Ch.41 – เริ่มคุ้มกัน

Translator : Reheikichi / Author

ผมเข้าหลังตรอกซอยและนำผ้าสีดำออกมาจากกระเป๋า

เมื่อใส่พลังเวทลงไปผ้าสีดำก็ขยายขึ้นจนกลายเป็นเสื้อคลุมสีดำ

 

เป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่าย่อขยาย ซึ่งมักจะถูกนำมาใช้กับอุปกรณ์เวทที่ต้องพกตกตัวบ่อยๆ แต่เพราะเป็นฟังก์ชั่นที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการติดตั้งลงไป ในหมู่ประชาชนทั่วไปจึงไม่แพร่หลายนัก นี่ล่ะคือของที่ผมได้จากองค์กร

ในหน่วยลอบสังหาร เทคโนโลยีย่อขยายได้ถูกพัฒนาขึ้นมาอย่างมากนำมาใส่ในอาวุธ ทหารในองค์กรจะสามารถย่อขยายเปลี่ยนขนาดอาวุธให้เป็นอาวุธลับได้ตามใจชอบ นี่ถือว่ามีประโยชน์มากในงานลอบสังหารเพราะเป็นสามารถทำให้จู่โจมทีเผลอได้

คู่หูของผม BF 28 เป็นหนึ่งในอาวุธที่มีฟังก์ชั่นย่อขยายอยู่ด้วย ตอนนี้กลายมาเป็นสร้อยข้อมือและติดที่ข้อมือซ้ายของผม

ผมปิดบังตัวตนด้วยเสื้อคลุมและเริ่มเคลื่อนไหวทันที

ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะจัดการเรื่องให้เสร็จก่อนมิเซ่จะออกมาจากหอพัก

ที่ตรงนั้นคือร้านกาแฟ ถ้าเป็นเวลาหลังเลิกเรียนคงคลาคล่ำไปด้วยนักเรียนไปแล้ว ผมแอบเข้าไปที่ด้านหลังร้าน

ที่นั่น―― มีคนที่แต่งตัวคล้ายผมกำลังแอบซุ่มอยู่

ผมทักชายคนนั้นจากข้างหลัง

[ แอบมาทำอะไรที่นี่แต่เช้า? ]

[ ฮะ――!? ]

ชายสวมเสื้อคลุมสีแดงส่งเสียงประหลาดใจ

ชายคนนั้นมองมาที่ผมและรีบดึงมีดยาวออกมาจากอก

เมื่อยืนยันว่าอีกฝ่าย―― นำอาวุธออกมา

จึงคิดได้ว่าอีกฝ่ายเป็นศัตรูแน่

[ ――ช้าเกินไป ]

ผมชี้นิ้วไปยังแขนของชายคนนั้นและยิง《กระสุนเวท》ออกไป

กระสุนเจาะแขนที่เขาถือมีด

เมื่อเห็นเขากำลังจะควักอะไรบางอย่างในกระเป๋า ผมจึงเตะเข้าไปที่หน้าท้อง

ชายคนนั้นกระแทกกับกำแพงข้างหลังและหล่นลงบนพื้นโดยไม่ร้องแม้แต่นิดเดียว

ในขณะเดียวกันกับที่ผมปรับลมหายใจ ‘กระดาษสื่อสาร’ ที่กระเป๋ากางเกงก็สั่น

ผมจึงหยิบกระดาษสื่อสารขึ้นมาและระวังตัวอยู่เสมอเมื่อคุย

[ คริสเหรอ? ]

[ ใช่ จะมาบอกข้อมูลให้นะ ดูเหมือนจะมีคนน่าสงสัยเข้าใกล้หอพักนักเรียน บางทีศัตรูอาจเล็งเป้าหมายระหว่างทางไปเรียนก็ได้ ]

[ ช้าไปแล้วล่ะ ผมเพิ่งจัดการเขาไป ]

[ สมแล้ว ทำได้ดีมาก ]

แม้จะเป็นภารกิจลับ แต่ก็จะได้รับข้อมูลจากองค์กรควบไปด้วย เพราะนี่เป็นภารกิจที่ได้รับมาจากองค์กรอย่างทางการ

รู้สึกถึงการทำงานในองค์กรเมื่อนานมาแล้วเลยนะ

[ ขอถามเผื่อไว้ ฆ่าได้ไหม? ]

ผมถามขณะที่มองไปยังชายที่กำลังกุมท้องเจ็บปวด

หากกำจัดเขา ก็เหมือนการบ่งบอกศัตรูว่ามีผู้คุ้มกัน

อย่างที่คาดไว้ มันยากจริงๆ นั้นแหละที่จะแอบคุ้มกันได้

[ อา ฆ่าได้เลยอย่าลังเล ]

[ รับทราบ ]

ผมชี้นิ้วไปยังหัวของชายคนนั้นและยิง《กระสุนเวท》

ชายคนนั้นจบชีวิตลงพร้อมๆ กับเสียงร้องเบาๆ ดังก้อง

[ ไว้เราจะทำลายหลักฐานให้เอง แต่อย่าลืมอำพรางหลักฐานขั้นต่ำไว้ล่ะ ]

เมื่อตอบกลับ คริสก็ตัดการเชื่อมต่อ

จากนั้นผมนำเสื้อคลุมสีน้ำตาลแดงมาคลุมศพข้างหน้าเอาไว้

เป็นการอำพรางขั้นต่ำจริงๆ

หากไม่รีบกำจัดมันก็จะส่งกลิ่นเน่า แบบนั้นคงจะเป็นปัญหา

 

――ไม่มีศัตรูคนอื่นแอบซ่อนตัวอยู่

 

จุดประสงค์ของวันนี้คือเฝ้าดู แต่นอกจากชายคนนั้นแล้วก็ไม่มีวี่แววของคนอื่นอีกเลย

ผมจึงถอดผ้าคลุมสีดำออกและส่งพลังเวทกลับมาเพื่อให้มันกลับมาเป็นผ้าผืนเล็กดั่งเดิม

 

เวลาผ่านไปประมาณสองชั่วโมง

มิเซ่ก็ออกจากหอพักนักเรียน

 

[ อ่ะ คุณทรูเอท? ]

มิเซ่หันมาหาผมและสบตากันเล็กน้อย

[ อรุณสวัสดิ์มิเซ่ ]

[ ค่ะ อรุณสวัสดิ์ค่ะ เป็นครั้งแรกเลยนะคะที่อยู่ด้วยกันสองคนแบบนี้ ]

[ พอดีถนนจากหอพักมันทางเดียวกันน่ะนะ วันนี้ผมเปลี่ยนเส้นทางนิดหน่อย มาเดินไปโรงเรียนทางนี้นะ ]

[ อา เข้าใจความรู้สึกนั้นนิดหน่อยค่ะ เดินเล่นตอนเช้ามันสดชื่นดีนี่นะคะ ]

มิเซ่พูดด้วยรอยยิ้ม

จะว่าไปก็น่าสงสัยแฮะ ทำไมกุเร็นถึงวิ่งผ่านหน้าหอพักหญิงด้วยล่ะ

ช่างมันแล้วกัน

[ มิเซ่ไปโรงเรียนเร็วแบบนี้เสมอเลยเหรอ? ]

เพราะนี่ยังเหลือเวลาอีก 30 นาทีก่อนเข้าเรียน

คิดว่าไปถึงห้องเรียนตอนนี้ก็ว่างอยู่ดี

[ ก็แบบนี้มาเกือบตลอดนะ ไม่ชอบนอนเกินเวลาด้วยนะคะ ]

[ แล้วไปถึงห้องเรียนจะทำอะไรนะ? ]

[ ในห้องเรียนก็ทบทวนบทเรียนไม่ก็ฝึกเวทมนตร์นะคะ ]

[ ขยันจังนะ ]

มิเซ่เขินเล็กน้อย

พอมาคิดดู เวลาที่ผมเข้าห้องเรียนก็เจอมิเซ่เสมอเลยนี่นะ

อย่างไรก็ตาม การไปโรงเรียนเร็วก็ไม่ดีต่อการคุ้มกัน

เพราะการเดินไปโรงเรียนใช้เวลาเพียงห้านาที นอกเหนือจากเวลานั้นอาจจะเดินไปไหนมาไหนได้ทำให้เป็นอันตราย

ทางที่ดีควรจะไปกับเธอจนกว่าถึงโรงเรียน

ขณะที่คิดแผนล่วงหน้าไว้ในใจ ผมก็เดินไปโรงเรียนพร้อมกับมิเซ่