ตอนที่ 1142 - แข่งกับเวลา

The Divine Nine Dragon Cauldron

ซือหยูเหลือบมองราชาเขตกลางอย่างเย็นชาแววตาเขามีแต่ความชิงชัง ซือหยูกลืนหัวใจลงสู่กระเพาะ
  “เจ้ามดปลวก!เจ้ามดปลวกน่าสมเพช!”
  ราชาเขตกลางตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราดโลหิตเทพบ่มเพาะที่เขารอคอยมานานกว่าสิบปีถูกช่วงชิงไปต่อหน้าต่อตา!
  แต่ราชาเขตกลางก็ต้องหยุดตะโกนในทันทีในระหว่างที่ถูกดึงความสนใจ มีดสังหารสองเล่มได้ทะลวงลึกสู่ร่างกายมากขึ้น เขาต้องเพ่งสมาธิอยู่กับการกำจัดพลังมีด
  ซือหยูหลับตาดูดซับสายโลหิตเทพบ่มเพาะ
  เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
  ราชาเขตกลางใช้เวลาทุกนาทีและวินาทีในการกำจัดพลังแห่งความตายในร่างและซือหยูเองก็พยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะดูดซับสายเลือดเทพบ่มเพาะในเวลาเดียวกัน
  ผู้ที่เร็วกว่าจะเป็นผู้ชนะในศึกนี้!
  เซี่ยนเอ๋อกระวนกระวายยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เซี่ยจิงหยูพยากรณ์ว่าซือหยูจะถูกนำมายังที่นี่ วิบัติสามสิบเก้าของเขาทำให้วิถีเทพของนางถูกแทรกแซง นางจึงมิอาจเห็นอนาคตของวันนี้ได้
  นางมิอาจคาดเดาชะตาของซือหยูในอนาคตได้
  ทั้งเซี่ยนเอ๋อและจิงหยูพยายามจะเดิมพันการต่อสู้กับราชาเขตกลางที่นี่แต่พวกนางก็ไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นใด
  ครึ่งวันต่อมา
  ราชาเขตกลางกดพลังแห่งความตายที่เอ่อล้นบนร่างและขับออกมาจากตัวช้าๆ
  สายโลหิตเทพบ่มเพาะเริ่มผสานเป็นหนึ่งกับซือหยู
  ทั้งสองสูสีกันมากไม่มีผู้ใดรู้ว่าใครจะได้ลงมือก่อนในยามสุดท้าย  เซี่ยนเอ๋อเอนกายใกล้ซือหยูนางวางมือทาบอกจ้องมองซือหยู นางนั่งนิ่งบ้างก็อ้าปากตกใจอย่างเป็นกังวล
  ผ่านไปอีกครึ่งวัน
  นี่คือวันที่เก้าซึ่งครบกำหนดที่วิบัติจะมามันคือวันสุดท้าย
  ขณะนี้ราชาเขตกลางขับพลังแห่งความตายออกไปได้สามในสิบส่วน ถ้าเขาขับพลังออกมาได้อีกหนึ่งเท่าตัว เขาจะกดพลังที่เหลือและเริ่มจู่โจมซือหยูได้
  ซือหยูดูดซับสายโลหิตเทพบ่มเพาะมาได้สามในสิบส่วนแล้วมันเริ่มส่งผลกับร่างกายของเขา
  ฐานพลังที่เป็นภูติระดับเก้าเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็วภายในหนึ่งวัน เขาได้ทะลวงคอขวดของจ้าวเทวะและกลายเป็นจ้าวเทวะระดับหก แต่มันก็ยังห่างไกลจากคำว่ามากพอ
  ซือหยูอาจต้องใช้เวลาอีกครึ่งวันกว่าจะถึงระดับพลังที่เขาต้องการ  สุดท้ายก็ผ่านไปอีกครึ่งวัน
  ซือหยูเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งวันก่อนที่วิบัติจะมา
  ราชาเขตกลางสามารถขยับตัวได้บ้างแล้วพลังแห่งความตายหกส่วนถูกขับออกจากร่างกายแล้ว
  ไม่นานเขาจะสังหารซือหยูได้ด้วยพลังเซียนเล็กน้อยก่อนที่ซือหยูจะดูดซับสายโลหิตเทพบ่มเพาะอย่างสมบูรณ์
  ซือหยูมีพลังระดับอสูรเนรมิตรแล้วแต่ช่องว่างระหว่างเขากับฐานพลังเซียนขั้นสูงสุดนั้นยังอีกยาวไกล!
  ต่อหน้าความพ่ายแพ้อันแน่นอนเซี่ยนเอ๋อกัดฟันกระโดดขึ้นบนท้องนภาโดยกอดซือหยูเอาไว้ในอ้อมแขน นางพูดกับซือหยูผ่านจิต
  “พี่ซือหยูอย่าหยุดดูดซับพลังนะ ให้ข้าจัดการที่เหลือเอง! เรายังมีแผนสอง!”
  ครึ่งชั่วยามต่อมาหน้ากระท่อมของเซี่ยนเอ๋อ  เซี่ยนเอ๋อซัดกระท่อมด้วยฝ่ามือจากนั้นประตูมิติที่พร้อมใช้งานก็ปรากฏออกมา มันคือประตูมิติขั้นสุดยอดที่หาได้ยากที่สามารถส่งทั้งสองไปยังอีกเขตได้ทันที
  แม้ซือหยูจะยังคงดูดซับสายโลหิตเขาก็สัมผัสสิ่งรอบข้างได้ เขาตกใจ
  พวกนางติดตั้งประตูมิติขั้นสุดยอดได้อย่างไรกัน?
  ประตูมิติขั้นสุดยอดมิเพียงแต่ต้องใช้ปรมาจารย์ค่ายกลมิติที่คำนวนมิติได้อย่างแม่นยำแต่มันยังต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล มีเพียงราชาเขตเท่านั้นที่จะเตรียมทรัพยากรมากมายเพื่อติดตั้งประตูมิติเช่นนี้ได้
  “พี่จิงหยูกับข้าหารือความเป็นไปได้ของแผนเราจึงต้องเตรียมแผนนี้เอาไว้ พี่จิงหยูติดตั้งประตูมิตินี้ขึ้นมา หลังจากอ่านตำราหลายเล่มที่เกี่ยวกับค่ายกลมิติในโลกใบนี้มาครึ่งปี นางก็กลายเป็นปรมาจารย์ค่ายกลมิติ!”
  เซี่ยนเอ๋อพูดด้วยความยอมรับ  “อย่างนี้นี่เอง”
  ซือหยูไม่สับสนอีกแล้วบางทีอาจจะไม่มีสิ่งใดบนโลกนี้ที่เซี่ยจิงหยูทำไม่ได้!
  “แต่เจ้าก็ต้องใช้ทรัพยากรมากมายไม่ใช่รึ?นางหาของมากมายขนาดนั้นได้ยังไง?”
  ซือหยูถามด้วยความแปลกใจแม้แต่เมืองเฉินหลงก็มิอาจหาทรัพยากรได้มากพอ แล้วนางไปหามันมาจากที่ไหน?
  เซี่ยนเอ๋อตอบ
  “ไม่ยากเลย!พวกเราได้มันมาจากการทำลายประตูมิติเทวะ!”
  “เราตัดสินใจตั้งรกรากที่นี่หลังจากพบซากเมืองต่อมาเราก็พบว่าในซากเมืองมีประตูมิติเทวะที่ถูกทิ้งเอาไว้ พี่จิงหยูซ่อมมันได้นิดหน่อย”
  ซือหยูตกใจอีกครั้งใครกันที่วางประตูมิติเทวะในเขาห้าธาตุกับที่นี่? คนผู้นั้นทำไปเพื่ออะไร?
  จากนั้นเรื่องศพเทพมังกรน้ำแข็งที่อยู่ภายในเขาห้าธาตุมาหลายปีก็ผุดเข้ามาในความคิดซือหยูอีกครั้งมันทำให้เขาสับสนอย่างมาก
  “พี่ซือหยูหนีจากที่นี่กันเถอะ ราชาเขตกลางจะมาถึงในอีกไม่นานแล้ว!”
  เซี่ยนเอ๋อพาซือหยูไปยังประตูมิติและหนีจากที่นี่ทันที
  ครึ่งชั่วยามต่อมาราชาเขตกลางมาถึงประตูมิติอย่างช้า ๆ ต่อหน้าประตูมิติที่หมดพลัง เขาโกรธแค้นเพราะเขารู้ว่าประตูมิติจะพาซือหยูไปไหน
  ซือหยูหนีไปอีกครั้ง!
  “ไอ้แมลงเอ้ย!เจ้าจะต้องอ้อนวอนขอความตายในตอนที่ข้าจับเจ้าได้!”
  ราชาเขตกลางมุ่งหน้าไปยังเขตมหาสัตว์อสูรที่ถูกทำลาย
  ที่นี่กลายเป็นดินแดนว่างเปล่าเพราะการปรากฏตัวของเซียนมณีหลายสำนักหนีไปเสียก่อนโดยไม่สนใจทรัพย์สินที่ตนเองมี  ดังนั้นประตูมิติหลายแห่งจึงยังคงอยู่และไร้ความเสียหาย
  ที่หุบเขาใกล้สำนักสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ประตูมิติบานหนึ่งส่องสว่าง ฉินเซี่ยนเอ๋อก้าวเท้าออกมา
  นางจับแขนพยุงตัวซือหยูช่วยให้ซือหยูเดินออกมาจากประตูมิติ
  “พี่ซือหยูไม่ต้องห่วงนะดูดซับพลังต่อไป ข้าจะไม่ทิ้งพี่นอกจากจะต้องตายเท่านั้น!”
  เซี่ยนเอ๋อพูดขณะเช็ดเหงื่อบนหน้าผากนางพยุงซือหยูไปยังประตูสำนักสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์
  ในยามที่เซียนมณีมาถึงทุกคนในสำนักนี้ได้หนีไป และก็ยังไม่มีใครกลับมา
  เซี่ยนเอ๋อพยุงซือหยูไปยังประตูมิติของสำนักนี้และพูดด้วยความดีใจ
  “อย่างที่คิดเลยมันไม่ได้เสียหายอะไรเหมือนครึ่งปีที่แล้ว!”
  ครึ่งปีก่อนเมื่อเซียนมณีมาล้างบางเขตนี้ฉินเซี่ยนเอ๋อกับเซี่ยจิงหยูมายังที่นี่และติดตั้งมิติเอาไว้ในหุบเขา…
  ซือหยูพูดไม่ออกในหัวใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น
  เพราะว่าแผนอันประณีตของพวกนางทำให้เขามาถึงจุดนี้ได้ที่นี่เองก็ไม่มีใครหยุดพวกเขาได้อีกแล้ว
  ถ้าหากเป็นเขตอื่นจะไม่มีใครกล้าให้ซือหยูใช้ประตูมิติเพราะหวาดกลัวราชาเขตกลาง
  เซี่ยนเอ๋อวางซือหยูเบาๆ และย่อตัวลงตรวจดูประตูด้วยความกังวล
  “ตามปกติประตูมิตินี้จะส่งพวกเราไปยังประตูมิติขั้นสุดยอดบานใดก็ได้ในแดนใต้ แต่คนจากที่อื่นกลัวว่าเซียนมณีจะใช้ประตูนี้ไปยังแดนของตัวเอง พวกเขาเลยผนึกประตูของตัวเองเอาไว้ เวลานี้มีจุดหมายเดียวในประตูบานนี้ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่ามันคือที่ใด!”
  หลังจากตรวจสอบเซี่ยนเอ๋อกลับมาหาซือหยูและมองรอบ ๆ ด้วยความระวังราวกับกระต่ายน้อย
  จู่ๆ ซือหยูก็ถูกความไม่สบายใจรบกวน
  “มันกำลังมา!”
  ราชาเขตกลางที่ที่ควรจะตามทันในครึ่งชั่วยามกลับใช้เวลาถึงสองชั่วยามในการไล่ล่าพวกเขานั่นหมายความว่าพลังส่วนใหญ่ของเขายังต้องกดพลังแห่งความตายเอาไว้
  เซี่ยนเอ๋อที่เตรียมพร้อมเต็มที่พยุงซือหยูและวางแก้วพลังลงในประตูประตูมิติเริ่มทำงาน
  เมื่อราชาเขตกลางมาถึงทั้งสองก็หายตัวไปอีกครั้ง
  แต่ราชาเขตกลางมองประตูมิติพร้อมกับแสยะยิ้มเหยียดหยาม
  “เจ้าไม่รู้ว่าเซียนมณีที่ถูกราชาเขตห้าคนโจมตีเมื่อครึ่งปีก่อนหายตัวไปอย่างไรสินะ?”
  ฟึ่บ!
  เขาก้าวเข้ารอยแยกมิติและมุ่งหน้าด้วยความเร็วมันเร็วกว่าเดิมเป็นสิบเท่า พลังของเขากำลังฟื้นคืนกลับมา
  ปั่ก!
  ซือหยูกับฉินเซี่ยนเอ๋อปรากฏตัวที่ห้องลับใต้ดินอันมืดมิด
  เมื่อทั้งสองก้าวออกมาจากประตูทั้งสองก็ได้กลิ่นเหม็นจากที่นี่ พวกเขาพบว่าถูกรายล้อมไปด้วยซากศพนับไม่ถ้วนที่หัวใจกับดวงวิญญาณหายไป
  ซือหยูพูดอย่างเคร่งเครียด
  “พวกเรา…อยู่ใต้วังหลวงเขตกลาง!”
  ที่นี่คือจุดที่เซียนมณีซ่อนตัวอยู่!ซากศพเหล่านี้บอกทุกอย่างกับเขา
  เซี่ยนเอ๋อเองก็ตกใจ
  “อะไรนะ?วังหวงเขตกลางรึ? พวกเรามาถึงที่นี่ได้ยังไง?”
  “ข้าผิดเอง!”
  ซือหยูพูดอย่างเคร่งเครียดมีเพียงราชาเขตกลางคนเดียวเท่านั้นที่จะเปิดประตูมิติให้เซียนมณีหนีมายังที่นี่
  ดังนั้นจุดหมายเดียวของประตูก็ต้องเป็นวังหลวงในเขตกลาง!
  “รีบหนีเร็วที่นี่คือฐานทัพของมัน ข้าไม่รู้ว่ามียอดฝีมืออีกกี่คน!”
  ฉินเซี่ยนเอ๋อรีบพูดนางเตรียมตัวที่จะตายมาแล้ว แต่นางไม่อยากทำให้ซือหยูต้องลำบาก
  ซือหยูโบกมือ
  “สายไปแล้วเราต้องลองเสี่ยงดู! ถ้าข้าเดาไม่ผิด เรายังมีโอกาสหากอยู่ที่นี่!”
  หลังพูดจบซือหยูดูดซับสายโลหิตเข้าสู่ร่างกายต่อไป
  ขณะนี้สายโลหิตเทพบ่มเพาะถูกเขาดูดซับไปแปดในสิบส่วน และเขาเองก็มาถึงขอบเขตเซียนแล้ว แต่เขายังต้องใช้เวลาอีกสักหน่อยเพื่อที่จะมีพลังของเซียนขั้นสุดยอด
  เขารู้ว่าเขายังต้องใช้เวลาอีกสองชั่วยาม  ขณะนี้เขามีเวลาเพียงสองชั่วยามครึ่งก่อนที่วิบัติจะมาถึง
  เวลาที่ยังเหลืออยู่คือกุญแจของเขา
  บางทีหม้อเก้ามังกรอาจสัมผัสความรีบร้อนของซือหยูได้มันเริ่มที่จะเตรียมโลหิตเทพจำนวนน้อย ๆ ให้กับซือหยู ด้วยความช่วยเหลือจากโลหิตเทพ ความเร็วในการดูดซับของซือหยูเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง
  ซือหยูดีใจที่เห็นว่ามันช่วยย่นระยะเวลาให้เขา
  หลังหนึ่งชั่วยามซือหยูดูดซับพลังมาแล้วเก้าในสิบส่วน เขากลายเป็นเซียนขั้นสอง
  เขาต้องเพิ่มพลังอีกสองขั้นก่อนจะถึงขั้นสุดยอด
  หลังอีกหนึ่งชั่วยามซือหยูดูดซับได้เก้าสิบห้าในร้อย เขากลายเป็นเซียนขั้นสาม
  หลังจากดูดซับที่เหลืออีกห้าในร้อยส่วนเขาจะผสานสายโลหิตเทพบ่มเพาะในร่างกายได้จนหมด  แต่มันก็สายไปแล้วเขายังต้องการเวลาอีกยี่สิบนาทีเพื่อที่จะทำมันให้เสร็จแม้ว่าหม้อเก้ามังกรจะยังให้โลหิตเทพกับเขาอยู่ตลอดก็ตาม
  ซือหยูรู้สึกถึงความไม่สบายใจแล้ว
  ราชาเขตกลางจะมาถึงในอีกลมหายใจเดียว
  ข้าจะล้มเหลวในเวลานี้รึ?อีกนิดเดียวเท่านั้น!
  เมื่อซือหยูกำลังกังวลเสียงหัวเราะก็แล่นเข้ามา
  “หึหึ!เจ้าหนู ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะตกระกำลำบากเช่นนี้! เจ้าจะตายในอีกไม่นาน! ข้าควรจะฉลองใช่ไหม? โอ้ ไม่สิ! คนโหดเหี้ยมเช่นเจ้าคงไม่ปล่อยข้าออกไปต่อให้ตัวจะตาย เป็นแบบนี้ข้าก็จะถูกฝังไปพร้อมเจ้า! ไม่ได้! ไม่ได้! ข้าจะตายไปเฉย ๆ แบบนี้ไม่ได้!”
  คลื่นพลังแสดงผ่านดวงตาซือหยูพลังเทพมหาศาลพุ่งเข้าสู่ร่างซือหยู  ความเร็วในการดูดซับของเขาเพิ่มขึ้นทันทีเป็นสิบเท่า
  นี่คือพลังเทพของเทพปีศาจรึ?ซือหยูตกใจ เทพปีศาจแข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ถึงกับส่งพลังทะลุผ่านมิติวิญญาณออกมาได้?
  หรือพูดอีกอย่างก็คือมิติวิญญาณไม่สามารถจองจำเทพปีศาจได้อีกแล้ว!
  แต่ซือหยูก็ไม่มีเวลาจะสนใจมันเพราะราชาเขตกลางจะมาถึงในอีกไม่นาน