Ch.35 – ช่วงเวลาโจมตีกลับ

Translator : Asiran / Author

 

ตอนที่****35 – ช่วงเวลาโจมตีกลับ

เกมดำเนินต่อไป อีกฝ่ายเล่นได้เปรียบขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่ตีป้อมแรกเลนล่างจนแตกแล้วก็ยังจะเดินหน้าดันเลนต่อไปอีก

นี่มันล้วงลึกไปหน่อยรึเปล่า

คนทั้งสามที่หลบอยู่ในพุ่มทนยืนมองต่อไปไม่ไหว พวกเขาทั้งสามคนทั้งเลเวลและค่าประสบการณ์ล้วนสู้อีกฝ่ายไม่ได้ ถ้าต้องไปดวลสามต่อสามก็คงจะไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่าย แต่ว่าการร่วมมือกันป้องกันป้อมก็ยังเป็นเรื่องง่ายดายมาก นาจาของอีกฝ่ายก่อนหน้านี้เปิดท่าอัลติไปแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าพวกเขาอยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ยังไม่ถอยไปแต่กลับยังอยากจะเอาป้อมต่ออีก นี่มันเห็นพวกเขาสามคนเป็นธาตุอากาศชัด ๆ เลย!

“หลอกเปล่า” เหออวี้เพิ่งจะพูดออกไปตั๊กม้อที่อารมณ์เสียสุด ๆ มาตั้งแต่ต้นเกมแล้วก็ยังรู้สึกไม่ยินยอมที่สุดด้วยก็กระโจนออกจากพุ่มพุ่งไปที่ป้อมกลางเลนล่างทันที

“ระวังนะ!” เหออวี้ตะโกนออกไปตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็นึกขึ้นมาได้ทันทีว่าตั๊กม้อเป็นเพียงคนสุ่มเจอที่ไม่ได้อยู่แถวนี้ ถ้าเขาไม่เปิดไมค์อีกฝ่ายก็ก็ไม่ได้ยินหรอก ดังนั้นจึงรีบเร่งกดสกิลหนึ่งปล่อยเหยี่ยวตัวหนึ่งออกไปให้ตั๊กม้อเห็นวิชั่นที่อยู่ตรงหน้า แปบเดียวก็เห็นกุ่ยกู๋จื่อที่เดินตัดเข้ามาจากช่องเขาด้านล่าง

การตีป้อมกลางเป็นเพียงกลยุทธ์ล่อศัตรูของอีกฝ่ายจริง ๆ ด้วย เจตนาคืออยากให้พวกเหออวี้ทั้งสามคนเข้ามากันป้อม จากนั้นก็เปิดฉากตีกันในเขตป่า ตั๊กม้อที่พุ่งไปอย่างไม่ยั้งคิดถูกอีกฝ่ายจับตัวเอาไว้ได้ กุ่ยกู๋จื่อใช้สกิลหนึ่งสองพร้อม ๆ กันรอบเดียวก็ลากเอาตั๊กม้อไปได้แล้ว ดาบปลายปืนของอาธีน่าพุ่งมาถึง นาจาก็ทะยานเข้ามาโจมตีพร้อมกับหอกเพลิงซานเจียนกับแพรหุนเทียนของเขา ตั๊กม้อที่ตอนนี้เลเวลยังไม่ถึง 4 ด้วยซ้ำไม่มีทางถอยหนีได้ เหออวี้กับเกาเกอที่อยู่ในพุ่มแต่ละคนต่างก็แตะที่สกิลคนละอย่าง แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะยอมแพ้โดยไม่ต้องปรึกษากัน หลังจากเจงกิสข่านโยนกับดักร้อยสังหารทิ้งท้ายไว้แล้วทั้งสองคนก็รีบหนีไปที่ป้อมของเลนกลาง

“ดูโชว์เหรอ” ตั๊กม้อที่นอนเป็นศพอยู่กลางป่าหงุดหงิดขึ้นมาทันที พิมพ์ถามคนทั้งสอง แล้วก็ยังเปลี่ยนช่องแชทเป็นแบบรวมอีกด้วย ดูเหมือนอยากจะพิสูจน์กับศัตรูว่าไม่ใช่ว่าตัวเองไม่ดี แต่เป็นเพื่อนร่วมทีมของตัวเองที่มันขี้ขลาดเอง

