ตอนที่ 1143 - จักรพรรดิผ

The Divine Nine Dragon Cauldron

ซือหยูถึงกับได้ยินเสียงเพราะความไม่สบายใจข้างในเขาใจเต้นแรงมาก
  ราชาเขตกลางอยู่ไม่ห่างจากที่นี่เลย!
  ซือหยูกัดฟันแน่นเขาต้องใช้พลังของเทพปีศาจเพื่อดูดซับให้สำเร็จ
  โชคดีที่ขอบเขตพลังของเขามาถึงจุดสำคัญของขั้นสามมันกำลังมุ่งหน้าไปถึงขั้นที่สี่
  เมื่อไปถึงขั้นนั้นเขาจะใช้ศรทลายฟ้าได้!
  แต่ในเวลานี้เงาสองร่างปรากฏในห้องลับใต้ดิน!
  หนึ่งบรุษหนึ่งสตรีที่ห้อมล้อมไปด้วยพลังภูติผีเดินเข้าหาซือหยู
  เมื่อเห็นใบหน้าของทั้งสองซือหยูก็มองกลับไปอย่างดุร้าย
  “เทียนเหรินเหยาเทียนหยู! จะเป็นใครถ้าไม่ใช่พวกเจ้า?”   ซือหยูกลัวทั้งสองปรากฏตัวอย่างเงียบเชียบโดยไร้ซึ่งรอยแยกมิติ ทั้งสองมีระดับพลังเท่าใดกัน?
  เทียนเหรินเหยายิ้มเล็กน้อย
  เทียนหยูไม่พอใจนักที่ได้เห็นซือหยู
  “น้องซือเจ้าเป็นเช่นใดบ้าง”
  เทียนเหรินเหยายังคงยิ้มและพูดถึงเรื่องอดีต
  “หลังพวกเราออกจากดินแดนมีดสวรรค์เจ้าจำคำพูดข้าได้หรือไม่?”
  เขาจำได้แน่นอนหากได้พบกันอีกครั้ง พวกเขาคือศัตรู
  ซือหยูใจหายในทันทีเขาจะลืมได้อย่างไรว่าเขตกลางในเวลานี้คือจุดที่ทัพผีประจำการอยู่?
  เผ่าผีคือพันธมิตรของราชาเขตกลาง!
  ร้อยปีก่อนพวกเขาแอบวางอุบายเพื่อใช้กับเฉินอี้เจิง  ร้อยปีต่อมาพวกเขากลับมาเพื่อต่อกรกับจิวโจวอีกครั้ง
  “เจ้าถึงกับไม่ทักทายข้าก่อนและคิดบ่มเพาะพลังในที่ของข้าน้องซือ เจ้ากำลังดูถูกข้าอยู่หรือ?”
  เทียนเหรินเหยายิ้มเบาแต่สายตาเริ่มอันตรายขึ้น
  เทียนหยูเยือกเย็นมากขึ้นเรื่อยๆ จิตสังหารปะทุจากดวงวิญญาณ
  “ถ้าจะแตะต้องพี่ซือหยูเจ้าก็ต้องข้ามศพข้าไปก่อน”
  เซี่ยนเอ๋อพูดเบาๆ นางไปยืนขวางซือหยู
  ในเวลาเช่นนี้ทั้งสองไม่ควรจะเจอศัตรูเลย
  พลังจากทั้งสองคนนั้นสามารถทำให้คนตัวสั่นไปถึงกระดูกได้
  มันไม่ใช่พลังของอสูรเนรมิตรแต่เป็นบางอย่างที่แข็งแกร่งกว่านั้น
  “เซี่ยนเอ๋อเจ้าหลบไปก่อน เจ้าไม่ใช่คู่มือของพวกมัน”
  ซือหยูถอนหายใจถ้าหากเขามีเวลามากกว่านี้เขาจะสามารถดูดซับพลังทั้งหมดมาได้ เขาจะได้เป็นเซียนขั้นสี่
  แต่สุดท้ายเขาก็ต้องหยุดลง
  “เพราะว่าพวกมันคือ…จักรพรรดิผี!”
  ซือหยูพูดอย่างเย็นชา
  เทียนหยูผงะสายตามีจิตสังหารที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
  เทียนเหรินเหยาดูไม่ตกอกตกใจนักสายตาเพียงแค่แสดงความแปลกใจ
  “โอ้น้องซือเดาออกแล้วรึ?”
  เซี่ยนเอ๋อเบิกตากว้าง
  “จักรพรรดิผีรึ?”
  นางอยู่ในจิวโจวมานานนางจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของจักรพรรดิผีหรือ? ในร้อยปีที่แล้ว จักรพรรดิผีเป็นรองเพียงแค่เฉินอี้เจิงเท่านั้น  เทียนเหรินเหยากับเทียนหยูยิ้มพร้อมกันทั้งสองเข้าใกล้ ร่างกายผสานเป็นหนึ่ง
  ด้านหน้าเป็นเทียนเหรินเหยาด้านหลังเป็นเทียนหยู
  ทั้งสองผสานกันเป็นร่างกายเดียว!
  “ข้าสงสัยเจ้าเดาตัวตนของข้าได้อย่างไร?”
  เทียนเหรินเหยากับเทียนหยูพูดพร้อมกันเสียงของทั้งสองผสมกันปนเป เขาบอกไม่ได้ว่าเป็นเสียงของบุรุษหรือสตรี
  ซือหยูใช้เวลาขณะนี้ดูดซับพลัง
  “มันเดายากมากนักหรือ?คนอย่างปี้หลิงเทียนฟังเจ้า ทั้งทัพผีในจิวโจวรับบัญชาจากพวกเจ้า นอกจากจักรพรรดิผีแล้วเจ้าจะเป็นใครไปได้อีก? ประการที่สอง เจ้าเป็นชาย แต่เจ้าก็ชอบบุรุษ เทียนหยูเป็นหญิงกลับชอบสตรี หยินหยางในตัวของพวกเจ้าปั่นป่วน ยากที่จะบอกว่าเป็นเพศใด ข้าอ่านตำราโบราณมามากจนได้รู้ว่าจักรพรรดิผีพูดออกมาเป็นเสียงบุรุษและสตรีพร้อมกัน ดังนั้นข้าเลยคิดว่าจะต้องเป็นแบบนี้”
  “ครั้งนี้พวกเจ้ามาได้โดยที่ข้าไม่รู้ตัว พลังของพวกเจ้าเหนือกว่าโลกใบนี้ไปแล้ว ข้าก็ยิ่งยืนยันสิ่งที่คิดได้มั่นใจกว่าเดิม”
  ซูม…
  เกิดเสียงมิติฉีกขาด
  ร่างมนุษย์ที่มีแสงสีทองปรากฏตัวขึ้นมา
  “เจ้ามดปลวกข้าต้องยอมรับว่าเจ้าฉลาดมาก”
  ราชาเขตกลางมาถึงแล้ว
  ซือหยูเหลือเพียงแค่ขั้นสุดท้ายเท่านั้นแต่ราชาเขตกลางก็มาเสียก่อน
  จะอย่างไร…เขาก็พ่ายแพ้
  “แม้แต่เรื่องนี้เจ้ายังเดาได้ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าจะไม่รู้อะไรอีกบ้าง”
  ราชาเขตกลางดูเหมือนชมซือหยูแต่ดูเหมือนจะเป็นการเย้ยหยันมากกว่า  ยิ่งคนที่กำลังจะตายรู้มากเท่าใดมันก็ยิ่งลักลั่นมากเท่านั้น
  ราชาเขตกลางเหลือบมองจักรพรรดิผี
  “ดีมากถ้าหากมันได้เป็นเซียนขั้นสี่ก็คงจะเกิดเรื่องใหญ่”
  แต่จักรพรรดิผีไม่สนใจอะไรนัก
  “ถ้าเจ้าตายมันก็ไม่มีประโยชน์กับข้า”
  เขายิ้มจ้องมองซือหยู
  “เจ้าเดาเก่งนักไม่ใช่รึ…คิดว่าข้าจะทำอะไรกับเจ้าต่อไปล่ะ?”
  จักรพรรดิผีเคลื่อนไหวมาอยู่หน้าซือหยูอย่างรวดเร็วฝ่ามือที่มีพลังเซียนซัดไปที่หน้าผากของเขา
  ราชาเขตกลางขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้เข้าไปหยุดเพราะซือหยูกำลังจะตาย ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนฆ่าตราบเท่าที่เรื่องหม้อเก้ามังกรยังไม่ถูกเปิดเผย
  แต่เขาก็พบว่าไม่เพียงซือหยูจะไม่ตอบโต้ซือหยูยังยิ้มออกมาที่มุมปาก  “ข้าเดาว่า…เจ้าจะต้องช่วยข้า”
  “ฮ่าๆๆๆๆ…เจ้าพูดถูกเผง!”
