กลลวง นายสุดเท่ห์ ชาร์ลี เวธ บทที่ 1160

ชาร์ลีโบกมือใหัทั้งแปดคนแล้วยิ้ม “ด้วยความที่ผู้นำของแกไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อีกแล้ว ฉันจึงขอให้พวกแกที่เหลือขยับเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ เขาหน่อย ถ้าพวกแกอยากจะตายด้วยกัน ก็กอดกันเอาไว้ซะก่อนจะตาย แต่ถ้าไม่… ก็อยู่ห่าง ๆ กันไว้ ฉันจะให้เวลาพวกแกเตรียมตัว… หนึ่งนาทีสุดท้ายของชีวิต”

กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ถอนหายใจด้วยความสิ้นหวัง เมื่อได้ยินคำประกาศของชาร์ลี แต่ก็ยังรู้สึกดีอยู่บ้างที่พวกเขาจะไม่ต้องตายอย่างเดียวดา ในขณะที่เดินไปสู่วาระสุดท้ายของชีวิตต่อจากนี้

ด้วยเหตุนี้ ฮาเดส ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ต้องทนทุกข์จากพลังทำลายล้างของชาร์ลีก็ได้กระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน ลากร่างที่บาดเจ็บเข้าไปหาเอมิเลียโน่ แล้วนั่งลงข้าง ๆ เขา

เขาร้องไห้อย่างขมขื่นในขณะที่หย่อนตัวนั่งลง แล้วพูดว่า “พี่ชาย ถ้าผมรู้ว่าจะลงเอยแบบนี้ ผมจะไม่ก้าวเข้ามาอยู่ในวังวนนี้หรอก…”

สมาชิกที่เหลือต่างก็พยายามใช้แรงที่เหลืออยู่คลานเข้าไปหาเอมิเลียโน่

ทั้งแปดคนกอดกันแน่น พวกเขาต่างก็ยกโทษให้กับเอมิเลียโน่ที่วางแผนจะหนีไปคนเดียว เนื่องจากพวกเขารู้ว่า เอมิเลียโน่ได้ให้การดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีมาตลอดหลายปี ยกเว้นในช่วงเวลาที่ผ่านมาเมื่อสักครู่

ที่สำคัญไปกว่านั้น เนื่องจากพวกเขาทั้งแปดกำลังจะตายพร้อมกันในวันนี้ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็จะปล่อยให้กลายเป็นอดีตไป

ชาร์ลีพยักหน้าพร้อมกับยิ้ม ในขณะที่มองชายแปดคนกอดกันกลม แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “วันนี้ฉันจะให้พวกแกทั้งแปดคนได้เห็นปาฏิหาริย์ที่แท้จริงก่อนตาย!”

จากนั้นเขารวบรวมพลังเรียกสายฟ้าฟาดไว้ที่มือข้างหนึ่ง แล้วชูขึ้นไปบนฟ้า!

ทุกคนต่างอ้าปากค้างด้วยความหวาดกลัวและประหลาดใจ ในขณะที่จ้องมองสายฟ้าฟาดเปล่งแสงสีฟ้าขึ้นมาจาง ๆ!

ชาร์ลีตะโกนขึ้นสุดเสียง “อัสนีพิฆาต! จงมาเดี๋ยวนี้!!!”

ในเวลาแค่เพียงชั่วพริบตาเดียว ท้องฟ้าอันสดใสยามค่ำคืนที่มีหมู่ดาวมากมาย ก็ดูมืดครึ้มด้วยหมู่เมฆหนาทึบขึ้นทันที!

จากนั้นเสียงฟ้าร้องและสายฟ้าผ่าที่มักจะเกิดขึ้นเฉพาะในฤดูร้อนก็ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณในค่ำคืนที่แสนหนาวเหน็บนั้น!

เอมิเลียโน่และพี่น้องคนอื่น ๆ สั่นสะท้านด้วยความตกใจสุดขีด!

นี่มันเวทมนตร์คาถาอะไรกัน?! เขาสามารถเรียกสายฟ้าฟาดด้วยมือข้างเดียวได้อย่างไรกัน?!