ถ้าเกิดว่านี่เป็นวันแรกที่เหออวี้เล่นเกมล่ะก็จะต้องรู้สึกว่าถูกกล่าวหาผิด ๆ แน่ นี่ไม่ใช่ว่าไม่ช่วย แต่เป็นไม่มีทางช่วยได้ต่างหากล่ะ ถึงไปก็ช่วยตั๊กม้อไม่ได้ ที่ยิ่งกว่าสู้อีกฝ่ายไม่ได้ก็คือได้แต่เพิ่มศพขึ้นมาอีกสองศพเท่านั้นเอง

แต่ว่าด้วยประสบการณ์การเล่นเกมตลอดหนึ่งสัปดาห์มานี้เหออวี้ก็เคยชินกับบรรยากาศต่าง ๆ นานาในเกมไปแล้ว ก็อย่างสำนวนที่ว่าในสายตาคนพันคนก็มีแฮมเล็ตพันแบบ* ผู้เล่น The Kings พันคนก็มีไอเดียในใจไปพันแบบเหมือนกัน ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าไอเดียของตัวเองถูกต้องที่สุด เพื่อนร่วมทีมที่ไม่คล้อยตามไอเดียตัวเองต่างก็เป็นไก่ ขี้ขลาด โง่…

ระดับ bronze เป็นแบบนี้ ระดับ silver เป็นแบบนี้ ระดับ gold เป็นแบบนี้ มาถึงระดับ conqueror ถึงแม้ว่าทุกคนจะพอมีความรู้ใจกันอยู่บ้าง อย่างตั๊กม้อที่เป็นคนสุ่มตอนแรกก็ยังเข้ามาร่วมมือกันได้ไม่เลว แต่พอหัวร้อนขึ้นมา พอมีความคิดที่แตกต่างขึ้นมา สภาวะจิตใจก็ยังเหมือนพวก bronze พวก silver ไม่มีอะไรต่างไปเลย

ศัตรูเขาไม่ได้ทะเลาะกันเอง จะมาถกกันว่าใครถูกใครผิดก็ไม่มีความหมายอะไร มันเป็นเรื่องที่จบไปแล้ว ตอนนี้ได้แต่เล่นของตัวเองให้ดีก่อน จากนั้นค่อยช่วยเพื่อนร่วมทีมหาจังหวะการเล่นให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นการหัวร้อนหรือไอเดียมีปัญหาเมื่อเข้ามาในเกมแล้วทุกคนก็มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันเสมอ : อยากชนะ

ขอเพียงชี้นำเกมไปในทิศทางที่ได้เปรียบ เดี๋ยวทุกคนก็จะค่อย ๆ มุ่งมั่นทำงานเพื่อเป้าหมายร่วมกันเองนั่นล่ะ

ดังนั้นเมื่อได้เห็นคำต่อว่าของตั๊กม้อจึงบอกได้ว่าเหออวี้ไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ เลย หลังจากเดินเข้าป้อมกลางหลบอีกฝ่ายที่เข้ามาเวดป่าแล้ว เจงกิสข่านของเขาก็เดินตามเลนตามเส้นทางที่ปลอดภัยลงไปที่เลนล่าง เคลียร์ครีปไปหนึ่งชุด

จางเฟยของเกาเกอตอนนี้ก็เริ่มที่จะคอยเฝ้าเขาอยู่ไม่ห่าง แต่ก็ถอยออกไประมัดระวังไม่ให้ตัวเองไปดูดการเงินมา

หลังจากเก็บการเงินชุดนี้ไปแล้วเหออวี้ก็ปล่อยเหยี่ยวไปหนึ่งตัว บินผ่ากลางไปที่ป่าโซนบัฟแดงของอีกฝ่าย

อีกฝ่ายตอนนี้สุขกายสบายใจมาก ตัวป่าเข้ามาเวดป่าของฝ่ายตรงข้ามฟาร์มการเงินไปได้เป็นกอบเป็นกำ ส่วนการเงินจากป่าตัวเองก็ให้แครี่กับเลนกลางแบ่ง ๆ กันไป บัฟแดงกับฟ้าก็แยกให้คนทั้งสองตำแหน่งนี้เหมือนกัน นกเหยี่ยวตัวนี้พอบินออกไปก็จับได้ว่าซุนซ่างเซียงของอีกฝ่ายกำลังตีบัฟแดงอยู่ ตัวซัพพอร์ตกุ่ยกู๋จื่อกำลังหลบ ๆ ซ่อน ๆ อยู่ในพุ่มใกล้เลนกลาง

นี่ก็แปลว่ากำลังจะมาดันเลนกลางสินะ!

