GGS:บทที่ 851 งานแสดงดอกไม้ไฟ
“สวัสดีครับคุณซู” คุณหลิวได้รีบรับโทรศัพท์ในทันทีที่เห็นซูจิ้งโทรไปหา
“สวัสดีครับคุณหลิว ผมขอถามหน่อยสิว่าในคืนงานเลี้ยงฉลองครบรอบร้อยปีนี่ คุณมีการเตรียมที่จะจุดดอกไม้ไฟเป็นชุดๆไว้อะไรแบบนั้นรึเปล่าครับ”
“มีครับ ทางผมได้คิดต่อกับบริษัทผู้จัดงานไว้ว่าให้มีการแสดงดอกไม้ไฟไว้ในโปรแกรมด้วย ผมเองก็เตรียมที่จะไปคุยกับบริษัทดอกไม้ไฟเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน”
“โอ้ พอดีเลยสินะ คืองี้ ผมน่ะเพิ่งจะเปิดโรงงานผลิตดอกไม้ไฟแบบสดๆร้อนๆหมาดๆเลยครับ
คุณคิดว่ายังไงถ้าผมจะให้ดอกไม้ไฟคุณไปใช้ในคืนวันครบรอบร้อยปีนั่น ผมรับประกันได้เลยว่าดอกไม้ไฟของผมนั้นไม่ด้อยไปกว่าใครเลยอย่างแน่นอน”
“จริงหรอครับ ถ้าคุณจิ้งว่าอย่างนั้นก็ไม่มีปัญหาครับ ว่าแต่เรื่องค่าใช้จ่ายนี่…” เอาจริงๆเรื่องนี้สำหรับคุณหลิวแล้วการที่ซูจิ้งเสนอตัวมาแบบนี้สามารถช่วยเขาได้อย่างมาก นอกจากนี้ซูจิ้งนั้นยังถือได้ว่าเป็นแขกรับเชิญสุดแสนจะพิเศษสุดแล้ว หัวหน้ายังบอกเขาว่าให้คอยดูแล พร้อมทั้งใส่ใจเขา และเชื่อใจเขาอย่างเต็มที่
“เรื่องนั้นคุณไม่ต้องห่วงครับ ผมยอมให้คุณฟรีๆเลย”
“นั่นมัน…สุดยอดมาก คุณซูช่างประเสริฐยิ่งนัก” คุณหลิวพูดออกมาด้วยความยินดียิ่ง ไม่มีอะไรดีไปกว่าของฟรีอีกแล้ว ต่อให้ซูจิ้งไม่ยอมให้พวกเขาฟรีๆแต่ตราบใดที่ค่าใช้จ่ายยังอยู่ในงบที่มีอยู่ล่ะก็เขาไม่มีปัญหา แต่เมื่อได้มาฟรีแล้วก็ถือได้ว่าดีที่สุดแล้ว เหนือสิ่งอื่นใดนั้นเขารู้ดีว่าซูจิ้งรวยโคตร แค่นี้ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงอยู่แล้ว
“แล้วก็ยังมีอีกเรื่อง ผมเองอยากจะขอบริจาคเงินให้ทางโรงเรียนด้วย คุณพอจะมีเบอร์โทรของครูใหญ่รึเปล่าครับ” ซูจิ้งถามออกมา
“มีครับมี” คุณหลิวรีบบอกเบอร์โทรของครูใหญ่ไปในทันที เขานั้นไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้เลยสักนิดว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำต่อไปนี้ได้โยนให้ทั้ง ผอ.โรงเรียน ครูใหญ่ และตัวเขาเอง ต้องมีชีวิตยากลำบากมากยิ่งขึ้น
ซูจิ้งได้โทรไปหาครูใหญ่ ครูใหญ่เองก็ยังเป็นคนเดิมกับตอนที่ซูจิ้งเรียนอยู่ แต่เมื่อเขารับโทรศัพท์ซูจิ้ง เขาก็มีท่าทีนอบน้อม และเมื่อ่ซูจิ้งพูดถึงเงินบริจาค นำเสียงเขาแสดงท่าทีตื่นเต้นออกมาอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับเขาแล้ว การที่ได้ครูใหญ่คนที่เขาคุ้นเคยเป็นคนจัดการนั้นถือได้ว่าเป็ฯเรื่องที่ดีอย่างมาก นั่นก็เพราะว่าเขานั้นเป็นคนที่ถูกนับหน้าถือตาจากนักเรียนและอาจารย์ในโรงเรียน
ต่อให้เขานั้นไม่ใช่คนดีเด่อะไรนัก แต่อย่างน้อยๆเขาก็เชื่อได้ว่าอาจารย์ใหญ่คนนี้จะไม่มีทางโกงเงินเขาไปอย่างแน่นอน
นั่นก็เพราะว่าต่อให้คนมีสมองน้อยก็ยังรู้เลยว่าหากเขากล้าโกงเงินซูจิ้งแม้เพียงน้อยนิด เขานั้นจะโดนลดขั้นในทันที
เรื่องที่ซูจิ้งบริจาคเงินนั้นเป็นที่รู้กันเฉพาะเขาและอาจารย์ใหญ่เท่านั้นในตอนนี้ แต่เรื่องที่ซูจิ้งเป็นเจ้าภาพในการจัดแสดงดอกไม้ไฟนี่เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าหลุดไปได้ยังไง จนตอนนี้กลายเป็นหัวข้อที่คุยกันไปทั่ว
“งานร้อยปี ครบรอบจงหยุน ไม่”
“ช่างหัวไอ้บรรทัดก่อนหน้านี้ไปซะ โรงเรียนมัธยมต้นที่หนึ่งแห่งเมืองจงหยุนเป็นโรงเรียนที่พี่จิ้งเคยเรียนมาก่อน”
“ฮ่าฮ่า ไม่จริงใช่รึเปล่า ไม่อยากจะบอกเลยว่าฉันเองก็เรียนโรงเรียนกับเขามา บอกได้เลยว่าพี่จิ้งเป็นรุ่นพี่ของฉันเอง ดูเหมือนว่าพี่จิ้งนั้นจะเข้าร่วมงานเลี้ยง นอกจากนี้เขายังมีการแสดงดีๆอีกด้วยนะ”
“โคตรน่าอิจฉาอ่ะ ฉันอยากเป็นหนึ่งในศิษย์เก่าบ้างจัง”
“ฉันเองก็อยู่แถวๆนั้นนะ ฉันจะเข้าไปร่วมงานแน่ๆ”
“ถ่ายวีดิโอมาด้วยล่ะ ฉันเข้าร่วมงานไม่ได้เพราะอยู่ไกลมาก ไม่ได้เห็นพี่จิ้งด้วยตาก็ขอเห็นในวีดิโอก็ยังดี”
“แต่ฉันก็ยังงงอยู่นะ พี่จิ้งเองก็มีธุรกิจมากมายอยู่แล้ว แล้วนี้เขายังจะเข้าไปเป็นคนจัดการแสดงดอกไม้ไฟอีกอย่างนั้นหรอ”
“แล้วดอกไม้ไฟนี่มันเจ๋งยังไงอ่ะ”
“เฮ้เฮ้ งานแสดงดอกไม้ไฟของพี่จิ้งย่อมสุดยอดกว่างานแสดงดอกไม้ไฟของคนอื่นอย่างไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว”
“แล้วยังไงล่ะ มันก็แค่ดอกไม้ไฟนี่นา ขนาดงานเทศกาลดอกไม้ไฟนานาชาติที่จัดที่เซี่ยงไฮ้ที่ผ่านมาฉันยังไม่เห็นว่าน่าสนใจเลยสักนิด”
“ยิ่งไปกว่านั้นนะ ฉันว่างานแสดงดอกไม้ไฟเป็นอะไรที่จัดการง่ายที่สุดแล้ว และถือได้ว่าเป็นงานที่ไม่ได้ดีเด่นอะไรเลยด้วย นั่นก็เพราะว่ามันสามารถพางานให้กร่อยได้เหมือนกัน ฉันเองว่างานแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งนั้นก็ไม่น่าต่างกันนักหรอก”
ภายใต้ไมโครบลอคของซูจิ้งในตอนนี้ เหล่าแฟนคลับของเขาต่างก็บอกให้ซูจิ้งนั้นอย่าไปเสียเวลาทำเลย และหลายๆคนเองก็ถึงกับขู่ว่าจะเลิกติดตามเลยก็มี แต่ก็มีอีกหลายคนที่ให้คำแนะนำของซูจิ้งโดยมีหนึ่งในนั้นเองที่เป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ และเขาเองก็มีแผนที่จะเตรียมการแสดงดอกไม้ไฟชุดใหญ่เพื่อช่วยซูจิ้งแบบฟรีๆเหมือนกัน
เหมือนเห็นดังนั้นซูจิ้งก็ทำได้แต่ขอบคุณอย่างหมดหัวใจ แต่ก็ขอปฏิเสธพวกเขาไปอย่างมีมารยาทแบบสุดๆ เขาเองก็ได้เตรียมดอกไม้ไฟของเขาไว้แล้วและไม่มีทางเลยที่คนทั่วไปจะช่วยเขาได้ เขานั้นไม่จำเป็นต้องเสียเวลาวางแผนการใดๆ เพราะตัวของดอกไม้ไฟของเขานั้นถือได้ว่าวิเศษสุดอยู่แล้ว ไม่ต้องหาอะไรเพิ่มเติม
ที่เขาทุ่มเท และออกหน้ามากมายขนาดนี้ นั่นก็แน่นอนอยู่แล้วว่าเขานั้นอยากจะใช้โอกาสนี้ในการโฆษณาดอกไม้ไฟของแกนดรอฟและเพื่อต้องการท่าทางของคนที่เห็น
เขาได้คุยกับเฉิงหนานและหวังจ้าวเกี่ยวกับชื่อของผลิตภัณฑ์ดอกไม้ไฟที่เขาจะใช้ในการออกจำหน่าย จนสุดท้ายจึงสรุปกันได้ว่าชื่อของมันคือ ดอกไม้ไฟเวทมนต์
โทรศัพท์ของเหว่ยเสี่ยวหยวนได้ดังขึ้น มันเป็นเบอร์ที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ถึงจะเป็นอย่างนั้นแต่เธอก็ยังยอมรับมันเพราะอย่างน้อยๆเธอก็มีหน้าที่ในฐานะของตัวแทนของซูจิ้ง
ปกติเธอเองก็ได้รับเบอร์แปลกๆพวกนี้อยู่บ่อยๆอยู่แล้ว จึงถือได้ว่านี้เป็นหน้าที่หนึ่งของเธอในการคัดกรองผู้คนให้กับซูจิ้ง
“สวัสดีครับคุณเหว่ย ผมชื่อเผิงเหวินซู เป็นผู้จัดการของกลุ่มอุตสาหกรรมดอกไม้ไฟ ผมมีเรื่องต้องการคุยกับคุณซู” เสียงของชายคนหนึ่งที่เหมือนจะอยู่กับหมาฮัสกี้ดังมาจากอีกฝั่ง
“สวัสดีค่ะคุณเผิง ให้ฉันช่วยอะไรหรือคะ” เหว่ยเสี่ยวหยวนเองก็พอจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายต้องการคุยเรื่องอะไร แต่เธอเองอยากจะถามให้แน่ในก่อน
“เอ่อออคืออย่างนี้ครับ ผมได้ยินมาว่าคุณซูนั้นจะเข้าร่วมงานครบรอบร้อยปีของโรงเรียนในฐานะศิษย์เก่าและจะนำดอกไม้ไฟไปจัดแสดงในงานด้วย ผมคิดว่าผมพอจะช่วยคุณซูเรื่องนี้ได้ครับ พวกเรากลุ่มอุตสาหกรรมดอกไม้ไฟนั้นมีการเตรียมพร้อมกับงานประเภทนี้ไว้แล้ว” เผิงเหวิ่นซูได้พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“ต้องขอบคุณคุณเผิงจริงๆค่ะสำหรับความใจดีของคุณ แต่คุณซูเองก็ได้วางแผนเอาไว้แล้วเช่นเดียวกันค่ะ”
เหว่ยเสี่ยวหยวนพูดออกมาในทันทีเพราะเธอเองก็ได้รับข้อความจากซูจิ้งมาแล้วว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่เสนอตัวเข้าช่วยเกี่ยวกับดอกไม้ไฟให้ปฏิเสธให้หมด
“ฟังผมก่อนนะครับ ตราบใดที่คุณซูช่วยประชาสัมพันธ์พวกเราล่ะก็ ผมสามารถออกแบบการแสดงให้ฟรีๆเลย แถมผมยังจะมอบดอกไม้ไฟตามที่ออกแบบการแสดงไว้ให้ฟรีๆเช่นเดียวกัน
งานแสดงดอกไม้ไฟนั้นถึงมันจะดูง่ายๆเพราะว่ามันแค่เป็นการจัดเตรียมดอกไม้ไฟจุดไปตามลำดับก็จริง
แต่จริงๆแล้วมันไม่ง่ายเลยนะครับ รูปร่างของดอกไม้ไฟเองก็สำคัญ และการควบคุมไฟเองก็มีผลต่อความสวยงามไม่แพ้กันเลย แต่สำหรับพวกผมแล้วงานนี้ถือได้ว่าง่ายเสียยิ่งกว่าง่ายซะอีก” เผิงเหวิ่นซูพูดออกมา
“เรื่องนี้ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” เว่ยเสี่ยวหยวนพูดจบก็ได้วางสายไป
ที่ต้นสาย เผิงเหวิ่นซูที่ถูกตัดสายไปก็โกรธขึ้นในทันทีจนสบถออกมาว่า
“อยากทำอะไรก็ทำไป ถ้าคิดว่าแผนของตัวเองดีนักล่ะก็ คอยดูเถอะพอถึงเวลาจริงๆอย่ามาได้อ้อนวอนละกัน ฉันเองก็จะคอยหัวเราะใส่หน้าพวกแกเอาไว้”
หลังจากนั้นก็ได้มีเหล่าบริษัทที่เกี่ยวกับดอกไม้ไฟอีกหลายบริษัทได้โทรหาเหว่ยเสี่ยวหยวน โดยหัวข้อการสนทนาก็คือเรื่องเดียวกับที่เผิงเหวินซูพูดก่อนหน้านี้ นั่นก็คือหวังว่าซูจิ้งจะช่วยโฆษณาให้พวกเขาแรกกับการจัดงานแสดงให้
แน่นอนว่าเขานั้นไม่สนใจที่จะเป็นมาสคอตโฆษณาสินค้าให้ใครอยู่แล้ว เหว่ยเสี่ยวหยวนเองก็ได้ปฏิเสธไปหมดทุกบริษัท
พวกเขานั้นไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าทั้งซูจิ้งและเหว่ยเสี่ยวหยวนนั้นได้ตั้งป้อมรอปฏิเสธพวกเขาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว
นี่ทำให้ทุกบริษัทที่โทรไปหาต่างกร่นด่าและสาปแช่งให้งานล่มไม่เป็นท่าไปตามๆกันไปหมด
ก็ไม่แปลกที่ทุกคนต่างก็สาปแช่งไปในทางเดียวกันนั่นก็เพราะว่าเอาจริงๆแล้วงานแสดงดอกไม้ไฟนั้นยากกว่าที่คนทั่วไปคิด และซูจิ้งก็ไม่ใช่นักจัดงานมืออาชีพแต่อย่างใด รวมไปถึงการที่ซูจิ้งนั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียง หากงานล่มเพราะเขา ย่อมเป็นธรรมดาที่จะเสียชื่อเสียงและถูกหัวเราะเยาะมากกว่าคนทั่วไป
ถ้าจะให้พูดกันแล้ว งานแสดงดอกไม้ไฟของซูจิ้งนั้นถือได้ว่าไม่ได้รับการสนับสนุนมากนัก คนส่วนใหญ่ที่สนับสนุนซูจิ้งคือแฟนคลับพันธุ์แท้ของซูจิ้งเท่านั้น
ไม่ใครคาดคิดเลยสักนิดว่าวิดีโอดอกไม้ไฟสุดแสนวิเศษก่อนหน้านี้จะกลายมาเป็นงานแสดงดอกไม้ไฟสุดอลังการของซูจิ้งในครั้งนี้ได้