เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 965
ตระกูลหาน

เมื่อลู่ฝานกลับมาถึงอีกครั้ง บนท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดวงดาวมากมาย

ที่องค์ชายรองฉินฝานนั้นบอกกับลู่ฝานว่าเดินออกไปก็ถึงตระกูลหานแล้ว แต่ในความเป็นจริง ลู่ฝานยังต้องเดินต่ออีกหนึ่งวันเต็ม จึงจะถึงตระกูลหาน

ขณะที่เดินมาถึงหน้าประตู ยามเฝ้าประตูสองคนของตระกูลหานก็ตะโกนร้องเรียกขึ้น

“พี่ลู่ฝานกลับมาแล้วเหรอ”

“ในที่สุดพี่ลู่ฝานก็กลับมาแล้ว! ”

ทั้งสองคนตะโกนร้องเรียก จากนั้นลู่ฝานก็มองเห็นพี่น้องตระกูลหานมุ่งหน้ากันเข้ามาหาเขา

พวกเด็กน้อยในตระกูลหานนี้ ดวงตาเป็นประกายแวววาว และจ้องมองตรงไปที่ลู่ฝาน

“พี่ลู่ฝาน คุณเก่งมากเลย สามารถสอนทักษะวิชาบู๊ให้ฉันบ้างได้ไหม? ”

“พี่ลู่ฝาน ได้ยินว่าแม้แต่อาวุธคุณก็ยังไม่ได้ใช้ ก็สามารถที่จะเอาชนะนักเรียนที่เก่งกาจของสถาบันผู้องอาจได้แล้ว คุณฝึกฝนอย่างไรกันเนี่ยะ! ”

“พี่ลู่ฝาน ได้ยินว่าคุณไปเที่ยวสนุกกันกับองค์ชายด้วย รถม้าขององค์ชายนั้นหรูหรางดงามไหม? ”

……

พวกเด็กน้อยได้โอบล้อมตัวของฉินฝานเอาไว้

ลู่ฝานยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ข่าวคราวเผยแพร่ได้รวดเร็วมากขนาดนี้เลย! ”

“ไม่ใช่ว่าข่าวคราวเผยแพร่ได้รวดเร็วหรอก แต่เป็นทางหานสงที่นำกระจกจำภาพกลับมา แล้วเปิดให้ทุกคนดูพร้อมกัน”

มีเสียงสดใสดังขึ้นมาจากด้านหน้า ลู่ฝานก็เงยหน้าขึ้นมอง ก็พบเห็นหานหยวนหนิงยืนอยู่ตรงนั้น

หานหยวนหนิงเดินเข้ามาหาลู่ฝานด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม กำหมัดแสดงความเคารพและพูดว่า: “พี่ลู่ฝาน พวกเราเจอกันอีกแล้ว ครั้งก่อนรีบร้อนไปหน่อย ต้องขออภัยด้วย”

ลู่ฝานเองก็กำหมัดแสดงความเคารพกลับ เพียงแต่สายตาของเขาไม่ได้หยุดอยู่ที่ร่างของหานหยวนหนิง แต่มองไปยังทางด้านหลังของหานหนวนหนิง

แต่คนสวยกลับไม่อยู่ คนที่อยากจะเจอกลับไม่มี

ลู่ฝานจึงละสายตากลับมาและพูดว่า: “ไม่เป็นไร”

หานหยวนหนิงยิ้มไปพลาง แล้วก็ขับไล่พวกเด็กน้อยออกไปพลางด้วย แล้วก็เดินเข้ามาด้านในพร้อมกันกับลู่ฝาน

“พี่ลู่ฝาน การต่อสู้ของคุณนั้น ฉันได้ชมแล้ว ก็ยังเหมือนเดิม มีความแข็งแกร่งอย่างมาก เมื่อชมแล้วก็ทำให้ฉันถึงกับคันไม้คันมือขึ้น อย่างนี้ดีไหมเดี๋ยวพวกเรามาประลองกันสักสองสามกระบวนท่า? ”