  จักรพรรดิผีเปลี่ยนจิตสังหารเป็นเสียงหัวเราะพลังเซียนในฝ่ามือเปลี่ยนแปลงเป็นกลุ่มพลังเทพเข้าสู่ร่างของซือหยู
  “นี่คือสายโลหิตหลังจากที่ข้าได้ตำแหน่งรับไปซะ!”
  จักรพรรดิผีมิได้เป็นเพียงแค่เทพแต่ยังเป็นลูกหลานของภูติผีอีกด้วย!
  ด้วยสายโลหิตของจักรพรรดิผีความเร็วในการดูดซับพลังของซือหยูทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดด พลังหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย
  เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเหนือการคาดเดาไม่เพียงแต่เซี่ยนเอ๋อจะตกใจ แต่ราชาเขตกลางเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
  เมื่อใจเย็นลงราชาเขตกลางพุ่งเข้ามาซัดศีรษะซือหยูด้วยฝ่ามือขณะที่ตะโกน
  “จักรพรรดิผี!เจ้าบ้าไปแล้ว!”
  ฉินเซี่ยนเอ๋อหักหลังเขาเขาเข้าใจได้  แต่ถ้าจักรพรรดิผีจะหักหลังเขาด้วยเขาก็มิอาจเข้าใจได้เลย
  จักรพรรดิผีจะได้อะไรถ้าช่วยให้ซือหยูฆ่าเขา?มีแต่เรื่องเลวร้ายเท่านั้น!
  เผ่าผีมาล้างบางจิวโจวเมื่อร้อยปีก่อนหลังซือหยูฆ่าราชาเขตกลางได้ เขาจะปล่อยให้จักรพรรดิผีหลุดมือไปรึ?
  ไม่ว่าจะอย่างไรราชาเขตกลางก็มิอาจเดาความตั้งใจของจักรพรรดิผีได้เลย
  “ฮ่าๆๆๆๆ…”
  จักรพรรดิผียิ้มเขายกมือ ลูกแก้วสีอำพันแปดลูกเรียงตัวกลายเป็นวงแหวน
  นี่คือมุกบาดาล!มันคือสิ่งที่ทำให้จักรพรรดิผีมีชื่อเสียง!
  ราชาเขตกลางซัดมุกบาดาลด้วยฝ่ามือมุกบาดาลหมุนควงต้านพลังเอาไว้จำนวนมาก แขนราชาเขตกลางขาดด้วยการหมุนอย่างรวดเร็วเผยให้เห็นกระดูกและเลือดจากแขน
  ซือหยูตกใจมุกบาดาลใช้งานเช่นนี้ได้ด้วยหรือ?
  “น้องซือตอนที่ข้ารู้ว่าเจ้าโยนอาวุธวิเศษข้าราวกับก้อนหิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าความรู้สึกข้าเป็นเช่นใด?”
  จักรพรรดิผีหัวเราะขณะที่ควบคุมมุกบาดาลให้หมุน
  ซือหยูหน้าแดงด้วยความอับอายเขากลอกตาไม่สนคำยั่วยุ เขารีบดูดซับพลังสายโลหิตขั้นสุดท้าย
  แขนที่ขาดของราชาเขตกลางฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
  ใบหน้าเขาร้อนรน
  “จักรพรรดิผี!เจ้ากำลังจะทำลายแผนใหญ่ของข้าเรอะ?”
  “แผนใหญ่?ฮ่าๆๆๆๆ ยึดครองจิวโจว ชำระล้างมันและขายให้กับเทพเพื่อแลกกับต้นกำเนิดพลังเทพรึ?”
  จักรพรรดิผีหัวเราะเยาะและบอกความตั้งใจจริงของราชาเขตกลาง  เพื่อที่จะเป็นจักรพรรดิจิวโจวราชาเขตกลางได้ทำทั้งหมดลงไป ตั้งแต่ร้อยปีก่อน หลังการจากไปของเฉินอี้เจิง เขาคือผู้ไร้เทียมทาน
  แต่การเป็นราชาแล้วจะอย่างไรเล่า?เขามีเหตุผลที่ลึกล้ำกว่านั้น นั่นก็คือการขายจิวโจว!
  มันฟังดูไม่น่าเชื่อ
  “โลกว่างเปล่าใบนี้ที่ไร้การปกป้องจากเทพย่อมเป็นดั่งชิ้นเนื้อโอชะต่อสายตาของทุกคน”
  จักรพรรดิผีไม่สนใจใบหน้าซับซ้อนของราชาเขตกลาง
  “เจ้าอยากตายเรอะ!”
