Ch.31 – สิ่งที่ปัดเป่าฝันร้ายก็คือวัจนะแห่งราชาผู้พิชิต
Translator : ปลาดุกอเมซอน / Author
“เด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนี้เดินทางจากเมืองหลวงมาถึงที่นี่เลยใช่ไหมล่ะจ๊ะ? ก็ต้องเหนื่อยอยู่แล้วล่ะ คงไม่มีเวลาว่างให้พักหายใจหายคอเลย”
คนที่กำลังตรวจไข้ยูกิโนะอยู่ก็คือหญิงสาวมีอายุที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน
ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีวิชาแพทย์แล้วก็รู้ละเอียดในเรื่องสมุนไพรด้วย
ดูเหมือนจะมีชื่อในหมู่บ้านว่าเป็น“คุณป้าผู้รอบรู้เรื่องสุขภาพ” แต่เพราะว่าเผ่ายักษ์มีพลังกายล้นเหลือ ก็เลยไม่ค่อยได้ออกโรงเท่าไหร่
“เพราะรู้สึกสบายใจที่หมู่บ้านนี้ได้ ก็เลยคายความเครียดที่สะสมมารวดเดียว ทำให้มีไข้ออกมาน่ะจ่ะ”
“ไม่ใช่อาการป่วยสินะคะ?”
“แค่เหนื่อยเกินไปน่ะจ่ะ ท่านโชมะ ถ้าให้พักสักหน่อยก็จะดีขึนเอง ยิ่งกว่านั้น…”
หญิงสาวทำสีหน้ากังวลมองไปที่ยูกิโนะ
“…ดูเหมือนจะคราวออกมาเพราะเห็นฝันร้ายอยู่ด้วย…น่าสงสารมากเลยจ๊ะ”
หญิงสาวพูดแบบนั้นแล้วก็กลับไป
ยังไงก็คงจำเป็นต้องให้ยูกิโนะพักผ่อนกับกินอาหารถูกต้องตามโภชนาการ
ถ้าทำแบบนั้น ด้วยความที่ยังเด็กอยู่คงจะฟื้นได้ใน1ถึง2วัน
“…ดีจัง”
ฮารุกะนั่งลงบนเก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างเตียงที่ยูกิโนะนอน
“อุตส่าห์ได้เป็นเพื่อนกันแล้วแท้ๆ…ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้จำทำอะไรดี”
ฮารุกะถอนหายใจนายแล้วมองใบหน้าของยูกิโนะ
ยูกิโนะหลับอยู่บนเตียง
ที่หน้าผากที่ผ้าเปียกวางอยู่ เมื่อกี้ตื่นมาแปปหนึ่งก็เลยให้ดื่มน้ำแร่(เพราะเก็บไว้ทันทีตั้งแต่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อที่โลกเดิมก็เลยยังเย็นอยู่)ที่ผมเอามาไป ริเซ็ตกับฮารุกะก็เช็ดเหงื่อให้ จากนั้นก็หลับไปอีกรอบ
“…อ๊ะ…อา”
ส่งเสียงครางออกมาอีกแล้ว
“…ยูกิโนะ?”
“…กลัว…สิ่งที่น่ากลัว…กำลังมา”
ยูกิโนะครางออกมา แล้วก็กำหน้าอกแน่น
“ยูกิโนะจัง เป็นแบบนี้มาตลอดเลยล่ะ”
“ท่าทางจะฝันร้ายนะคะ”
ฮารุกะกับริเซ็ตมองมาทางผมแล้วพูดออกมา
“แล้วละเมออะไรออกมาอีกบ้างล่ะ?”
