บทที่ 841 เรื่องราวชีวิตของจักรพรรดิอวี้ตี้

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ

องค์ชายวายร้ายอยากเป็นพ่อ บทที่ 841 เรื่องราวชีวิตของจักรพรรดิอวี้ตี้

จักรพรรดิอวี้ตี้นั่งเหม่อลอย จวินเซียวเซียวไปชงชามาให้จักรพรรดิอวี้ตี้หนึ่งถ้วย จักรพรรดิอวี้ตี้ยกขึ้นมาดื่มและมองเหลือบมองจวินเซียวเซียว “เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”

“เดิมทีหม่อมฉันก็ไม่เป็นอะไรเพคะ เพียงแค่เมื่อนึกถึงที่ถูกท่านอ๋องเย่ทุบตีขึ้น ก็รู้สึกไม่สบายใจเท่านั้นเองเพคะ”

จวินเซียวเซียวยืนแสร้งทำเป็นเสียใจและยืนอยู่อย่างนั้นไม่ยอมนั่ง

จักรพรรดิอวี้ตี้ก็ไม่เคยเห็นแผลของนาง เขาเป็นจักรพรรดิ มีบางที่ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา เช่นนี้ก็ไม่ควรมองเห็น

ในใจของจวินเซียวเซียวไม่มีความคิดถึงเลยสักนิด เพียงแค่มองถ้วยชาถ้วยนั้นที่จักรพรรดิอวี้ตี้ถืออยู่ หลังจากนั้นก็ค่อยๆ รินให้เขาดื่ม

ทั้งสองพูดคุยกันสักพัก จากนั้นจักรพรรดิอวี้ตี้ก็ลุกขึ้นและไปเข้าพบพระพันปี

เมื่อจิตใจไม่สงบ จักรพรรดิอวี้ตี้ก็นึกอยากไปหาพระพันปีและนั่งพูดคุยอยู่ที่นั่น เดิมทียังมีฮองเฮา แต่ตอนนี้เขากลับเหลือเพียงแค่พระพันปีแล้ว

จักรพรรดิอวี้ตี้ไปถึงที่นั่นและรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติไป เพียงแต่ไม่พูดว่าปวดหัว หรืออาจเป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอ

พระพันปีนั่งเฉย มองลูกชายคนนี้แล้วรู้สึกไม่อยากจะมอง

แต่ถึงอย่างไรเขาก็เป็นลูกชาย

ไห่กงกงยกน้ำชาเข้าไป พระพันปีตรัสว่า “สีหน้าของเจ้าไม่ค่อยดีนัก หากรู้สึกไม่สบายก็ไม่ต้องมาพบข้าก็ได้ ไม่ต้องมาที่นี่ทุกวันเช้าเย็นหรอก”

จักรพรรดิอวี้ตี้คิดในใจ อยากจะหาคนพูดคุยด้วยสักคนก็ไม่มี และวันนี้เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้อีกก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ

หลังจากยกน้ำชาขึ้นดื่ม จักรพรรดิอวี้ตี้ก็ตรัสขึ้นมา “เสด็จแม่ หลายปีมานี้เสด็จแม่เคยสงสัยในความรักที่ลูกชายคนนี้มีให้ต่อเสด็จแม่บ้างหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

พระพันปีสีหน้าเคร่งขรึม “อาใหญ่ของเจ้าเป็นคนมาบอกเรื่องของแม่ทัพฉี เจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรล่ะ?”

“ไม่ใช่เรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ” ดวงตาของจักรพรรดิอวี้ตี้เยือกเย็น พระพันปีรู้สึกประหลาดใจ

“ไม่ใช่เรื่องนี้แล้วจะเป็นเรื่องอะไร?”

จากนั้นจักรพรรดิอวี้ตี้จึงพูดขึ้นมา “ไห่กงกงออกไปก่อนเถอะ”

ไห่กงกงโบกมือขึ้นเพื่อแสดงให้ทุกคนถอยออกไป จักรพรรดิอวี้ตี้เห็นว่าทุกคนออกไปแล้ว จากนั้นจึงมองไปที่พระพันปี

“เสด็จแม่เห็นว่ากระหม่อมเป็นเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเองตั้งแต่แรก และปฏิบัติเท่าเทียมกับท่านอ๋องเย่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

พระพันปีกำมือแน่น “ในที่สุดเจ้าก็รู้แล้ว?”

จักรพรรดิอวี้ตี้นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดไม่จาอยู่นาน พระพันปีถามว่า “อดีตจักรพรรดิพูดขึ้นมาหรือ?”

“ก่อนที่เสด็จพ่อจะจากไปได้เรียกท่านนอ๋องเย่เข้าพบ กระหม่อมอยู่ข้างหลัง กระหม่อมได้ยินเสด็จพ่อบอกว่าพวกเราไม่ได้เกิดจากแม่คนเดียวกันและให้เขาพยายามช่วยเหลือกระหม่อม” จักรพรรดิอวี้ตี้นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ความทรงจำนั้นชัดเจนและจำได้ดี

พระพันปีจ้องมองจักรพรรดิอวี้ตี้อยู่ครู่หนึ่ง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นลูกของใคร?”

“ไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ!”

จักรพรรดิอวี้ตี้ยังคงคิดมากก็คือเรื่องนี้ เสด็จแม่ที่แท้จริงของเขาคือใคร?

พระพันปีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตอนนั้น อดีตจักรพรรดิแต่งงานกับข้า และข้าก็คือภรรยาเอกของเขา แต่อดีตจักรพรรดิเคยมีน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ทั้งสองเป็นคู่รักในวัยเด็กกัน อดีตจักรพรรดิชอบน้องสาวคนนี้อย่างมาก แต่ไม่ได้รักนาง

อดีตจักรพรรดิมีความประสงค์จะให้นางแต่งงานกับท่านราชครูจวิน แต่นางไม่ยอม

หลังจากนั้นก็ต้องการหาคู่ที่เหมาะสมให้กับนาง นางมักจะไม่ยินยอม และยังใช้ดาบทำร้ายอดีตจักรพรรดิ จึงได้รู้ว่าในใจของนางนั้นมีเพียงอดีตจักรพรรดิเท่านั้น

อดีตจักรพรรดิไม่ต้องการให้นางแย่งชิงความรักความโปรดปรานในวังหลวงและต้องการให้นางหาสามีที่ดี แต่สุดท้ายนางก็ไม่ยินยอม

คืนหนึ่งนางได้แขวนคอตัวเองภายในวังหลวง นางกำนัลวิ่งไปหาจักรพรรดิที่ตำหนักเฉาเฟิ่ง ตอนนั้นข้ากำลังนอนหลับอยู่ อดีตจักรพรรดิก็รีบออกไป คืนนั้นกว่าอดีตจักรพรรดิจะกลับมาก็เช้าแล้ว

ข้าจึงรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้น

ตอนหลังอดีตจักรพรรดิบอกว่าถูกหลอกและได้ทำเรื่องที่ผิดต่อข้า

เพราะเรื่องนั้น อดีตจักรพรรดิก็เริ่มเหินห่างกับน้องสาวลูกพี่ลูกน้อง อาจเป็นเพราะถูกหลอกกระมัง

แต่ข้าและนางกลับตั้งครรภ์ทายาทขององค์จักรพรรดิ

และกลับกลายเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงในวังหลวง และพระมเหสีหวาก็ไม่รู้เรื่องนี้

นางต้องการให้อดีตจักรพรรดิแต่งตั้งให้นางเป็นฮองเฮา แต่อดีตจักรพรรดิตำหนินาง นางจึงบอกว่า ดูว่าใครจะให้กำเนิดองค์ชายออกมาก่อน หากนางให้กำเนิดออกมาก่อน นางก็จะได้เป็นฮองเฮา หากข้าให้กำเนิดออกมาก่อน เช่นนั้นข้าก็จะได้เป็นฮองเฮา

อดีตจักรพรรดิจึงคุมขังนาง สำหรับอดีตจักรพรรดิแล้ว นางเป็นเพียงความผิดพลาดเท่านั้น

ในสายตาของอดีตจักรพรรดิ นางเป็นแค่น้องสาว และการมีอะไรกับน้องสาวแล้วให้กำเนิดลูกขึ้นมานั้น จะไม่เป็นที่น่าหัวเราะขบขันของคนอื่นได้อย่างไร?

สภาพของนางเช่นนั้น ข้าเห็นแล้วก็สงสาร จากนั้นจึงไปพบนางโดยบังเอิญ

นางเกลียดแค้นข้า สายตาที่จ้องมองข้าก็ดูเกลียดชัง

ทุกครั้งที่ข้าเจอนาง นางมักจะโยนมีดใส่ข้า

เมื่ออดีตจักรพรรดิทราบเรื่องนี้เข้าจึงโมโหและต้องการขังนางไว้ในคุก แต่นางตั้งครรภ์อยู่และข้าก็ทนดูไม่ได้

เพื่อไม่ให้อดีตจักรพรรดิลงโทษนาง ข้าจึงไม่ไปให้นางเห็น

หลังจากนั้นมีอยู่วันหนึ่งข้าก็ให้กำเนิกลูกชายออกมาก่อนกำหนด

นางรู้เรื่องนี้ขึ้นก็รู้สึกโกรธ จากนั้นครรภ์จึงเป็นพิษและจึงให้กำเนิดลูกออกมา

และเป็นเด็กผู้ชายเช่นเดียวกัน

นางร้องตะโกนออกมาว่านางคือฮองเฮา คือฮองเฮา อดีตจักรพรรดิโมโหมาก จากนั้นจึงอุ้มเด็กมาให้ข้า

ข้าเห็นว่าเด็กคนนั้นน่ารักดี จึงรู้สึกสงสาร

จากนั้นจึงเลี้ยงดูเรื่อยมา

เด็กคนนี้แปลก ไม่กินนมของแม่นม หลังจากที่ข้าให้กำเนิดได้ไม่นานก็ยังพอมีน้ำนมเหลือ จึงให้เขาดื่มน้ำนมของข้า

