Ch.25 – ชื่อของอุปกรณ์สวมใส่นั้นคือ

Translator : O-Minus / Author

 

ฉันส่งข้อความไปหารินจังว่าได้เจอกับโทวกะจังแล้ว และเธอก็ตอบกลับมาว่าไม่ต้องออกมาเจอตอนเที่ยงแล้ว

เพราะว่าเป็นห่วงโทวกะจังว่าจะได้เจอกันไหมก็เลยนัดออกมาเจอกันตอนเที่ยง แต่ในเมื่อได้เจอกันก่อนแล้วจึงไม่มีเหตุผลให้เลิกสตรีมในตอนนี้

ถึงอย่างนั้นฉันก็พึ่งจะได้เหตุผลใหม่ที่จะต้องหยุดการสตรีมไว้ก่อนแล้วล่ะนะ

 

“เดี๋ยวฉันจะไลฟ์สตรีมอีกทีตอนบ่ายสองนะ ถ้ามีเวลาก็เข้ามาดูด้วยล่ะโอเค๊~”

 

“ฉันจะรออยู่กับท่านพี่ซุคุด้วยนะ”

 

[บ๊ายบาย]

[เยี่ยมมาก]

[เยี่ยมเลย~]

[ไว้เจอกัน]

 

หลังจากปล่อยให้คอมเมนต์ไหลไปสักพัก ฉันก็หยุดการสตรีม พร้อมกับที่กดปุ่มนั้น คริสตัลบันทึกก็แตกออก

ฉันไม่รู้มาก่อนเพราะมักจะล็อกเอาท์ออกเลยตอนที่หยุดสตรีมจนถึงตอนนี้ พวกมันสลายไปอย่างนี้เองสินะ…

 

“ฟู่ว…”

 

“เหนื่อยหน่อยนะคะ”

 

“ไม่หรอก โทวกะจังต่างหากล่ะ เหนื่อยมากเลยสินะที่เดินทางจากทรีอาจนถึงที่นี่น่ะ?”

 

“แต่ฉันก็ได้พักบ้างที่ร้านน้ำชาแล้วนะคะ”

 

พอมาคิดดูแล้วก็เป็นเรื่องจริงด้วยสิ

 

“แต่ว่าทำไมถึงหยุดสตรีมเหรอคะ? ไม่ใช่ว่าจะเป็นการดีในการโชว์อุปกรณ์ใหม่ในสตรีมหรอกเหรอ?”

 

โทวกะจังถามได้ถูกประเด็นมาก ฉันเองก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันแต่โคเนโกะมารุซังได้เตือนเอาไว้ว่า

 

“จะดีกว่าถ้าไม่ได้สตรีมน่ะ”

 

“หืมมม….ทั้งที่ก็เป็นโอกาสเพิ่มชื่อเสียงของผู้ผลิตอีกด้วยแสดงว่ามีบางอย่างที่ไม่ควรเผยแพร่สินะคะ?”

 

“ฉันเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน”

 

รางวัลโบนัสที่ฉันได้จากการปราบบอสยูนีคครั้งแรก[จิตวิญญาณของหมาป่าแดงแห่งความสันโดษ-อาเรีย-]

ไอเท็ม[จิตวิญญาณ]ซึ่งเป็นของดรอปหายากจากบอสยูนีคที่มีเพียงการปราบบอสนั้นๆครั้งแรกเท่านั้นที่โอกาสดรอปเท่ากับ100%

โดยเฉพาะการจะสู้กับอาเรียได้จะต้องสู้ตัวคนเดียวเท่านั้นเพราะเป็นบอสยูนีคโซโล่ รางวัลทั้งหมดจึงตกเป็นของฉันคนเดียว

และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ฉันมอบวัตถุดิบทั้งหมดนั้นให้กับโคเนโกะมารุซังเพื่อให้เขาสร้างเซ็ตชุดเกราะให้กับฉัน

 

“เอาเถอะ ในเมื่อพวกเราจะได้เห็นมันกับตาอยู่ดี ไปหาเขาที่ห้องทำงานที่เขาบอกว่ามีอยู่ในเมืองดูอัลลิสกันเถอะ”

 

“รับทราบค่ะ!”

