Ch.36 – การปะทะกันของความตระหนักรู้
Translator : Asiran / Author
ตอนที่****36 – การปะทะกันของความตระหนักรู้
เสียงที่ตะโกนขึ้นมานี้มีเป้าหมายอยู่ที่หลิวปังในเลนบน โจวม่อตั้งอกตั้งใจเตรียมการมาแต่แรกแล้ว แทบจะพร้อม ๆ กับที่เกาเกอส่งเสียงออกมา หลิวปังก็ได้เริ่มเปิดท่าอัลติ
ควบคุมสนามรบ!
หลิวปังยืนร่ายเวทอยู่กับที่ แต่ว่าบัฟที่ร่ายไปกลับมอบให้กับเตียวฉานที่เฝ้าป้อมอยู่ตรงเลนกลาง บนร่างของเตียวฉานปรากฏโล่ขึ้นมาซึ่งจะช่วยลดดาเมจที่นางได้รับไป 40% เตียวฉานที่อยู่ใต้ป้อมเองก็เปิดท่าอัลติของนางออกมาในเวลานี้เหมือนกัน วายุผกาเบ่งบาน กระจายตัวเป็นวงคลื่นรอบ ๆ ร่างของนาง
อักษรวิญญาณ.ควบคุม!
จางเหลียงของอีกฝ่ายปล่อยท่าอัลติที่จงใจกั๊กเอาไว้ออกมาในที่สุด
การที่หลิวปังเปิดท่าอัลติวาร์ปออกมาแบบนี้พวกเขาก็ไม่ได้ประหลาดใจเลยสักนิด ท่าที่สำคัญที่สุดของฮีโร่ตัวนี้ก็คือตอนที่เขาใช้ท่าอัลติออกมานี่แหละ เพียงแต่ว่าตอนนี้มีพวกเขาสี่คนรุมกันอยู่ใต้ป้อม แค่ท่าอัลติอันเดียวของหลิวปังพวกเขาก็ไม่คิดว่ามันจะช่วยพลิกเกมอะไรได้ ระยะเวลาที่หลิวปังต้องใช้ในการวาร์ปอยู่ที่ 2.2 วินาที ผลควบคุมสนามจากท่าอัลติของจางเหลียงก็นาน 2 วินาทีเหมือนกัน ในระยะเวลา 2 วินาทีนี้ถึงแม้ว่าเตียวฉานจะได้รับบัฟจากท่าอัลติของหลิวปังก็ยังไม่อาจทนรับดาเมจที่พวกเขารุมประเคนให้ได้ — เตียวฉานที่ถูกควบคุมเอาไว้ไม่มีทางใช้สกิลของตัวเองเพื่อดูดเลือดกลับคืนได้เลย
แต่ว่าจางเฟยของเกาเกอก็ได้ออกมาจากป่าในตอนนั้นเอง
พิทักษ์องค์กร!
สกิลที่สองของจางเฟยกระโดดข้ามกำแพงพุ่งเข้าสู่สนามรบตรง ๆ จากนั้นก็ตามมาด้วยการเปิดท่าอัลติ:กล้าหาญอย่างบ้าคลั่ง!
เสียงพายุคำรามดังขึ้นมา ท่าอัลติของเกาเกอนี้เห็นได้ชัดว่าเลือกมุมเปิดใช้อย่างระมัดระวังเพื่อให้พัดถูกเป้าหมายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ต้องพัดไปโดนจางเหลียงเพื่อที่จะตีขัดท่าอัลติควบคุมสนามของจางเหลียง
วัตถุประสงค์ของเธอประสบความสำเร็จ ในหมู่ศัตรูสี่คนที่เข้ามาโจมตีมีอยู่สามคนที่ถูกพายุพัดใส่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจางเหลียงที่ยืนอยู่ริมระยะของป้อมกำลังควบคุมตัวเตียวฉานอยู่ พอโดนพายุลูกนี้พัดเข้าใส่ก็พัดจนเขาเข้าไปอยู่ในระยะป้อมเลย
ท่าอัลติควบคุมสนามของจางเหลียงถูกตีขัด เตียวฉานจึงได้เริ่มร่ายสกิลที่สอง*ของนางออกมา ใช้สกิลที่หนึ่งส่งบอลดอกไม้ออกมา แล้วก็พยายามส่งไปยังตำแหน่งที่ศัตรูอยู่รวมตัวกันหนาแน่นที่สุดอีกด้วย และที่ว่าศัตรูนี้ก็ไม่ได้หมายถึงแต่เพียงฮีโร่ศัตรู แต่ยังรวมถึงครีปตัวเล็ก ๆ ที่กำลังตีป้อมอยู่ด้วย สกิลติดตัวของเตียวฉานคือวจี.รอยบุปผา ก็คือเมื่อใช้สกิลโจมตีโดนแล้วเป้าหมายจะติดตราประทับแห่งบุปผา หลังจากโดนตราประทับครบ 4 ครั้งจะระเบิดออกแล้วเติมเลือดให้ตัวเอง 100 หน่วยและในเวลาเดียวกันก็ทำให้ศัตรูที่อยู่โดยรอบโดนทรูดาเมจเจาะเกราะอีกทั้งยังลดความเร็วเคลื่อนที่ลงไป 90% อีกด้วย…
