ของในเตา
หลิวหยุนมองผู้วิเศษจิงเต้าพยายามสู้กับทั้งดาบหินและชายแก่ เขาไม่มีเวลามาสนใจพวกเขาทั้ง2เลยซักนิด เขาเลยไม่ลังเลแล้วประกายแสงที่นิ้วมือของเขาก็เจิดจรัสขึ้น เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น นิ้วทั้ง5ก็หายวับเหมือนกับเข้าหลุมดำไป
“อ๊า!!”หลิวหยุนกระชากมือกลับมาทันทีพร้อมกับร้องออกมา ที่ปลายนิ้วของเขานั้นถูกเผาด้วยเปลวไฟสีขาว เนื้อของเขาโดนเผาจนเกรียมเห็นกระดูก แถมไฟนั้นยังลามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นไฟก็ลามมายันทั้งมือของหลิวหยุนแล้ว
หลิวหยุนตัดสินใจทันทีทันใด ใช้มืออีกข้างเป็นเหมือนดาบก่อนจะฟันนิ้วทั้ง5ของเขาเองขาดทันที
นิ้วทั้ง5นั้นโดนฟันขาดแล้วโดนเผาจนเหลือแต่ขี้เถ้า ถ้าเขาตัดสินใจช้ากว่านี้นิดเดียว บางทีมือของเขาก็ต้องโดนตัดไปด้วยแน่ๆ
ผู้วิเศษจิงเต้าพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ไฟในเตานั้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตธาตุไฟระดับเร้นลับที่แกร่งที่สุดยังไม่กล้าแตะเลย นายยังคิดจะใจกล้าหน้าด้านล้วงเข้าไปอีกงั้นเหรอ”
นิ้วทั้ง5ของหลิวหยุนนั้นขาดสะบั้น พอได้ยินคำสบประมาทของผู้วิเศษจิงเต้าแล้ว เขาก็รู้ได้ทันทีเลยว่าผู้วิเศษจิงเต้านั้นรู้ทุกอย่างที่พวกเขาทำ และเหตุผลที่เขาไม่หยุดมันไว้ก็เพราะว่าเขาแน่ใจว่าพวกเขาไม่มีทางเอาของออกมาจากเตาได้แน่นอน
หลิวหยุนเองก็ไม่ได้โกรธเขาแค่กระซิบกับโจวเหวิน “ฉันแตะของด้านในด้านแล้ว มันไม่ใช่ยาแน่ๆ”
“แล้วมันคืออะไรละ”โจวเหวินถาม
“ฉันไม่รู้ ฉันจับแค่ส่วนเดียวเท่านั้นละ แต่มันดูเหมือนเป็นด้ามจับของอะไรซักอย่างนะ แต่ฉันไม่แน่ใจ พอฉันแตะปึ๊บไฟก็ลวกมือฉันปั๊บเลย ฉันไม่กล้าที่จะคว้ามันไว้”หลิวหยุนพูด
“หรือว่ามันจะเป็นดาบกันละ”โจวเหวินถาม
“ก็เป็นไปได้นะ”หลิวหยุนพยักหน้า
ตอนแรกเขาคิดว่าจะเอาของที่อยู่ข้างในนั้นออกมา แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าถึงเขาจะเอามันออกมาไม่ได้ แต่อย่างน้อยเขาก็มีข้อมูลมากพอจะข่มขู่ผู้วิเศษจิงเต้าให้ปล่อยวิญญาณของพวกเขาไปได้”
แต่ตอนนี้นอกจากจะเอาออกมาไม่ได้แล้ว นิ้วยังด้วนไปด้วยอีก เรียกได้ว่าหมดความหวังแล้วก็ได้
“งั้นเดี๋ยวฉันลองดูเอง”โจวเหวินอัญเชิงมารพยัคฆ์เกราะวิญญาณออกมา(เรียกสั้นๆว่ามารพยัคฆ์) แต่เขาไม่ได้ให้มันพุ่งเขาไปในเตาเลยในทีเดียวโจวเหวินให้มารพยัคฆ์นั้นกระโดดขึ้นไปที่พายุไฟที่โหมอยู่รอบนอกก่อน ให้มันได้อาบไฟอย่างเต็มที่