มีกุ่ยกู๋จื่อเป็นตัวเปิด จางเหลียงควบคุมสนาม นาจาสนับสนุนจากแดนไกล อาธีน่าระเบิดพลัง เลนกลางเตียวฉานที่หลบอยู่ในป้อมก็รู้สึกไม่สบายใจ อีกฝ่ายดูเหมือนจะแค่กำลังรอเวลารวมพลอยู่ หลังจากฆ่าเป้าหมายโดดเดี่ยวไปแล้วก็ถือโอกาสนั้นดันป้อมต่อไปได้

กำลังรอครีปสินะ!

จังหวะการควบคุมสนามของอีกฝ่ายดีมาก สามารถฆ่าคนได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอ โดยเฉพาะทุกการโจมตีของอาธีน่ายิ่งทำให้พวกเขาได้ประโยชน์อย่างยิ่งยวด ตอนแรกฆ่าเตียวฉานเอาเฟิร์สบลัดแล้วก็เข้ามาเวดป่าโซนบัฟแดงของศัตรู แล้วก็ฆ่าแครี่ทำให้เคลียร์ป่าโซนบัฟแดงได้หมดแล้วหันไปตีป้อมอีกหนึ่งชุด หันไปที่เลนกลางฆ่าตั๊กม้อ ฆ่าหนึ่งได้ถึงสาม : ทำลายจังหวะการเล่นของศัตรู เอาบัฟฟ้ามาจากร่างของตั๊กม้อ ส่วนป่าโซนบัฟฟ้าของตัวเองก็รักษาไว้ให้เลนกลางจะได้เกิดได้เร็วขึ้น

หลังจากนั้นไปเลนบนฆ่าหลิวปัง นี่ก็เพื่อให้มั่นใจว่าจะควบคุม Abyssal Dragon ได้

ฆ่า Abyssal Dragon แล้วก็กลับไปเวดป่าโซนบัฟฟ้าของศัตรูต่อ ด้วยเลเวลที่เป็นต่อและการเงินที่ได้เปรียบทำให้ศัตรูรู้สึกหมดหวัง ไปที่เลนกลางฆ่าเตียวฉาน กลับไปที่ป่าโซนบัฟแดง ที่ไม่สามารถฆ่าเจงกิสข่านที่เดินลงเลนล่างได้คงจะเป็นข้อผิดพลาดข้อเดียวแล้ว แต่ว่าสุดท้ายก็ยังโค่นป้อมเลนล่างลงไปได้ แถมยังโค่นจังหวะการเล่นได้ด้วย เรียกได้ว่าพวกเหออวี้ล้มไม่เป็นกระบวนไปหมดแล้ว ตั๊กม้อที่หงุดหงิดที่สุดก็หัวร้อนจนเริ่มโทษเพื่อนร่วมทีม เลนกลางเตียวฉานที่ตายไปสองรอบไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าหลังจากที่เจงกิสข่านของเหออวี้ปล่อยเหยี่ยวออกมาจนส่องเห็นกุ่ยกู๋จื่อที่เลนกลางแล้วก็รีบล้มลุกคลุกคลานหนีออกมาทันที ป้อมเปิ้มอะไรก็ไม่สนอีกแล้ว

“เลนกลางอาจจะมีโอกาสนะครับ” เมื่อเห็นว่าตั๊กม้อที่เกิดใหม่แล้วกับจางเฟยต่างก็มีเลเวลถึงสี่แล้วเหออวี้ก็กล่าวขึ้นมา