การคงอยู่ของครีปทำให้ตราประทับแห่งบุปผาของเตียวฉานเติมจนครบในพริบตาเดียว พลังโจมตีที่ระเบิดออกมาในทันทีนั้นน่าประทับใจเป็นอย่างมาก จางเฟยที่ใช้ท่าอัลติไปแล้วก็อยู่ในร่างกลายร่าง เขาที่เดิมทีมีความสามารถในการป้องกันดีเยี่ยมอยู่แล้วหลังจากที่กลายร่างแล้วก็มีความสามารถในการโจมตียอมเยี่ยมสุด ๆ ไปเลยเหมือนกัน สกิลหนึ่งที่ใช้หลังจากแปลงร่างแล้วพุ่งเข้าใส่ฮีโร่ศัตรูอย่างดุดัน
นี่จึงเป็นจุดประสงค์ของท่าอัลติคำรามของจางเฟย ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อผลัก แต่ยังมีผลสตัน 1.5 วินาทีอีกด้วย เตียวฉานกับจางเฟยโจมตีชุดนี้ทำร้ายพวกเขาอย่างสาหัส ไม่มีช่องว่างให้หลบเลี่ยงได้เลย พวกเขาตระหนักแล้วว่าเพราะว่ามีจางเฟยชักใยอยู่เบื้องหลังทำให้การโจมตีชุดนี้มันผิดพลาดไปหมด ตอนนี้ไม่ได้คิดว่าจะสู้ต่อไปยังไงกันแล้ว แต่เป็นคิดว่าจะหนียังไงมากกว่า
ผลก็คือตอนนี้เองตั๊กม้อที่อารมณ์บูดมานานที่สุดก็ได้โผล่ออกมาจากป่าด้านซ้ายมือโยนสกิลหนึ่งทะลุกำแพงเข้าไปในป้อม หมัดนี้ชกเข้าใส่นาจาที่มาถึงแล้ว ทำให้นาจาลอยขึ้น 0.5 วินาที ตามมาด้วยหมัดอีกหมัดหนึ่ง ซึ่งก็คือท่าอัลติของตั๊กม้อ : มันตรา.โปรดสัตว์
หมัดที่แรงโคตร ๆ หมัดนี้มีระยะไกลมาก อย่าว่าแต่นาจาที่อยู่ใกล้ ๆ เลย แม้แต่จางเหลียงก็ยังโดนหางเลขไปด้วย โดนชกจนกระแทกเข้ากับกำแพง โดนกระแทกใส่กำแพงรอบนี้ก็ติดสตัน 1.5 วินาที เชื่อมกับเวลาควบคุมสนามของจางเฟยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฮีโร่สามตัวของอีกฝ่ายในเวลาเพียงแค่เกือบ ๆ สามวินาทีก็แทบจะกลายเป็นท่อนไม้กันหมดแล้ว เตียวฉานที่อยู่ในวงเวทของตัวเองก็ยังคงทำดาเมจต่ออย่างบ้าคลั่ง ตั๊กม้อส่งสกิลสองชกหมัดชุดใส่คน จางเฟยที่กลายร่างแล้วก็ชกหมัดรัว ๆ และหลิวปังก็วาร์ปมาถึงสนามรบในที่สุด เริ่มวิ่งเข้าไปแย่งกันคิล
เหออวี้ตอนนี้น้ำตานองหน้า เจงกิสข่านของเขาพุ่งตามจางเฟยออกมา เพียงแต่ว่าจางเฟยคำรามผลักเป้าหมายออกไป ทำให้เขาไม่สามารถจะเริ่มทำดาเมจได้ทันทีแต่ยังต้องวิ่งตามเข้าไปอีกหลายก้าว
ผลก็คือท่าอัลติของจางเฟยที่ร้องคำรามออกไปนั่นโดนอีกฝ่ายไปสามคน แต่ว่าตัวดาเมจหลักอย่างอาธีน่านั่นในพริบตาเดียวกับที่จางเฟยเปิดท่าอัลติออกมาก็ได้ใช้โล่จากสกิลที่หนึ่งของตัวเองชาร์จหนีท่าอัลติของจางเฟยไปได้ ตามมาด้วยหอกแทงทะลุพุ่งไปพุ่งมา เหออวี้ตระหนักทันทีว่าไม่ได้การแล้ว
เห็นได้ชัดว่าอาธีน่าไม่พร้อมที่จะ dive เข้าป้อมไปช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม นี่มันอยากจะมาหาฉันนี่หว่า!