เปลวไฟรุนแรงของพายุไฟนั้นทำให้ชุดเกราะของมารพยัคฆ์ติดไฟ ไฟสีม่วงแผนเผารุนแรงมากขึ้นเละมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ไฟนั้นไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บ แต่มันกลับทำให้แข็งแกร่งขึ้น
เขาให้มันอาบไฟอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งตัวของมันทั้งตัวถูกห่อหุ้มไว้ด้วยไฟสีม่วง ก่อนที่โจวเหวินจะให้มันพุ่งเข้าไปในเตา
ผู้วิเศษจิงเต้าเองก็มองอย่างเยือกเย็นแต่ก็ไม่ได้หยุดยั้งอะไร ตอนนี้เขาหยุดยั้งชายแก่กับดาบหินไว้ได้แต่เขาเองก็ต้องปล่อยให้มารพยัคฆ์เข้าไปในนั้นด้วย
มารพยัคฆ์แตะโดนไฟแล้วร่างของมันก็ส่องสว่างทันที ไฟสีม่วงบอกกับไฟสีขาวนั้นทำให้อุณหภูมิความร้อนพุ่งขึ้นสูงจนชุดเกราะของมันแทบจะหลอมละลาย ด้วยพลังทั้งหมดที่มี มารพยัคฆ์ยังคงอดทนต้านไฟในเตาด้วยไฟของตัวเอง โจวเหวินรู้สึกได้เลยว่ามารพยัคฆ์กำลังร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ถึงจะไม่ได้มอดไหม้เป็นจุล แต่ที่แน่ๆคือเจ็บปวดมากแหงๆ
ถ้าเกิดเป็นแบบนี้ต่อไปละก็ ร่างกายของมารพยัคฆ์คงละลายแน่ๆ โจวเหวินเลยสั่งให้มันออกจากเตาแต่เขาก็ไม่ได้เรียกมันกลับเข้าร่างในทันที เขาเอามันออกมายืนข้างๆตัวเขา แต่เปลวไฟที่แผนเผานั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย
“ถึงจะเป็นราชาธาตุไฟมาเองก็โดนเตาไฟนี้หลอมละลายได้เหมือนกัน ถ้านายคิดอยากจะพึ่งสัตว์อสูรระดับเร้นลับละก็ คงได้แต่ฝันกลางวันละนะ”ผู้วิเศษจิงเต้าพูด “ของที่อยู่ข้างในนั้นน่ะ ไม่ใช่ของที่นายจะเอาออกมาได้หรอก”
ผู้วิเศษจิงเต้าพูดและเหมือนกับว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดจะไปเอาเหมือนกัน เหมือนกับเขารออะไรบางอย่าง ชายแก่กับดาบหินตอนนี้อยากจะฆ่าผู้วิเศษจิงเต้าเต็มที่แต่ตอนนี้พวกมันทำได้แค่เต้นไปมาบนฝ่ามือของผู้วิเศษจิงเต้า
ทันใดนั้นเอง ภายในเตาก็มีเสียงดังออกมา
“แงงงงง แงงงง”โจวเหวินเงี่ยหูฟังดีๆแล้วหน้าเปลี่ยนสี เขามองหลิวหยุนแล้วถาม “ไหนบอกว่ามันเหมือนจะเป็นอาวุธไงแล้วทำไมมีเสียงเด็กร้องละ”
หลิวหยุนที่ได้ยินเสียงเหมือนกันก็ตกใจมาก “ไม่ฉันมั่นใจว่าฉันจับด้ามจับของอะไรบางอย่างจริงๆ มันจะไปมีเสียงเด็กร้องได้ไงกัน หรือว่าอาวุธนั้นจะมีชีวิตเหรอ”
“เป็นไปไม่ได้หน่ะ มันไม่ใช่สัตว์อสูรซักหน่อย”โจวเหวินพูด
ในตอนนั้นเองที่ผู้วิเศษจิงเต้าเริ่มเคลื่อนไหว เขาถือกระจกหยินหยางในมือหนึ่งเพื่อป้องกันดาบหินกับชายแก่ ส่วนอีกมือล้วงเข้าไปในเตาหิน
ชายแก่กับดาบหินนั้นรู้ดีว่าช่วงเวลานี้คือเวลาวิกฤติ อักษรอาคมปรากฏขึ้นมาบนดาบหินทันที ก่อนที่จะแทงผ่านห้วงมิติตรงเข้าไปยังหัวใจของผู้วิเศษจิงเต้า