หานหยวนหนิงดวงตาเป็นประกาย แสดงออกว่าเป็นผู้ที่คลั่งไคล้ในวิชาบู๊อย่างชัดเจน

แต่ลู่ฝานกลับไม่ได้มีความสนใจเลย ส่ายศีรษะและพูดว่า: “ขอโทษด้วย วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว ไว้วันอื่นแล้วกัน! ”

หานหยวนหนิงพูดขึ้นด้วยความเสียใจเล็กน้อยว่า: “อย่างนี้เหรอ งั้นก็ได้ วันอื่นก็วันอื่น เพียงแค่พี่ลู่ฝานมาประลองด้วยกันก็พอแล้ว”

เมื่อพูดจบ ทั้งสองคนก็เงียบลงไปชั่วขณะ

ลู่ฝานเองเหมือนจะจิตใจเหม่ยลอย หานหยวนหนิงก็มองไปที่ลู่ฝาน และแอบพูดว่า: “ชัดเลยว่าเป็นคนที่มีท่วงท่าของยอดฝีมือ คิดไม่ถึงว่าตั้งแต่เริ่มต้นเดินเข้ามาด้านใน ก็ไม่ได้มองฉันด้วยสายตาที่จริงจังบ้างเลย”

หานหยวนหนิงดวงตาเป็นประกาย ใบหน้าค่อนข้างจะย่ำแย่เล็กน้อย ท่าทางของลู่ฝานที่มองคนอย่างไม่จริงจังนี้ ทำให้เขาเกิดความโมโหขึ้นมาบ้าง

ทั้งสองคนเดินผ่านลานประลองบู๊ มาถึงภูเขาด้านหลังตระกูลหาน

หานสงออกมาต้อนรับ หัวเราะฮ่าฮ่าและเดินเข้ามาหา

“เพื่อนลู่ฝานนายกลับมาแล้วเหรอ มานี่มานี่ มาดูกัน นี่ก็คือลู่ฝานที่ต่อสู้เอาชนะเทียนตู้ได้! ”

กลุ่มสาวใหญ่ และหญิงสะใภ้ต่างก็รีบวิ่งพรูกันเข้ามาหาลู่ฝาน

คนเหล่านี้จ้องมองไปที่เขาด้วยสายตาที่อยากรู้อยากเห็น ถึงขนาดที่ลู่ฝานมองเห็นว่ามีหญิงสาวบางคนที่ได้ทำการทอดสะพานให้กับเขาแล้วด้วย

ลู่ฝานยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า: “ก็แค่โชคดีเท่านั้น ไม่สมควรที่จะพูดถึงหรอก! ”

หานสงเดินขึ้นมาด้านหน้า ตีไปที่ไหล่ของลู่ฝานและพูดว่า: “อะไรที่ไม่สมควรไปพูดถึงล่ะ ลู่ฝานตอนนี้นายถือได้ว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงแล้ว นายสามารถออกไปรับฟังได้เลยว่าที่ไหนบ้างที่ไม่วิพากษณ์วิจารณ์กันถึง ลู่ฝานนักกระบี่แห่งตงหวา! ”

เสียงที่ดังของหานสงยิ่งดึงดูดผู้คนจำนวนมากขึ้น

ทุกคนยิ้มและมองไปที่ลู่ฝาน พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์

“พวกเราตระกูลหาน เหมือนจะหลายปีมาแล้วที่ไม่มีปรากฏเด็กหนุ่มที่เก่งกาจมากความสามารถแบบนี้”

“น่าเสียดายที่ ลู่ฝานเขาไม่ได้แซ่หาน มิเช่นนั้นครั้งนี้คงจะสร้างชื่อเสียงเป็นเกียรติให้กับตระกูลหานอย่างมากเลยทีเดียว”

“ไม่แซ่หานแล้วจะอย่างไร ไม่เคยได้ยินหรือไงว่า เขาเป็นศิษย์น้องของหานเฟิง ก็ถือว่าเป็นคนของตระกูลหานครึ่งหนึ่งแล้ว”

“อย่างนั้นเหรอ? หานเฟิงออกไปลำบากตรากตรำ แล้วยังจะส่งศิษย์น้องที่เก่งกาจขนาดนี้กลับมา ช่างไม่ธรรมดาเลยทีเดียว! ”

……