ตอนนั้นเองเหออวี้ก็ได้แสดงถึงเจ้าสิ่งที่เรียกว่าการควบคุมจากจิตใต้สำนึกขึ้นมา เจงกิสข่านที่อีกก้าวเดียวก็จะถึงระยะโจมตีจากดาบปลายปืนของอาธีน่าแล้วชะงักฝีเท้าลงอย่างกะทันหันแล้วกลับหลังหันวิ่งหนี อาธีน่าพยายามจะไล่ตามไปอีกก้าว เจงกิสข่านก็มุดเข้าไปในพุ่มหลังหลุม Dark Slayer ทันที อาธีน่าไม่มีวิชั่นแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้แต่ก้าวมาข้างหน้าต่อ
หลังจากที่เจงกิสข่านเข้าพุ่มแล้วจะมีความเร็วเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 40% อยู่ 2 วินาที นี่เป็นผลดีต่อการหลบหนีการตามล่าของศัตรูมาก ออกจากพุ่มมาได้ไม่นานก็ยังมีพุ่มที่อยู่ด้านข้างหลุมบัฟแดงให้เดินผ่านอีก หลังจากเพิ่มความเร็วแล้วก็อยู่ห่างจากป้อมกลางเลนล่างไม่ไกลแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่เหออวี้ตระหนักได้ถึงเส้นทางหลบหนี เมื่อเห็นว่าอาธีน่าไล่ตามมาจากข้างหลัง เหออวี้ก็ลังเลเล็กน้อย หลังจากออกจากพุ่มแล้วก็ไม่ได้เดินไปต่อ แต่กลับให้เจงกิสข่านวิ่งไปทางด้านขวา
“นายทำไร” ทีมไฟต์ในเลนกลางไม่มีอะไรให้ลุ้น ตอนนี้เกาเกอจึงได้มีเวลาว่างมาสนใจเหออวี้ เมื่อเห็นว่าเจงกิสข่านหลังออกจากพุ่มแล้วไม่ยอมเข้าป้อมก็อึ้งไปทันที
“กลับป้อมไม่มีประโยชน์” เหออวี้กล่าว
จากนั้นเกาเกอจึงได้เห็นตำแหน่งของอาธีน่าฝ่ายตรงข้ามแล้วก็เข้าใจขึ้นมาทันใด ตอนที่อาธีน่าไล่ตามมาในพุ่มเห็นได้ชัดว่าเดินเฉไปทางซ้าย เขาคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเจงกิสข่านจะต้องหนีไปป้อมกลาง ดังนั้นจึงได้วางแผนที่จะตัดผ่านจากทางซ้ายมือตรง ๆ ไปดักรอ ถึงแม้ว่าเจงกิสข่านจะมีพุ่มสองพุ่มให้เร่งความเร็วได้ แต่ก็ยังเป็นไปได้มากกว่าจะถูกดักทัน ถึงแม้ว่าจะสามารถกระเสือกกระสนดิ้นรนเข้าป้อมไปได้ แต่นี่เป็นอาธีน่าที่นำหน้าทั้งการเงินและการควบคุม dive เข้าป้อมตัวคนเดียวไปฆ่าเจงกิสข่านของเหออวี้เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
ผลก็คือเหออวี้เลือกที่จะวิ่งหนีไปทางขวา เห็นได้ชัดว่านี่อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ของอาธีน่า เขาหันกลับมาและไล่ตามไปทางขวาทันที ไม่ยอมที่จะปล่อยเหออวี้ไปเป็นอันขาด
ใครจะนึกว่าเหออวี้กลับทำสิ่งเหนือความคาดหมายอีกครั้ง เจงกิสข่านวิ่งไปทางขวามือได้เพียงสองก้าวจู่ ๆ ก็หันหลังกลับแล้วเดินไปทางซ้ายล่าง
“นายทำอะไรอีก” เกาเกอไม่เข้าใจอีกแล้ว
“ล้อมเขา!” เหออวี้ร้องออกมา
ทีมไฟต์ที่ใต้ป้อมเลนกลางก็เกือบจบแล้ว กุ่ยกู๋จื่อกับจางเหลียงตายตาม ๆ กันไป เหลือเพียงนาจาที่ยังต่อต้านอยู่ แต่โดนฮีโร่สี่ตัวโจมตีก็อยู่ได้แค่วินาทีสองวินาทีเท่านั้นแหละ แมวของชเรอดิงเงอร์นี่สกิลเพลย์ดีกว่าการเงินก็สูง แต่ก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้กับคนตั้งมากมายขนาดนี้ในเวลาเดียวกัน ที่เขาไล่ฆ่าเจงกิสข่านอยู่นี่ที่จริงแล้วก็ถือว่าเสี่ยงพอสมควร พวกเกาเกออาจจะเข้ามาสนับสนุนแล้วล้อมเขาอยู่ในป่าเมื่อไหร่ก็ได้