ตอนที่ยังไม่ถึงหนึ่งเดือน เด็กคนนี้กลับแข็งแรงมาก แข็งแรงกว่าลูกชายของข้าอีก จากนั้นข้าจึงป้อนนมให้ทั้งสองด้วยตัวข้าเอง

มีอยู่วันหนึ่ง น้องสาวลูกพี่ลูกน้องคนนั้นก็วิ่งออกมา นางแย่งเด็กคนหนึ่งไป จากนั้นก็โยนลงกับพื้นและตายไปต่อหน้าต่อตา”

จักรพรรดิอวี้ตี้ตกตะลึง “กระหม่อมเป็นลูกของนาง ส่วนลูกชายของเสด็จแม่ถูกนางโยนลงพื้นตายหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

“……” พระพันปีเดินลงมาจากบันไดและจ้องมองจักรพรรดิอวี้ตี้ “คิ้วของเจ้ามีเงาของนางอยู่ บางครั้งข้ามักไม่สบอารมณ์เวลาเจอหน้าเจ้า แต่ข้าก็เห็นสิ่งที่อดีตจักรพรรดิหลงเหลือไว้บนร่างกายของเจ้าอีกมากมาย และมากไปกว่านั้นคือข้าเอง

ถึงอย่างไรเสียข้าก็เลี้ยงดูเจ้ามาและดื่มน้ำนมของข้า

ครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้าดื่มน้ำนมของข้า สายตาที่เจ้ามองข้านั้นแปลกมากและเจ้าก็ไม่ดื่มน้ำนมแม่นมคนอื่น อดีตจักรพรรดิรู้สึกร้อนรนมาก ข้าบอกว่าไม่เช่นนั้นก็ให้เจ้ากลับไปกินน้ำนมของเสด็จแม่ของเจ้า แต่นางกำนัลบอกว่านางไม่มีน้ำนม

หากข้าไม่ให้เจ้าดื่ม เจ้าก็คงต้องตาย!

แต่เสด็จแม่ของเจ้ากลับโยนลูกชายของข้าตาย”

จักรพรรดิอวี้ตี้จับพนักเก้าอี้แน่น “กระหม่อมคิดว่า……”

“ฝ่าบาทคิดว่าเป็นลูกชายของพระสนมคนไหน

และข้าไม่เห็นด้วยจึงฆ่านางทิ้งอย่างนั้นหรือ?”

“กระหม่อมโง่เองพ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าไม่ได้โง่เขลา ทำไมข้าจะไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรในใจ เรื่องนี้ข้าเก็บเอาไว้มาหลายปีแล้วและเหนื่อยมากแล้ว

เสด็จแม่ของเจ้าตายตามอดีตจักรพรรดิไป เรื่องนี้เจ้าไม่รู้ใช่หรือไม่”

“ถูกฝังไป?” จักรพรรดิอวี้ตี้ตกตะลึง

พระพันปีพยักหน้า “เรื่องนี้องค์หญิงใหญ่ก็รู้ อีกทั้งเป็นการตัดสินใจของนางและอดีตจักรพรรดิ ต่อให้เสด็จแม่ของเจ้าจะโยนลูกชายของข้าตายไป ก็ไม่ได้ถูกลงโทษประหารชีวิตนาง เพราะถึงอย่างไรพระพันปีก็เป็นเสด็จป้าของนาง ฉะนั้นเรื่องนี้จึงไม่ได้เอาความกับนาง เพียงแค่อดีตจักรพรรดิรู้สึกผิดต่อข้า และสัญญาว่าจะลดฐานะของเจ้าเป็นสามัญชนคนธรรมดา แต่ข้าก็เลี้ยงดูเจ้ามานาน จึงยอมไม่ได้

จากนั้นเจ้าก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น และก่อนที่เจ้าจะโตขึ้น เสด็จแม่ของเจ้าก็ได้ถูกคุมขังอยู่ที่ห้องใต้ดินในวังหลวง จนถึงตอนที่อดีตจักรพรรดิจะเสด็จสวรรคต องค์หญิงใหญ่จึงตัดสินใจฝังเสด็จแม่ของเจ้าไป!”

ใบหน้าของจักรพรรดิอวี้ไร้อารมณ์ความรู้สึก “เพราะต้องการให้กระหม่อมขึ้นครองราชย์ หากนางออกมาก็จะทำลายกระหม่อม ฉะนั้นจึงฝังนางไปเสีย?!”

“จะพูดเช่นนั้นก็ได้ แต่ก็ไม่ได้พูดออกไป นางมีชีวิตอยู่ก็ไม่มีความหมายอะไร เดิมทีนางก็ไม่เคยเป็นห่วงเป็นใยเจ้า นางต้องการเพียงได้ครอบครองอดีตจักรพรรดิและต้องการตำแหน่งฮองเฮา แต่หลังจากที่นางตาย ก็มีการแต่งตั้งตำแหน่งพระสนมเอกไม่ใช่หรือ? พระสนมเอกมีฐานะเทียบเท่าฮองเฮา”