“[มหาจอมมารกุเกรันบัลบารันมาแล้ว…]”
“[เอาไปกินซะ…เวทมนตร์ของแม่มดแห่งน้ำแข็ง ยูกิโนะ คลาวดี้ ดราก้อนไชนด์ ผู้นี้…อ๊าา! MPไม่พอ!]…ค่ะ”
ดูเหมือนจะยูกิโนะในฝันจะกำลังต่อสู้อยู่กับอะไรสักอย่าง
“[ใหญ่เกินไปเวทมนตร์ก็เลยไปไม่ถึงคอร์(แกนกลาง)]…ครางแบบนั้นออกมาด้วย”
“[ได้โปรดให้อภัยเซอร์แวนท์(ข้ารับใช้)ที่ไม่ได้เรื่องด้วยค่ะ ได้โปรดช่วยด้วย…ราชามังกรแห่งเกษตรอินทรีย์…]… ดูเหมือนจะกำลังเรียกคุณ[นายที่แท้จริง]อยู่ค่ะ”
เป็นอาการที่รู้สึกคุ้นเคยเลยแฮะ
ผมเองก็เคยเป็นสินะ…ตอนที่ป่วยสมัยจูนิเบียว ก็เคยถูกจอมมารโจมตีในฝันอยู่ พลังจินตนาการที่เหลืออยู่–หรือพลังเพ้อนั่นล่ะ มันฟุ้งซ่านเพราะพิษไข้
เพราะยูกิโนะก็ยังเป็นจูนิเบียวอยู่สินะ เพราะเป็นไข้เพราะเหนื่อย…ก็เลยกลายเป็นแบบนี้
“……ความช่วยเหลือ ต้องขอความช่วยเหลือ…นาย…ของฉัน…”
ยูกิโนะยืดมือออกมาจากเตียง
ริเซ็ตจับมือนั้นไว้ แต่ว่า ยูกิโนะก็สะบัดออกมาทันที
มือของยูกิโนะสั่นเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังหวาดกลัวอะไรบางอย่าง
“…นายท่าน…ของฉัน…อยู่ที่ไหน”
“…ยูกิโนะจัง ทำใจดีๆไว้”
ฮารุกะก็ทำแบบเดียวกัน แต่ว่าก็ถูกยูกิโนะปัดออกมาเหมือนเดิม
……ช่วยไม่ได้
ยูกิโนะหลับอยู่ ตอนนี้ไม่มีสติ
ดังนั้น…ถึงผมจะพูดอะไรไป ตอนที่ตื่นก็คงจำไม่ได้…บางทีนะ
ถ้าอย่างนั้น ก็ไม่เป็นไรสินะ
ขอลองช่วยสักหน่อยให้ฝันร้ายหายไปละกัน
“…ข้ารับใช้ของข้า[ยูกิโนะ คลาวดี้ ดราก้อนไชนด์]เอ๋ย”
ผมจับมือของยูกิโนะ
“ทำได้ดีมากที่มาถึงที่ของข้าได้ ข้าขอนับถือในความกล้าของเจ้า”
จากนั้นก็กระซิบที่หูของยูกิโนะเบาๆ
“…นายท่าน…ของฉัน…?”
แขนที่สั่นของยูกิโนะ หยุดลง
นิ้วบางๆจับมือของผมแน่น
“ใช่แล้ว ไม่มีอะไรให้กังวลอีกต่อไปแล้ว [ออร์กานิคดราก้อนคิง(ราชามังกรแห่งเกษตรอินทรีย์)]อยู่ที่นี่แล้ว หลังจากเวลาผ่านไป พลังอันยิ่งใหญ่ก็ได้ตื่นขึ้น ไม่รู้ตัวเลยหรือข้าได้อยู่ข้างๆเจ้าแล้ว? ต่อหน้าข้าที่ได้รับพลังอันล้นเหลือจากต่างโลกแล้ว อย่างมหาจอมมารกุเกรันบัลบารันก็ไม่อาจจะเป็นศัตรูของข้าได้…!”
“ท่านพี่โชมะ!” “ท่านพี่!?”
“ชี่—-!!”
ผมเอานิ้วแตะที่ปากมองไปที่ริเซ็ตกับฮารุกะ
ผงกผงกผงกผงก!
ทั้งสองคนพยักหน้าแล้วเอามือปิดปาก เยี่ยม
“…[นายท่านที่แท้จริง]ของฉัน”
“ใช่แล้วล่ะ [ออร์กานิคดราก้อนคิง]ได้ใช้พลังจากพื้นพิภพ…เพื่อมาเผชิญหน้ากับมารของโลกใบนี้ร่วมกับเธอแล้ว”
“…จริง เหรอ ที่ในตอนนั้น…?”
ยูกิโนะที่ยังคงหลับตาพึมพำออกมา
…แค่นี้ ยังไม่พอที่จะทำให้ฝันร้ายหายไปเหรอ
ถ้าอย่างนั้น…
“ยังจำได้สินะ? ตอนที่พวกเราได้พบกัน ใต้ต้นซากุระที่กำลังผลิบาน”
นี่คือข้อมูลที่ยูกิโนะพูดออกมา
ดังนั้นต่อให้ยูกิโนะรู้ตัวว่าเป็นผมก็ยังบอกปัดไปได้
“ผมได้โบกสะบัดผ้าคลุมแห่งความมืดเพื่อช่วยเธอเอาไว้ แล้วในที่สุดเธอก็ได้เติบโตขึ้นตามที่ผมคาดการณ์จนได้เข้าต่อสู้กับปีศาจแห่งโรคภัย ถึงแม้ว่าร่างกายจะพังทลายไปเพราะการต่อสู้นั้น แต่มารก็ไม่อาจจะทำลายตัวเธอจริงๆได้ ดังนั้น ยูกิโนะ คลาวดี้ ดราก้อนไชนด์ถึงได้มาอยู่ที่แห่งนี้ ได้รับร่างกายใหม่ เพื่อเข้าสู่การต่อสู้ที่แท้จริง…”
“……ค่ะ”
ริมฝีปากของยูกิโนะยิ้มเล็กน้อย
“ตะ แต่ว่า มันมาแล้วค่ะ! มหาจอมมารกุเกรันบัลบารัน…ตามที่เขียนในโน๊ตของฉันเลย สภาพบ้าคลั่ง…ตามที่ร่างไว้–!”
เป็นจอมมารที่คิดขึ้นมาเองหรอกเหรอฟะ! ไอ้มหาจอมมารกุเกรันบัลบารันเนี่ย
แต่ว่าแขนของยูกิโนะยังสั่นอยู่ ท่าทางจะตั้งไว้ว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมาก
…เซ็ตติ้งของจูนิเบียวก็คงจะเป็นแบบนั้นแหล่ะ
“อย่าได้หวาดกลัวไป ก็แค่ใช้พลังมารที่แข็งแกร่งกว่าอัดกลับไปก็พอ”
“…นายท่าน ที่แท้จริง!!”
“ต่อหน้าวิชาของเผ่ามารของข้า–[MAGI(วิชามาร)] จอมมารก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กทารก เจ้าก็เคยได้เห็นแล้วนี่ ในนามของ[ออร์กานิคดราก้อนคิง] มังกรมารผู้มาจากพื้นพิภะ แล้วก็หนึ่งในวิชามารของข้าจงรับไป[Absolute Scythe(มังกรสองเศียรผ่าสมบูรณ์)]…”
แล้วผมก็ส่งสายตาให้ริเซ็ตกับฮารุกะ
ท่าทางทั้งสองคนจะเข้าใจ–
“อา มหาจอมมารกุเกรันบัลบารันหายไปด้วยพลังของราชามังกรแล้วค่ะ”
“ต่อหน้าราชามังกรแห่งเกษตรอินทรีย์แล้ว เวทมนตร์อะไรก็ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆนะ”
ผมสูดลมหายใจวางฝ่ามือลงไป แล้วเสียงของทั้ง2คนก็ค่อยๆหายไป
แสดงได้ดี
แล้วพอพวกเราตั้งใจฟังดู…
“…ขอบคุณค่ะ…นาย…ท่าน…ของฉัน…”
ลมหายใจของยูกิโนะสงบลง
ดีจัง
ท่าทางฝันร้าย จะหายไปแล้ว
ผมวางมือของยูกิโนะกลับลงบนเตียง แล้วหันไปมองฮารุกะกับริเซ็ต
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วจะขอกลับบ้านนะ จนกว่าจะถึงตอนนั้นผมจะอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ถ้ามีอะไรก็เรียกได้เลย”
“เข้าใจแล้วท่านพี่ เราจะดูยูกิโนะจังให้เอง”
ไม่รู้ทำไมฮารุกะถึงพยักหน้าอย่างตื่นเต้น
“แต่ถึงอย่างนั้นนะท่านพี่ เมื่อกี้ สุดยอดไปเลยล่ะ ปัดเป่าฝันร้ายของยูกิโนะจังได้ในเวลาแปปเดียว ไปจำวิชาแบบนั้นมาจากไหนเหรอ?”
“เมื่อก่อนตอนผมมีไข้…จนฝันร้าย ก็ได้คุณตามาทำแบบเดียวกันนี้ให้น่ะ”
กำมือของผมเอาไว้แล้วพูดว่า[ฟุฮะฮะฮะ! ไม่มีอะไรน่าหวาดกลัวทั้งนั้น เจ้าคือ[คิริวโอ โชมะ]มิใช่หรือ? [ดราโกนิค อเวคกิ้ง วูล์ฟ]อยู่ที่นี่แล้ว ต่อให้จอมมารไหนๆก็ไม่น่ากลัวทั้งนั้น]ล่ะนะ
ขอบคุณมากครับคุณตา วิธีนี้ ดูเหมือนว่าถึงจะมาต่างโลกก็ยังใช้ได้อยู่…
“เข้าใจแล้วล่ะ ท่านพี่ วิชาในตอนนี้จะได้รับการสืบทอดใน[หมู่บ้านฮาซามะ]ในฐานะ[วิธีปัดเป่าฝันร้าย]ไปรุ่นต่อรุ่นค่ะ”
หยุดเถอะ จิตใจของทางนี้จะรับไม่ได้เอานะ
“ไม่ได้ค่ะ ฮารุกะ ของแบบนั้นไม่ใช่ของที่จะเอามาเปิดเผยง่ายๆค่ะ”
“เอ๋”
“ต้องเก็บเป็นวิชาลับของหมู่บ้าน…ไม่สิ ประเพณีพื้นบ้านค่ะ!”
…ดูเหมือนริเซ็ตจะต้องการทำลายจิตใจของผมจริงๆซะแล้ว
“ยิ่งกว่านั้นถ้ายูกิโนะตื่นแล้ว ก็ให้ล้างตัวด้วยล่ะ ถ้าปล่อยให่ชุ่มเหงื่อแบบนี้จะเป็นหวัดเอา น้ำร้อนผมเก็บไว้ใน[ภาชนะแห่งราชา]แล้วถ้าจำเป็นก็บอกได้เลย ช็อคโกแลต…อาหารเสริมก็มีอยู่ ตอนที่ต้องให้น้ำก็จะให้ไปพร้อมกันเลย”
ผมสั่งฮารุกะ
“แล้วก็ เกี่ยวกับที่มาของผม…”
ปิดไปก็คงจะไม่ได้แล้ว
น้ำแร่ในขวดพลาสติก ก็ให้ดื่มไปแล้วด้วยสิ ช็อคโกแลตเองก็จะเอาให้กินด้วย
แถมถ้ารู้ว่าเป็นคนจากโลกเดียวกันยูกิโนะเองก็คงสบายใจขึ้น
ตอนนี้ต้องให้ความสำคัญกับการรักษายูกิโนะก่อน
“…ถ้าถูกถามมา เรื่องที่ผมเป็นคนจากโลกเดียวของยูกิโนะ จะบอกไปก็ได้”
ผมพูดแบบนั้นแล้วก็กลับไปที่ห้องนั่งเล่นกับริเซ็ต
“ท่านพี่โชมะ ขอถามสักอย่างหนึ่งได้ไหมคะ?”
พอนั่งดื่มชาที่ห้องนั่งเล่น ก็มีริเซ็ตเข้ามาถาม
“[นายที่แท้จริง]ที่คุณยูกิโนะตามหา คือท่านพี่สินะคะ?”
“…ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“ลางสังหรณ์ของผู้หญิงค่ะ”
ริเซ็ตใช้นิ้วหมุนผมสีเงินไปมา
“…ก็ไม่ใช่ว่า ไม่มีมูลค่ะ”
“ลองพูดมาสิ”
“เมื่อกี้ตอนที่คุณยูกิโนะเรียกท่านพี่ว่า[นายที่แท้จริง]ท่านพี่ก็ตอบกลับไปแบบไม่แสดงอาการแปลกใจสักนิดเลยค่ะ ถ้าถูกคุณยูกิโนะเรียกเป็นคนอื่น อย่างน้อยปฏิกิริยาก็คงจะชะงักไปบ้าง หรือมีความรู้สึกแปลกๆในน้ำเสียงบ้างค่ะ?”
“ไม่คิดว่าผมแสดงเป็น[นายที่แท้จริง]…เลยงั้นเหรอ?”
“ใช่แล้วค่ะ”
“สายตาเฉียบคมผิดคาดเลยนะ ริเซ็ต”
“นะ น้องสาวก็ต้องคอยจับตาดูพี่ชายอยู่เสมอล่ะค่ะ ท่านพี่ก็แค่ไม่รู้เท่านั้นเองค่ะ”
โกรธอะไรน่ะ ริเซ็ต
…ไม่สิ เรื่องนี้ผมผิดเอง
พี่น้องกัน ก็ควรที่จะพูดสินะ
“ตามที่ริเซ็ตคิดนั่นล่ะ แต่ว่า ช่วยอย่าบอกยูกิโนะที”
“ทำไมเหรอคะ?”
“ทำไม…เหรอ ก็คนที่ยูกิโนะหลงไหลก็คือตัวผมในวัยเด็กยังไงล่ะ คงจะผิดหวังแย่เลย ที่[นายที่แท้จริง]ที่ตัวเองเคารพ กลายเป็นตาลุงวัยสามสิบไปซะแล้ว”
“…หา”
……เอ๊ะ?
ทำไมริเซ็ตถึงหันข้างไปถอนหายใจล่ะ?
“คือว่านะคะ ท่านพี่”
“หืม”
“คุณยูกิโนะ มาเกิดใหม่แล้วมาที่โลกนี้ในรูปร่างที่เปลี่ยนไปใช่ไหมคะ?”
“ที่เปลี่ยน ก็มีแค่สีผมเท่านั้นล่ะนะ”
“แต่ว่าท่าทางร่างกายที่อ่อนแอก็ถูกรักษาแล้วสินะคะ จะบอกว่าเป็นร่างเนื้อใหม่ ก็คงจะไม่ผิดสินะคะ?”
“ก็ถูก”
“แต่ว่าท่านพี่ก็ดูแลคุณยูกิโนะเพราะเป็นคุณยูกิโนะที่ตัวเองเคยช่วยไว้ที่โลกก่อนใช่ไหมล่ะคะ?”
“ก็ใช่อยู่หรอก คนที่ทำให้เธอกลายเป็นจูนิเบียวคือผมเอง ยังไงก็ต้องดูแลอยู่แล้ว”
“หรือก็คือสิ่งที่สำคัญสำหรับท่านพี่ ก็คือจิตวิญญาณของคุณยูกิโนะสินะคะ?”
“มันจะเป็นแบบนั้น…หรือเปล่านะ?”
“เป็นสิคะ! เป็นแน่นอนค่ะ! ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแท้ๆ…แต่ก็ยังคิดเรื่องของตัวเอง…”
“ทำไมถึงโกรธล่ะ ริเซ็ต”
“…โธ่”
แล้วทำไมถึงได้ทำแก้มป่องล่ะ
ทั้งๆมืดอยู่แท้ๆ แต่ก็เห็นชัดว่าหน้าแดง
“ไม่รู้ด้วยแล้วค่ะ โธ่”
ริเซ็ตหันไปมองข้างๆทันที
“ขอเตือนเอาไว้อย่างหนึ่งนะคะ ท่านพี่”
“เตือน?”
“ถ้าดูถูกความรู้สึกของเด็กผู้หญิงล่ะก็ ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่นอนค่ะ?”
พูดแค่นั้น ริเซ็ตก็เข้าไปข้างในห้องเพื่อเปลี่ยนตัวกับฮารุกะ–
แล้วผมก็ต้องกลับมาที่บ้านโดยที่ยังคงรู้สึกค้างคาใจ