  ราชาเขตกลางตะโกน
  “ไปให้พ้นหน้าข้า!”
  ราชาเขตกลางใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะฆ่าจักรพรรดิผีและซือหยูไปพร้อมกันเขาอัดพลังทั้งหมดในหมัดเดียว  จักรพรรดิผีใบหน้าจริงจังเขาควบคุมมุกบาดาลเพื่อขัดขวางพลังของราชาเขตกลาง
  โชคดีที่ราชาเขตกลางบาดเจ็บก่อนที่จะรวบรวมพลังทั้งหมดได้
  ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของมุกบาดาลจักรพรรดิผีสามารถป้องกันตัวได้
  “ร้อยปีก่อนเจ้าปกปิดพลังที่เทียบเท่ากับเฉินอี้เจิงเอาไว้ อีกร้อยปีให้หลัง พลังแบบเดียวกันก็กำลังจะทำกับเจ้า”
  ราชาเขตกลางไม่มีเวลาฟังคำพูดของจักรพรรดิผีถ้าซือหยูไม่ถูกพาออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาก็เกรงว่าตัวเขาจะเป็นฝ่ายถูกลบหายไปเสียเอง
  “เจ้าบังคับข้าเองนะข้าไม่อยากฆ่าเจ้าเพราะเห็นแก่การร่วมมือกันเมื่อร้อยปีก่อน แต่ตอนนี้…ฮื่ม ต่อให้เทพอสูรกล่าวโทษข้า ข้าก็ไม่กลัวแล้ว!”
  ใบหน้าราชาเขตกลางเปลี่ยนไปเขาหายใจเข้าลึก พลังอสูรเอ่อออกมาจากร่าง  สุดท้ายจักรพรรดิผีก็ชักสีหน้า
  “พลังเทพอสูร…เจ้าเจ้าไม่ใช่มนุษย์งั้นรึ?”
  ต่อให้ร่วมมือกันมาเป็นร้อยปีเขาก็ไม่รู้ราชาของฝ่ายมนุษย์อย่างราชาเขตกลางกลับไม่ใช่มนุษย์ ไม่สิ เขาไม่ใช่มนุษย์ที่บริสุทธิ์
  “ระวัง!มันเป็นลูกหลานของเทพมนุษย์กับเทพอสูร มันแปลงร่างเป็นอสูรได้!”
  ซือหยูเองเคยผ่านประสบการณ์นี้มาแล้ว
  ดูจากพลังราชาเขตกลางคือผู้ที่ไร้เทียมทานที่สุดในโลก และด้วยวิชาแปลงกาย เขานั้นน่ากลัวยิ่งกว่าเซียนมณี
  แม้ว่าจะรวบรวมราชาเขตอื่นอีกแปดคนมาเขาก็เกรงว่าราชาเหล่านั้นจะทำอะไรราชาเขตกลางไม่ได้เลย
  ลูกหลานของมนุษย์และอสูรมีพลังพิเศษที่จะเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์และอสูรได้มันจะทำให้ได้พลังที่เหนือกว่าเดิมอีกระดับ
  ราชาเขตกลางในเวลานี้เป็นจุดสุดยอดของเซียนถ้าหากเพิ่มพลังขึ้นอีก เขาจะไม่ได้มีพลังเท่ากับเทพหรือ?
  “ตายซะ!”
  ราชาเขตกลางที่แปลงร่างเป็นอสูรสูงร้อยศอกร้องคำราม
  จักรพรรดิผีกัดฟันเขาไม่คิดจะยอมแพ้ ร่างกายได้ขยายขึ้นเป็นร้อยเท่าในทันทีสู่ความสูงร้อยศอก
  มุกบาดาลเองก็ขยายขนาดขึ้นมุกบาดาลหนาสิบศอกพุ่งใส่ฝ่ามือราชาเขตกลาง
  มุกบาดาลแตกสลายพลังฝ่ามือที่เหลือปะทะกับร่างจักรพรรดิผี
  จักรพรรดิผีกัดฟันฝ่ามือได้กลายเป็นกรงเล็บขนาดสิบศอกพยายามที่จะต้านทานพลังที่เหลือของราชาเขตกลาง
  การปะทะของทั้งสองทำให้จักรพรรดิผีต้องถอยหลายครั้งร่างกายขนาดใหญ่ทำให้ห้องลับใต้ดินพังทลาย คนหลายคนได้เห็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์ต่อสู้กัน  ผู้คนที่กำลังเก็บกวาดซากเมืองต่างตกอกตกใจพวกเขารีบถอยหนีมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง