้เล่นที่ยืนอยู่รอบๆ ตัว คนใช้ นั้นก็คือสมาชิกของ มิดซัมเมอร์กิลด์ และ มิดซัมเมอร์ โรส ก็เป็นหัวหน้าของพวกเขา

“อ่า ท่านเจ้าเมืองกำลังยุ่งอยู่กับธุระสำคัญ และไม่มีเวลาที่จะมาพบกับเหล่านักผจญภัย”

NPC คนใช้ พูดด้วยความลำบากใจและปฏิเสธ โรส

“คุณ หลิว ดูเหมือนว่าความติดเห็นของเขายังดีไม่พอนะ พวกเราจะต้องทำภารกิจนี้ต่อไป” มิดซัมเมอร์ ลิลลี่ ยืนอยู่ข้างหลังโรสและพูดออกมาด้วยเสียงอันแผว่เบา

“ก็ถูก พวกนั้นจับปลากระโทงแทงดาบสีขาวได้หรือยัง? บอกให้พวกนั้นให้ทำให้เร็วกว่านี้ ที่ดินของเมืองเตียนหลงเป็นของเจ้าเมือง เราต้องพบกับเขาให้เร็วที่สุด” โรส พยักหน้าและพูดตอบ

“ฉันบอกพวกเขาไปแล้วว่าให้ทำให้เร็วกว่านี้ คุณ หลิว คุณมั่นใจหรอว่ะคุณจะสามารถเป็นคนแรกที่ซื้อที่ดินจากเจ้าเมืองได้เพราะการส้รางความประทับใจกับพวกเขา? ”

“ฉันเองก็ไม่มั่นใจ แต่เราจำเป็นต้องทำให้เจ้าเมืองประทับใจ ซึ่งนั้นจะช่วยให้พวกพัฒนากิลด์ของเรา ในเมืองเตียนหลงได้ดีขึ้น นอกจากนั้น เราจำเป็นที่จะต้องพบกับเขาก็เพราะว่าเราสามารถซื้อที่ดินจากเขาได้คนเดียวเท่านั้น หลังจากที่ระบบแลกเปลี่ยนเงินตราเริ่มเปิดใช้งาน”

“ใช่เลย คุณฉลาดจัง!”

เสี่ยวเฟิง มองเห็นฝูงชนและถนนที่พลุกพลาน เมื่อเขามาถึงคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เขาไม่คาดว่าจะมีผู้เล่นมากขนาดนี้ที่ทำภารกิจอยู่ที่นี่ แต่เขาก็ไม่สนใจพวกผู้เล่นเหล่านั้นและเดินตรงไปยังประตู

“คุณ หลิว! ดูนั้นสิ! ไอบ้านั้นไง!”

ลิลลี่ตาไว เธอเป็นคนแรกที่เห็นเสี่ยวเฟิงผู้ที่มาถึงคฤหาสน์ของเจ้าเมือง เธอชี้ไปที่เขาที่อยู่ห่างออกไและตะโกนด้วยความเกลียดชังที่เห็นได้ชัดบนใบหน้าของเธอ