ทันใดนั้น ก็มีสายฟ้าเปล่งแสงเจิดจ้าฟาดลงมายังพื้นโลกด้วยเสียงดังกึกก้อง!

เอมิเลียโน่รวบรวมพละกำลังที่เหลืออยู่เปล่งเสียงตะโกนออกมา “เขาสามารถเรียกสายฟ้าฟาดได้! เขาคือพระเจ้า! เขาคือพระเจ้า!”

ทันทีที่สิ้นเสียงเอมิเลียโน่ สายฟ้าขนาดมหึมาก็ฟาดลงบนพื้นหิมะที่เกาะตัวหนาอยู่เหนือถนนบนยอดเขา พร้อมกับมีเสียงแตกดังเปรี๊ยะเกิดขึ้นดังสนั่น!

ทันใดนั้น หิมะจำนวนหลายต่อหลายตันก็ถล่มลงมาตามไหล่เขา ทำให้เกิดเสียงคำรามอันน่ากลัวจนหูแทบดับ!

นี่คือเสียงหิมะถล่ม!

หิมะถล่มพุ่งตรงมาที่ชาร์ลีและกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่!

กลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่เกือบเป็นลมหมดสติ เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์สุดแปลกประหลาดทั้งหมดนั้น ไอแซค, อัลเบิร์ต และเลียมพลันตะโกนด้วยเสียงตื่นกลัว “ปรมาจารย์เวด ระวังตัวด้วย!”

ชาร์ลียิ้มเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจนและก้องกังวาน “ทุกคนฟังฉัน! ฉันคือชาร์ลี เวด มังกรที่แท้จริง! ในวันนี้ ฉันได้ชำระจิตใจและจิตวิญญาณอันสกปรกโสโครกด้วยธาตุบริสุทธิ์จากสรวงสวรรค์และพื้นโลก! จงไปเกิดใหม่และเป็นคนดีในชาติหน้าซะ!”

กองหิมะขนาดมหึมาไหลตกลงมาจากภูเขาทันทีที่สิ้นเสียงของเขา แล้วกลืนกินชาร์ลีพร้อมกับกลุ่มแปดผู้ยิ่งใหญ่ และรถยนต์อีกสองคันทันที!

ไอแซคพร้อมกับคนที่เหลือ ได้แต่เฝ้าดูด้วยความรู้สึกสยดสยอง เมื่อหิมะถล่มได้กวาดพื้นที่บนไหล่เขา และพุ่งไปยังหุบเขาอย่างรวดเร็ว พวกเขาจ้องมองไปยังจุดที่ชาร์ลียืนอยู่ก่อนหน้านี้ หลังเหตุการณ์หิมะถล่มสงบลง

ตอนนี้ไม่มีถนนอีกต่อไปแล้ว! ไม่มีอะไรเลยนอกจากกองหิมะสีขาวขนาดมหึมา!

รถยนต์สองคันรวมทั้งผู้คนทั้งหมดหายวับไปกับตา!

ตอนนี้หมู่เมฆหนาทึบที่ชาร์ลีเรียกมาก็ได้อันตรธานหายไปหมดสิ้น เหลือเพียงโทนสีขาว ๆ ที่ฉาบทาท้องฟ้าเอาไว้เท่านั้น!

ตอนนี้เป็นเวลารุ่งสางแล้ว!

ชายสามคนนั้นส่งเสียงตะโกนด้วยความตื่นตระหนก “ปรมาจารย์เวด ปรมาจารย์เวด!”

ทันทีที่แสงรุ่งอรุณปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และแสงแดดสีทองยามเช้าสาดส่องไปทั่วพื้นดิน ชายทั้งสามคนนั้นก็มองเห็นชายคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากกองหิมะ ร่างของเขาสะท้อนแสงสีทองที่เปล่งประกายเงางาม!

ชายที่ยืนตระหง่านและดูมีเสน่ห์นั้น ได้เดินลงมาด้วยท่าทีที่แน่วแน่และมาดมั่นดั่งพระเจ้า! การเดินของเขาดูเบาโหวงและลอยขึ้นเหนือพื้น ราวกับกำลังเดินอยู่บนก้อนเมฆ

ชายผู้นั้นคือปรมาจารย์ เวด!