“ดูก่อนว่าเตียวฉานจะกล้าไม่กล้า” เกาเกอกล่าว

ฮีโร่ทั้งสองตัวเดินจากเลนล่างไปที่ป้อมเลนกลาง แต่ก็ไม่ได้โผล่หน้าออกไปทันที ต่างก็รวมตัวก็ซ่อนในพุ่มด้านหลังกำแพงหลุม Dark Slayer

ครีปเลนกลางทั้งสองฝ่ายค่อย ๆ เดินไปชนกันตรงกลาง ก็เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เลนล่างนั้นแหละ นี่เป็นการรวมตัวบุกม้วนเดียวจบ ครั้งนี้เหออวี้มีเพียงความคิดเดียวในใจ นั่นก็คือต้องรอด และในรอบนี้ซึ่งทั้งตั๊กม้อและจางเฟยล้วนมีท่าอัลติแล้วทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะสู้กลับแล้วในที่สุด ส่วนเรื่องที่ว่าดาเมจไม่พอนั้นก็ให้ป้อมมาช่วยเสริมก็ได้ อีกฝ่ายตั้งใจโจมตีป้อมอย่างดุดัน นี่ก็คือโอกาสของพวกเขาแล้ว ขอเพียงเตียวฉานไม่ขี้ขลาดเกินไปแต่กล้าต้านรับการบุกจู่โจมป้อมของอีกฝ่ายก็พอ

รวมตัว!

เกาเกอส่งสัญญาณไปที่ใต้ป้อมเลนกลาง แม้ว่าฮีโร่ของเธอกับเหออวี้จะยังซ่อนตัวอยู่ในพุ่ม แต่ว่านี่มันก็แค่เพื่อหลีกเลี่ยงจากวิชั่นของอีกฝ่ายเท่านั้น รอบนี้จะบวก สัญญาณที่เกาเกอส่งออกไปก็เพื่อเตือนเพื่อนร่วมทีม

เลนกลางเตียวฉานถอยหลบออกไปแล้ว แต่หลังจากเห็นสัญญาณจากเกาเกอก็เหมือนจะเข้าใจเจตนาของเธอ เริ่มขยับเขยื้อนไปข้างหน้าเล็กน้อย

ครีปเลนกลางตอนนี้ก็เริ่มจะตีกันแล้ว เตียวฉานไม่ออกจากป้อม ได้แต่มองครีปน้อย ๆ ของตัวเองถูกอีกฝ่ายฆ่าทิ้งสบาย ๆ อย่างทำอะไรไม่ได้ จากนั้นครีปของอีกฝ่ายก็เริ่มเดินมาข้างหน้าโดยมีจางเหลียงเฝ้าจากด้านหลัง

นี่ถึงเวลาที่ต้องแสดงละครแล้ว เห็นเพียงเตียวฉานที่ยังลังเลอยู่ จะก้าวไปข้างหน้ามาก  ๆ ก็ไม่กล้า ไม่เคยเดินออกมาจากระยะป้องกันของป้อมเลย เพียงเฝ้าอยู่ในป้อมโยนบอลดอกไม้ออกมา เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูเหมือนไม่คิดที่จะเดินหน้ามาอีกก็มีความกล้ามากขึ้น ก้าวมาข้างหน้าอีกสองก้าว

ขืนรอนานเกินไปครีปถูกฆ่าหมด จะ dive เข้าไปฆ่าคนในป้อมก็ไร้ความหมาย อีกฝ่ายย่อมไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น ในที่สุดกุ่ยกู๋จื่อก็พุ่งออกมาจากพุ่ม ใช้มุกเดิม ๆ ก็คือเงาร่างเลือนรางนั่น ที่แตกต่างกันก็คือมีเงาร่างเลือนร่างมากกว่าหนึ่ง