ชายแก่เองก็โจมตีเข้ามาด้วยพลังทั้งหมดที่มีเข้าหาผู้วิเศษจิงเต้าเหมือนกัน แถมพลังของกระจกหยินหยางนั้นควบคุมชายแก่ไม่ได้ด้วย
ผู้วิเศษจิงเต้าขมวดคิ้ว ตอนนี้เขาไม่สามารถไปเอาของในเตาได้จริงๆ เขาเลยใช้กระจกหยินหยางรับการโจมตีของดาบหิน ก่อนที่จะใช้แรงผลักของดาบหินนั้นหลบการโจมตีของชายแก่อีกที
พอเห็นว่าผู้วิเศษจิงเต้ากำลังจะหลบ ชายแก่จึงพุ่งเข้ามาที่เตาปรุงยาเพื่อเอาของที่อยู่ข้างใน
ดาบหินพอเห็นแบบนั้นก็จ่อหัวของชายแก่ทันที แล้วบังคับให้เขาถอยออกไป
แต่เป็นผู้วิเศษจิงเต้าที่พุ่งเข้ามาหาเตาแทน แต่เขาก็โดนชายแก่กับดาบหินขัดเอาไว้อีกครั้ง
ทั้ง3คนสู้กันไปกันมาจนทำให้โจวเหวินกับหลิวหยุนงงงวย แม้แต่สายตาของโจวเหวินก็ยังจับการเคลื่อนไหวของทุกคนไว้แทบจะไม่ได้เลย มันมีรายละเอียดหลายๆอย่างที่มันไม่ชัดเจนเอาซะเลย
ดาบหินนั้นใช้เพลงดาบที่แม่นยำมาก ทุกๆดาบนั้นชัดเจน ว่องไว ไม่มีคำว่าหลอก ทุกดาบที่ฟันนั้นทุกๆคนเห็นแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนจะรับไม่ได้
ชายแก่เองก็มีพลังที่แปลกประหลาด เขาพริ้วไหวหลบไปหลบมาและใช้ร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ผู้วิเศษจิงเต้าเองก็ควบคุมพลังได้อย่างดีเยี่ยม พลังของเขาเองนั้นห่างไกลจากทั้งดาบหินและชายแก่มากจึงยากในการควบคุมกระแสการต่อสู้ระหว่างชายแก่กับดาบหินแต่ด้วยพลังของกระจกหยินหยาง ทำให้เขายืมพลังของดาบหินกับชายแก่มาแก้ขัดทางซึ่งกันละกันทำให้ตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ถึงเตาทองแดงได้เลย
ตู้ม!!!
ทั้ง3ฝ่ายซัดพลังเข้าใส่กัน แรงระเบิดมหาศาลทำให้ทั้ง3คนนั้นกระเด็นเข้าไปในพายุไฟ
“ตอนนี้ละ”โจวเหวินสั่งมารพยัคฆ์ให้เขาไปในเตาทองแดงอีกรอบ ก่อนที่เขาจะบินเข้าไปใกล้ๆปากเตา
มารพยัคฆ์นั้นพุ่งเข้าไปตามคำสั่งของโจวเหวินร่างของมันสัมผัสกับไฟแล้วหลอมละลายอย่างไว มันไม่สามารถทนความร้อนที่เหมือนอยู่บนดวงอาทิตย์ได้ มันไม่สามารถแตะอะไรได้เลยไม่งั้นมันจะละลายแน่ๆ
ผู้วิเศษจิงเต้ากับชายแก่รู้ดีว่าโจวเหวินไม่มีทางเอาของออกมาได้แน่ พวกเขาเลยเมินไปเลย
ในตอนนั้นเอง โจวเหวินรู้ดีเลยว่ามารพยัคฆ์นั้นทำหน้าที่ตัวเองได้ดีที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่าต้องทรมาร และเขาอยากจะหยุดมันแค่ไหนแต่ตอนนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเขาแล้ว ตอนที่เห็นมารรพยัคฆ์กำลังจะละลายนั้นเอง โจวเหวินที่พึ่งมาถึงที่ปากเตา ทันใดนั้นก็อัญเชิญต้นกล้วยเซียนออกมมาแล้วพัดสายลมเข้าใส่ปากเตาอย่างแรง