 

 

“เฮ้ เก่งมากเลยที่มาถึงที่นี่ได้น่ะ”

 

ณ ห้องทำงานในเมืองดูอัลลิส โคเนโกะมารุซังต้อนรับพวกเราด้วยรอยยิ้ม

 

โคเนโกะมารุซังเป็นสมาชิกของแคลน[เขี้ยวมังกร(ริว โนะ คิบะ)]

ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นแคลนที่ใหญ่แค่ไหนแต่ว่าที่ฉันได้ยินมา พวกเขาเป็นแคลนขนาดใหญ่ที่มีสาขาย่อยอยู่ทุกเมืองเพื่อให้ผู้เล่นของพวกเขาใช้งานได้ไม่ว่าจะอยู่ระดับไหน

 

และที่ที่พวกเรามาก็คือหนึ่งในอาคารสำหรับผู้เล่นสายผลิต ขนาดกว้างใหญ่พอที่จะให้ผู้เล่นหลายคนได้ใช้งานพร้อมกัน

 

“แต่ถึงอย่างนั้น การผลิตของฉันก็ไม่ได้ใช้พื้นที่มากเท่าสายช่างตีเหล็กหรอกนะ”

 

พูดออกมาแบบนั้น โคเนโกะมารุซังก็พาพวกเราไปยังห้องที่จะใช้มอบอุปกรณ์

 

“แต่แหม ไม่นึกเลยนะว่าจะมาด้วยกันกับโทวกะคุงน่ะ”

 

“หืมมม? โทวกะจังรู้จักเขาด้วยเหมือนกันเหรอ?”

 

“ไม่นะคะ”

 

“อ่า ก็แบบว่า โทวกะคุงน่ะก็เป็นผู้เล่นที่สตรีมไปด้วยใช่ไหมล่ะ? ฉันเลยรู้จักผ่านทางนั้นน่ะ”

 

“เข้าใจล่ะ”

 

โคเนโกะมารุซังพูดออกมาด้วยสีหน้าหนักแน่นจนฉันคล้อยตาม

โทวกะจังเองก็เป็นเหมือนกันที่ถูกรู้จักโดยคนที่ตนไม่รู้จักน่ะ

 

“ถ้างั้นไว้ค่อยคุยเล่นกันทีหลัง ก่อนอื่นเลยฉันอยากให้เห็นอุปกรณ์ทั้งหมดก่อนนะ”

 

โคเนโกะมารุซังพูดขึ้นขณะที่กดไปยังเมนูการ์ดของตัวเอง และก็มีบางอย่างที่ถูกคลุมผ้าเอาไว้ปรากฏขึ้น

 

“ฉันพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นผลงานชิ้นเอกในหมู่อุปกรณ์ที่ฉันเคยสร้างขึ้น นี่คือสิ่งที่สร้างโดยใช้วัตถุดิบจากหมาป่าแดงแห่งความสันโดษ [อาภรณ์หมาป่าแดง -โซโล่-(เซคิโระ โชวโซคุ -คานาเดะ-)]!”(โซโล่ในที่นี้หมายถึงโซโล่ในทางดนตรี)

 

เร่งเสียงให้ดังขึ้นพร้อมกับดึงผ้าออก สิ่งที่เหลืออยู่คือหุ่นลองชุดที่สวมใส่อุปกรณ์ครบเซ็ตเอาไว้

ความประทับใจแรกที่ได้ก็คือ ชุดญี่ปุ่นล่ะ

ไม่ใช่กิโมโนเต็มตัว มีภาพลักษณ์เป็นแบบองเมียวจิอยู่

 

มองโดยรวมแล้ว ชุดสีมืดโดยมีสีแดงสดล้อมไว้อีกที เป็นภาพลักษณ์ที่เห็นแล้วรู้ว่ามาจากวัตถุดิบของอาเรีย

แขนเสื้อถูกผ่าออกเพื่อไม่ให้ขัดขว้างการเคลื่อนไหว

ตามปกติแล้วกิโมโนมักไม่แยกออกเป็นส่วนบนและส่วนล่าง แต่เสื้อผ้าพวกนี้ถูกออกแบบมาให้มีส่วนบนและล่าง โดยเฉพาะส่วนล่างที่สั้นเน้นความง่ายในการเคลื่อนไหว เมื่อใส่พร้อมกับส่วนบนแล้วทั้งสองจะถูกเชื่อมด้วยที่รัดบริเวณเอว

 

ส่วนขามีถุงเท้าสีแดงและรองเท้าแตะสีดำแต่ว่ามันถูกยึดไว้กับส่วนขาอย่างมั่นคงโดยการใช้เชือกรัด ดูเหมือนว่าจะไม่หลุดออกมาง่ายๆหากใส่มัน

ส่วนมือเองก็มีถุงมือบางอย่าง ไม่ใช่อะไรเสริมเกราะอย่างสนับแขนแต่เป็นอะไรที่ดูเหมือนถุงมือมากกว่า

 

และท้ายที่สุด เครื่องประดับผมดอกคาเมลเลียที่มีอัญมณีราวกับแสงจันทร์อยู่ตรงกลาง อัญมณีที่ราวกับจะบอกว่าเป็นดวงตาของอาเรียซึ่งเข้ากับดอกไม้ประดับคาเมลเลียที่สร้างจากโลหะสีแดงสดอย่างสวยงาม

 

“สุดยอด…เท่สุดๆไปเลย”

 

“ฉันดีใจที่เธอชอบนะ ตอนแรกฉันตั้งใจที่จะทำชุดเกราะแต่ว่า หลังจากปรึกษากับภรรยาแล้วก็เลยออกมาเป็นแบบนี้ล่ะ”

 

จากคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของฉัน โคเนโกะมารุซังก็ตอบรับอย่างดีใจ

จริงสิ ฉันมั่นใจว่าโคเนโกะมารุซังเป็นนักผลิตที่สร้างชุดเกราะนี่นา นี่มันออกจะเป็นชุดผ้ามากกว่านะ

ถึงแม้ว่า หลังจากที่ตั้งค่าผ่านในระบบแล้ว ชุดนี้อาจถูกเหมารวมในหมู่ชุดเกราะหนังแทนก็ได้

 

“แต่เดิมแล้วเพราะว่าสีแดงมันออกไปทางสีสนิม ฉันเลยอยากให้ออกมาดูชิคๆ ส่วนข้างในสร้างมาจากผ้าและไฟเบอร์จากมอนสเตอร์ที่เรียกว่า[หมาป่าทมิฬ(ดาร์กวูลฟ์)]แถวๆเมืองที่ห้า[กริฟฟิส] เทียบกับอาเรียแล้วคุณภาพต่ำกว่าแต่กลับเข้ากันได้ดีกว่าที่คิดอีกล่ะ”

 

โคเนโกะมารุซังพูดอย่างร่าเริงขณะที่กดปุ่มบนเมนูการ์ด ในหมวดที่แสดงวัตถุดิบที่ใช้ได้กับอุปกรณ์ แล้วเขาก็ส่งวัตถุดิบที่เหลือมาให้กับฉัน

มองผ่านๆดูแล้วจำนวนที่ใช้ไปกับจำนวนที่เหลือไม่ต่างกันเท่าไหร่

 

“แล้ว มีวัตถุดิบชิ้นไหนที่อยากได้เป็-…”

 

“อ๊ะ เรื่องนั้นไว้ทีหลังเถอะ ตอนนี้ช่วยลองสวมใส่ดูก่อนจะได้ไหม? ในเมื่อเป็นจุดประสงค์ที่อุปกรณ์พวกนี้ถูกสร้างมา”

 

“อ่า โอเค”

 

มีแรงกดดันบางอย่างในคำพูดของเขาทำให้ฉันพูดขัดไม่ได้เลย

เลือกอุปกรณ์จากช่องเก็บของแล้วกดสวมใส่

สวมใส่อุปกรณ์ได้จากแค่ปลายนิ้ว ฉันคิดว่าเป็นระบบที่ช่วยได้มากเลย

 

ถอดอุปกรณ์เหล็กและโซ่ถักออกแล้วอาภรณ์หมาป่าแดงก็คลุมตัวของฉัน

สิ่งแรกที่ฉันรู้สึกเมื่อสวมใส่คืออุปกรณ์สวมใส่นี้เบามากราวกับขนนก

 

อุปกรณ์เหล็กที่เป็นอุปกรณ์หนังสัตว์ที่เย็บปักแผ่นเหล็กเอาไว้นั้นก็ยังนับเป็นอุปกรณ์เบา

แต่ว่านี่เบามากกว่าอุปกรณ์เริ่มต้นที่เป็นเสื้อและกางเกงผ้าฝ้ายเสียอีก อาภรณ์หมาป่าแดงนั้น[เบา]

แล้วก็ไซส์จะเปลี่ยนอัตโนมัติตามตัวอวาตาร์ของผู้เล่น

 

“อืม ดูดีมากเลย ถึงฉันจะตั้งใจสร้างให้เป็นอุปกรณ์เฉพาะของเธอก็เถอะ นี่มันเข้ากันมากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก”

 

“ใช่แล้ว น่ารักมากเลยค่ะ!”

 

“ย-อย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่เคยใส่อะไรอย่างนี้มาก่อนเลย รู้สึกลอยๆอยู่ตลอดเวลาเลยล่ะ”

 

ถูกชมอย่างไม่หยุดยั้งโดยทั้งสองทำให้ฉันยกมือมาเกาแก้มเบาๆ

ทั้งเมื่อก่อนและในตอนนี้ก็ด้วย ฉันได้แต่เน้นความสำคัญไปที่ความง่ายในการเคลื่อนไหว ฉันเลยไม่ได้ใส่ใจในด้านภาพลักษณ์นัก

 

จะว่าไปแล้วรินจังเองก็เหมือนกันกับฉัน แต่เดิมแล้วรินจังไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าของตัวเองด้วยซ้ำ

ตรงกันข้ามกับเธอ โทวกะจังเป็นเด็กที่ชอบเรื่องแฟชั่นมาก และมักจะหมดค่าขนมของตัวเองไปกับชุดที่ดูดี ถึงแม้ว่าเงินค่าขนมของเธอพอที่จะทำให้คนธรรมดาตาถลนเลยก็เถอะ

 

“ว่าแต่ ใช้วัตถุดิบอะไรในการสร้างเครื่องประดับผมขึ้นมากันเหรอคะ?”

 

ตามคำขอของโทวกะจังฉันเลยหมุนตัวช้าๆเพื่อโชว์ชุด จู่ๆโทวกะจังก็ถามออกมา

ปิ่นปักผมดอกคาเมลเลียนี้มีสิ่งที่อุปกรณ์ส่วนอื่นนั้นไม่มีอยู่

ในวัตถุดิบที่อาเรียดรอปมาไม่มีโลหะเลย และยังไม่มีอะไรที่ดูเหมือนอัญมณีอีกด้วย ถึงจะบอกว่าเขาผลิตส่วนหัวขึ้นมาฉันก็ไม่เห็นโลหะสีแดงที่ถูกใช้เลยสักนิด

 

“เรื่องนั้นมันมีเหตุผลพิเศษนิดหน่อยน่ะ…ลองดูชื่อของอุปกรณ์สวมใส่สิ”

 

[อาภรณ์หมาป่าแดง -โซโล่-] ฉันสังเกตตอนที่สวมใส่ก่อนหน้านี้แต่อุปกรณ์สวมใส่นี้ถูกแยกเป็นสองล่ะ

ตั้งแต่หัวลงมาถูกเรียกว่า[อาภรณ์หมาป่าแดง] ส่วนชื่อของปิ่นปักผมคือ[บทบรรเลงเดี่ยวแห่งคาเมลเลียจันทรา(สึบากิ โนะ คานาเดะ)]

นั่นหมายความว่าชื่อที่โคเนโกะมารุซังตั้งขึ้นมีที่มาจากปิ่นปักผมนี้

 

“จริงๆแล้วปิ่นปักผมอันนี้ ตอนที่เลือกวัตถุดิบ[จิตวิญญาณของหมาป่าแดงแห่งความสันโดษ-อาเรีย-] มันก็ถูกสร้างขึ้นมาเองน่ะ”

 

จากที่โคเนโกะมารุซังเล่า

ดูเหมือนว่าเขาจะสร้างอุปกรณ์ส่วนหัวเป็นที่คาดผมไว้ด้วย

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังใช้ระบบ[สร้างครบเซ็ต]โดยที่อุปกรณ์ที่ได้จะมีผลเฉพาะทาง แต่ผลของมันจะถูกเพิ่มขึ้น

 

[สร้างครบเซ็ต]เป็นวิธีการสร้างที่จะทำให้อุปกรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมากทั้ง5ส่วนนับรวมกันเป็นชิ้นเดียว เสริมค่าสถานะของอุปกรณ์

ข้อดีคืออุปกรณ์ที่ได้จะดีและแข็งแกร่งกว่าอุปกรณ์ทั่วไป แต่ก็มีข้อเสียคือ[ใช้วัตถุดิบครั้งละมากๆ]และ[อุปกรณ์นับรวมเป็นหนึ่งชิ้นจึงไม่อาจแยกถอดออกได้]

หมายความว่าจะไม่สามารถสร้างทีละชื้นแยกกันแล้วใส่ทีหลังได้ และยังไม่สามารถแยกถอดทีละชิ้นโดยไม่สูญเสียผลประโยชน์ของมันได้

 

แต่ว่า เมื่อใส่[จิตวิญญาณ]ลงไปเป็นส่วนประกอบแล้ว สิ่งที่ปรากฏออกมาคือชุดครบเซ็ตของ[อาภรณ์หมาป่าแดง]และ[คาเมลเลียจันทราโซโล่] อุปกรณ์แยกสองชิ้น

[อาภรณ์หมาป่าแดง]คือเซ็ต[4ชิ้นส่วน]และ[บทบรรเลงเดี่ยวแห่งคาเมลเลียจันทรา]ถูกนับเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ต่างกันที่สามารถใส่หรือถอดต่างหากได้

 

“ในความเห็นของฉันนะ ฉันเชื่อว่ามากกว่าที่จะเป็น[อาภรณ์หมาป่าแดง]ที่มี[จิตวิญญาณ]อยู่ กลับเป็นปิ่นปักผมแทน และโลหะสีแดงนั่นที่เธอเห็นคือวัตถุดิบในตำนานชื่อว่า[หิหิอิโระกาเนะ(ヒヒイロカネโลหะในตำนานของญี่ปุ่น(?))] แน่นอนว่าฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะไปหามันมาจากไหน และมีเพียงแค่ได้ยินNPCพูดถึงบางครั้ง เหมือนกับเครื่องประดับโอริฮารูกอนที่ซุคุนะคุงใส่อยู่นั่นล่ะ”

 

สิ่งที่เขาชี้มานั้นก็คือ [หลักฐานการปราบบอสยูนีคโซโล่]  พอมาคิดดูแล้วมันเขียนเอาไว้จริงๆว่าทำมาจากโอริฮารูกอน

ถ้าไม่ผิดล่ะก็ เป็นรางวัลจากเทพหรืออะไรสักอย่าง ฉันก็ลืมไปแล้วเพราะว่ามันไม่ค่อยได้ใช้งานสักเท่าไหร่ แต่ก็คงเป็นโลหะที่แข็งแกร่งเอาเรื่องล่ะมั้ง

 

“ก็นะ การผลิตอะไรสักอย่างด้วย[จิตวิญญาณ]ก็มีตัวอย่างแค่สามชิ้นเอง แล้วหนึ่งในนั้นฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครสร้างมัน ฉันเลยมีตัวอย่างจริงๆแค่สอง ลำบากมากเลยล่ะ”

 

“ลำบากน่าดูเลยนะ แต่ว่าหมายความว่ายังไงที่บอกว่าไม่รู้ว่าใครสร้างน่ะ…?”

 

“ฉันรู้ว่าใครเป็นเจ้าของแต่ว่า มีเพียงผู้สร้างที่ยังเป็นปริศนา แล้วตัวผู้เล่นเองก็โผล่มาแล้วก็หายไปแบบไม่มีที่มาอีก”

 

ฉันพอใจในคำตอบนั้นแล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันรู้สึกว่าโคเนโกะมารุซังจงใจตอบเลี่ยง

 

ยังไงก็ตามนั่นตอบคำถามของโทวกะจังไปแล้ว

ต่อไปก็มาตรวจสอบความสามารถกัน

ฉันกดเปิดเมนูที่แสดงคำอธิบายอุปกรณ์สวมใส่ด้วยความตื่นเต้นจนเอ่อล้นเก็บไว้ไม่ไหว