Ch.51 – ตบตา
Translator : Reheikichi / Author
ทางกลับจากกิลด์
ผมแยกทางกับพวกเอลิเซียและยุ่งกับการจัดการกับพวกโจร
[ กึกก!? ]
[ แกเป็นใคร!? ]
หลังจากจัดการโจรสองคนด้วย《กระสุนเวท》 ผมก็จัดการคนที่เหลือทันที
อย่างน้อยพวกโจรที่รู้ถึงการมีตัวตนของผมก็ต้องรีบกำจัดทันที
ดูเหมือนพวกโจรจะแอบซุ่มในเมืองมากขึ้นในระหว่างที่เราไปสอบที่กิลด์
ตัวเลขมากพอดู แต่มีแต่ต้องจัดการเท่านั้น
ผมสวมเสื้อคลุมสีดำ ปิดบังใบหน้าและประเมินกำลังของศัตรู
[ อ ไอ้ผู้คุ้มกันบัดซบบบ―― ]
ไม่นานหลังจากเสียงตะโกนของเขาดังออกมา ผมก็จัดการฆ่าเขาไปแล้ว
ผมเช็ดเลือดที่ติดกริซด้วยเสื้อคลุมของชายคนนั้น
[ …เจ้าพวกนั้นรู้สึกถึงตัวตนของผู้คุ้มกันแล้วเหรอ ]
เจ้าพวกนั้นน่าจะไม่รู้ถึงขั้นว่าผมเป็นผู้คุ้มกัน แต่ก็พอจะรู้บ้างแล้วว่ามิเซ่มีคนคุ้มกันอยู่
คาดว่ากลุ่มโจรคงอยู่ระหว่างการหาตัวผู้คุ้มกันอยู่ จากตรงนี้เป็นเวลาสำคัญ ผมต้องระวังตัวให้มากขึ้นแล้ว
หลังจากจัดการโจรที่แอบซุ่มอยู่จนหมด ผมก็แอบเข้าไปในตรอกซอย ลดขนาดเสื้อคลุมไว้ในกระเป๋า
จากนั้นจึงเดินออกมาพร้อมกับหลบสายตา ขณะที่มุ่งหน้าไปยังหอพัก
[ … อ๊ะ ]
ขณะที่เดินไปได้สักพัก
ผมก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลกประหลาดและยังเสียงอีก ซึ่งแน่นอนว่าผมได้ยินเสียงและรู้สึกตัวถึงมันทันที
ผมกำลังถูกใครบางคนไล่ตามท่ามกลางฝูงชน
ดูเหมือนศัตรูจะสงสัยว่าผมเป็นผู้คุ้มกัน
――ไหวพริบดีนี่นา
ไม่ได้คิดว่าพวกนั้นจะโง่หรอก… แต่เป็นไปได้ว่าอาจมีคนจำผมได้ จากเมื่อวันก่อนที่แอบตามและสังเกตการณ์วงจรชีวิตของมิเซ่ก็เป็นได้
แต่ผมน่าจะจัดการโจรที่แอบซุ่มอยู่หมดแล้ว
ดูเหมือนจะมีกำลังเสริมคนหนึ่งกำลังตามผมมาอยู่ บางทีเขาอาจพึ่งมาถึงที่เกิดเหตุและสงสัยว่าขาดการติดต่อกับเพื่อนก็เป็นได้ ระหว่างทางก็เจอผมเข้าจึงทำการติดตามมา
หลังจากนี้ผมเองก็คิดว่าจะไปรอใกล้ๆ หอพักหญิงเพื่อดูว่ามิเซ่จะออกไปไหนมั้ย
แต่ว่าพอโดนสายตาของศัตรูจับตามองแบบนี้ก็ทำให้ทำหน้าที่ผู้คุ้มกันไม่ได้ คงต้องลบตัวเกะกะไปก่อน
จะฆ่าคนที่กำลังตามมาตอนนี้เลยดีไหมนะ แต่อาจจะโดนสงสัยหากมีกำลังเสริมมาอีกก็เป็นได้
วิธีแก้ปัญหาขั้นพื้นฐานตอนนี้คือทำให้อีกฝ่ายเข้าใจว่าผมไม่ใช่ผู้คุ้มกัน
[ ไง เจ้าแผนกสามัญ ]
ขณะที่กังวลว่าจะทำยังไงดี ผมก็โดนทักจากข้างหลัง
เมื่อหันกลับไปก็เห็นเด็กหนุ่มสามคนที่พบในกิลด์ที่ควรจะอยู่กับซิค แต่ตอนนี้ซิคไม่ได้อยู่ด้วยแล้ว
――จริงสิ
เมื่อผมเห็นพวกเขา ความคิดในหัวก็ปิ๊งไอเดียได้ จึงยิ้มยั่วโมโหพวกเขา
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เอามาใช้ได้
[ แกนะแก ใช้การโกงแบบไหนถึงผ่านการสอบมาได้วะ? ]
นักเรียนชายแผนกผู้กล้าตีบทแตกในแบบที่เข้าใจง่ายดี
[ แล้วหลักฐานว่าฉันโกงล่ะ? ]
