กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1159
เอมิเลียโน่อ้าปากค้างด้วยความสับสน เขาไม่สามารถตอบคำถามของน้องชายได้
อันที่จริงแล้ว เขาต้องการจะหลบหนี แต่ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง!
เขาไม่เพียงแต่หลบหนีไม่ได้เท่านั้น แต่ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสเพิ่มอีกด้วย
เขามองไปที่น้องสามด้วยสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว แล้วเอ่ยขึ้นว่า “เปล่า ฉันไม่ได้จะหนี! ฉันแค่กำลังคิดหาโอกาสสุดท้ายฆ่าไอ้เด็กนั่น!”
น้องสามไม่เชื่อคำโกหกนั้น เขาจ้องเขม็งไปที่เอมิเลียโน่ด้วยความตกใจ แล้วตะโกนว่า “แกคิดว่าฉันปัญญาอ่อนหรือไง? แขนแกไม่เหลือสักข้างเดียว แล้วจะฆ่ามันได้ยังไงวะ?”
เอมิเลียโน่ตวาดอย่างขุ่นเคือง “แกพูดกับฉันอย่างนี้ได้ยังไง? ฉันเป็นผู้นำนะ! อย่ามาหยาบคายกับฉัน!
น้องสามพุ่งเข้าไปกัดหูเอมิเลียโน่ แล้วก่นด่าออกมา “หยาบช้าเหรอ? แกกล้าดียังไงถึงเรียกตัวเองว่าผู้นำ? แกกำลังจะโยนพวกเราเข้าไปในกับดักของศัตรู เพื่อจะได้หาทางหนีออกไปได้ ไอ้ระยำ! จากนี้ไปเราขาดกัน!
เอมิเลียโน่ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสเมื่อถูกกัดใบหู แต่ไม่ลงมือทำอะไรเพื่อหยุดเขา
แม้แต่จะเรียกตัวเองว่า ผู้นำยังทำไม่ได้เลย
จะทำได้อย่างไรกันล่ะ? แขนทั้งสองข้างของเขาฉีกขาดอย่างไม่มีชิ้นดี แถมร่างกายท่อนล่างยังเป็นอัมพาตอีก ตอนนี้เขาคือคนพิการคนหนึ่งเท่านั้นเอง
ฉะนั้น เมื่อน้องสามกัดใบหูของเขาอย่างแรง เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด “ไอ้สารเลว ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! แกคิดว่าฉันจะวิ่งหนีไปอย่างนั้นเหรอ? ฉันแค่อยากจะนำความแค้นไปฝากลูกหลานเอาไว้ ในนามของพวกเรา… แปดผู้ยิ่งใหญ่!”
น้องสามถามด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “ถึงจะอยากจะทำอย่างนั้น… แต่ก็ไม่ควรเป็นแก! เพราะแขนพิการไปหมดแล้ว ไอ้สารเลวเอ๊ย! ทำไมถึงไม่เป็นลูกหลานของฉันล่ะ?”
เอมิเลียโน่ร้องคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง แล้วตะโกนว่า “ไอ้สารเลว นี่ไม่ใช่เวลาจะมาถกเถียงกัน! แกคิดว่าแกจะหนีไปจากที่นี่ได้เหรอ?
น้องสามคำรามขึ้นด้วยความโกรธ “แกรู้ได้ไงว่าฉันจะหนีออกไปไม่ได้?”
ทันใดนั้น เสียงอันเยือกเย็นของชาร์ลีก็ก้องกังวานขึ้น “ถูกแล้วล่ะ แกควรฟังคำพูดของผู้นำแกเอาไว้ เขาพูดถูกที่แกจะไม่มีทางหนีออกไปได้…ไม่มีใครสามารถหนีออกไปได้ทั้งนั้น”
เมื่อได้ยินเสียงของชาร์ลี น้องสามก็ปล่อยใบหูของพี่ใหญ่ออกจากปากโดยไม่รู้ตัว แล้วมองจ้องไปที่ชาร์ลี
ชาร์ลีเดินเข้าไปถึงตัวสองคนนั้นเรียบร้อยแล้ว
ส่วนสมาชิกอีกหกคนของกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ ต่างก็นอนร้องโหยหวนอยู่บนพื้น
เรื่องกลับกลายเป็นว่า ในขณะที่สมาชิกทั้งสองคนต่างโต้เถียงและต่อสู้กันเองอยู่นั้น ชาร์ลีก็เอาชนะสมาชิกอีกหกคนที่เหลือได้ทีละคน
เลือดไหลนองเต็มใบหน้าเอมิเลียโน่ ในขณะที่เขากล่าวอ้อนวอน “ได้โปรด ปรมาจารย์เวด ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนพิการไปแล้ว โปรดให้ความเมตตาและไว้ชีวิตฉันเถอะนะ”
ชาร์ลีหัวเราะหึ ๆ “เมื่อกี้ แกยังพยายามจะฆ่าฉันิยู่เลยนี่ แล้วตอนนี้กลับมาร้องขอชีวิต แกคิดว่าฉันเป็นพวกงี่เง่าหรือไงกัน?
เอมิเลียโน่ร้องลั่นด้วยความตกใจ “ปรมาจารย์เวด ท่านคือปรมาจารย์ที่แท้จริง ในขณะที่ฉันกลายเป็นกองขยะกองหนึ่ง ปรมาจารย์ตัวจริงต้องไม่ลดตัวเองลงมาต่อสู้กับคนต่ำต้อยอย่างฉัน ดูฉันสิ! ตอนนี้อยู่ในสภาพเกินเยียวยาแล้ว ฉะนั้นได้โปรดให้ความเมตตา ปล่อยฉันไปเถอะ!
ชาร์ลียิ้มแล้วพูดว่า “เอมิเลียโน่ ตั้งแต่วินาทีที่แกกับพี่น้องของแกขึ้นเครื่องบินมายังภูเขากอลมิน จุดหมายปลายทางของชีวิตพวกแกก็ถูกกำหนดไว้แล้ว”
จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่ยอดเขากอลมินที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ และพูดพร้อมกับรอยยิ้มว่า “ดูสิ แกไม่คิดว่าภูเขากอลมินมีฮวงจุ้ยที่ดีหรอกหรือ? แกไม่คิดว่านี่คือพรอันสูงสุดที่จะได้ตายและหลับใหลอยู่ที่นี่ไปตลอดกาลงั้นหรือ?
“ไม่นะ! ไม่! ฉันไม่คิดเช่นนั้น!” ทั้งน้ำตาและน้ำมูกไหลเปรอะไปทั่วใบหน้าของเอมิเลียโน่ “ปรมาจารย์เวด ฉันยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลย ฉันยังไม่อยากตาย! ข้อร้อง การฆ่าคนต่ำช้าอย่างฉันก็มีแต่จะทำให้มืออันสูงส่งของท่านต้องแปดเปื้อนเปล่า ๆ โปรดยกโทษและไว้ชีวิตฉันด้วย!”
ชาร์ลีตอบพร้อมรอยยิ้ม “อ้อ! ฉันจะไม่ฆ่าแกด้วยมือของฉันหรอก แกไม่ได้มีค่าขนาดนั้น”
จากนั้นเขาก็มองไปรอบ ๆ แล้วยิ้มอย่างเย็นชา “พวกแกแปดคนไม่มีค่าพอจะโดนฉันฆ่าเป็นการส่วนตัวหรอก!”
กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ต่างตกใจกลัวกับคำทักท้วงของเขา
คำถามเดียวกันนี้เฝ้าวนเวียนอยู่ในหัวของเขาไม่หยุด ก็ชาร์ลีมาคนเดียว แต่ไม่ยอมลงมือฆ่าด้วยตัวเอง ถ้าอย่างนั้นเขาจะทำอย่างไรกับพวกนั้นกันล่ะ?
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ชาร์ลีต้องการให้พวกเขาตายอย่างไร?
ชาร์ลียืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ ชูแขนขึ้นแล้วตะโกนว่า “ภูเขากอลมินเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มีหิมะตกตลอดทั้งปี เป็นหิมะสีขาวบริสุทธิ์อันไร้ที่ติ นี่คือพรอันสูงส่งที่ช่วยให้เขาได้ตายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ไอ้โสโครก!”
ชาร์ลีพูดต่ออีกว่า “แล้วฉันก็จะจัดพิธีศพอันศักดิ์สิทธิ์ให้แกในวันนี้ ฉันจะให้ร่างอันโสโครกของแกถูกฝังอยู่ใต้หิมะสีขาวนี้!”
กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว พวกเขายังไม่รู้หรือมีเบาะแสอะไรแม้แต่นิดเดียว ว่าชาร์ลีจะลงมือฆ่าพวกเขาอย่างไร?
ในช่วงเวลานี้ ชาร์ลีจ้องมองพวกเขาแต่ละคนด้วยสายตาสมเพชพร้อมกับยิ้มเยาะ “พวกแกต่างก็เป็นพี่น้องกัน ร่วมกันทำชั่วและเรื่องเลวร้ายต่าง ๆ มาด้วยกัน แล้วตอนนี้พวกแกก็กำลังจะตายด้วยกัน พวกแกทั้งหมดจะมีเพื่อนร่วมทางเดินไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิต