ตอนที่ 1145 - แผนร้อยป

The Divine Nine Dragon Cauldron

เทพกิเลนเบ้ปากตอนนี้มันมีแค่เสี้ยวพลังเทพราวกับทารกแรกเกิด มันไม่ได้ทรงพลังไปกว่าอสูรเนรมิตรเลย แล้วมันจะทนรับพลังของราชาเขตกลางได้รึ?
  ต่อหน้าพลังระดับนี้มันทำอะไรไม่ได้ แต่ก็มีบางคนก้าวเข้ามาทันเวลา
  ตู้ม!
  กระบี่เยือกเย็นพุ่งออกมาจากถ้ำ
  รังสีกระบี่อันเกรี้ยวกราดบดขยี้ทุกสิ่งในเส้นทาง
  ปั้ง!
  คลื่นพลังอสูรถูกหั่นเป็นสองเสี้ยวด้วยกระบี่
  ในถ้ำสตรีงามในชุดขาวเผยใบหน้าออกมา นางดูเหมือนกับปิงหวูชิง
  แต่เมื่อเทียบกันแล้วนางดูเป็นผู้ใหญ่กว่า เติบโตกว่า และงดงามยิ่งกว่า!   นางคือเจี๋ยนอู๋เชิงผู้ที่เป็นราชินีแห่งเขตกระบี่ไร้ใจ!
  “คารวะท่านกิเลนข้ามีนามว่าเจี๋ยนอู๋เชิง ข้าได้รับคำชี้แนะจากท่านเมื่อร้อยปีก่อน วันนี้ข้าจะมากำจัดอสูรโสโครกให้ท่าน!”
  เจี๋ยนอู๋เชิงโค้งคำนับให้เทพกิเลน
  เทพกิเลนพยักหน้าด้วยความพอใจ
  “ข้าดีใจที่เจ้ายังจำคำสัญญาเมื่อร้อยปีก่อนได้!”
  เมื่อร้อยปีก่อนปรมาจารย์กระบี่รับรู้ได้ถึงการเติบโตของนางที่ได้มาถึงระดับเซียนหลังกลับจากแดนมณี จนถึงเวลานี้ นางยังคงเป็นตำนานของจิวโจว
  บางคนกล่าวว่านางได้เป็นเซียนเพราะพบโอกาสล้ำค่าในกระโจมเทพสวรรค์แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่านางเจออะไร
  มีเพียงเจี๋ยนอู๋เชิงคนเดียวที่รู้ว่าที่นางประสบความสำเร็จได้ทุกวันนี้ก็เพราะหมาดำที่แท้จริงคือเทพกิเลน  “ราชาเขตอีกคนรึ?”
  ราชาเขตกลางถอนหายใจแรงเหลือบมองเจี๋ยนอู๋เชิงด้วยความเหยียดหยามจากนั้นเขาก็หันไปหาเทพกิเลนพร้อมกับหรี่ตา
  “ข้าสัมผัสบางอย่างที่คุ้นเคยจากเจ้าได้!”
  เทพกิเลนยิ้มเย้ยหยัน
  “ศิษย์ข้าเจ้าลืมอาจารย์เจ้าได้รวดเร็วเช่นนี้เชียวหรือ?”
  แสงสีม่วงเปล่งประกายเทพกิเลนได้แปลงกายเป็นบุรุษ
  เขาคือชายชราท่าทางปกติที่มักจะถูกลืมได้ในกลุ่มคนทั่วไป
  แต่การปรากฏตัวของเขาทำให้หลายคนตกตะลึง
  “ท่านเฉินอี้เจิง?”
  “ไม่นะ!เป็นไปไม่ได้! เขาคือเฉินอี้เจิง…ราชาแห่งจิวโจวเรอะ?”   “เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?ข้าจำได้ว่าท่านเฉินอี้เจิงตายไปแล้ว!”
  มีเพียงซือหยูที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกจากนั้นเขาก็พูดชื่อที่เกือบจะลืมไปแล้ว
  “ไม่ได้เจอกันนานนะท่านผู้เฒ่า!”
  ชายแก่ผู้นี้คือฟางไห่เซิงที่เป็นผู้ดูแลตำหนักหยินหยูเขาเกิดจากเสี้ยววิญญาณของเฉินอี้เจิง
  และตอนนี้เขาก็ได้มาอยู่ในจิวโจวอีกครั้ง
  ราชาเขตกลางเบิกตากว้างเขาพูดด้วยความตกใจและสับสน
  “เป็นเจ้าเองสินะเฉินอี้เจิง!”