แม้แต่จางเฟยของเกาเกอยังมีเลเวลถึงสี่แล้ว อย่าว่าแต่กุ่ยกู๋จื่อของอีกฝ่ายเลย

ตอนนี้กุ่ยกู๋จื่อพุ่งออกมา สกิลที่สองหมื่นชีวิตมีวิญญาณเปิดขึ้นมาพร้อมกับท่าอัลติทำนาย.หมอกซ่อน ท่าอัลตินี้ทำให้เพื่อนร่วมทีมของกุ่ยกู๋จื่อถูกปกคลุมไปด้วยลูกไฟวิญญาณ ทำให้เข้าสู่สภาวะล่องหนไปพร้อม ๆ กันแล้วก็ยังเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่อีกด้วย ตอนนี้กุ่ยกู๋จื่อไม่ได้ยิงออกไปเพื่อดึงคน แต่เป็นการพุ่งออกมาพร้อม ๆ กับเพื่อนร่วมทีมต่างหาก

เตียวฉานที่เตรียมพร้อมอยู่แล้วมีปฏิกิริยารวดเร็วมาก รีบใช้สกิลที่สองพุ่งถอยหลังไปทันที

แต่ครั้งนี้กุ่ยกู๋จื่อนอกจากจะมีท่าอัลติแล้ว Flicker ก็หมดคูลดาวน์แล้วเหมือนกัน Flicker ออกไปตรงตำแหน่งที่เตียวฉานเพิ่งจะวาร์ปไปในทันที

ดึง!

จังหวะการใช้สกิลของกุ่ยกู๋จื่อถือว่าแม่นยำมาก ลูกไฟวิญญาณเพิ่งจะรวมตัวเสร็จก็เอาไปดึงตัวเตียวฉานแล้ว ผลก็คือตอนนั้นเองร่างของเตียวฉานก็มีแสงสว่างเรืองรองขึ้นมา

Purify!

ฮีโร่เตียวฉานตัวนี้สกิลที่สองก็เป็นวาร์ปอยู่แล้ว ดังนั้นปกติแล้วก็เลยจะไม่เลือกสกิลชาเลนเจอร์เป็น Flicker แต่ว่าจะเลือก Purify ซึ่งจะล้มล้างผลของดีบัพและการควบคุมทั้งหมดแล้วก็ยังต้านทานสกิลควบคุมได้ต่ออีก 1.5 วินาที เช่นนี้เองการร่ายรำของนางก็จะไม่ถูกสกิลควบคุมขัดขวางเอาไว้ได้ แค่การใช้ Purify ครั้งนี้ก็ทำให้หมื่นชีวิตมีวิญญาณของกุ่ยกู๋จื่อไร้ประโยชน์ไปเลย แต่ว่าคนอื่น ๆ ที่กุ่ยกู๋จื่อปกป้องไว้ก็บุกมาถึงใต้ป้อมแล้วเหมือนกัน เสียงหวีดหวิวจากดาบปลายปืนของอาธีน่าดังขึ้นมาแล้ว ท่าอัลติของจางเหลียงอักษรวิญญาณ.ควบคุมก็ถือไว้ในมือแต่ยังไม่ได้ปาออกไป เห็นได้ชัดว่ากำลังรอให้ช่วงเวลาต้านทาน 1.5 วินาทีของ Purify ผ่านไปก่อน เตียวฉานตัวคนเดียวยังไงก็ไม่มีทางรอดชีวิตไปได้อยู่ดี

“โชคร้ายจัง เล่นเป็น!” เกาเกอถอนหายใจคำหนึ่ง ท่าอัลติของจางเหลียงยังไม่ยอมปล่อยออกมาเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนิดหน่อยจริง ๆ แต่ว่าสถานการณ์ในขณะนี้ก็ยังยอมรับได้

“บวก!” เกาเกอเรียกคำหนึ่งแล้วก็เริ่มต้นการโจมตีกลับของพวกเขาออกมา

………………………………………………………………………….

*There are a thousand Hamlets in a thousand people’s eyes (一千个人眼中就有一千个哈姆雷特) Hamlets เป็นนิยายโศกนาฏกรรมที่ดังโคตร ๆ ของเชกสเปียร์ สำนวนนี้ความหมายคือในบทความเรื่องหนึ่งคนทุกคนก็ตีความได้ไม่เหมือนกันเลย อย่าเห็นว่าเป็นสำนวนที่อ้างถึงนิยายอังกฤษก็เลยนึกว่าเป็นสำนวนอังกฤษนะคะ นี่เป็นสำนวนจีนแท้ ๆ ไม่มีชาติอื่นเขาใช้กันเลยละค่ะ