[ อย่างแกที่ใช้แม้แต่เวทระดับ D ได้ ไม่มีวันวัดระดับพลังเวทได้ B หรอก ถ้าไม่โกงน่ะนะ ]
เป็นข้อเรียกร้องที่โต้ตอบอะไรไม่ได้เลย
ไม่แน่ว่ามันคงเป็นสามัญสำนึกของคนทั่วไป ถ้าเอลิเซีย กุเร็น และมิเซ่ไม่เคยเห็น 《กระสุนเวท》ของผมมาก่อนก็คงจะแคลงใจเช่นกัน แต่พวกนักเรียนตรงหน้าไม่เคยเห็นผมใช้เลยสักครั้ง
แน่นอนว่าการขอโทษจะทำให้เรื่องจบลงง่ายกว่า
แต่―― ผมไม่ทำ
[ ไม่น่าดูเลยนะ ]
[ ว่าไงนะ? ]
[ กิลด์มาสเตอร์เองก็พูดเหมือนกัน อย่ามาพาลกันเพราะนายสอบไม่ผ่านเองสิ ]
ชายคนนั้นตัวสั่น
[ แก――ก!! ]
ในฝ่ามือของชายคนนั้นมีพลังเวทเข้มข้น
เมื่อเห็นพลังเวท ผมก็รู้ประเภทของเวทมนตร์ที่เขากำลังจะใช้ทันที
เวทมนตร์ประเภทยิงระยะไกล 《กระสุนลม》
ผมสงสัยว่าทำไมเขาถึงใช้เวทมนตร์ระยะไกลในระยะแค่นี้ แต่ผมพร้อมจะรับมันโดยไม่หลบ
[ อึก!? ]
ผมใช้เวท 《เสริมพลัง》เพื่อเสริมความสามารถทางกายเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ตัวผมที่ต้านแรงไม่ไหวจึงกระเด็นปลิวไปข้างหลังอย่างแรง
[ เฮ้! ไงล่ะ! แกมีฝีมือแค่นี้เรอะ! ]
ชายคนนั้นไล่ตามมาและใช้เวทอีกครั้ง
เขายังไม่หยุดซะทีเดียว ระดมยิงจากระยะไกลด้วยพลังเวทเท่าเดิมแต่ไม่ค่อยเสถียร ถ้าโดนระยะใกล้ๆ ก็คงจะทนไม่ไหว ขณะที่ฟังเสียงสะใจของพวกเขา สติของผมก็ค่อยๆ ดับวูบลงเรื่อยๆ
[ เฮ้! ทำเกินไปแล้ว! ทำมากกว่านี้เดี๋ยวมันก็ตายหรอก! ]
คนที่อยู่ข้างๆ ชายคนนั้นห้ามเขาที่ระดมยิงเวทไม่หยุด
จากนั้น ชายคนนั้นก็หยุดยิงเวท เขาแสยะยิ้มและผ่อนหัวไหล่
[ จำไว้ด้วยล่ะ เป็นแค่แผนกสามัญอย่ามาหือกับพวกเรา ]
หลังจากมองอย่างดูแคลน นักเรียนแผนกผู้กล้าสามคนก็กลับส้นเท้าและเดินจากไป
เมื่อเห็นว่าพวกเขาเดินจากไปแล้ว ผมก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและปัดฝุ่นบนเสื้อผ้าออก
คิดว่า―― ประมาณนี้ก็น่าจะหลอกพวกนั้นได้แล้ว
จากนั้นผมจึงเดินกลับหอพักโดยที่ยังรู้สึกเจ็บทุกครั้งที่เดิน
◆
ในฝูงชน มีคนที่เฝ้าดูการทะเลาะกันของเด็กหนุ่มสองกลุ่มอย่างระวัง
หลังจากการทะเลาะกันจบลง เขาก็เข้าไปในตรอกซอยพร้อมกับหลบสายตาผู้คน
หลังยืนยันว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ ชายคนนั้นจึงหยิบ ‘กระดาษสื่อสาร’ ออกมาจากกระเป๋า
เขาส่งพลังเวทเข้าไปและติดต่อพรรคพวก
[ ได้ติดตามคนที่สงสัย… แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ผู้คุ้มกัน ]
[ ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยมันไป เราไม่มีเวลามายุ่งกับพวกปลาซิวปลาสร้อย ]
[ มีอีกสองคนที่มีโอกาสจะเป็นผู้คุ้มกัน จะเอายังไง? ]
[ ทั้งสองคนมีข้อแก้ต่าง ตัดออกไปได้เลย ]
[ งั้นรึ งั้นไว้เจอกัน ]
ชายคนนั้นแสยะยิ้ม
เพราะแผนการจะไม่เป็นไปตามที่คาด ทำให้รู้สึกหงุดหงิด
[ มาเปลี่ยนกัน พรุ่งนี้ข้าจะเคลื่อนไหวเอง ]
[ อา… เข้าใจแล้วน่า ]