  นั่นก็หมายความว่าเทพกิเลนเคยเปลี่ยนตัวเองเป็นเฉินอี้เจิงใช่ไหม?
  ไม่สิเฉินอี้เจิงน่ะตายไปแล้ว!
  สิ่งที่เปลี่ยนตัวเองเป็นเฉินอี้เจิงน่าจะเป็นเสี้ยวพลังเทพของเทพกิเลน
  เฉินอี้เจิงหมาดำ และกิเลนน้อย ทั้งหมดคือส่วนหนึ่งในพลังของเทพกิเลน!
  “หึหึ!หลังข้าตายก็มีพวกต่างโลกพยายามจะช่วงชิงโลกใบนี้ โชคดีที่ข้ามีสหายช่วยหยุดผู้บุกรุกพวกนั้นมาหลายปี หลายร้อยปีก่อน สหายคนหนึ่งบอกข้าว่ามีเสี้ยววิญญาณเทพจากต่างแดนแอบเข้ามาที่นี่และคิดชิงมันไป ข้าเลยแปลงกายเป็นเฉินอี้เจิงเพื่อหาคนที่อยู่เบื้องหลัง!”
  ไม่ว่าใครที่คิดจะขายจิวโจวจำเป็นต้องรวบรวมจิวโจวทั้งเก้าเขตให้เป็นปึกแผ่นเสียก่อน
  และถ้าหากเฉินอี้เจิงผนึกจิวโจวได้เสี้ยววิญญาณเทพจากต่างแดนก็จะต้องเข้ามาสร้างปัญหาอย่างแน่นอน
  “ข้าคิดไว้แล้วว่าควรจะเป็นจ้าวผาบั่นภูติข้าจึงระแวงมันมาโดยตลอด ข้าไม่เคยคิดเลยว่าทรราชย์จะเป็นเจ้า ศิษย์ข้า!”
  เทพกิเลนกล่าวด้วยความรู้สึกหลากหลาย  “เจ้าปิดบังตัวเองได้ดีนัก!เจ้ามีพรสวรรค์คนข้าคิดจะให้จิวโจวกับเจ้าถ้าเจ้าไม่เผยตัวมาก่อน! น่าเสียดายนัก! ข้าไม่คิดเลยว่าศิษย์มากฝีมือของข้าจะเป็นคนจากต่างโลก!”
  เทพกิเลนมิได้เดาผิดคนที่คิดจะชิงโลกใบนี้จะต้องแข็งแกร่งมาก จ้าวผาบั่นภูติที่เพิ่งจะมาถึงจิวโจวนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นเขาจึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัยหมายเลขหนึ่งของเทพกิเลน
  ราชาเขตกลางพูดหลังจากหายใจเข้าลึกเมื่อได้ฟังเทพกิเลน
  “เช่นนั้นก็แสดงว่าสงครามเมื่อร้อยปีก่อนถูกจัดฉากโดยเจ้าสินะ?”
  “ถูกต้อง!”
  เทพกิเลนตอบ
  “ถ้าข้าไม่สร้างโอกาสให้เจ้าเจ้าทำลงมือกับข้าหรือ?”
  ราชาเขตกลางส่ายหน้า
  “ไม่!”   ราชาจิวโจวแข็งแกร่งมากในเวลานั้นเขาจะไม่มีวันลงมือทำนอกแผนหากจะแน่ใจ
  การต่อสู้ครั้งใหญ่ระหว่างมนุษย์และภูติผีเมื่อร้อยปีก่อนทำให้เขามีโอกาสเหมาะที่จะจู่โจมเฉินอี้เจิง
  “อุบายเจ้าหลักแหลมนัก!”
  ราชาเขตกลางไม่รู้ตัวเลยไม่มีใครคิดว่าสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เมื่อร้อยปีที่แล้วจะถูกจัดฉากโดยเฉินอี้เจิงที่พยายามจะลวงทรราชย์ให้ออกมา
  เทพกิเลนตอบด้วยรอยยิ้ม
  “คนอื่นก็ชมข้าอยู่เรื่อย!”
  “เจ้าวางแผนเรื่องนี้มาตลอดร้อยปีใช่ไหม?”
  ราชาเขตกลางถาม
  เทพกิเลนพยักหน้าอย่างภาคภูมิใจ
  “หึหึ!แน่นอน! เทพที่ตายแล้วอย่างข้ามีแหล่งพลังเทพเพียงไม่มาก ถ้าข้าผลีผลาม เจ้าก็จัดการข้าได้ไม่ยาก! ดังนั้น พอข้าสัมผัสพลังที่เจ้าซ่อนเอาไว้ได้ ข้าก็แสร้งทำเป็นหนีไปที่เฉินหลงที่เป็นโลกใบเล็กที่ข้าสร้าง เจ้าจะได้เชื่อว่าเฉินอี้เจิงกำลังจะหมดลมหายใจสุดท้ายที่นั่น จริง ๆ ข้าวางแผนทุกอย่างในร้อยปีที่ผ่านมาในจิวโจว เพื่อที่ข้าจะได้บ่มเพาะยอดฝีมือที่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าเจ้า!”
  “แต่โชคร้ายจิวโจวหมดโชคไปแล้ว ข้าหายอดฝีมือที่จะใช้ศรทลายฟ้าไม่ได้มานาน ข้าเลยต้องเตรียมอีกสองแผนเพื่อเจ้า อย่างแรกข้าขอให้พวกผีทำให้เจ้าเชื่อใจโดยการจับมือกับเจ้า เพื่อที่พวกเขาจะได้จัดการเจ้าในโอกาสเหมาะ อย่างที่สอง ข้าต้องหาคนที่จะช่วยข้าได้!”
  เทพกิเลนพูดและมองม่อเทียนฉวน
  “ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ข้าคาดเดา หลังจากหนึ่งร้อยปี เจี๋ยนอู๋เชิง ยอดเซียนกระบี่ก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยที่แข็งแกร่งพอ เผ่าผีเองก็ปกป้องซือหยูกับศรทลายฟ้าในโอกาสนี้!”
  ซือหยูกับเซี่ยนเอ๋อพูดไม่ออกอยู่นาน  เฉินหลงที่พวกเขาเคยอาศัยอยู่คือโลกใบเล็กที่แท้จริงถูกเทพกิเลนสร้างขึ้น
  การทำลายล้างของเฉินหลงอยู่ภายใต้แผนที่วางมากว่าร้อยปี
  เทพกิเลนเตรียมการทั้งหมดเพื่อบ่มเพาะยอดฝีมือและสำนักต่างๆ ที่จะเทียบเคียงกับราชาเขตกลางที่เป็นเทพจากต่างโลกมาร้อยปี
  เขาไม่ได้บ่มเพาะราชาเขตคนอื่นเพราะกลัวว่าความลับจะถูกเปิดเผย
  เขามิอาจเชื่อใครได้เลยเทพที่ตายแล้วไม่มีผลกับดินแดนแห่งนี้ เทพกิเลนไม่รู้ว่าราชาเขตเหล่านั้นจะกำจัดเขาหรือไม่
  ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังตลอดร้อยปีที่ผ่านมา
  “เวลานี้คือสิ่งที่เจ้าต้องการใช่ไหม?”
  ราชาเขตกลางพูดหยาม
  “เจ้ามันโง่เง่า!เจ้าคิดว่าพวกมันจะปกป้องซือหยูกับศรทลายฟ้าได้เรอะ?”   ราชาเขตกลางปล่อยหมัด
  หมัดของเขามีพลังเล็งเป้าทุกคนที่นี่ทุกคนกลายเป็นเป้าหมาย
  แน่นอนว่าซือหยูคือเป้าหมายหลัก
  จักรพรรดิผีชักสีหน้าจากนั้นเขาก็ก้าวถอยหลังโดยลากซือหยูกับเซี่ยนเอ๋อไป
  เทพกิเลนน้อยเห็นอันตรายจึงพยายามหนีโดยกระโดดขึ้นไหล่ซือหยู
  เจี๋ยนอู๋เชิงไม่ถอยแต่จู่โจมกลับด้วยกระบี่มันปะทะกับหมัดของราชาเขตกลางได้ไม่มาก นางตัวสั่นเล็กน้อย
  ม่อเทียนฉวนที่ทำให้พวกเขาตกใจมากนั้นหยิบเอาจักรบินออกมานางฟาดมันเข้ากับพลังของหมัด นางเพียงแค่ยืนโดยไม่ขยับตัวเลย นางใช้เพียงเสี้ยวพลังเซียนรอบกายเท่านั้น
  “พลังเซียนรึ?ข้าจำได้ว่าตัวเจ้าถูกพิษพลังผีอยู่ เจ้ากำลังหาทางแก้ไข…”
  ราชาเขตกลางตกใจเล็กน้อยจากนั้นเขาหยุดพูดทันที
  หากม่อเทียนฉวนกับจักรพรรดิผีร่วมมือกันหลอกเขามาร้อยปีแล้วจักรพรรดิผีจะทำให้ม่อเทียนฉวนบาดเจ็บจริงรึ?
  บางทีพลังผีในร่างกายนางอาจจะถูกใช้เพื่อทำให้ราชาเขตกลางสับสนและไม่ทันระวังนางก็ได้
  ทุกคนบนโลกนี้รู้ว่าม่อเทียนฉวนติดอยู่ในระดับพลังสูงสุดของอสูรเนรมิตรเพราะพลังผีในกายและนางพยายามสุดความสามารถเพื่อที่จะหาวิธีแก้ไขมัน
  ถ้าหากไม่หลอกกันเช่นนี้ราชาเขตกลางที่อยู่ในเมืองเขตกลางใกล้ดินแดนพรสวรรค์คงจะไม่มีวันวางใจ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าม่อเทียนฉวนขุดหลุมใต้วังหลวงเชื่อมต่อไปยังตำหนักโลหิตในร้อยปีที่ผ่านมา!
  “เจ้าเองก็ฉลาดนักนะ!เจ้าไม่คิดจะเปิดเผยพลังแม้จะถูกร่างเงาข้าทำให้บาดเจ็บ!”
  ราชาเขตกลางกล่าวอย่างเย็นชา  ตอนที่ม่อเทียนฉวนพยายามฆ่าองครักษ์แสงกระจ่างพวกเขาได้อัญเชิญร่างเงาของราชาเขตกลางออกมาช่วย ม่อเทียนฉวนไม่อยากจะเปิดเผยพลังแม้ว่ากำลังจะตาย มันน่าประทับใจมาก
  ม่อเทียนฉวนเหลือบมองซือหยู
  ซือหยูรู้สึกว่าหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นเพราะรู้สึกผิดอยู่ข้างในเขาได้ล้อเล่นกับนางมาโดยตลอด และเขาก็ขายจักรบินของนางที่เป็นสมบัติภูติ
  โชคดีที่นางปล่อยเขาไปในตอนนั้น…
  “พอได้แล้ว!มาจบเรื่องร้อยปีนี้กันดีกว่า!”
  ม่อเทียนฉวนเบิกตากว้างและจู่โจมทันที
  จักรบินเหนือปรากฏเหนือศีรษะราชาเขตกลางอย่างกับผีมันเข้าเฉือนกะโหลกของเขา
  ที่ศีรษะของราชาเขตกลางเป็นแผล
  เจี๋ยนอู๋เชิงยังชักกระบี่ขึ้นมาในเวลาเดียวกันนางตะโกน
  “เพลงกระบี่จักรวาล!”   วิชากระบี่แบ่งเป็นสามขอบเขตแบ่งเป็นกระบี่ผสานใจ กระบี่ไร้วันสลาย และกระบี่จักรวาลที่เป็นขอบเขตสูงสุด
  ในการจู่โจมของนางแสงกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งไปที่ศีรษะของราชาเขตกลาง
  แสงกระบี่เหล่านั้นเข้าทำลายทุกอย่างในร่างกายของเขา
  แต่ราชาเขตกลางก็ใช้ฝ่ามือซัดไปที่หัวของตัวเองพลังกระบี่ทั้งหมดถูกกรงเล็บอสูรดึงออกมาตรง ๆ
  ตอนนี้ราชาเขตกลางเหลือแค่ครึ่งหัวแต่เขาก็ไม่ได้เจ็บปวดจากแผลที่มี เขาใช้กรงเล็บทั้งสองจู่โจม
  ม่อเทียนฉวนกับเจี๋ยนอู๋เชิงพยายามสุดความสามารถเพื่อต้านทานกรงเล็บอสูรขนาดยักษ์
  แต่กรงเล็บอสูรที่แข็งแกร่งเข้าบดขยี้แสงกระบี่มันมาถึงร่างของเจี๋ยนอู๋เชิงในที่สุด