เพียงแต่จากแนวความคิดที่เขามีมาก่อน การฆ่าเหออวี้ที่กำลังถอยหนีไปทางเลนล่างเป็นเรื่องที่ปลอดภัยสุด ๆ แต่กลายเป็นว่าเพราะเหออวี้เดี๋ยวก็เดินขวาเดี๋ยวก็เดินซ้ายอย่างสับสนทำให้เขาต้องมาอยู่กลางป่าโดยไม่รู้ตัว เป็นตำแหน่งที่ขึ้นก็ไม่ได้ลงก็ไม่ได้ สูญเสียจังหวะการเล่นไปนิดเดียวเขาก็ถูกล้อมเอาไว้หมดแล้ว เกาเกอกับโจวม่อได้ยินที่เหออวี้ร้องออกมาก็ได้รู้เจตนาของเขาล่วงหน้าแล้ว เดินมากันไว้จากป่าด้านบน เตียวฉานกับตั๊กม้อไม่ได้ยินที่เหออวี้พูด แต่เพียงแค่มองดูสถานการณ์ ณ ขณะนี้ก็รู้แล้วว่าต้องทำอะไร รีบวิ่งเข้าไปจากป่าด้านล่างด้วยกัน
อาธีน่าดูเหมือนจะรู้ตัวแล้วว่าผิดท่า เขาที่เคลื่อนที่ไปทางขวาบน ตอนนี้ไม่คิดที่จะฆ่าเจงกิสข่านอีกแล้วแต่ว่าอยากจะใช้สกิลที่หนึ่งทะลุผ่านกำแพงหลุม The Dark Slayer ไป ใครจะนึกว่าพอเคลื่อนตัวไปในทิศทางนั้นก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา โดนกับดักร้อยสังหารไปหนึ่งอันทำให้เคลื่อนที่ได้ช้าลงนิดหน่อย ตามมาติด ๆ ด้วยจางเฟยกับหลิวปังที่ปรากฏตัวขึ้นมาในวิชั่นของเขาแล้ว หลิวปังที่กดสกิลที่สองเตรียมไว้แล้วฟาดกระบี่ออกมา อาธีน่าก็ไม่เก็บสกิลที่หนึ่งไว้ข้ามกำแพงหลุม The Dark Slayer แต่เปิดเดินทัพศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาทันที ใช้โล่กันการควบคุมจากกระบี่นี้ของหลิวปังแล้วทิ้งระยะออกไป จากนั้นมุดเข้าพุ่มอยากให้อีกฝ่ายสูญเสียวิชั่นไปชั่วคราว ไหนเลยจะคิดว่าในพุ่มนี้ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง เป็นกับดักร้อยสังหารอีกอันที่แสดงตัวออกมา
ร่างของอาธีน่าปรากฏตัวขึ้นมากลางพุ่มในทันใด ลูกศรของเจงกิสข่านก็ได้แล่นมาหาเขาแล้ว อาธีน่าใช้หอกแทงทะลุพยายามเข้าไปใกล้เจงกิสข่าน แต่ว่านี่เป็นเป็นสิ่งที่เหออวี้คาดการณ์เอาไว้แต่แรกแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เขาก้าวมาทางขวาก็ได้ถอยหนีไปทางขวารักษาระยะ ตอนที่อาธีน่าใช้หอกแทงทะลุออกมา เจงกิสข่านก็ได้หยุดการโจมตีและถอยหนีไปแต่แรกแล้ว
อาธีน่าที่โดนกับดักร้อยสังหารเข้าไปจะอย่างไรก็เดินได้ช้าลงนิดหน่อย หลิวปังกับจางเฟยตามมาทันทำให้เขาสูญเสียโอกาสที่จะไล่ตามเจงกิสข่านไปได้โดยสิ้นเชิง หลังจากนั้นเจงกิสข่านก็ยืนทำดาเมจต่อ ผู้เล่นหลักที่กำหนดจังหวะการเล่นของอีกทีมคนนี้ในที่สุดก็สิ้นชีพลงใต้คมศรของเจงกิสข่าน
………………………………………………………..
*ความจริงอันนี้มันเป็น “สกิลหนึ่ง” แต่คุณผีเสื้อพิมพ์เป็นสกิลสองไม่แน่ใจว่าพิมพ์ผิดหรือหมายความว่านี่เป็นสกิลอันที่สองที่ตัวละครนี้ใช้ ดังนั้นก็คงไว้อย่างนี้ไปแล้วกันค่ะ